เราสามคน...หนทางเดียว24(พายุลูกใหญ่)
นลินค่อยหายใจโล่งเมื่อทุกอย่างสงบเช่นเดิมแล้ว ชีวิตที่อยู่พร้อมหน้าก็นับว่าไม่เลวนัก แม้จะมีพูดคุยขัดแย้งกันบ้าง แต่ท้ายที่สุดก็หาจุดที่ยอมรับกันและกันได้เจอพี่จะไปฟลอริดาสักพักนะ ลิน ไปดูแลงานหน่อย เขตต์บอกเธอแล้วหลบตา สีหน้าไม่ค่อยดีนัก แต่เขาก็จำใจต้องบอกเธอตามนั้นค่ะ กลับเมื่อไรคะ เจ้าตัวเล็กต้องคิดถึงคุณป๋าแน่ๆ เลย นลินพูดแล้วก็ยิ้มให้ โดยมีเจ้าตัวเล็ก ยืนกอดไหล่แม่คนละข้าง เพื่อเรียกร้องความสนใจพี่ไปไม่นานหรอก และก็มีข้อดีของการมีคู่แฝดนะ เพราะเราจะมีคุณป๋าสำรองให้ลูกๆ เสมอ เขตต์พูดก่อนอุ้มเจ้าตัวเล็กคนหนึ่งเอาไว้ ไงจ๊ะ แยกออกไหมคนไหนคุณป๋า คนไหนคุณแด๊ดธรรม์เอานิ้วใส่ปากแล้วขมวดคิ้ว ก่อนตัดสินใจกอดคอพ่อโดยไม่ตอบ เพราะไม่เข้าใจเลย ดาดาปาปา ธารเรียกอีกอย่างเสียงหัวเราะดังขึ้นภายในห้อง เจ้าตัวเล็กสองคนทำให้พ่อแม่ต่างก็ต้องยิ้มออก เขตต์หอมแก้มเจ้าตัวเล็กอย่างอ่อนโยน ถ้าไม่มีพวกเขา เราคงเหงานะใช่ค่ะ พวกเขาเป็นทุกสิ่งทุกอย่างในชีวิตลิน เพราะงั้นลินถึงพยายามอยู่กับพวกเขาให้มาก พอโตขึ้นเวลาที่เขาจะอยู่กับเราก็น้อยลง เขาก็ต้องแสวงหาหนทางชีวิตของเขานะคะ แต่ตอนนี้ลินก็ยังรู้สึกว่าลินพยายามเพื่อพวกเขาไม่พอเลยค่ะ เวลาที่เราจะได้อยู่กับเขาอย่างแท้จริงก็แค่สิบกว่าปีเท่านั้นเองนะคะ นลินพูดแล้วก็ลูบผมลูกชายที่กำลังนั่งเล่นอยู่ไม่ห่างจากเธอเขตต์มองเธออย่างแสนรัก เขาไม่อยากอยู่ห่างจากเธออีก นับจากความไม่เข้าใจกันที่เพิ่งผ่านไป เขาอยากมีเวลากับเธอให้มากขึ้น แต่ชีวิตยังมีภาระที่เขาไม่อาจทอดทิ้งได้หมดเขาเดินไปจูบเธอที่หน้าผาก แล้วกอดศีรษะเธอเอาไว้หลวมๆ เธอก็ซบอกเขาขณะที่มีลูกอยู่ใกล้ๆ เราจะผ่านเรื่องนี้ไปด้วยจ๊ะค่ะ นลินมองเขาเมื่อเขาถอยห่างขณะที่พ่อฝาแฝดก็โผล่เข้ามาอีกคน พร้อมถ้วยอาหารของเด็กๆ แมรี่ฝากมา ได้เวลาอาหารแล้วเจ้าลูกหมูทั้งหลายนลินกับเขตต์ก็ได้หัวเราะ เมื่อเด็กๆ ลุกขึ้นแล้วเดินไปหาพ่อด๊าดา เจ้าตัวเล็กเข้าไปเกาะขาพ่อทั้งสองข้าง แล้วส่งเสียงดังขึ้นเรื่อยๆปล่อยพ่อก่อนสิลูก เกาะแบบนี้แล้วจะเดินได้ยังไง ขันธ์พยายามบอกเจ้าตัวเล็กที่กำลังสนุกเพราะได้แกล้งพ่อ ก่อนพยายามส่งถ้วยเล็กให้เขตต์แล้วจับเจ้าตัวเล็กทั้งสองขึ้นพร้อมกันนี่แหนะ แกล้งพ่อใช่ไหม นี่แหนะ ขันธ์หอมแก้มลูกที่กำลังหัวเราะสนุกสนานทั้งสองข้างสลับๆ กันไปก็เล่นกับลูกแบบนี้ตลอดน่ะสิคะ ลูกถึงได้แกล้งเอา นลินหัวเราะ แล้วมองเขาวางลูกลง เธอรับถ้วยอาหารเด็กจากเขตต์ ก่อนป้อนให้ลูกๆ แหม ก็ลูกน่ารัก เหมือนแม่ของลูกเลย ขันธ์พูดแล้วส่งสายตาหวานๆ ให้กับคนรักก็ยังดีที่รู้ว่าน่ารัก อย่าให้รู้นะว่าแอบไปเอ็นดูคนอื่น นลินแกล้งพูดอย่างไม่จริงจังนัก ก่อนหัวเราะไปพร้อมกับเขาชอบพูดให้ใจชื้นอยู่เรื่อย รู้นะว่าจะไม่หึง แล้วก็รู้ด้วยว่าเตรียมจะโละทิ้งเสมอ ขันธ์พูดดักคอเอาเข้าไปนั่น พูดอะไรกันน่ะ ไม่มีใครทิ้งใครหรอกน่า เขตต์พูดขณะหลอกล่อให้ลูกทานรู้แล้วค่ะ นลินพูดแล้วเงียบอีกครั้ง ก่อนถูกขันธ์จูบที่เรือนผมเบาๆเธอยิ้มให้เขา ก่อนหันมายิ้มให้เขาอีกคน ขอเพียงแค่ความสงบก็พอแล้วสำหรับคนที่ผ่านความวุ่นวายมามากอย่างเธอ ความคาดหวังที่มีต่ออนาคตก็ดูจะมากขึ้น จากที่เคยมีเพียงเล็กน้อยเจ้าตัวเล็กที่น่ารักกำลังสานความสัมพันธ์ให้แนบแน่นขึ้น ทุกอย่างกำลังเป็นไปด้วยดี เพราะต่างก็ช่วยเหลือประคับประคองครอบครัวใหญ่ให้สงบสุข************************************************สีหน้าเขาว้าวุ่น เมื่อต้อนเผชิญสถานการณ์ที่น่าอึดอัด เขาต้องโกหกเธอเรื่องงาน และต้องอยู่กับความรับผิดชอบที่เขาก็ไม่แน่ใจว่าจำเป็นหรือไม่กัลยา...แฟนสาวคนแรกของเขากำลังป่วยทางจิตอย่างหนัก และเกินกว่าที่ครอบครัวเธอจะช่วยเหลือได้ เขาจึงกลายเป็นหลักยึดอย่างไม่มีทางเลือกดีนส์คะ ป้อนให้กันทีสิคะ กัลยายิ้มน้อยยิ้มใหญ่กอดแขนเขาเอาไว้แน่นคล้ายกับกลัวว่าเขาจะหนีหายไปเมื่อเธอปล่อยเขตต์ฝืนยิ้มก่อนป้อนให้ แล้วต้องแอบถอนหายใจเป็นระยะ หากยังดีที่เป็นช่วงกลางคืนแล้ว สักพักหลังป้อนยามื้อนี้ เขาก็เป็นอิสระจากเธอสักทีเมื่อเธอหลับ เขาก็รีบกลับห้องตัวเองแล้วโทรหาเธอทันที ขอพูดกับลินหน่อยรีบจริง ใจเย็นๆ ลินกำลังดูเจ้าธรรม์อยู่ ลูกท้องเสียเนี่ย ขันธ์บอกน้องชายอะไรนะ ไปหาหมอหรือยัง เป็นอะไรมากไหม คิดถึงลูกๆ จัง ลินเป็นยังไงบ้างน่ะ เขตต์พยายามพูดเรื่องของเธอกับลูกมากกว่าเรื่องของเขา ก็ไปมาแล้วล่ะ สงสัยหิวจัดคว้าอะไรได้ก็กิน พอกินแล้วก็อย่างงี้ทุกที นายล่ะ เมื่อไรกลับ ได้ข่าวว่ากันอาการดีขึ้นแล้วไม่ใช่เหรอ ขันธ์หาที่หลบคุย ฉันไม่สบายใจเลยที่ต้องโกหกลิน เฮ้อ เขตต์พูดอย่างอึดอัดเอาน่า ฉันว่าอย่าให้ลินรู้ดีแล้วล่ะ เพราะยังไงเรื่องนี้ก็จะจบลง แล้วพวกเราก็จะใช้ชีวิตกันต่อไป แล้วก็จะไม่มีปัญหาอะไรให้วุ่นวายอีก ลินคิดเรื่องลูกเรื่องเดียวก็พอแล้วนะ เดี๋ยวจะต้องมานั่งคิดเรื่องนายจะอยู่นายจะไปอีก วุ่นวาย ขันธ์คิดอย่างรอบคอบฉันจะอยู่กับลินแน่นอน เขตต์มั่นใจแล้วนี่กันอาการดีขึ้นไหม ขันธืถามแฟนเก่าน้องชายไปตามเรื่องดีขึ้นมากแล้ว เขาต้องการการใส่ใจน่ะ สักพัก ถ้าเขาเข้มแข็งพอ เขาก็คงไม่ต้องการฉันเหมือนเดิมนั่นแหละ เขตต์อธิบายจากประสบการณ์ที่ผ่านมาอืม ขอให้หายจริงๆ เถอะ แล้วนายก็รีบกลับมาแล้ว เจ้าตัวเล็กอยากเล่นซ่อนแอบกับพ่อทั้งสองแล้ว วันนี้นั่งตักฉันแล้วมองหานายด้วยล่ะ ขันธ์คิดแล้วก็ขำ ต้องให้อาเธอร์ไปเอากระจกมาแล้วชี้ให้ดูนายขำอะไร เขตต์ฟังคู่แฝดเล่าแล้วก็หัวเราะ คิดได้นะ เรื่องแกล้งลูกเนี่ยแหม ก็พวกเขาน่ารักนี่ เอาล่ะ ลินมาแล้วคุยกันไปนะ ขันธ์ยื่นโทรศัพท์ให้ลิน ที่กำลังอุ้มลูกอยู่ มาให้แด๊ดดี้อุ้มนะเพียงเท่านั้นเจ้าตัวเล็กก็กอดคอแม่แน่น แล้วร้องไห้งอแงทันที ทำให้นลินต้องปลอบอีกจนสงบ โอ๋ๆ อยู่กับแม่ไงลูก พี่ช่วยไปดูธารทีค่ะ วันนี้วุ่นกับธรรม์จนไม่ค่อยได้ดูธารเลย แกก็เดินตามเกาะขาลินตลอดเลยจ๊ะ ขันธ์ยอมแพ้ลูกที่งอแง แล้วหันไปคว้าเจ้าตัวเล็กที่กำลังเดินมาหาแม่แล้ว ก่อนจะจั๊กจี้ลูก แล้วพาลูกเหินฟ้าเล่น ทำให้เจ้าตัวเล็กเพลินจนลืมอ้อนแม่เลยทีเดียวว่าไงคะ พี่เขตต์ คุยกับปาปาไหมลูก นลินพยายามหยอกลูกไปด้วยจะได้อารมณ์ดีขึ้น เรียกปาปาสิลูกธารก็หันไปทางพ่ออีกคนที่มองเห็นแล้วชี้ทันที ปาปา ปาปาไม่ใช่ลูก ทางนี้ลูก พูดใส่ตรงนี้ลูก นลินยิ้มเอ็นดู แม้สีหน้าจะเหน็ดเหนื่อย แต่ก็มี่ความสุขได้เช่นกัน เป็นไงบ้างคะ งานยุ่งไหมก็ไม่เท่าไรหรอก แต่ก็โทรหาลินได้แค่ช่วงเวลานี้เท่านั้นนะ คิดถึงลินกับลูกๆ จัง อยากกลับไปหามากแต่อีกไม่นานแล้วล่ะ เขตต์พูดคุยกับเธอไปเรื่อยๆ อย่างมีความสุข จนกระทั่งมีเสียงเคาะประตูดังขึ้น เขาจึงตัดการติดต่อ ลินพาลูกไปนอนเถอะ เดี๋ยวพี่จะนอนแล้วล่ะ พี่รักลินนะนลินยิ้มกับลูกชายที่ซบไหล่แม่หลับ ฝันดีค่ะ ลินก็รักพี่นะคะเขตต์ยิ้มก่อนตัดสาย แล้วไปที่ประตู ใครครับกันเอง เขตต์ ขอกันเข้าไปหน่อยได้ไหม กัลยาบอกเมื่อเขาไม่เปิดประตูง่ายๆอ๋อ มีอะไรเหรอ เขตต์เปิดประตูแต่ไม่ยอมให้เธอเข้าไปด้านใน เขตต์พากลับไปนอนนะ นอนไม่หลับใช่ไหมหากกัลยาพยายามแทรกตัวเข้ามา แต่เขาก็ไม่เปิดทางให้ ขอกันนอนกับเขตต์นะ กันไม่อยากนอนคนเดียวเขตต์ขมวดคิ้ว ก่อนส่ายหน้า อย่าเลย กันก็รู้ว่ามันไม่เหมาะ เราเป็นเพื่อนกันนะ เขตต์ไม่อยากให้กันคิดมากไปกว่านี้ถ้ากันผิด มันก็เป็นอดีตแล้วนะ เขตต์ให้อภัยกันไม่ได้เหรอ กัลยากอดเอวเขาที่ทางเดินโดยไม่กลัวใครมาเห็นเขตต์เพียงลูบหลังเบาๆ แล้วปลอบโยน เพราะหัวใจเธอบอบบาง เขตต์ให้อภัยแล้ว แต่ก็ทำให้เขตต์เรียนรู้ว่ามันคืออดีตไง ระหว่างเราต้องเป็นเพื่อนกันเท่านั้น มาเถอะ เดี๋ยวเขตต์พาไปนอนนะไม่ กันไม่นอน กันไม่อยากอยู่คนเดียวได้ยินไหม กันอยากมีใครสักคน กันอยากให้เขตต์เป็นคนคนนั้น กัลยาทำท่าคลุ้มคลั่งอีกครั้งใจเย็นๆ สิจ๊ะ ดึกแล้วนะ ไปที่ห้องกันเถอะ เขตต์พยายามใจเย็นเขาเรียนรู้ที่จะโตขึ้น เขาเรียนรู้ที่จะใจเย็นมากขึ้น เขาเรียนรู้ที่จะให้เหมือนที่พี่ชายฝาแฝดเขาทำให้เขาเสมอ และเหมือนนลินที่ยอมลดกำแพงเพื่อเขาเขตต์มีคนอื่นแล้วใช่ไหม เพราะกันมันโง่เองที่ไม่เคยเห็นความดีของเขตต์ กัลยาเริ่มโทษตัวเองอีกครั้งเรื่องบางอย่างเมื่อผ่านไปแล้ว ก็ให้มันผ่านไปเถอะจ๊ะ ตอนนี้กันต้องพยายามเข้มแข็งนะ เพื่อคุณแม่และเพื่อลูกของกันไง เขตต์พูดถึงเด็กชายที่กัลยาไม่ต้องการ เด็กชายที่ต้องประคับประคองเพื่อให้คลอดได้อย่างปลอดภัย และเป็นเด็กชายที่ทำให้กัลยาบ้าคลั่งแต่กันไม่กล้าเข้าใกล้ กันกลัว กัลยาหันมากอดเขาเอาไว้แน่นเขตต์ได้แต่ปลอบเธอแล้วพาเดินไปที่ห้อง ก่อนช่วยประคองเธอนอนลง โดยระวังไม่ให้ตัวเองต้องเจอกับปัญหาในอนาคต นอนซะนะ อย่าคิดมาก ตอนนี้ดูแลสุขภาพให้ดีก่อนจ๊ะ เขตต์จะเป็นเพื่อนที่ดีให้กันนะกัลยาพยักหน้าช้าๆ ก่อนหลับตาลงโดยไม่ยอมปล่อยมือเขา