เพลิงวารี & คชสีห์ ฿ Babylonia
<<
ธันวาคม 2553
 
 1234
567891011
12131415161718
19202122232425
262728293031 
 
15 ธันวาคม 2553
 
 

ทาสหัวใจ...ยังไงก็รักเธอ(บทส่งท้าย)

เมื่อถึงสะพานทางเข้าหมู่บ้าน ทั้งคณะก็ชะงักพักหนึ่ง ก่อนที่คนงานจะเปิดทางให้เข้า ในรถต่างก็มองหน้ากันอย่างสงสัยว่าที่นี่เป็นที่ไหนกันแน่ เพราะดูเหมือนหมู่บ้านจัดสรรค์ที่มีการดูแลความปลอดภัยสูง เพียงแต่มีทุ่งนากว้างและหมู่บ้านมองเห็นอยู่ไกลๆ

“แน่ใจว่ามาถูกนะ ตาหัตถ์” อรรถวดีถามหลานชายอย่างไม่แน่ใจนัก

“แน่นอนค่ะ ตามแผนที่เปะๆ ไม่มีพลาดค่ะ” จอมใจตอบยายเพื่อนรัก ก่อนจะมองอีกคนที่นั่งมาด้วย

รังรองต้องติดรถมา เพราะไม่อยากมาตามลำพัง และสามีเธอก็ไม่ว่างมาเป็นเพื่อน จึงต้องมากับคณะนี้ ที่มีกันสี่คน

“ไม่ห่างจากกรุงเทพเท่าไร แค่สองชั่วโมงก็ถึงแล้วนะเนี่ย บรรยากาศดีจัง ถึงว่าล่ะ ไอ้จีนถึงชอบ” หัตถาพูดเพื่อทำลายบรรยากาศน่าอึดอัด

“จ๊ะ ทุ่งนาสีเขียว นานๆ ทีถึงจะได้เห็นนะคะ คุณหญิง” รังรองก็ต้องพูดบ้าง ถ้าเธอเงียบอย่างเดียวก็จะทำให้คนอื่นๆ ลำบากใจ

“ใช่ค่ะ พ่อเจ้าลีเขามีที่ทางอยู่แถวนี้ นี่ก็ไม่รู้ว่าแปลงไหน” อรรถวดีพูดด้วยอย่างดี หลังจากปรับความเข้าใจกันได้

“เห็นลีบอกว่า ขับไปตามถนนสายหลักไปเรื่อยๆ ไม่ต้องเลี้ยวไหนเลยค่ะ บ้านมัน เอ๊ย บ้านลีอยู่หลังสุดท้ายสุดถนนพอดี แต่ถนนจะลงนาไปเลย เพราะว่าต้องใช้พวกรถไถ ด(พวกรถที่ใช้เกี่ยวกับทำนาลงนาน่ะค่ะ” จอมใจอธิบายตามคำบอกเล่าของเพื่อนรัก

“หนูใจมาบ่อยเหรอจ๊ะ” อรรถวดีถามขึ้น

“ไม่ค่ะ คุณย่า นานๆ มาทีค่ะ ถ้าลีชวนก็มาค่ะ แต่มาทั้งครอบครัวเลยค่ะ” จอมใจตอบไปตามเรื่อง ทั้งที่อยากจะบอกว่า แค่ข้ามสะพานมาก็ที่นาของนาตาลีทั้งหมด แต่ก็อยากให้เพื่อนบอกแทนมากกว่า

“แต่ที่นี่ก็บรรยากาศดีมากเลยใช่ไหมครับคุณน้า” หัตถาชวนคุยพร้อมประจบแม่เพื่อนที่ไม่ค่อยชอบเขาเท่าไรนัก

หากเขาก็รู้ว่าแม่เพื่อนเป็นคนยุติธรรม เพราะดูจะไม่ชอบเพื่อนคนไหนของลูกเลย และเพื่อนเขาก็ไม่คบคนที่แม่หามาให้เป็นเพื่อนจริงจังสักคน

“จ๊ะ เหมาะกับการพักผ่อนอย่างมาก” รังรองต้องเปิดใจให้กว้างร้อยเท่า เพื่อให้ทุกอย่างสงบ และบางทีเธออาจได้อะไรมากกว่าเสียอะไร

“ถึงแล้วครับ” หัตถารู้ว่านาตาลีจะเปิดประตูบ้านไว้รอ จึงเลี้ยวรถเข้าไปจอดเทียบกับรถเพื่อนที่จอดไว้ก่อน

