<<
กันยายน 2556
1234567
891011121314
15161718192021
22232425262728
2930 
16 กันยายน 2556

ทาครีมกันแดดยิงเลเซอร์แล้ว “ฝ้า”ยังขึ้น! ฝังเข็มรักษา หน้าไม่กลับมาคล้ำปื้นหรือเปล่า?















Question ทาครีมกันแดดเป็นประจำ แต่พักหลังฝ้าขึ้น เมื่อก่อนไม่มีนะคะ ไม่ทราบว่ามาได้อย่างไร เคยไปยิงเลเซอร์ก็ไม่หาย ว่าจะไปลองฝังเข็ม แต่อยากรู้ว่าต้องใช้ระยะเวลานานไหมคะ และได้ผลจริงหรือเปล่า กลัวฝ้ากลับมาขึ้นอีก



Answer โดย แพทย์แผนจีน บุญเหลือ รุ่งสกาวเลิศแผนกปราณะ โรงพยาบาลกล้วยน้ำไท 1 กล่าวว่า



“ก่อนอื่น ต้องบอกก่อนว่า แสงแดดเป็นตัวกระตุ้นให้เกิดฝ้าได้มากขึ้น แต่แดดไม่ใช่สาเหตุที่ทำให้เป็นฝ้า สังเกตได้ง่ายๆ ว่าบางคนโดนแดดเท่ากันกับเราแต่ผิวหน้าก็ยังเนียนใสไม่เป็นฝ้า



คนนี้ทาครีมกันแดดเป็นประจำ แต่ยังมีฝ้าขึ้นใช่ไหม



การแพทย์แผนจีนอธิบายไว้ว่า การเป็นฝ้าและรอยด่างดำทุกชนิดบนร่างกายของเรา เกิดจากเส้นเลือดฝอย และเส้นน้ำเหลืองฝอยระหว่างกล้ามเนื้อกับผิวหนังเกิดการอุดตัน ทำให้เลือดและสารอาหารต่างๆ ไม่สามารถเข้าไปบำรุงรักษาตำแหน่งที่เป็นรอยฝ้า และคล้ำได้เพียงพอ เมื่อผิวบริเวณดังกล่าวมีเลือดมาเลี้ยงไม่เต็มที่ก็ไม่สามารถทนต่อลม และแสงแดดได้เหมือนผิวหนังบริเวณอื่นที่มีเลือดหล่อเลี้ยงอย่างอุดมสมบูรณ์ เหมือนใบไม้ที่ขาดน้ำและอาหารไปหล่อเลี้ยง ใบก็จะเหลืองแห้งกรอบ



90 เปอร์เซ็นต์ของผู้ที่เป็นฝ้าเป็นผู้หญิง สาเหตุมีทั้งจากปัจจัยภายในและภายนอก


ปัจจัยภายในมักเกิดขึ้นช่วงอายุประมาณ 30-60 ปี (ไม่ค่อยเกิดในผู้หญิงที่มีอายุน้อยกว่า 30 ปี) เพราะอยู่ในวัยที่มีปัญหาเรื่องประจำเดือน, มดลูก, การเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนเพศ เช่น กินยาคุมกำเนิด เพราะยาคุมกำเนิดคือ ฮอร์โมนเอสโตรเจน และโพรเกสทินที่ไปกดกระบวนการทำให้ไข่สุก และไม่เกิดการตกไข่



ผลที่ตามมาอย่างหนึ่งคือ ทำให้เลือดที่มาเลี้ยงบริเวณผิวหนังมีปัญหา รวมทั้งผู้หญิงวัยทอง และคนที่มีปัญหาเรื่องไทรอยด์จะมีโอกาสเป็นฝ้ามากกว่าคนปกติมากถึง 4 เท่าตัว เพราะเลือดจะข้นขึ้น หนืดขึ้น ไหลเวียนไปเลี้ยงเซลล์ผิวหนังได้ยาก



