BlogGang.com : : ญามี่ : บอกลาตาเหี่ยว ด้วยวิธีดูแลผิวรอบดวงตาเหล่านี้

บอกลาตาเหี่ยว ด้วยวิธีดูแลผิวรอบดวงตาเหล่านี้

แม้ปัจจุบันนี้จะมีผลิตภัณฑ์อย่าง อายครีม มากมายหลายสูตรหลายแบรนด์ให้สาว ๆ ได้เลือกใช้ เพื่อถนอมและบำรุงดูแลผิวรอบดวงตาที่บอบบาง
แต่นอกจากการใช้ผลิตภัณฑ์เหล่านี้แล้ว การดูแลผิวรอบ ๆ ดวงตาของเราด้วยวิธีจากธรรมชาติก็เป็นเรื่องที่สำคัญไม่แพ้กันนะคะ นอกจากจะมั่นใจได้ว่าไร้ซึ่งสารเคมีแล้ว ยังเป็นการดูแลออกมาจากภายในด้วย ลองมาดูกันดีกว่าว่าเราจะสามารถดูแลผิวรอบดวงตาด้วยวิถีธรรมชาติที่ง่ายแสนง่ายได้อย่างไรบ้าง

1.มาส์กน้ำผึ้ง

เพื่อรักษาความชุ่มชื้นให้กับผิวใต้ตา จะได้ห่างไกลจากปัญหาการเกิดริ้วรอย ลองใช้น้ำผึ้งมาส์กใต้ตาทิ้งไว้ 10-15 นาที ทำเช่นนี้เป็นประจำสัปดาห์ละ 3 ครั้ง ภายใน 2-3 สัปดาห์ คุณจะพบว่าผิวใต้ดวงตาดูนุ่มนวลและเต่งตึงขึ้น แถมยังช่วยลดความคล้ำใต้ดวงตาได้ด้วยค่ะ

2.มาส์กแตงกวาแช่เย็น

เพื่อความสะดวกและรวดเร็วที่คุณจะสามารถทำมันได้ทุก ๆ วัน หรือทุกเมื่อที่ต้องการ ฝานแตงกวาเป็นแว่นบาง ๆ ใส่กล่องเล็ก ๆ แช่ตู้เย็นไว้ หากรู้สึกว่าดวงตาเมื่อยล้าและบวมตุ่ยเมื่อไหร่ ก็แค่คว้ากล่องมาเปิดหยิบแตงกวาเย็น ๆ ที่ฝานเตรียมไว้มาวางบนดวงตา ทิ้งไว้ 15-20 นาที ความเย็นจะทำให้ความบวมของผิวใต้ตาลดลง เติมความชุ่มชื้น และรู้สึกสดชื่นขึ้นด้วย

3.ดื่มน้ำเยอะ ๆ

การดื่มน้ำมีผลดีต่อร่างกายหลายประการ หนึ่งในนั้นมันก็มีผลดีต่อผิวรอบ ๆ ดวงตาของคุณอยู่ด้วย ผิวที่ชุ่มชื้นมีน้ำหล่อเลี้ยงดีจะมีความแข็งแรง ชะลอความเหี่ยวย่นของผิวที่บอบบาง ทำให้ผิวใต้ตาดูตึงและเปล่งปลั่งอย่างคนสุขภาพดี ซึ่งนั่นเป็นสิ่งที่ผู้หญิงทุกคนต้องการ

4.ควบคุมการบริโภคอาหารรสเค็ม

เมื่อเราบริโภคเกลือและอาหารรสเค็มเข้าไป มันจะดูดน้ำออกจากระบบต่าง ๆ ของร่างกาย ทำให้ระบบภายในขาดน้ำ รวมทั้งใต้ตาบวมตุ่ย อันเนื่องมาจากน้ำมาคั่งใต้ผิว ลองหันมาลดการบริโภคเกลือและอาหารรสเค็มลง รับรองว่ามันจะดีต่อผิวรอบดวงตา และผิวพรรณทั่วทั้งกายของคุณมาก ๆ เลยค่ะ

แต่นอกจากการใช้ผลิตภัณฑ์เหล่านี้แล้ว การดูแลผิวรอบ ๆ ดวงตาของเราด้วยวิธีจากธรรมชาติก็เป็นเรื่องที่สำคัญไม่แพ้กันนะคะ นอกจากจะมั่นใจได้ว่าไร้ซึ่งสารเคมีแล้ว ยังเป็นการดูแลออกมาจากภายในด้วย ลองมาดูกันดีกว่าว่าเราจะสามารถดูแลผิวรอบดวงตาด้วยวิถีธรรมชาติที่ง่ายแสนง่ายได้อย่างไรบ้าง

5.นอนหลับอย่างเพียงพอ

การนอนหลับเพียงวันละ 4-5 ชั่วโมง ตามไลฟ์สไตล์คนยุคใหม่ที่ชอบนอนดึกและตื่นเช้าไปทำงานนั้น ยังไม่เพียงพอกับความต้องการของร่างกาย หากเป็นไปได้ควรนอนหลับยาว ๆ ให้ได้ประมาณ 8 ชั่วโมง ใครรู้ตัวว่านอนน้อยลองเลื่อนเวลาเข้านอนให้เร็วขึ้นทีละนิด และนอนหมอนสูงเพื่อไม่ให้ของเหลวไหลไปคั่งที่ศีรษะ รับรองว่าเพียงไม่กี่วันคุณจะพบว่าดวงตาดูสดใสขึ้นเป็นกอง

6.นวดผิวรอบ ๆ ดวงตา

การนวดไม่เพียงผ่อนคลายความปวดเมื่อยเนื้อตัวเท่านั้น การนวดเบา ๆ ที่รอบ ๆ ดวงตารวมถึงที่เปลือกตา ก็ช่วยให้ดวงตาของคุณรู้สึกผ่อนคลาย และลดอาการบวมได้ด้วยนะคะ

7.งดบุหรี่

การสูบบุหรี่ไม่ดีต่อทั้งสุขภาพกายและสุขภาพผิว มันทำให้ปริมาณออกซิเจนในเส้นเลือดลดน้อยลง ทำให้ผิวพรรณขาดทั้งออกซิเจนและสารอาหารจากเลือดที่จะไปหล่อเลี้ยงในปริมาณที่พอเหมาะ ผิวจึงร่วงโรยเร็วและดูแก่กว่าวัย ยิ่งเป็นผิวรอบดวงตาก็ยิ่งคล้ำและบวมจนสังเกตได้ง่ายด้วยค่ะ

นอกจากวิธีดูแลตามธรรมชาติเหล่านี้แล้ว ควรเช็ดเมคอัพรอบดวงตาอย่างเบามือ และทาอายครีมที่มีส่วนผสมของวิตามินอี ซึ่งช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้แก่ผิวก่อนนอนเป็นประจำทุกคืนด้วยนะจ๊ะ เริ่มต้นถนอมผิวรอบดวงตาเสียตั้งแต่วันนี้ แล้วตัวคุณในอีกสัก 5 ปี หรือ 10 ปี ข้างหน้าจะต้องรู้สึกขอบคุณคุณมาก ๆ แน่ ๆ เลยล่ะค่ะ

ข้อมูลโดย อินเตอร์เน็ต