สวัสดีค่ะ ภาระหน้าที่ทำให้ต้องเดินทางไกลมาถึงบัวโนสไอเรส แต่ยังคิดถึงเพื่อนบล็อกทุกคนนะค่ะ
ลดความดันเลือดโดยไม่ต้องพึ่งยา

คนจำนวนหลายร้อยล้านคนทั่วโลกที่มีปัญหาเกี่ยวกับความดันเลือดสูง ซึ่งก่อให้เกิดโรคหัวใจ ไตล้ม และโรคทางสมอง ฯลฯ โดยเฉพาะโรคหัวใจเป็นสาเหตุของการตายอันดับหนึ่งในขณะนี้ อย่างไรก็ตาม แม้ว่าความดันเลือดสามารถควบคุมได้ง่ายโดยใช้ยาลดความดันที่มีขายอยู่มากมายในปัจจุบัน แต่พบว่าผลข้างเคียงที่ไม่พึงประสงค์ก็มีอยู่มากเช่นกัน

เร็วๆ นี้วงการแพทย์ได้แสดงให้เห็นว่าคนที่มีแรงดันเลือดสูงกว่าปกติไม่มากนัก ไม่จำเป็นต้องพึ่งพิงยาอีกแล้ว เพียงแค่เปลี่ยนวิถีการดำเนินชีวิต และควบคุมปัจจัยบางตัวเท่านั้น ก็สามารถควบคุมความดันเลือดได้แล้ว ถึงตอนนี้ท่านผู้อ่านบางท่านอาจจะสงสัยว่าความดันเลือดคืออะไร

ความดันเลือด คือ แรงดันของเลือดที่กระทำต่อเส้นเลือดหรือหลอดเลือด สามารถวัดด้วยเครื่องมือที่เรียกว่า Sphygmomanometer เป็นเครื่องที่วัดความดันเลือดโดยดูจากระดับความสูงของปรอท ปกติความดันเลือดมี 2 ระดับ ได้แก่ ความดันช่วงบน และความดันช่วงล่าง

1. ความดันช่วงบน หมายถึง แรงดันเลือดขณะที่หัวใจบีบตัว ซึ่งอาจจะสูงขึ้นตามอายุ ความดันช่วงบนในคนๆ เดียวกัน อาจมีค่าแตกต่างกันบ้างเล็กน้อยตามท่าของร่างกาย การเปลี่ยนแปลงของอารมณ์ และปริมาณของการออกกำลัง

2. ความดันช่วงล่าง หมายถึง แรงดันเลือดขณะที่หัวใจคลายตัว

ความดันช่วงบน

- ถ้าวัดได้ตั้งแต่ 140 มิลลิเมตรปรอทลงมาก็ถือว่า ปกติ

- ถ้าวัดได้ระหว่าง 141-159 มิลลิเมตรปรอทก็ถือว่า เป็นระดับก้ำกึ่ง

- ถ้าวัดได้ตั้งแต่ 160 มิลลิเมตรปรอทขึ้นไปก็ถือว่า สูง

ความดันช่วงล่าง

- ถ้าวัดได้ตั้งแต่ 90 มิลลิเมตรปรอทลงมาก็ถือว่า ปกติ

- ถ้าวัดได้ระหว่าง 91-94 มิลลิเมตรปรอทก็ถือว่า เป็นระดับก้ำกึ่ง

- ถ้าวัดได้ตั้งแต่ 95 มิลลิเมตรปรอทขึ้นไปก็ถือว่า สูง

ความดันเลือดสูงเป็นมหันตภัยตัวร้าย ถ้าไม่ได้รับการรักษา แรงดันเลือดจะดันผนังเส้นเลือดอยู่ตลอดเวลา หากเส้นเลือดทนไม่ไหวอาจแตกได้ ถ้าแตกในที่ที่อันตรายมากอย่างเช่นในสมอง อาจทำให้เกิดอาการอัมพาตและปวดศีรษะจนถึงขั้นร้ายแรงคือเสียชีวิตได้ และยังเป็นสาเหตุของเส้นเลือดสมองอุดตัน โรคหัวใจ ไตล้ม และถ้าเส้นเลือดในกระบอกตาแตก อาจทำให้ถึงกับตาบอดได้

