<<
กันยายน 2555
 1
2345678
9101112131415
16171819202122
23242526272829
30 
6 กันยายน 2555

10 เรื่องที่คู่แต่งงานทะเลาะกันมากที่สุด/ดร.แพง ชินพงศ์















เป็นเรื่องธรรมดาที่คู่แต่งงานหลายๆคู่มักมีเรื่องทะเลาะเบาะแว้งกันอยู่เสมอเพราะการที่คนสองคนที่มาจากต่างครอบครัวกัน ต่างการเลี้ยงดูกัน ต่างความคิดกัน แต่ต้องมาใช้ชีวิตอยู่ร่วมกันไม่ใช่เรื่องง่ายเลย ซึ่งเรื่องที่ทำให้คู่แต่งงานมักมีปัญหาต้องทะเลาะกันส่วนใหญ่คือ

1.เรื่องของเวลา เป็นสาเหตุต้น ๆ ของการทะเลาะกันของคู่แต่งงานเลยทีเดียวโดยเฉพาะคู่แต่งงานใหม่ๆ ผู้หญิงส่วนใหญ่ต้องการให้ผู้ชายใช้เวลาอยู่ด้วยมาก ๆ ในขณะที่ผู้ชายมีโลกส่วนตัวสูงกว่าผู้หญิงและมักนึกถึงสิ่งแวดล้อมอื่น ดังนั้น ทั้งคู่ต้องปรับตัวเข้าหากัน พยายามแบ่งเวลาให้ลงตัวคือมีเวลาที่ได้อยู่ด้วยกันสองคนและมีเวลาที่เป็นส่วนตัวของแต่ละคน เช่นบางครั้งผู้หญิงควรจะปล่อยให้ผู้ชายออกไปสังสรรค์กับเพื่อน ๆ หรือผู้ชายอาจจะปล่อยให้ผู้หญิงออกไปชอปปิ้งบ้าง ก็จะทำให้เรารู้สึกสบายใจและมีความสุขในชีวิตแต่งงานมากขึ้น

2.เรื่องเงิน คู่แต่งงานส่วนใหญ่ทะเลาะกันเรื่องการเงินว่าใครใช้เงินมากกว่ากัน หรือการจัดสรรการใช้จ่ายที่ไม่ลงตัว หรือการรู้สึกว่าอีกฝ่ายเอาเปรียบไม่ยอมหาเงินมีแต่คอยจ้องจะใช้เงิน รวมถึงปัญหาหนี้สิน น่าเสียดายที่มีคู่แต่งงานหลายคู่ทะเลาะและต้องเลิกกันเพราะเรื่องการเงิน นี้ ดังนั้น ทั้งคู่ต้องตกลงก่อนใช้ชีวิตร่วมกันว่าจะจัดการเกี่ยวกับการเงินอย่างไร เพื่อความเข้าใจที่ตรงกันและไม่เป็นปัญหาต่อไปในอนาคต

3.เรื่องเพศ เรื่องเพศเป็นเรื่องที่สวยงามระหว่างคนสองคน แต่เรื่องนี้อาจเป็นเรื่องใหญ่ที่บางคู่ทะเลาะกันเรื่องความต้องการที่แตกต่างกัน สิ่งที่สำคัญที่สุดคือการยอมรับความจริงของซึ่งกันและกัน ความชอบไม่ชอบ ความต้องการไม่ต้องการ และการแสดงความรู้สึกที่แสดงถึงความรักที่มีให้แก่กันผ่านทางคำพูด สายตา ความห่วงใย การดูแล จะช่วยทำให้ปัญหาเรื่องความต้องการทางเพศหมดไปได้

4.ความหึงหวง คงเคยได้ยินคนพูดว่าฉันเห็นคุณชอบแอบมองหญิงอื่น ผมไม่ต้องการให้คุณไปทานข้าวกับเพื่อนร่วมงานคนนี้ ความสัมพันธ์แบบที่กล่าวมานี้ทำให้หลายคู่จบการแต่งงานลง ความหึงหวงเกิดจากความรู้สึกไม่มั่นคง เลยทำให้ต้องการควบคุมอีกฝ่ายหนึ่งไว้เพื่อให้รู้สึกอุ่นใจ ดังนั้น คู่สามีและภรรยาควรมีความไว้วางใจและให้เกียรติซึ่งกันและกันเพื่อให้ชีวิตคู่ดำเนินไปด้วยความสุขนั่นเอง

5.เรื่องลูก คู่แต่งงานอาจมีความคิดเรื่องการเลี้ยงลูกที่แตกต่างกัน เพราะเรามาจากครอบครัวที่ได้รับการเลี้ยงดูที่ไม่เหมือนกัน การยอมรับและปรึกษาหารือกันจะช่วยได้ ไม่ยึดตัวเองเป็นศูนย์กลาง ยอมรับความคิดเห็นซึ่งกันและกัน และนึกถึงความสุขของความเป็นพ่อ แม่ ลูกเข้าไว้ ครอบครัวก็จะอยู่อย่างราบรื่น

