มองภาพแห่งความสำเร็จที่ชัดเจน เดินแต่ละก้าวอย่างมีสติ ด้วยใจที่สงบ
<<
ตุลาคม 2553
 12
3456789
10111213141516
17181920212223
24252627282930
31 
1 ตุลาคม 2553

อายุ 35 แล้ว เหมือนเจอทางตันในการทำงาน

อายุ 35 แล้ว เหมือนเจอทางตันในการทำงาน

ผมอายุ 35 ปีแล้วล่ะ ทำงานราชการมาได้เกือบสิบปี ก่อนหน้านั้นทำงานเอกชน และเรียนต่อ ป.โท

ตอนนี้การทำงานอยู่ในสภาพที่ไม่ดีนัก มีรุ่นน้องหน้าใหม่ จบ ป.เอก มาทำงานเป็นหัวหน้าผม และทำให้เรารู้สึกแย่มากๆ

ตอนนี้มีงานใหญ่ที่สำคัญมากๆ แต่เราไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องด้วย เวลาทุกคนเข้าประชุม ก็จะเหลือเราคนเดียวที่ไม่ได้เข้าประชุม ทำให้เหมือนตัวเองไม่มีค่าเลย

แต่ก็ยังดีอยู่ว่าสถานะการณ์ตอนนี้เรามีอาชีพเสริมอยู่บ้าง ขอไล่เรียงสถานะการณ์ส่วนตัวแบบหมดเปลือก เพื่อขอคำปรึกษาเพื่อนนะครับ

การทำงาน

1. เงินเดือนประมาณ 40k แฟนมีรายรับ 30k (ยังไม่มีลูก)
2. หนี้ผ่อนบ้าน 1.8 k/เดือน (เหลือยอดอยู่ 2.4 ล้าน)
3. มีเงินในหุ้นอยู่ 1 แสน
4. มีเงินกองทุน LTF 3 หมื่น
5. มีคอนโดให้เช่าเดือนละ 6.5 พันบาท

ธุรกิจส่วนตัว

1. มีเงินสดในบริษัท 1 แสน
2. มีลูกหนี้ 1 แสน
3. ธุรกิจทำเงินเดือนละ 20-30 k (กำไร) แต่ต้องแบ่งหุ้นส่วนรายอื่น และไม่แน่นอน
4. มีลูกค้าอยู่ในมือประมาณ 20 ราย จะทำยังไงให้งอกเงยกว่านี้ดี
5. ทำเวปไซค์โปรโมทสินค้าอยู่เป็นระยะๆ

การเรียน

1. กำลังเรียนต่อ ป.เอก ตั้งเป้าไว้ว่าจะจบภายในสามปี

ตอนนี้ยอมรับว่าค่อนข้างอึดอัดมาก ทั้งผู้คนรอบข้าง ที่เสื่อมความนับถือ (เสื่อมยศ) ดูเหมือนเป็นคนไร้ค่า และเริ่มที่จะอิ่มตัวกับงานแล้ว

คิดว่าจะขายบ้านทิ้ง มาอยู่คอนโด แล้วออกจากงานมาทำธุรกิจเต็มตัว พร้อมกับเรียนต่อให้จบ แต่ก็กลัวว่า พ่อแม่ จะมองว่าเราไม่อดทน และเสียดายสิทธิเบิกจ่ายค่ารักษาพยาบาลด้วย

บอกหมดไส้หมดพุงเลยครับ หวังว่าคงช่วยให้คำชี้แนะเพื่อนมนุษย์คนนึงด้วยครับ

ขอบคุณล่วงหน้าครับ

จากคุณ : d ja
เขียนเมื่อ : 1 ต.ค. 53

.....................................................................................

แล้ว เหตุผลที่หัวหน้า ไม่ดึงเข้าไปมีส่วนร่วมล่ะครับ

ไม่ใช่ว่าคุณเห็นว่า เค้าอายุน้อยกว่า เลย ไม่ทำตามที่เค้ามอบหมายให้นะครับ

จากคุณ : ฮูยัน

.....................................................................................

เหตุผลคือผมมีปัญหาสุขภาพครับ งานที่ว่านี้ไม่เหมาะกับสุขภาพร่างกายของผมครับ

ผมก็พยายามทำใจว่า มีลาภ เสื่อมลาภ มียศ เสื่อมยศ มันต้องเจอกันทุกคน แต่ก็อดน้อยใจไม่ได้ว่าเราไม่มีประโยชน์อะไรกับองค์กรเราแล้ว แล้วเราจะทนอยู่ไปทำไม?

จริงๆ แล้วงานอื่นก็มีให้ทำครับ แต่ช่วงเวลานี้มันเป็นช่วงเวลาที่ยากลำบากสำหรับผมจริงๆ ที่ตัดสินใจเรียนต่อเพราะคิดว่าหากเรียนจบแล้วอะไรๆ ในที่ทำงานจะดีขึ้นกว่านี้ครับ

T_T

จากคุณ : จขกท.

//rascal-shop.blogspot.com/


Create Date : 01 ตุลาคม 2553
Last Update : 1 ตุลาคม 2553 14:04:46 น. 11 comments
Counter : 2361 Pageviews.  

 
เราว่าคุณอยากก้าวหน้า แต่รู้สึกไม่ได้โอกาส ก็เลยอยากออก??
ปัญหาสุขภาพก็เป็นเหตุผลหนึ่ง ที่ทำงานได้ไม่เต็มที่
ธุรกิจส่วนตัวก็ยังไม่แน่นอน รายได้เท่าที่ดูก็น้อยกว่ารายได้ปัจจุบัน
เงินเก็บก็ยังมีไม่มาก

จากข้อมูลทั้งหมด ถ้าเป็นเราก็จะ "อดทน" ค่ะ
เพราะถ้าออกจากงานจริงๆ ค่าใช้จ่ายที่ตามมาอีกจิปาถะค่ะ ถึงจะมีเงินก้อนหนึ่ง แต่ถ้าใช้ไม่ระวังแป๊บเดียวก็หมด
ในส่วนความก้าวหน้า เราว่าคุณต้องเปลี่ยนมุมมอง ถึงคุณไม่สามารถทำงานบางอย่างได้ แต่อาจใช้ความรู้ที่มีทำประโยชน์อย่างอื่นให้หน่วยงานได้นะ แต่จะก้าวหน้าหรือไม่ บางทีก็ขึ้นอยู่กับความสามารถและดวงด้วย ส่วนนี้ถ้าทำใจได้ คุณก็จะทำงานได้อย่างเป็นสุขขึ้นค่ะ

จากคุณ : anegi



โดย: นายแว่นธรรมดา วันที่: 1 ตุลาคม 2553 เวลา:14:03:49 น.  

 
ใช่เลยครับ ความก้าวหน้า เป็นเหตุผลหนึ่งที่ทำให้ผมรู้สึกไม่สบายใจในการทำงาน

จริงๆ แล้ว เคยตัดสินใจด้วยตัวเองแล้วว่าจะลาออกตอนสี่สิบ (อีกห้าปี) ระหว่างนี้ก็สะสมกำลังทรัพย์ รักษาสุขภาพให้ดี เร่งทำธุรกิจ และคงเรียนจบแล้ว ทางเลือกของผมคงมากขึ้นกว่าที่เป็นอยู่ในตอนนี้

ผมเคยคิดว่าชีวิตเราเอง เราควรจะเลือกทางเดินให้กับตัวเองได้อย่างเต็มที่ แต่ความเป็นจริงมันมีปัจจัยมากมายกว่าการที่เราจะตัดสินใจทำอะไรบางอย่างด้วยตัวเอง (ครอบครัว แฟน พ่อแม่ คนรอบข้าง)

ถ้าจะลาออกก็คงเป็นเพราะไม่มีความสุขกับงานนั้นๆ แล้ว จะช้าหรือเร็วมันก็ขึ้นอยู่กับตัวผมเองแล้วครับ ที่จะเป็นคนตัดสินใจในอนาคต

ขอบคุณครับ

จากคุณ : จขกท.



โดย: นายแว่นธรรมดา วันที่: 1 ตุลาคม 2553 เวลา:14:04:04 น.  

 
ตามอาการที่คุณว่ามา เราว่าไม่ได้เจอทางตันหรอก แค่รู้สึกน้อยใจหรือหมดความเชื่อมั่นในตัวเองมากกว่า

คุณรักงานที่ทำอยู่หรือเปล่าคะ

คุณเลือกเจ้านายไม่ได้ แต่คุณถ้าคุณรักงานที่ทำ เราเชื่อว่าสักวันผลงานจะเป็นตัววัดคุณค่าของคุณเอง

เรา 36 เป็นพนักงานราชการ เราไม่ได้รักงานที่เราทำ รายได้เราก็น้อยกว่าคุณเยอะแยะ แต่ไม่รู้จะไปทำมาหากินอะไร งานที่รักก็ไม่มีโอกาสได้ทำ ครอบครัวก็ไม่มี ทางเลือกแทบจะไม่มีเลยด้วยซ้ำ

อดทนอีกหน่อยนะคะ มันน่าจะดีขึ้นในอีกไม่ช้า


โดย: Alex on the rock วันที่: 1 ตุลาคม 2553 เวลา:14:09:33 น.  