ทำให้เขาหนักใจ แต่อาการของกัลยาก็ดีขึ้นมากแล้ว อีกไม่นานเขาก็จะได้กลับไปอยู่กับผู้หญิงที่เขารักและลูกๆ ที่น่ารักของเขา************************************************เมื่อแพทย์ประเมินอาการเรียบร้อย เขตต์ก็พร้อมเดินทางกลับ เขาทำตามคำขอร้องของแม่กัลยาจนเรียบร้อย และยอมให้ลูกของกัลยาใช้ชื่อเขาเป็นพ่อของเด็ก แต่ทุกอย่างก็อยู่ในการดูแลของแม่กัลยาที่มีหลานชายคนนี้คนเดียวเท่านั้นเขตต์รู้ว่าอาการทางจิตของกัลยานั้นคงยากกำจัดได้หมด แต่อย่างน้อยตอนนี้เธอก็กล้าเดินออกไปสู้กับสังคม ซึ่งทำให้หน้าที่เขาเรียบร้อยแล้วรอยยิ้มถูกระบายเต็มดวงหน้าเขา เมื่อได้เห็นเจ้าตัวเล็กฝาแฝดกับแม่ของลูกที่เขารัก เขารู้สึกได้เลยว่าเด็กน้อยที่ควรเป็นหลานเขานั้นคือลูกของเขาได้อย่างเต็มที่ปาปา เจ้าตัวเล็กในอ้อมแขนของนลินเรียกคนที่เดินมา ชี้บอกทุกคน ก่อนหันมาขมวดคิ้วเห็นพ่ออีกคนที่กำลังอุ้มคู่แฝด ดาดารู้อีก ใช่สิ โน้นน่ะ ปาปา นี่ไงดาดา ขันธ์เอานิ้วจิ้มหน้าเจ้าตัวเล็กในอ้อมแขนนลินเล่นเบาๆพี่เขตต์ นลินไม่สนใจที่พ่อลูกเล่นกัน หันไปรับหอมแก้มจากเขา แล้วปล่อยให้เขากอดและหอมแก้มเจ้าตัวเล็กที่กำลังวุ่นวายคิดถึงปาปาไหมลูก เขตต์หอมแก้มเจ้าตัวเล็กในอ้อมเขนของนลิน แล้วก็หันไปหอมเจ้าตัวเล็กในอ้อมแขนคู่แฝด แล้วเจ้าลูกชายในอ้อมแขนนลินก็เรียกร้องอยากให้พ่ออุ้ม เขาจึงอุ้มแล้วคุยกับคู่แฝด เป็นไงมั่งก็ดี โปรเจคนั้นเรียบร้อยแล้วนะ ความแตกเรียบร้อยแล้วล่ะ ขันธ์ยิ้มแห้งๆเขตต์ขมวดคิ้วแล้วหันไปมองนลิน อะไรวะลินสงสัยว่ามันแปลกๆ น่ะ ก็เลยถาม แล้วนายก็รู้นะว่า ภูมิต้านทานลินในตัวฉันต่ำมาก ดีกว่าให้แม่ลูกอ่อนหงุดหงิดน่ะ ขนาดลูกโตแล้วนะเนี่ย ยังเหมือนแม่ลูกอ่อนเลย ขันธ์บอกกับคู่แฝดลินไม่โกรธพี่นะ คือพี่กลัวลินคิดมากน่ะ เขตต์ปั้นหน้าลำบากไปเลยทีเดียวโกรธค่ะ นลินทำเสียงเข้ม ก่อนยิ้มออกมา อย่าคิดมากสิคะ สิ่งที่พี่ทำก็เป็นเรื่องดีอยู่แล้ว แฟนเก่าพี่ก็น่าสงสารด้วยว่าแต่ลินรู้ได้ยังไง เขตต์ขมวดคิ้วสงสัยสัญชาตญาณความเป็นแม่เนี่ย ก็ต้องสงสัยลูกๆ เป็นธรรมดา ขันธ์พูดก่อนหลบเมื่อนลินเอื้อมมาตี ทำให้เจ้าตัวเล็กที่เขาอุ้มถูกเหวี่ยงหลบได้หัวเราะบ้าจัง พวกพี่เป็นลูกลินตั้งแต่เมื่อไรเนี่ย แค่เจ้าตัวเล็กลินก็ปวดหัวพอแล้วค่ะ ไม่นับพวกพี่เป็นลูกหรอก นลินพูดก่อนเดินนำหน้า ไม่รอพวกเขาอีก แต่พวกเขาก็เดินตามมาอยู่ข้างๆ เธอจนทันอืม นายกลับมาทัน ฉันไปญี่ปุ่นพอดี ฝากดูแลแทนด้วยแล้วกัน ขันธ์บอกกับน้องชายเออดี ฉันจะได้มีเวลาอยู่ตามลำพังกับลินบ้าง เขตต์พูดแล้วยักคิ้วใส่ฝาแฝดขันธ์ได้แต่ทำหน้าเซ็ง แล้วก็ยิ้มเพราะต่างก็รู้ว่าพูดเล่นกันมากกว่า จากนั้นก็พยายามดึงความสนใจของลูกๆ ที่พยายามจะเดินเองในขณะที่ผู้คนจำนวนมากกำลังเข้าออกกันทั่วเจ้าตัวเล็กก็สนุกกับพ่อที่กำลังอุ้มตัวเองได้อีก...