สาเหตุของความดันเลือดสูงมีอยู่หลายประการ เช่น เกิดจากก้อนเนื้อร้าย โรคไต หรือไขมันอุดตันเส้นเลือด แต่เชื่อหรือไม่ว่าร้อยละ 90 ของคนที่เป็นทั้งหมดไม่ทราบสาเหตุที่แน่ชัด ปัจจุบันผู้เชี่ยวชาญยอมรับกันแล้วว่า ผลของกรรมพันธุ์มีส่วนไม่น้อย คือ ถ้าพ่อและแม่คนใดคนหนึ่งเป็นโรคความดันโลหิตสูง ลูกมีโอกาสเป็นด้วยถึงร้อยละ 25 และถ้าพ่อแม่เป็นทั้งคู่ ลูกมีโอกาสเป็นเพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 60 อย่างไรก็ตาม สาเหตุจากกรรมพันธุ์ไม่ใช่สาเหตุหลักแต่เพียงอย่างเดียว ยังมีปัจจัยที่เกี่ยวข้องอีกหลายประการ อย่างเช่น น้ำหนักตัวที่มากจนเกินพอดี การกินเกลือ (ของเค็ม) มากเกินไป หรือดื่มเครื่องดื่มที่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์

สำหรับผู้ที่เป็นโรคความดันเลือดสูง การเปลี่ยนแปลงวิถีชีวิตและควบคุมปัจจัยบางประการ สามารถลดความดันเลือดได้โดยไม่ต้องใช้ยา ปกติถ้ามีวิธีรักษาแบบอื่นที่ไม่ต้องใช้ยา หมอมักจะเลือกวิธีนั้นให้กับคนไข้ของเขามากกว่า สำหรับคนไข้ที่ความดันเลือดช่วงล่างอยู่ระหว่าง 90-104 มิลลิเมตรปรอทซึ่งถือว่าไม่สูงจากระดับปกติเท่าไรนัก รับรองได้ว่าวิธีนี้ใช้ได้ผลอย่างแน่นอน

1. ควบคุมน้ำหนัก ผู้ที่มีความดันเลือดสูงและมีน้ำหนักตัวมาก การควบคุมน้ำหนักโดยการลดปริมาณการกินลงบ้าง อย่ากินแบบเผลอตัวเผลอใจ ตักเข้าปากตลอดเวลาโดยขาดสติ เพราะจากการวิเคราะห์พบว่า ถ้าลำน้ำหนักลง 10 กิโลกรัม สามารถลดแรงดันช่วงบนลงได้ 6.3 มิลลิเมตรปรอท และความดันช่วงล่างลงได้ 3.1 มิลลิเมตรปรอท

2. ลดการกินเกลือ เกลือมีสารพวกโซเดียม ซึ่งเป็นตัวเพิ่มความดันเลือด ถึงแม้จะไม่ให้ผลรวดเร็วเหมือนกับการควบคุมน้ำหนักตัว แต่จากการศึกษาและเก็บข้อมูลพบว่าผู้ที่มีอายุ 50-59 ปี ถ้าลดการกินเกลือลงไป 3 กรัมต่อวัน จะลดแรงดันเลือดช่วงบนลง 7 มิลลิเมตรปรอท และความดันช่วงล่างลง 3.5 มิลลิเมตรปรอท

