Group Blog
 
<<
มกราคม 2554
 1
2345678
9101112131415
16171819202122
23242526272829
3031 
 
25 มกราคม 2554
 
All Blogs
 
แอฟริกันไวโอเล็ต (African Violet)

 

https://goo.gl/Oxvn06




ชื่อวิทยาศาสตร์ : Saintpaulia hybrid
วงศ์ : Gesneriaceae
ถิ่นกำเนิด: ตอนเหนือของประเทศแทนซาเนีย และตอนใต้ของประเทศเคนยา



แอฟริกันไวโอเล็ต เป็นไม้ที่มีความงามเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว คือ เป็นไม้ขนาดเล็ก ดอกมีสีสันสวยงาม
รูปทรงของดอกหลายรูปแบบ นิยมปลูกประดับลงกระถางขนาดกะทัดรัด เพื่อตั้งประดับโต๊ะ หรือมอบให้คน
พิเศษ คนที่นับถือ มีความหมายและมีคุณค่าดีมาก





https://goo.gl/MH4xtK



แอฟริกันไวโอเล็ต ชอบอยู่ในที่โล่งแจ้ง มีลมพัดผ่านได้ดี และที่สำคัญอย่ารดน้ำด้วยการรดแบบทั้งต้น
หรือรดให้น้ำโดนใบและดอก ให้ใช้วิธีพ่นน้ำจากกระบอกฟ็อกกี้ ฉีดพ่นเฉพาะหน้าดินพอชุ่มเล็กน้อยวันละครั้ง
เช้าหรือเย็นก็ได้ อย่าให้น้ำถูกใบและดอกโดยตรง พร้อมบำรุงปุ๋ยละลายช้า "ออสโมโค้ท" เดือนละครั้ง
เท่านี้ก็จะทำให้ แอฟริกันไวโอเลต มีใบและดอกดกสวยงาม อยู่ได้นานและมีอายุหลายปี
สามารถนำไปตั้งประดับโต๊ะทำงานบางเวลาได้





https://goo.gl/zi6xe2
 
 

ลักษณะ เป็นไม้ล้มลุกอายุหลายปี เป็นไม้เนื้ออ่อน ลำต้นกลม รากเป็นกระจุก แตกกิ่งก้านเป็นพุ่มคลุม
หน้าดิน ต้นสูงเต็มที่ระหว่าง 10-15 ซม. ใบเป็นใบเดี่ยว ออกเรียงสลับ ก้านใบยาว มีขนละเอียด อวบน้ำ
รูปใบจะมีหลายลักษณะ เช่น รูปกลม รูปหัวใจ รูปไข่ ขอบใบจักรเป็นฟันเลื่อย หรือหยักมน เนื้อใบหนา อวบน้ำ
แผ่นใบมีทั้งชนิดเรียบและบิดเป็นคลื่นตามแต่สายพันธุ์ มีขนละเอียดนุ่มปกคลุมตลอดทั้งใบ
ใบดกแผ่และกางออกคลุมหน้าดิน เป็นสีเขียวน่าชมยิ่ง





https://goo.gl/1397zP



ดอก ออกเป็นดอกเดี่ยว หรือเป็นช่อกระจุก มีทั้งชนิดที่เป็นดอกชั้นเดียว และดอกซ้อน กลีบดอกมี 2 รูปแบบ
คือ รูปดาว และ รูประฆัง มีหลายสี เช่น สีขาว ชมพู ม่วง ม่วงอมน้ำเงิน หรือ สองสีในกลีบเดียว ดอกเมื่อบาน
เต็มที่ เส้นผ่าศูนย์กลางระหว่าง 2-4 ซม. เวลามีดอกแต่ละสีจะดูสวยงามสดใสประทับใจมาก ในต่างประเทศ
นิยมปลูกประดับแพร่หลาย ดอกออกตลอดปี ขยายพันธุ์ด้วยการเพาะเมล็ด - แยกหน่อ - ตัดใบชำ