การขาดวิตามินซีก็เป็นอีกสาเหตุหนึ่งที่ทำให้ฝ้าดำขึ้นเรื่อยๆ เพราะวิตามินซีมีส่วนทำให้เม็ดสีทำงานได้อย่างสมดุล ซึ่งเม็ดสีจะมีการสร้างและสลายไปตลอดเวลา การขาดวิตามินซีจะทำให้เม็ดสียิ่งสะสมมากขึ้นเรื่อยๆ



ความเครียดก็เป็นสาเหตุที่ทำให้ฮอร์โมนเสียสมดุล จึงมักพบฝ้าในคนที่มีอารมณ์เครียดอย่างรุนแรง



นอกจากนี้ ผู้ที่มีปัญหาเรื่องตับ คนที่ขาดสารอาหารประเภทวิตามินบี และพันธุกรรม ล้วนเป็นเหตุให้เกิดฝ้าได้



ส่วนปัจจัยภายนอกที่ทำให้เกิดฝ้ามักเกิดจากการใช้สารเคมีที่มีสารทำลายผิว เช่น การใช้เครื่องสำอางค์ที่มีส่วนผสมของสี หรือกลิ่นที่ทำให้เกิดการแพ้, การรับประทานยากันชัก เช่น ไดเฟนิล ไฮเดนโทอิน และมีแซนโทอิน



ตามหลักแพทย์แผนจีนแบ่งฝ้าอออกตามลักษณะของฝ้า คือ ฝ้าแนวตั้ง เช่น แนวหน้าผาก จมูก และคาง, ฝ้าแนวขวาง ได้แก่ บริเวณโหนกแก้ม และจมูก และสุดท้าย ฝ้าแนวล่าง เป็นฝ้าที่เกิดบริเวณคาง



การรักษาฝ้าแบบแพทย์แผนจีนนั้น จะวินิจฉัยหาสาเหตุของการเกิดฝ้าว่ามาจากปัญหาใดเพื่อจะได้แก้ไขให้ถูกจุด เช่น ถ้าเกิดจากปัญหาภายใน ก็จะหาสาเหตุว่าเพราะอะไรเลือดและน้ำหล่อเลี้ยงถึงมาหล่อเลี้ยงผิวหนังบริเวณดังกล่าวไม่ได้ เกิดจากการอุดตันของเส้นเลือดด้วยสาเหตุอะไร เช่น เส้นเลือดฝอยตีบเนื่องจากฮอร์โมนผิดปกติ หรือเกิดจากลักษณะการรับประทานอาหาร เช่น ขาดวิตามินบี 12 หรือวิตามินซี ฯลฯ



ถ้าเกิดจากการขาดวิตามินซี อาจใช้วิธีฝังเข็มเพื่อให้ร่างกายภายในปรับสมดุลดูดซึมวิตามินซีได้ดีขึ้น และต้องปรับพฤติกรรมการรับประทานอาหารควบคู่ไปด้วย



แต่ถ้าเส้นเลือดฝอยอุดตัน ก็อาจใช้การฝังเข็มควบคู่ไปกับการรับประทานยาจีน เพื่อกระตุ้นให้ร่างกายหลั่งสารไปละลายการอุดตันในเส้นเลือดฝอย หรือถ้าเส้นเลือดฝอยตีบ ก็สามารถใช้การฝังเข็มควบคู่กับการรับประทานยาจีนเพื่อให้เส้นเลือดเกิดการขยายตัว ทำให้เลือดและน้ำหล่อเลี้ยงสามารถไปเลี้ยงผิวหน้าได้ตามปกติ



สำหรับปัญหาที่เกิดจากฮอร์โมนจะต้องแก้ที่การทำงานของต่อมหมวกไตเพื่อให้ผลิตฮอร์โมนได้ตามที่ร่างกายต้องการ