ความรักที่ผูกพันคนสามคนเอาไว้ด้วยกัน แม้จะเริ่มซนได้ที่แล้ว เพราะแม้แต่คอกก็แทบจะเอาไม่อยู่ เมื่อเริ่มปีนกันเป็นหากแม่ก็ยังคงคอยดูแลใกล้ชิด และยังกลับมาสู่เส้นทางการเขียนต่อไป โดยที่ไม่สนใจรายได้ เมื่อชีวิตมั่นคงขึ้น จะมีอะไรดีไปกว่านี้อีก...เพียงเราได้อยู่พร้อมหน้ากับคนที่เรารัก************************************************สีหน้าเยือกเย็นปรากฏเด่นชัด การมาที่นี่ไม่ได้เป็นแผน เธอเดินทางไปเรื่อยๆ เพื่อค้นหาความสงบที่ยังต้องนำมาเติมเต็มสิ่งที่ขาดหาย หากหัวใจเธอนึกถึงแต่ชายหนุ่มในอดีตที่เฝ้าดูแลเธอ เธอจึงมาที่นี่สีหน้าประหลาดใจของพ่อบ้านเก่าแก่ไม่น่าแปลกใจสำหรับเธอ และต้องฟังคำเชื้อเชิญอย่างสุภาพ ก่อนเดินไปนั่งรอในห้องรับแขกที่อยู่ตรงข้ามห้องนั่งเล่น แต่กัลยาไม่เคยอยู่นิ่งนานเธอเดินไปทั่วเหมือนที่เคยทำ สิบปีแล้วที่เธอไม่เคยมาที่นี่อีก เมื่อตอนนั้นเขาไร้ค่าสำหรับเธอ แตกต่างจากวันนี้ที่เขาเป็นชายหนุ่มคนเดียวที่อยู่เคียงข้างเธอเสียงหัวเราะของเด็กวัยขวบครึ่งดังขึ้นในห้อง มาพร้อมเสียงจังหวะหัวใจเต้นแรงของเธอ เมื่อประตูเปิดออก ก็เห็นเจ้าตัวเล็กกำลังวิ่งเล่นไล่จับกันเองอยู่เพียงลำพังเด็กๆ ก็หยุดเมื่อหันมาเห็นผู้หญิงแปลกหน้าแล้วก็ถอย ขมวดคิ้วมองแล้วก็ถอยอีก แต่พอถูกจ้องนานๆ สายตาที่จ้องมาก็ไม่เป็นมิตรนัก ทำให้คู่แฝดทั้งสองร้องไห้จ้าเสียงเด็กๆ กลับทำให้กัลยามึนงง ความรู้สึกที่เดือดพุ่งขึ้นอย่างรวดเร็ว เธอเดินไปหาเด็กๆ แล้วจับแขนคนหนึ่งไว้ทัน ก่อนคลุ้มคลั่ง หุบปาก ฉันบอกให้แกหุบปาก ฉันไม่ต้องการแกกัลยาเขย่าธารอย่างแรง ทำให้ธรรม์ที่ยืนอยู่ยิ่งร้องไห้ตามคู่แฝด เมื่อเข้ามาดึงๆ ยื้อๆ ก็ถูกผลักจนต้องไปนั่งกับพื้นหยุดนะ กัน เขตต์เข้ามาก่อน จึงเห็นลูกถูกจับเขย่าเขตต์ กัลยาละเมอเกือบปล่อยธารที่กำลังร้องไห้จ้า แต่เมื่อได้ยินเสียงร้องต่อเนื่อง เธอก็หันมามองเด็กในมืออีกครั้ง ไอ้เด็กบ้า ฉันบอกให้แกเงียบไงหยุดนะ กัน ปล่อยเนธานเถอะนะ ได้โปรด เขตต์พยายามร้องขอนลินเข้ามาทีหลังแทบลมจับ ส่วนพี่เลี้ยงก็ตกใจมาก เพราะออกไปเอาอาหารมาให้เด็กๆ แค่เพียงครู่เดียวก็เป็นเรื่องได้คุณปล่อยลูกฉันเถอะนะคะ นลินขยับเดินเข้าไปใกล้ แล้วร้องขอ ขณะที่ธรรม์เข้ามาเกาะขาแม่แล้วร้องไห้ แมรี่พาอีธานไปห้องอื่นก่อนกัน ได้โปรดคืนลูกให้ผมนะ อย่าทำอะไรเขาเลยนะ เขายังเล็กมาก เขตต์พยายามเกลี่ยกล่อมกัลยายังคงอุ้มเด็กคนนั้นเอาไว้ ก่อนพยายามฟังแต่ทุกอย่างก็ช่างสับสนสำหรับเธอ เธอจึงถอยออกไปเรื่อยๆ จนสุดที่รั้วของระเบียงธารพยายามยื่นมือไปหาพ่อแม่แล้วร้องเรียกหา ปาปา มามา ดาดาเงียบ ได้ยินไหม ฉันบอกให้แกเงียบ กัลยาหันไปตะคอกธารในอ้อมแขนธารยิ่งร้องไห้หนักและพยายามเรียกหาพ่อแม่ ที่กำลังเครียดกัน เข้ามาข้างในเถอะ เราค่อยๆ คุยกันนะ นั่นเนธานไม่ใช่กมล เขตต์พยายามกล่อมไม่ ไอ้เด็กบ้านี่มันตามหลอกหลอนกัน แกเกลียดฉัน ฉันก็เกลียดแก ไอ้เด็กเฮงซวย กันยาพูดไม่ขาดคำก็โยนร่างเด็กพ้นขอบระเบียง