https://goo.gl/WPXu05




ชื่อภาษาอังกฤษ : Bungor
ชื่อวิทยาศาสตร์ : Lagerstroemia floribunda Jack ex Blume
ชื่อวงศ์ : Lythraceae (วงศ์ตะแบก วงศ์เดียวกับเสลาและอินทนิล)

ชื่ออื่น : กระแบก (สงขลา), ตราแบกปรี้ (เขมร), ตะแบกไข่ (ราชบุรี, ตราด), ตะแบกนา ตะแบก
(ภาคกลาง, นครราชสีมา), บางอตะมะกอ (มลายู-ยะลา, ปัตตานี), บางอยะมู (มลายู-นราธิวาส),
เปื๋อยนา (ลำปาง), เปื๋อยหางค่าง (แพร่)


 

https://goo.gl/e57CSO
 

Floribunda เป็นคำในภาษาละตินที่เกิดจากการผสมกันของคำว่า Florri หมายถึง ดอกไม้ หรือการออกดอก
(Flower, blossom) กับคำว่า abundans แปลว่า จำนวนมาก (many) แปลรวม ๆ ว่า "ออกดอกเยอะมาก"
เนื่องจากตะแบกเวลาออกดอกจะเห็นช่อดอกเยอะและแน่น เห็นเด่นชัด ดอกมีขนาดเล็กกว่าอินทนิล

 

ลักษณะทั่วไป ไม้ยืนต้น ผลัดใบ สูง 15-30 เมตร เรือนยอดเป็นพุ่มกลม ส่วนโคนต้นเป็น พูพอน (Buttress)
เปลือกต้นเรียบเป็นมันสีเทาอมขาว มีรอยแผลเป็นหลุมตื้น ๆ หลุดล่อนได้ตลอดลำต้น เหมือนผิวเปลือกต้นฝรั่ง





https://goo.gl/kF9TrF

ช่อดอกเป็นแบบช่อแยกแขนงออกตามปลายกิ่ง โค้งชูเหนือเรือนยอด มีดอกขนาดเล็กจำนวนมาก กลีบรอบ
ดอกเป็นรูปถ้วยเชื่อมติดกับดอก มีกลีบดอก 5-7 กลีบ ริมขอบกลีบย่นบาง ดอกในช่อเรียงกันห่าง ๆ ทำให้
ช่อดอกโปร่ง ดอกสีม่วงอมชมพู และสีจะจางซีดลงเกือบเป็นสีขาวเมื่อดอกโรย ออกดอกช่วงฤดูฝน 
 

https://goo.gl/KSEJ1J



ใบ ใบเดี่ยวออกตรงข้ามหรือเยื้องกันเล็กน้อย ใบอ่อนสีแดงมีขนสั้นอ่อนนุ่มปกคลุม ใบแก่ขนจะหลุดหายไป
แผ่นใบรูปขอบขนานแกมรูปหอก กว้าง 5-7 เซนติเมตร ยาว 12-20 เซนติเมตร ปลายใบเป็นติ่งแหลม โคนใบสอบ


 

https://goo.gl/BC1eLv

 

ช่อดอกโปร่ง ๆ ไม่แน่นเหมือนอินทนิล สีมีหลากหลายในช่อเดียวกัน ทั้งม่วง ชมพู คล้าย ๆ กับต้นอื่น ๆ
ในช่อเดียวกันดอกมีหลายอายุ หลายสี จากเข้มสุดไปจนขาว (ดอกแก่) ช่อโปร่ง ๆ มีขนสีทองปกคลุม

https://goo.gl/K4cXev



ดอกตูม ของตะแบกมีสีและรูปทรงคล้ายรูปถ้วยขนมเค้ก (คัพเค้ก) มาก
มีตุ่มตรงปลายยอด และมีขนสีทองปกคลุม


 

https://goo.gl/K4cXev

 

แม้ดอกอินทนิลน้ำจะมีตุ่มที่ยอดดอกตูมเหมือนกัน แต่ขนาดและรูปทรงต่างกันมาก สีก็ต่างกัน
ขนสีทองนี้ ไม่พบในเสลาและอินทนิล


 

https://goo.gl/7VJFFE

ดอกมีขนาดเล็กกว่าอินทนิล คือมีเส้นผ่าศูนย์กลางเพียง 2.5-3.5 ซ.ม. ดอกสีม่วงอมชมพูต่อมาเปลี่ยน
เป็นสีขาวหรือเกือบขาว ดอกตูม จะมีขนสีทองคลุมไว้ ออกรวมกันเป็นช่อตามปลายกิ่ง ขนาดช่อดอก
ยาวใกล้เคียงกัน คือ 30-40 ซ.ม.

สรุป ขนาดดอกโดยประมาณ : เสลา เมื่อบานเส้นผ่าศูนย์กลาง 3-4 ซม.
อินทนิลน้ำ 5-8 ซ.ม อินทนิลบก เมื่อบาน เส้นผ่าศูนย์กลาง 10-12 เซนติเมตร


 

ผล ผลรูปทรงรีมีขนาดเล็กประมาณ 1.5-2 ซ.ม. เปลือกเกลี้ยงแข็ง มีกลีบเลี้ยงคงอยู่ เมื่อผลแก่เต็มที่
ผลจะแตกตามรอยแยกเป็น 6 แฉก เมล็ดขนาดเล็ก แบน สีน้ำตาล มีปีก ผลอ่อนสีเขียว ผลแก่สีน้ำตาลดำ

ขยายพันธุ์ โดยใช้เมล็ด


 

https://goo.gl/Ik9gHy

การกระจายพันธุ์ พบในประเทศลาว กัมพูชา เวียดนาม และมาเลเซีย ในประเทศไทยพบตามป่า
เบญจพรรณชื้น ป่าดงดิบ ป่าน้ำท่วม และตามท้องนาทั่วทุกภาค




https://goo.gl/K4cXev   photo by : 026



ระยะเวลาออกดอก เดือนกรกฎาคม - กันยายน ไม่แน่นอนแล้วแต่สภาพพื้นที่และสิ่งแวดล้อม
เก็บเมล็ดได้ประมาณเดือน ธันวาคมขึ้นไป ผลแก่ จะแตกเพื่อโปรยเมล็ดในราวเดือน มีนาคม


 

https://goo.gl/a8ZrDw



ตะแบก ไม้ดอกยืนต้น นิยมปลูกประดับสวนให้ร่มเงา ทนแล้ง และทนน้ำท่วมขัง
พันธุ์ไม้ประจำจังหวัด สระบุรี และมหาวิทยาลัยราชภัฏบุรีรัมย์

เนื้อไม้ ละเอียด เป็นมัน แข็งเหนียว เสี้ยนตรงหรือเกือบตรง สีน้ำตาลอ่อนค่อนไปทางขาว
ใช้ทำสิ่งปลูกสร้างที่รับน้ำหนัก เสา กระดานพื้น และเครื่องมือการเกษตร

ไม้ตะแบกชนิดลายใช้ทำเครื่องเรือน ด้ามมีด กรอบรูป ด้ามปืน ฯลฯ
โชว์ลวดลายได้สวยงามมาก


สรรพคุณและประโยชน์ของตะแบก
https://goo.gl/kWaJH6




อ้างอิง :
https://goo.gl/K4cXev

บทเพลงบรรเลงชโลมใจ


 

Create Date : 20 เมษายน 2558
Last Update : 15 มกราคม 2564 16:48:42 น.		41 comments
Counter : 13051 Pageviews.
Share Tweet