ทั้งหมดลงจากรถ แล้วออกมามองบ้านไม้สักหลังใหญ่อย่างประหลาดใจ

“นอกจากจะมีบ้านเป็นวัง แล้วลียังมีบ้านไม้สักหลังใหญ่อีก เพื่อนคุณนี่รวยไม่ธรรมดานะเนี่ย” หัตถาหันไปวิจารณ์กับคู่หมั้นร่างอวบอย่างฉงน

“โอ้ ไม่ใช่ไม่ธรรมดา ลุงจักร พ่อไอ้ลีนะ ยังเป็นคนใจบุญด้วย เคยมอบที่ดินให้คนโน้นคนนี้ตั้งหลายไร่ เห็นลีเคยเล่าว่า...อ้าวเจ้าตัวมาพอดี ถามเอาเองดีกว่า” จอมใจชี้ไปที่คู่หนุ่มสาวที่เดินเข้ามาในบริเวณบ้าน

จีรังยังเหมือนเดิม ยังคงเดินโอบไหล่พอใจที่จะอยู่เคียงข้างต่อไป ส่วนนาตาลีก็เพียงเดินตัวตรงตามปกติ ฟังเขาพูดจาก้อร่อก้อติกต่อไป

หากพอเขาเห็นแม่ก็ชะงักแล้วยิ้มแห้งๆ ก่อนจะโอบไหล่พาเธอไปไหว้แม่ “สวัสดีครับแม่ เอ่อ ลี”

“สวัสดีค่ะ ยายดี แล้วก็คุณหญิง” นาตาลียกมือไหว้ผู้ใหญ่ ก่อนจะทักทายเพื่อนกับญาติตัวป่วน “ไง ไอ้ใจ นายหัตถ์ หาที่นี่เจอง่ายไหม”

“ง่ายแต่ไกล จากสะพานมาไกลเป็นกิโล” หัตถาบ่นออกมาอย่างจริงจัง

“ขับรถหรือว่าเดินเนี่ยบ่นจังเลยคุณ” จอมใจหันมาเล่นงานคู่หมั้น

“เดินทางมาเหนื่อยๆ เชิญขึ้นบ้านก่อนเถอะค่ะ อย่าไปสนใจสองคนนั่นเลยนะคะ” นาตาลีหันมาเชิญผู้ใหญ่ขึ้นบ้าน ราวกับไม่เคยมีอะไรเกิดขึ้นระหว่างเธอกับแม่ของจีรัง

อรรถวดีเดินตามหลานสาวขึ้นบ้านพร้อมกับแม่ของจีรัง ที่มีลูกชายคอยพยุงอย่างอ้อนประจบ เมื่อนั่งที่ศาลารับแขกแล้ว นาตาลีก็บอกให้เพื่อนไปช่วยยกน้ำ เพราะไม่มีคนดูแลอยู่ตลอดเวลา ส่วนมากต้องทำเอง

“หนูท้องได้กี่เดือนแล้วเนี่ย” อรรถวดีถามหลานสาวขึ้นด้วยสีหน้าราบเรียบ

นาตาลีฟังแล้วก็หันไปทางจอมใจกับญาติหนุ่ม ซึ่งก็ส่ายหน้าด้วยกันทั้งคู่

“ไม่ต้องหันไปมองเพื่อนเลย คุณหญิงบอกย่าเอง แต่เราไม่รู้ว่าหนูท้องกี่เดือนแล้วก็ต้องถามละนะ เหลนยายทั้งคน แล้วก็หลานคุณหญิงรังรองเขาด้วย” อรรถวดีเปิดฉากแบบธรรมดาแต่ไม่ธรรมดา

“สามเดือนครับ แล้วก็แข็งแรงมากทั้งแม่ทั้งลูก ว่าแต่แม่มีอะไรหรือเปล่าครับ คือว่าถ้ามีอะไรเร่งด่วน ก็เรียกผมไปได้ ไม่เห็นต้องลำบากมาเองเลยนี่ครับ” จีรังถามด้วยความเป็นห่วง ที่อยู่ๆ แม่ก็ออกจากคฤหาสน์มายังที่นี่โดยไม่บอกกล่าวล่วงหน้า