 
อยากจะบอกเพื่อนๆ น้องๆ ทุกคนในห้องสีลมว่า

มนุษย์เรา มีลาภ ย่อมเสื่อมลาภ มียศ ย่อมเสื่อมยศ เป็นธรรมดาครับ ขอให้ทุกคนตั้งใจทำงานตั้งแต่ยังหนุ่ม ยังสาว หาทางก้าวหน้าให้กับตัวเอง เพื่อว่าในอนาคตจะสามารถรับมือกับสิ่งที่ไม่คาดคิดได้อย่างรู้เท่าทันนะครับ (เอา ปสก.ของผมเป็นข้อเตือนใจก็แล้วกันครับ)

แล้วก็อีกนิดนะครับ วิบากรรมมีจริงนะครับ จขกท.เคยทำไม่ดี ไม่เคารพผู้หลักผู้ใหญ่ ไม่ว่าจะตั้งใจหรือไม่ก็ตาม เจ้ากรรมจึงส่งนายที่อายุน้อยกว่ามาให้ในปัจจุบันนี้ครับ อ่อนน้อมถ่อมตนเข้าไว้ รับรองว่าเจริญๆ ครับ

ขอบคุณครับ

จากคุณ : จขกท.



โดย: นายแว่นธรรมดา วันที่: 1 ตุลาคม 2553 เวลา:14:52:18 น.  

 
ลาภยศเป็นเพียงหัวโขน พยายามตั้งใจทำงานให้ดีที่สุดสักวันความสำเร็จคงจะมาถึงเราค่ะ


โดย: kobnon วันที่: 1 ตุลาคม 2553 เวลา:16:59:21 น.  

 



โดย: หน่อยอิง วันที่: 1 ตุลาคม 2553 เวลา:20:41:55 น.  

 
ปัญหาคือคุณไม่ยอมรับนายที่เด็กกว่าคุณเท่านั้นครับ เลยพาลเอาเรื่องอื่นมาเป็นประเด็น
โปรเจคใหม่ที่คุณไม่มีส่วนร่วม ก็เห็น ๆ กันอยู่ว่าเกิดจากสุขภาพคุณไม่พร้อม คุณต้องยอมรับตรงนี้
แต่คุณกลับเอามันมาเป็นประเด็นว่าคุณเสื่อมลาภ เสื่อมยศ ... อะไรกันครับ คนละเรื่องเลย ... คิดลบอย่างแรงเลยครับคุณ

เรียบเรียงความคิดซะใหม่เถอะครับ ทำงานให้มีความสุข อย่ายึดมั่นถือมั่น แล้วอะไร ๆ มันจะดีเองครับ
ไม่ต้องมองว่าใครเป็นหัวหน้าใครเป็นลูกน้อง ใครอ่อนกว่าแก่กว่า ... ทุกอย่างมันก็แค่หัวโขนในที่ทำงาน
หมดเวลางาน ทุกคนก็มีสิทธิมีศักดิ์ศรีเท่าเทียมกันครับ ไม่มีใครมากกว่าน้อยกว่า
จะมากจะน้อย ก็ตัวเองคิดเอง ทำตัวเองทั้งนั้น

เลิกเถอะครับ คิดแต่แง่ลบเนี่ย ... อย่างน้อยก็เพื่อครอบครัวคุณเอง
ที่สำคัญ สถานะทางการเงินคุณไม่ดีเลยนะครับ ง่อนแง่นเอาเรื่อง
อย่าให้ ความคิดลบ มาทำให้ความก้าวหน้าในอาชีพพังจะดีกว่านะ

จากคุณ : Morning Star



โดย: นายแว่นธรรมดา วันที่: 2 ตุลาคม 2553 เวลา:9:15:27 น.  

 
เข้ามาขอบคุณคุณ Morning Star และเพื่อนๆ ทุกคนที่มาให้กำลังใจ และช่วยเตือนสติครับ

มาวันนี้ผมรู้สึกสงบจิตสงบใจได้มากขึ้นครับ (ถึงจะไม่ทั้งหมดก็ตาม) และตัดสินใจแล้วว่าจะเดินหน้าต่อไป ทำงานอย่างมีความสุขตามหน้าที่รับผิดชอบ ที่แม้จะดูไม่สำคัญ ให้เต็มที่ เต็มกำลังครับ

เรื่องการเรียนต่อ มันจะช่วยอัปเกรดตำแหน่งหน้าที่ของผมได้ครับ จึงมีความจำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องเรียน จริงๆ ผมควรจะต้องเรียนมานานแล้ว แต่พยายามบ่ายเบี่ยงมาตลอด