วารสารการแพทย์ของอังกฤษได้ออกมายืนยันในเรื่องนี้เช่นเดียวกันว่า คนยุโรปที่กินเกลือ 3 กรัมต่อวันสามารถลดอาการเส้นเลือดอุดตันในสมองลงถึงร้อยละ 22 และอาการโรคหัวใจลดลงร้อยละ 16 ซึ่งให้ผลดีกว่าการกินยาลดความดันเสียอีก ผู้ที่มีพ่อแม่พี่น้องเป็นความดันเลือดสูงควรระมัดระวังการกินเกลือเป็นพิเศษ ทั้งนี้ไม่เฉพาะแต่การกินอาหารหลักประจำวันเท่านั้น ของขบเคี้ยวที่มีเกลือผสมอยู่ก็มีผลไม่น้อยทีเดียว

3. ดื่มเครื่องดื่มผสมแอลกอฮอล์ให้น้อยลง การดื่มวันละ 6-7 แก้วต่อวันหรือมากกว่านั้นถือได้ว่ามากเกินไป ซึ่งทำให้มีโอกาสเป็นโรคความดันเลือดสูงมากกว่าคนที่ดื่มเพียงเล็กน้อยถึง 2 เท่า ดังนั้นจึงควรลดระดับให้น้อยลงกว่านี้ หรือไม่ดื่มเลยได้จะเป็นการดีที่สุด

4. ออกกำลังกาย การออกกำลังกายสม่ำเสมอสามารถควบคุมน้ำหนักได้ ซึ่งจะมีผลโดยตรงต่อการควบคุมความดันเลือดให้อยู่ในระดับปกติ

การรักษาโดยการควบคุมน้ำหนักและไม่กินเกลือ สามารถลดแรงดันเลือดได้ภายใน 18 เดือน โดยไม่ต้องใช้ยาช่วย และไม่มีผลข้างเคียงใดๆ ถึงแม้จะช้าไปหน่อย แต่ผลนั้นน่าพอใจ อย่างไรก็ตาม ส่วนที่ยากที่สุดได้แก่ การกระทำสิ่งเหล่านี้ให้เป็นกิจวัตรประจำวัน ส่วนมากจะเลิกเสียกลางคัน เพราะนึกไปว่าไม่ได้ผล หรือไม่ก็อร่อยจนลืมตัว

การรักษาโดยกินยาช่วยลดแรงดันได้ผลอย่างรวดเร็วก็จริง แต่ผลข้างเคียงมีมากมาย เช่น หน้ามืด อ่อนเพลีย นอนไม่หลับ และปวดศีรษะ กรณีนี้การเปลี่ยนยาอาจช่วยได้เพราะยาที่รักษาโรคนี้มีอยู่หลายขนาน แต่อย่างไรก็ตาม ไม่มีแพทย์ท่านใดสามารถบอกได้ว่า คนไข้แต่ละคนควรจะกินยาขนานใดดีที่สุด ส่วนใหญ่ใช้วิธีซักประวัติ ตรวจดูอาการ และลองผิดลองถูกแทบทั้งสิ้น ดังนั้นทางที่ดีคุณควรป้องกันไว้ก่อนที่ความดันเลือดจะสูงขึ้นดีกว่า โดยการควบคุมและเปลี่ยนแปลงวิถีชีวิตเดิมๆ ที่ไม่ถูกต้อง หันมาใช้ชีวิตที่ถูกต้องอย่างค่อยเป็นค่อยไป เพราะโรคนี้ไม่ใช่จะหายได้ภายในวันสองวันเหมือนดังที่ใจคิด





ขอบคุณข้อมูลจาก
//www.doctor.or.th/node/3201




Create Date : 29 กันยายน 2554
Last Update : 29 กันยายน 2554 10:45:22 น. 0 comments
Counter : 823 Pageviews.

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

kobnon
Location :
นนทบุรี Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 92 คน [?]




.
สาระน่ารู้ประจำวัน
1.โรคข้อสันหลังอักเสบติดยึด
2. บุหรี่ ทำนมยาน หูตึง
3. Upside down pineapple cake


music
Group Blog
 
<<
กันยายน 2554
 123
45678910
11121314151617
18192021222324
252627282930 
 
29 กันยายน 2554
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add kobnon's blog to your web]
Links
 

MY VIP Friend

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.