กรณีของคนที่ถามมา ก็ต้องตรวจวินิจฉัยก่อนว่าฝ้าเกิดจากสาเหตุใด ซึ่งการรักษาด้วยการฝังเข็ม และอาจต้องรับประทานยาจีนด้วย เป็นการรักษาเข้าไปถึงข้างใน ได้ผลแต่ต้องใช้เวลาครับ เพราะส่วนใหญ่แล้วฝ้ามักเกิดจากปัญหาภายใน น้ำหล่อเลี้ยง และเลือดมาเลี้ยงผิวไม่ได้อย่างเต็มที่



ถ้าไม่ได้แก้ปัญหาจากภายใน ฝ้าก็จะกลับมาเรื่อยๆ เพราะถึงผิวชั้นบนจะหลุดลอกออกไป แต่ผิวที่ขึ้นมาแทนที่ใหม่ก็ยังเจอกับปัญหาเดิมๆ คือ ขาดน้ำหล่อเลี้ยง และเลือดมาเลี้ยง



อย่างไรก็ตาม ครีมกันแดดก็ต้องทาเป็นประจำเหมือนเดิม ไม่ใช่ทาเฉพาะตอนเช้า แต่ควรทาซ้ำระหว่างวัน จำนวนที่ต้องทาซ้ำขึ้นอยู่กับค่าเอสพีเอฟ ถ้าเอสพีเอฟ 1 สามารถป้องกันผิวจากแสงแดดได้ 15 นาที ถ้าเลือกค่าเอสพีเอฟ 15 จะสามารถกันแดดได้ 225 นาที ( 3 ชั่วโมง 25 นาที ) และทาครีมกันแดดทุกครั้งแม้จะอยู่ภายในตึกหรือรถยนต์เพราะรังสียูวีสามารถสะท้อนเข้ามาได้ และควรทากันแดดแม้ในวันที่แดดไม่จัดเพราะรังสียูวีก็สามารถผ่านเมฆมาได้มากถึง 80 เปอร์เซ็นต์


เลือกครีมกันแดดชนิดที่ป้องกันรังสียูวีเอ และยูวีบีได้ดี โดยดูที่ฉลากก่อนซื้อทุกครั้ง


เลิกใช้เครื่องสำอางค์ที่มีสารเคมีทำลายผิว และควรนอนพักผ่อนให้เพียงพอเพื่อช่วยให้สุขภาพร่างกายดี ซึ่งส่งผลให้เลือดไหลเวียนไปเลี้ยงผิวหนังได้ดีขึ้น และควรใช้สมุนไพรบำรุงผิวที่มีวิตามินซี เช่น ใช้แตงกวาฝานบางๆ มาแปะบริเวณที่มีฝ้า ต้องดูแลตัวเองด้วยตัวเองไปด้วยระหว่างการรักษาครับ”




ข้อมูลโดย ASTVผู้จัดการออนไลน์











Create Date : 16 กันยายน 2556
Last Update : 17 ธันวาคม 2556 13:07:02 น. 2 comments
Counter : 5431 Pageviews.  

 


โดย: ญามี่ วันที่: 16 กันยายน 2556 เวลา:6:59:54 น.  

 
ขอบคุณสำหรับเรื่องราวความงามค่ะ คุณมี่ ^^
ปัญหาหน้าๆ นี่แก้ยากจังเลยนะคะคนที่หน้าเนียนสวย ไม่แพ้อะไรนี่สุดยอดเลย อิอิ


โดย: lovereason วันที่: 16 กันยายน 2556 เวลา:23:06:33 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิกช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

ญามี่
Location :
ภูเก็ต Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 260 คน [?]






อัพบล็อกครั้งแรก ๑๔ มีนาคม ๒๕๕๑
free counters
who's online
คนพูดน้อยคิดบ่อยแต่ไม่เงียบ
ไร้ระเบียบเคลิ้มครุ่นอณูคุ้นฝัน
ไม่ประวิงหากทิ้งจักลืมวัน
พลัดผ่านพลันหากจากยากฝากคอย...











[Add ญามี่'s blog to your web]