น้ำตาลฟรุคโตสหรือน้ำตาลซูโครส ซึ่งมีน้ำตาลฟรุคโตสเป็นส่วนประกอบนี้ เมื่อเข้าสู่ร่างกาย ร่างกายจำเป็นต้องสลายน้ำตาลฟรุคโตส โดยการใช้ ATP มาประกบติด ATP จึงถูกเปลี่ยนเป็น ADP ซึ่งโดยปกติ ADP มักจะถูกนำไปสร้างเป็น ATP ใหม่ แต่การมีน้ำตาลฟรุคโตส มากเกินไป จะไปหยุดยั้งการสร้าง ATP ATP จึงถูกสลายลงมาให้เป็นกรดยูริก จะเห็นได้ว่ากรดยูริกนี้เกิดจากการสลายของ ATP ซึ่งคือแหล่งให้พลังงานในเซลล์ ทำให้เซลล์นั้นทำงานไม่ดี และแก่ตัวเร็ว และยังเพิ่มกรดยูริกในเลือดอีกด้วย