https://aveggiegarden.wordpress.com/tag/african-violet/



วัสดุปลูก แอฟริกันไวโอเล็ตต้องการดินผสมที่เบา และระบายน้ำได้ดี รากจะได้แผ่กระจายและน้ำไหลผ่าน
ได้สะดวก ดินปลูกต้นไม้ที่มีขายตามตลาดอาจไม่เหมาะ เราอาจผสมดินขึ้นใช้เอง โดยใช้ส่วนผสมของพีทมอส
(Peat Moss) หินภูเขาไฟ (Perlite) และสิ่งที่ได้จากการสังเคราะห์แร่ไมก้า(Vermiculite) หรืออาจใช้
ขุยมะพร้าวผสมกับแกลบ ทรายหยาบ และปุ๋ยคอกเล็กน้อยก็ได้ แต่ส่วนผสมต้องเบาและไม่อุ้มน้ำ
(ขุยมะพร้าวมักจะผุเปื่อย เกิดราและเพลี้ยแป้งได้ง่าย)

การให้น้ำ สาเหตุหลักที่ทำให้แอฟริกันฯ ตายเพราะเครื่องปลูกแฉะเกินไป ควรรดน้ำที่เครื่องปลูกพอเปียก
เมื่อรู้สึกว่าเครื่องปลูกเริ่มแห้ง ไม่ควรรดน้ำเป็นกิจวัตร เช่นทุกวัน หรือ ทุกสองวัน อาจใช้การยกดูว่ากระถาง
เริ่มเบาจึงค่อยรดน้ำ และไม่ควรรดน้ำที่ใบและดอก จะทำให้น้ำขังบนใบซึ่งเป็นสาเหตุของโรครา
อย่าลืมว่าน้องแอฟชอบชื้นแต่ไม่ชอบแฉะนะจ๊ะ





https://en.wikipedia.org/wiki/Saintpaulia



แสงสว่างและอุณหภูมิ น้องแอฟต้องการแสงสว่างเพียงพอไม่น้อยกว่าวันละ 8 ชั่วโมง เพื่อพัฒนา
ตาดอก แต่ต้องไม่ถูกแสงแดดโดยตรง จะวางไว้ริมหน้าต่างหรือใต้แสงไฟนีออน (ฟลูออเรสเซ้นท์)
ที่สว่างเพียงพอ ควรจะหมุนกระถางให้น้องแอฟได้รับแสงทุก ๆ ด้าน มิฉนั้นต้นไม้จะเอียงไปด้านที่มีแสงมาก
สำหรับอุณหภูมิที่น้องแอฟชอบ ประมาณ 20-25 องศาเซลเซียส และไม่ชอบที่ที่มีลมโกรกมาก
บางท่านเข้าใจว่าต้องปลูกในที่เย็น ๆ จึงจะมีดอก จริง ๆ แล้วไม่จำเป็น


 




อ้างอิง :
https://goo.gl/t6vwPY
https://kaewpanya.rmutl.ac.th/2552/index.php?
https://goo.gl/OnmEjv




Create Date : 25 มกราคม 2554
Last Update : 24 มกราคม 2564 18:48:04 น. 2 comments
Counter : 20140 Pageviews.

 
ชอบค่ะแม้จะเลี้ยงยาก ทำตายหลายต้นแล้วแต่ก็เพาะใหม่ได้เรื่อย ๆ


โดย: sunnyorchids วันที่: 27 มกราคม 2554 เวลา:10:42:12 น.  

 
ขอบคุณข้อมูลดีๆค่ะ...กำลังหาอยู่เลย..

ที่บ้านมี 2-3 ต้น อยากจะขยายพันธุ์เหมือนกัน แต่กลัวมันจะน้อยใจหนีตายไปซะก่อน...เลยยังไม่กล้าไปทำอะไรกับมัน...

แต่เด๋วลองชำใบ มันดูตามข้อมูลข้างบนดูค่ะ..ไว้ได้ผลดีๆ จะแวะเก็บภาพมาฝากด้วยจ๊ะ...


โดย: ชาลีเบบี้ วันที่: 30 มกราคม 2554 เวลา:16:04:23 น.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

ฟ้าใสวันใหม่
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 142 คน [?]




: Users Online

เริ่มนับ 14 ธันวาคม 2555
Free counters!

Friends' blogs
[Add ฟ้าใสวันใหม่'s blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.