“คือว่า แม่อยากปรับความเข้าใจกับหนูนาตาลีน่ะ หลังจากปรับความเข้าใจกับคุณหญิงอรรถวดีแล้วด้วย ก็เนี่ยแหละ เป็นทุกอย่างที่แม่อยากให้เรียบร้อย สงบสุข” รังรองอธิบายกับทุกคนอย่างปลง

“คือลีไม่มีปัญหาอะไรกับคุณหญิง แล้วก็ไม่เคยมีอะไรเกิดขึ้นระหว่างลีกับคุณหญิงนี่คะ อย่าคิดมาก อดีตก็แค่ผ่านไป อะไรที่คิดว่ามันผิดพลาดก็คือบทเรียนอีกบท แต่อย่าเอามันมานั่งคิดให้ทุกข์ใจให้เจ็บปวด ทุกวันใหม่คือโอกาสใหม่ๆ ของชีวิตจริงไหมคะ” นาตาลีอธิบายและไม่ได้ติดใจอะไรหนักหนา

“คม แหม ไอ้รังฉลาดก็เพราะมีเมียฉลาดนี่เอง” หัตถาก็ลืมตัวเผลอปากพูดตามใจคิด จึงโดนจอมใจตีที่ขาเข้าให้ ก่อนจะออกตัว “ขอโทษครับ มันเคยปาก”

“นี่ถ้าไม่บอกไม่มีใครรู้เลยค่ะ ว่าเป็นหลานชายคนเล็กของฉัน” อรรถวดีส่ายหน้าให้กับหลานชาย แล้วคุยกับคุณหญิงรังรองที่นั่งอยู่ข้างๆ

“โธ่ คุณย่าครับ อย่างน้อยผมก็ฉลาดเรื่องหนึ่ง คือหาหลานสะใภ้น่ารักๆ นุ่มนิ่มๆ มาให้คุณย่าไงครับ โอ๊ย ก็รักไงถึงได้พูดออกมาตรงๆ” หัตถาหันไปแก้ตัวกับคู่หมั้นที่หยิกเขาด้วยความอาย

ทุกคนได้แต่หัวเราะความอารมณ์ดีของหัตถา ขณะที่จีรังได้แต่มองอย่างน้อยใจนิดๆ ที่เขายังไม่มีโอกาสได้รับคำบอกรักจากนายทาสเจ้าหัวใจเลยสักครั้ง

เขาถอนหายใจ ก่อนจะชวนเพื่อนๆ และผู้ใหญ่ทั้งสองไปเดินเล่น เมื่อถึงท้องทุ่ง เขามองเพื่อนกำลังทะเลาะกับคู่หมั้นตามปกติก็ได้แต่หัวเราะ

เป็นปกติของเจ้าหัดเยอรมันที่จะทะเลาะกับคนที่รักได้อย่างเพลิดเพลิน...แล้วเขาล่ะ?

“เป็นอะไร” นาตาลีเห็นเขามองเพื่อนเธอกับเพื่อนเขาแล้วเหม่อๆ จึงเดินเข้ามาถาม

“เปล่าครับ” จีรังทำเสียงอ่อยๆ

“โอเค โอกาสสุดท้ายบอกมาว่าอยากได้อะไรแน่ มองนายหัตถ์กับไอ้ใจตาละห้อยเชียว หรืออยากทะเลาะกันแบบนั้นบ้างล่ะ” นาตาลีแกล้งถามเสียงแข็งแต่จริงๆ กำลังขำอยู่ในใจ

จีรังถอนหายใจเล็กๆ อย่างน้อยใจนิดๆ “ผมอยากมั่นใจอะไรสักอย่างน่ะครับ”

“มั่นใจอะไรยะ” นาตาลีแกล้งถามอีก ทั้งๆ ที่สายตาเขากำลังฟ้องทุกอย่างที่เขาต้องการ

จีรังทำคอตกเมื่อเธอทำเหมือนยังไม่รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ก่อนจะกุมมือเธอแล้วถอนหายใจ และตัดใจในที่สุด เมื่อเขาตัดสินใจไม่บังคับเธอ

หากเขาก็ต้องตกใจ เมื่อเธอยืดตัวขึ้นมาจูบแก้มเขาเบาๆ

“รัก” นาตาลีบอกแค่นั้น แล้วก็ทิ้งให้เขานิ่งอึ้งอยู่นานพอดู

“ไชโย!!! โว โว้” จีรังกระโดดโลดเต้นอย่างมีความสุขเหมือนคนบ้า

สวรรค์ทรงโปรด...