นลินที่ยืนอยู่ห่างๆ แต่ใกล้กับขอบระเบียบ แทบขาดสติกระโดดตามลงไปทันที และเธอก็รับร่างของลูกชายเอาไว้ ก่อนพลิกตัวเองแล้วหล่นลงสู่สระดิน เธอรู้สึกถึงพื้นดินขอบสระที่ยุบตัวลง ก่อนร่างทั้งร่างจมดิ่งลงไปในน้ำ แต่ก็พยายามดันร่างของลูกชายขึ้นเหนือหัวก่อนสลบไปลิน เขตต์ทำอะไรไม่ถูก นอกจากวิ่งตามลงไป ปล่อยให้กัลยาทรุดลงนั่งและมีอาการกำเริบอีกครั้งเขาถึงตัวเธอแล้วก็ลูก อาเธอร์ที่ลงไปสั่งงานคนสวนเข้าไปช่วยคุณหนูคนเล็กทัน แต่เมื่อหันไปมองนลินก็ต้องตกใจ แล้วรีบสั่งคนรถเอารถออกเพื่อไปโรงพยาบาลเขตต์เข้าไปหาลูกก่อนแล้วเข้าไปหานลิน ที่หัวแตกแต่ถูกช่วยขึ้นมาแล้ว แม้ยังมีลมหายใจแต่เขาไม่อาจรู้ได้ว่าเธอเป็นยังไงบ้าง เขาอุ้มเธอขึ้นแล้วพาไปขึ้นรถทันที************************************************ครอบครัวที่ใครๆ ก็ฝากไว้ในมือเขาต้องพบแต่ความวุ่นวาย หรือเขาจะไม่สามารถดูแลใครได้จริงๆ พอหมอออกมาจากห้องฉุกเฉิน เขาก็ถามหาทั้งลูกทั้งนลิน และได้รับคำตอบว่าลูกไม่เป็นอะไรมาก แต่นลินต้องรอดูอาการก่อนหัวใจเขาแทบหล่นร่วง เมื่อยังไม่เห็นเธอปลอดภัย ไม่มีใครคาดคิดว่าวันธรรมดาจะกลายเป็นวันที่เลวร้าย เขาตบหน้าตัวเองอย่างสุดทนก่อนมีมือเล็กๆ มาเกาะที่ขา แล้วเงยหน้ามองเขาปาปา ธรรม์ที่หายตกใจแล้วกอดขาพ่อเอาไว้เขตต์ก้มลงกอดลูกชายเอาไว้แล้วพยายามฝืนกลั้นน้ำตา มามาต้องหายลูก เนธานต้องปลอดภัยด้วย เราต้องอยู่กันพร้อมหน้าอีกครั้งนะลุกธรรม์กอดคอพ่อที่ก้มลงให้เขากอด แล้วตบหลังเบาๆ คล้ายจะปลอบพ่อมากกว่า เมื่อพ่ออุ้มก็เกาะคอพ่อแน่นเชิญทางนี้ค่ะ ลูกคุณอยู่ในห้องพักแล้วนะคะ พักดูอาการอีกคืนก็กลับบ้านได้ค่ะ พยาบาลเข้ามาบอกก่อนออกไปอย่างรวดเร็วธารสำรักน้ำเฉยๆ และก็ตกใจมากเท่านั้น และทันทีที่คู่แฝดเจอกันก็กอดกันตามสะดวก ก่อนถูกจับแยกจากกันอีกรอบ แล้วเขตต์ก็เข้าไปกอดลูกได้ถนัดขึ้นมามา ธารยกมือขึ้นแล้วบีบคลายไปเรื่อย เมื่อต้องการหาแม่เขตต์ต้องพยายามสะกดใจไว้ให้ได้และบอกกับลูกชาย เดี๋ยวมามาก็มาแล้วลูกอาเธอร์เดินเข้ามาพร้อมโทรศัพท์อย่างสงบ ก่อนรายงาน คุณแพทริกโทรมาครับเขตต์พยักหน้าช้าๆ ก่อนลูบเรือนผมลูกที่นอนลงอีกครั้ง แล้วลุกขึ้นหาที่คุย ว่าไงแพทริกมันเกิดเรื่องบ้าอะไรขึ้น ทำไมกันถึงไปอยู่ที่บ้านได้ ทำไมลูกกับลินถึงเกิดเรื่อง ขันธ์ตกคอกอย่างหัวเสียเมื่อได้ยินข่าวร้ายจากครอบครัวฉันก็ไม่รู้เหมือนกัน ว่ากันมาได้ยังไง แล้วมันเกิดอะไรขึ้น รู้อีกที กันก็จับเนธานไว้แล้ว เขาคงคิดว่าเป็นกมลลูกเขา แล้วลูกๆ ก็ร้องไห้กันใหญ่ ฉันก็สับสน เขตต์พยายามควบคุมสติที่เหลืออยู่น้อยนิดของเขาโว๊ย ขันธ์ตะโกนเข้ามาในสาย ก่อนพยายามสงบสติอารมณ์ ลินเป็นยังไงบ้าง อาเธอร์บอกแล้วว่าธารสบายดีเฮ้อ ยังไม่รู้เลย รู้แต่ว่าหัวกระแทกขอบสระดินอย่างแรง แล้วก็พยายามช่วยไม่ให้ลูกจมน้ำ เท่านั้น รู้แค่นั้นจริงๆ เขตต์บอกตามตรง