6.ความเครียด คนเราทุกวันนี้ต้องต่อสู้ ดิ้นรนในเรื่องอาชีพการงาน ความรับผิดชอบต่างๆ ปัญหาการเงิน รถติดฯลฯ เหล่านี้ล้วนแล้วแต่เป็นปัญหาที่ก่อให้เกิดความเครียดได้ทั้งสิ้น และคู่แต่งงานบางคู่มักเอาความเครียดเหล่านี้มาใส่ลงให้กันจนทะเลาะกันมาก ความเครียดเกิดขึ้นได้กับทุกคน ดังนั้น เราต้องรู้จักควบคุมและทำความรู้จักกับปัญหาที่ทำให้เกิดความเครียดก่อนแล้วพยายามหาทางกำจัดปัญหานั้น โดยหากเราเริ่มเครียดก็ควรหาเวลาส่วนตัวสงบก่อน อย่าไปลงกับคนรอบข้างที่เรารักไม่ว่าจะเป็นลูก ภรรยาหรือสามี หากรู้สึกว่ารับคนเดียวไม่ไหว ลองพูดคุยกันดีๆกับคู่ของเรา อย่าใช้อารมณ์นำหน้าแล้วจะพบว่าปัญหาอาจแก้ได้หรือผ่อนเบาด้วยกำลังใจและความเข้าใจที่ได้จากคู่ของเรานั่นเอง

7.งานบ้าน การทำงานบ้านมักเข้าใจกันว่าเป็นหน้าที่ของผู้หญิง แต่หากผู้ชายยกหน้าที่นี้ให้ผู้หญิงโดยไม่สนใจที่จะช่วยทำเลยก็อาจทำให้ผู้หญิงรู้สึกเหนื่อยหน่ายและหงุดหงิดจนพาลมีปากเสียงกันได้ ดังนั้นเราต้องไม่ผลักภาระให้อีกฝ่ายแต่ต้องช่วยกันรับผิดชอบ เช่น งานทิ้งขยะอาจเป็นงานที่ผู้ชายรู้สึกว่าทำได้ก็เป็นคนทำเอง ส่วนผู้หญิงซักผ้าหรือผู้หญิงอาจชอบงานทิ้งขยะมากกว่าการซักผ้าก็อาจช่วยกันซักก็ได้ ดังนั้นก็ตกลงกันว่าใครจะรับผิดชอบอะไร และอะไรควรช่วยกันทำ ก็จะทำให้ปัญหานี้หมดไป

8.เรื่องศาสนา ก่อนการตัดสินใจเป็นแฟนกันควรศึกษาเรื่องความเชื่อของกันและกันให้ดีก่อน ความแตกต่างเรื่องความเชื่อและการนับถือศาสนาของแต่ละคนอาจก่อให้เกิดชนวน การทะเลาะกันจนถึงการหย่าร้างได้

9.เรื่องการเมือง คุณอาจจะชื่นชอบพรรคการเมืองใดการเมืองหนึ่งและคู่ของคุณชอบอีกพรรคการเมืองหนึ่งและความชอบต่างกันก็ทำให้ครอบครัวทะเลาะกัน ดังนั้น ควรหลีกเลี่ยงประเด็นสนทนาที่ทำให้ต่างฝ่ายไม่พอใจ และเปิดใจยอมรับความคิดเห็นของกันเคารพสิทธิของซึ่งกันและกัน ไม่บังคับหรือเข้าไปก้าวก่ายในสิทธิของคนอื่น การให้เกียรติคนอื่นถือเป็นแบบอย่างที่ดีให้แก่ลูกๆด้วย

10.ครอบครัวของอีกฝ่ายหนึ่ง หลายครอบครัวต้องแยกทางกันเพราะมีปัญหากับพ่อ แม่ ญาติพี่น้องของอีกฝ่ายหนึ่ง อาจเข้ากันไม่ได้หรือครอบครัวอีกฝ่ายหนึ่งมาก้าวก่ายความเป็นส่วนตัวของครอบครัวมากเกินไป อยากให้คิดว่าเมื่อคนสองคนตัดสินใจที่จะใช้ชีวิตร่วมกันแล้วนั่นคือเพราะเกิดจากความรัก เมื่อเรารักเขา เราก็ควรรักครอบครัวของเขาด้วย แม้อาจจะไม่สามารถอยู่ร่วมกันได้กับครอบครัวของอีกฝ่ายแต่ไม่ได้หมายความว่าจะต้องไม่ชอบหรือเกลียดครอบครัวของเขาหรือร้ายกับเขา แค่ทำหน้าที่ในส่วนของเราให้ดีที่สุดก็พอแล้ว

เมื่อคนสองคนตัดสินใจที่จะใช้ชีวิตร่วมกัน เราต้องรักษาสัญญาที่ให้ไว้ต่อกัน ใช้ความเข้าใจ ความเสียสละ การให้เกียรติ การให้อภัย การปรับตัวเข้าหากัน จะช่วยให้ครอบครัวมีความสุขได้โดยเฉพาะให้ความรักนำทางผูกพันทุกสิ่งเข้าด้วยกัน ผู้เขียนขอให้ทุกครอบครัวอยู่ด้วยกันอย่างมีความสุขตลอดไป




ข้อมูลโดย ผู้จัดการออนไลน์







Create Date : 06 กันยายน 2555
Last Update : 6 กันยายน 2555 23:35:46 น. 1 comments
Counter : 1983 Pageviews.  

 



โดย: ญามี่ วันที่: 6 กันยายน 2555 เวลา:23:37:39 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิกช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

ญามี่
Location :
ภูเก็ต Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 260 คน [?]






อัพบล็อกครั้งแรก ๑๔ มีนาคม ๒๕๕๑
free counters
who's online
คนพูดน้อยคิดบ่อยแต่ไม่เงียบ
ไร้ระเบียบเคลิ้มครุ่นอณูคุ้นฝัน
ไม่ประวิงหากทิ้งจักลืมวัน
พลัดผ่านพลันหากจากยากฝากคอย...











[Add ญามี่'s blog to your web]