เรื่องสถานะทางการเงินของครอบครัวผม จริงๆ มันก็ง่อนแง่นอย่างที่คุณ Morning Star ว่ามานั่นแหละครับ เพราะตอนซื้อบ้านผมทุ่มเงินลงไปกับบ้านเป็นหลักล้านครับ อย่างไรก็ตามยังพอมีเงินสดอยู่ในมืออีกประมาณ 1 แสนครับ (ลืมแจ้งให้ทราบ)

ผมมีกำลังใจมากขึ้นครับ ดีขึ้นกว่าเดิม เรื่องราวรอบๆ ตัวมันก็เหมือนสิ่งสมมติทั้งนั้น มันโง่เองที่ไปหลงยึดติดเอามาเป็นตัว เป็นตน และคิดว่าจะเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้นนับตั้งแต่วินาทีนี้ครับ

ขอชี้แจงอีกครั้งนะครับ ที่บอกหมดไส้หมดพุงแบบนี้ เพราะอย่างให้คนอื่นเอามาเป็นกรณีศึกษา และนำไปใช้ปรับเปลี่ยนชีวิตของแต่ละท่าน หวังว่าคงได้ประโยชน์ หรือแง่คิดจากชีวิตจริงของผมไม่มากก็น้อย

ขอขอบคุณทุกท่านอีกครั้งครับ

ด้วยความเคารพ

จากคุณ : จขกท.



โดย: นายแว่นธรรมดา วันที่: 2 ตุลาคม 2553 เวลา:9:15:44 น.  

 
เห็นด้วยกับ Morning Star คุณควรดิคแง่บวก จริงๆแล้วการทำงานของคุณต้องการอะไร..วันแรกที่คุณเข้ามาทำงานทำเพื่ออะไร...อยู่ไปๆ.ควรคิดมันเปลี่ยนไปอยากได้อยากดี..ตัวคุณเองก็เดื่อดร้อนกาย-ใจ ..หดหู่..ในบางครั้งการทำงานไม่ต้องได้เหรียญก็ได้..ได้ทำงานก็พอหรือเปล่า
เท่าที่ดูคุณยังไม่มีความสุขในการทำงานเท่าที่ควรดูจาก

..ทำงานอย่างมีความสุขตามหน้าที่รับผิดชอบ ที่แม้จะดูไม่สำคัญ ...งานทุกชิ้นทุกอย่างที่ทำ..สำคัญ..ขอย้ำสำคัญ
ตัวอย่าง พนักงานทำความสะอาดห้องน้ำ หน้าที่..ทำความสะอาดห้องน้ำ..ทิ้งขยะ...วันดีคืนดีพนักงานรู้สึกงานที่ทำไม่สำคัญ...ไม่ทำ. ผลออกมา เสียหาย...เสียหลายอย่าง..เห็นมัยงานของคุณ..สำคัญ...จำไว้น๊ะจ๊ะ
แต่ขอบอกงานสำคัญ..คนทำงานก็สำคัญ..แต่ทุกหน้าที่ไม่ใช่ว่าจะสำคัญจนขาดไม่ได้...เพราะเมื่อไดที่เราคิดว่าเราสำคัญม๊ากมาก...หายายนะ...ก็กำลังตามมา..เพราะว่า....ก่อนเราจะมาทำงานนี้...คนเก่าก็ออก..แล้วถ้า...เราออก..คนใหม่ก็มา....สวัสดี..ความสูขที่แท้มีแต่ในงาน...สาธุ..


โดย: อ้วน IP: 112.143.9.139 วันที่: 15 ตุลาคม 2553 เวลา:19:14:08 น.  

 
ขอเดาว่าเป็นอาจารย์


โดย: pk IP: 49.228.176.169 วันที่: 29 กรกฎาคม 2555 เวลา:1:25:54 น.  

 
มนุษย์... แม้แต่ร่างกายก็ยังยึด ... แม้แต่ความรู้สึกก็ยังยึด... หากปล่อยวางมันได้ก็จะมีความสุขได้ไม่ยาก...


โดย: นายแว่นธรรมดา วันที่: 29 กรกฎาคม 2555 เวลา:9:41:00 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิกช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

นายแว่นธรรมดา
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 110 คน [?]




ยินดีต้อนรับสู่บล็อกนายแว่นธรรมดา บล็อกที่รวมเอาความคิด ความฝัน ความรู้สึกของนายแว่นธรรมดา เพื่อปะติดปะต่อภาพแห่งความรู้สึกในใจของเราให้เสร็จสมบูรณ์ (ขอสงวนการนำข้อมูลในบล็อกไปใช้ครับ)
Free counters!
New Comments
[Add นายแว่นธรรมดา's blog to your web]