เขากังวลใจไปจนสับสนและจับต้นชนปลายไม่ถูกเดือนเดียวที่ฉันฝากครอบครัวไว้กับนาย ทำไมมันเป็นแบบนี้ ขันธ์อยากใจเย็นแต่เขาก็ทำได้ยาก ก่อนบอกตบท้ายอย่างหาทางออกไม่เจอ ฉันจะหาเที่ยวบินกลับไปให้ได้ นายก็พยายามอย่าเข้าไปยุ่งกับยัยกันนั่นอีก อย่าไปยุ่งเด็ดขาดเข้าใจไหม อย่าพายัยนั่นเข้ามายุ่งกับครอบครัวเราอีกเอ้อ เขตต์จะพูด แต่คู่แฝดเขาตัดสายไปแล้วเขารู้ว่าพายุลูกใหญ่กำลังจะมา และต้องสับสนวุ่นวายมากกว่าเดิม โดยที่เขาอาจต้องสูญเสียทุกอย่างไป และอาจไม่มีโอกาสได้อยู่กับลูกๆ หรือนลินอีกเลยหนทางกลับใจช่างยากที่จะผ่านได้จริงๆ หรือ...************************************************สามวันที่ข้างเตียงช่างทำให้เขาสับสน เขตต์รู้แต่ว่าถ้าเขาออกไปจากห้องนี้ เขาอาจไม่มีวันได้กลับมาอีก คู่แฝดเขากำลังหัวเสียกับทุกอย่างที่เกิดขึ้น มันเกินความคาดหมาย...ผมจะดำเนินคดีแน่ ลูกผมเกือบต้องตายเพราะลูกสาวคุณ ขันธ์พูดใส่หน้าแม่ของกัลยาอย่างไม่เกรงใจ ออกไป ครอบครัวผมไม่ต้องการพวกคุณแต่แพทริกก็รู้ว่ากันไม่สบาย เขาป่วย เขาไม่ตั้งใจ แม่ของกัลยาพยายามขอร้องแต่แม่ของลูกผมยังไม่ฟื้นเลย ถึงลูกคุณจะไม่ติดคุก แต่อย่างน้อยผมก็สบายใจได้ว่า หล่อนจะไม่มีโอกาสมาทำร้ายครอบครัวผมอีก ขันธ์พยายามพูดอย่างใจเย็นทั้งที่ในใจร้อนยิ่งกว่าไฟได้โปรดอย่าจับลูกสาวป้าขังเลยนะ กันไม่รู้เรื่องจริงๆ เขาป่วย เห็นแก่ที่ป้าเป็นเพื่อนกับขวัญมานานนะ ได้โปรดเถอะ แม่ของกัลยาคุกเข่าร้องขอ และทำให้เขตต์ทนไม่ไหวต้องพูดพอเถอะ คุณป้าลุกขึ้นเถอะ ขันธ์ นายก็อย่าให้มันวุ่นวายกว่าเดิมเลยนะ กันเขาไม่มีสติ เขตต์เข้าใจเหตุผลของทั้งสองฝ่ายเขาถึงต้องไปอยู่ในที่ที่เขาควรอยู่ยังไงล่ะ เสียงผู้หญิงดังขึ้นภายในห้องขวัญ เธออย่าใจร้ายกับฉันนักเลย ลูกสาวฉันเสียสติไปแล้ว ฉันก็พยายามรักษาอยู่นี่ไง นะ อย่าให้ใครจับเขาไปขังเลยนะ เขาต้องการการดูแล แม่ของกัลยาพยายามขอร้องเพื่อนฉันให้ลูกชายฉันไปดูแลลูกเธอ แต่ผลเป็นยังไง หลานฉันเกือบตาย แล้วยังลินอีก สามวันที่ลินยังไม่ฟื้น แล้วถ้าเธอยังอยากขอร้องอะไรก็ไปขอกับพ่อแม่เขาเองเลย ขวัญฤดีหันไปทางพ่อแม่ที่ต้องเจ็บปวด เมื่อลูกต้องนอนป่วยแบบนี้เกษมมีสีหน้านิ่งเรียบ แต่ระรินไม่สบตาแม่ของกัลยา แล้วเดินไปข้างเตียงลูกสาวที่นอนพักอยู่อย่างสงบขอร้องเถอะนะคะ ลูกสาวฉันเขาไม่มีสติตอนนั้น เขาทำอะไรลงไปก็ไม่รู้เรื่องหรอกค่ะ แม่ของกัลยาพยายามร้องขอ แต่เกษมไม่มีอารมณ์จะฟัง จึงเดินหนีไปดูลูกสาว เมื่อมองหลานๆ ที่นอนอยู่บนโซฟา เพราะรอแม่ฟื้น เขาก็แทบส่ายหน้าเลยทีเดียว ลูกสาวเขาไม่เคยปลอดภัยเมื่อต้องเกี่ยวข้องกับคู่แฝดตัวโตคู่นี้ เขาหันไปมองปีเตอร์แล้วพยักหน้าให้กันพวกลูกออกไปได้แล้ว คุณด้วย เรื่องนี้เราจะคุยกันทีหลัง ปีเตอร์กับเกษมคุยกันมาตั้งแต่บนเครื่อง เรื่องความปลอดภัยของเด็กๆกับนลิน จึงรู้กันผมด้วยเหรอครับ ขันธ์ชี้ตัวเองอย่างงงๆใช่ ลูกด้วย ปีเตอร์บอกลุกชายอีกคนที่กำลังหัวฟัดหัวเหวี่ยง ขณะที่เขตต์เดินไปหาลูกๆ ปล่อยหลานๆ ไว้นั่นแหละ เราจะดูแลเองอะไรนะครับ เขตต์รู้สึกเหมือนถูกกีดกันทำไมครับ ขันธ์ถามขึ้นและไม่ยอมออกไปจากห้อง ผมผิดอะไรมันไม่เกี่ยวกับผิดหรือไม่ผิด มันเกี่ยวกับความปลอดภัยของคนสามคน เรื่องนี้ให้พวกเราคิดกันดีกว่า ขวัญฤดีบอกกับลูกชาย ก่อนพยักหน้าให้ออกไปก่อนจริงๆ ลินก็ เขตต์พยายามจะอธิบายออกไปก่อน เรื่องนี้พวกเราอยากคุยกันอย่างจริงจังอีกครั้งก่อนตัดสินใจ เธอด้วย ขวัญฤดีบอกเพื่อนอย่างเย็นชาขันธ์กระแทกลมหายใจก่อนออกไปจากห้อง พอเห็นหน้าน้องชายก็ยิ่งหงุดหงิด จึงออกไปที่อื่นแทน************************************************ภายในห้องพักมีแต่อาการตึงเครียด ทั้งที่หมอบอกว่าร่างกายนลินไม่มีอะไรน่าเป็นห่วงแล้ว แต่ยังคงหลับอยู่คล้ายกับคนที่ต้องการพักจากทุกอย่างระรินลูบเรือนผมลูกสาวเบาๆ แล้วก็ถอนหายใจ นึกรู้ว่าลูกสาวเหนื่อยหน่ายกับชีวิต แต่เมื่อเป็นแม่คนเราก็ต้องรับผิดชอบทุกอย่างให้ได้แล้วบรรดาพ่อแม่ก็คุยกันอย่างสงบ จนมีความเห็นตรงกัน หากสักพักเด็กๆ ก็ตื่นขึ้นและเมื่อไม่เห็นพ่อ ก็มองหา เห็นแต่ปู่ย่าตายาย ที่เป็นคนแปลกหน้าสำหรับพวกเขาก็ต้องร้องไห้จ้าด้วยความไม่คุ้น เพราะยังไม่ลืมเหตุการณ์ร้ายๆ ที่เกิดขึ้นโอ๋ๆ ย่าไงลูก ขวัญฤดีพูดทั้งไทยและเทศ พยายามอุ้มปลอบแต่เด็กๆ ก็ไม่เอาใครเพราะเป็นคนแปลกหน้าสำหรับเด็กๆ เฮ้อ เอาไงดีเนี่ยเกษมกับปีเตอร์ได้แต่ส่ายหน้า เมื่อมองหลานสองคนหันไปกอดกันกลม และไม่ไว้ใจใครก็ตามที่ไม่คุ้นหน้า แต่เสียงร้องก็ทำให้นลินค่อยๆ ฟื้นจากการพักผ่อน แต่ขยับตาช้าๆ ก่อนลืมตาและแน่ใจว่าลูกๆ กำลังร้องไห้ธาร ธรรม์ สีหน้านลินยังคงมึนงงอยู่ แต่ก็เรียกหาลูกๆ ด้วยความห่วงใยลินฟื้นแล้วเหรอลูก ระรินยิ้มยินดีขณะที่เจ้าตัวเล็กทั้งสองได้ยินเสียงแม่ก็หยุดร้องแล้วรีบวิ่งไปเกาะข้างเตียง ก่อนยอมให้ยายอุ้มไปนั่งซบอกแม่ที่นอนอยู่บุญรักษานะหนูลิน ขวัญฤดีโล่งใจที่นลินฟื้นขึ้นมาได้ มองเด็กๆ ที่ขยับเข้าซุกอกแม่ก็รู้ว่าคงยากที่ใครจะแยกแม่ลูกกลุ่มนี้ออกจากกันได้สวัสดีค่ะ พ่อ แม่ คุณแม่ แล้วก็คุณพ่อ นลินทักทีละคนเมื่อมีสติพอสมควร เพราะลูกๆ แย่งกันโถมเข้าหาแม่อย่างคิดถึง ธารไม่เป็นอะไรใช่ไหมลูกมามา เด็กๆ แย่งกันเรียกแม่กันระงมหมอบอกว่าธารไม่เป็นอะไรหรอก แค่ตกใจมากเท่านั้นเอง เห็นอาเธอร์บอกว่าสำรักน้ำเท่านั้น แข็งแรงมากเห็นไหม ขวัญฤดีเดินเข้ามาใกล้ๆนลินเพียงยิ้มให้ผู้ใหญ่ และรู้ว่ามีอะไรมากกว่าที่เห็นมากนัก เพียงเธอทำเฉยเหมือนไม่มีอะไร แล้วก็กอดลูกๆ เอาไว้ ซึ่งเจ้าตัวเล็กทั้งสองก็ให้ความร่วมมืออย่างดีแค่ไม่เห็นคู่แฝดตัวโตในห้องก็พอรู้แล้วว่าเกิดอะไรขึ้นบ้าง...************************************************แฮ่ ช่วงนี้ทรมานนางเอกเก่งจริงๆมาโพสแล้วต้องรีบวิ่งหนีอย่างรวดเร็วเลย หุหุข้าน้อยผิดไปแว้วคร๊าบบบบบบบบขอบคุณที่ติดตามค่ะ