นาตาลียิ้มๆ แล้วเดินไปหาเพื่อนที่กำลังหันมามองอย่างงงๆ

“ไอ้รังบ้าอะไรของมันน่ะ” หัตถาเห็นเพื่อนกระโดดโลดเต้น พอสะดุดก็นั่งลงหัวเราะ

“ไม่รู้สิ สงสัยจะคลั่งอะไรสักอย่างละมั้ง” นาตาลียังคงขำกับท่าทางเพี้ยนๆ ของเขา

จอมใจมองเพื่อนก็ต้องเดาอย่างเงียบๆ ก่อนจะกระซิบถาม “ไปทำอะไรเขาน่ะ ถึงได้เป็นแบบนั้น”

“ก็แค่ให้รางวัลสำหรับความภักดีนิดหน่อยก็เท่านั้นแหละ อย่าไปสนใจเลยน่า” นาตาลีพูดยิ้มๆ กับเพื่อน ก่อนจะหาที่ทอดหน่องนั่งลงพัก

ไม่รู้ว่าอนาคตจะเกิดอะไรขึ้น...หากเธอจะยังคงสบายใจอยู่ได้เมื่อมีเขา

คงมีอะไรๆ สนุกมากกว่านี้เมื่อเวลาผ่านไป...

***************************************************


เสียงร้องไห้จ้าดังขึ้นจากลำโพงที่ข้างเตียง การมีลูกไม่ได้มีแต่ช่วงที่สุขสันต์หากก็มีช่วงที่ลำบากโดยเฉพาะช่วงที่แม่ของลูกเขาเข้าเวรดึกผ่าตัดแบบนี้

“ไปเดี๋ยวนี้แหละจ๊ะ ลูกที่รักและเคารพ” จีรังบ่นกับตัวเองก่อนจะเดินไปยังอีกห้อง เพื่อไปดูลูก

เขาโดนนายทาสที่รักดุอยู่เรื่อย เวลาที่เขาอุ้มลูกมานอนในห้องในคืนที่เธอไม่อยู่

ก็แหม...มันขี้เกียจเดินนี่นา ยังไงลูกก็ต้องร้องขึ้นมากลางดึกอย่างเอาแต่ใจอยู่แล้วนี่

ตอนเขาแก้ตัวไป แทบจะโดนเธอดึงหูแล้วกรนด่า หากนาตาลีไม่เคยทำอย่างนั้น แค่สายตาทอดทิ้งที่ส่งมาแทนการเตือนก็มากพอทำให้เขากลัวแล้ว

นึกถึงวันแรกที่ลูกคลอดออกมา ตอนที่เขาได้อุ้มลูกก็รู้สึกว่าเขาสามารถอุ้มลูกได้ตลอด แต่พอเจอสภาพงอแงของลูก เขาก็แทบถอยกรูด โดยเฉพาะเวลาที่แม่ของลูกไม่อยู่แล้วด้วย

นรก...มีให้เห็นอยู่รำไร

เมื่อเขาเดินเข้าไปในห้อง เห็นลูกร้องไห้งอแงก็เข้ามาปลอบ เจ้าตัวเล็กมีไข้ขึ้นสูง เขาทำตามคำสั่งนายทาสที่รักอย่างเคร่งครัด ด้วยการดูแลให้ยากับลูกสาวคนโตของเขา

เขาลูบหลังจนลูกสาวหลับ เจ้าตัวเล็กชอบแกล้งเขาพอๆ กับแม่ของลูก แต่ก่อนเขาจะวางเธอลงบนที่นอนเด็กในเปล เขาก็คิดๆ อีกรอบ แล้วอุ้มลูกสาวไปนอนด้วยกันที่เตียงเขา

มีความสุขที่ได้กอดลูกสาวแทนแม่...

พอเช้านาตาลีที่เพิ่งกลับมาก็ต้องส่ายหน้ากับพ่อขี้ใจอ่อน แล้วเขย่าแขนเขาแรงๆจนเขาสะดุ้งตื่น

“ครับๆ คุณลูก” พอเห็นเธอได้ถนัด จีรังก็ต้องโอดครวญ เพราะเพิ่งจะได้หลับเมื่อไม่นานนี่เอง “โธ่ ลีอ่ะ”

“จะโดดงานเพราะอ้างว่าต้องเลี้ยงลูกอีกแล้วหรือเปล่าเนี่ย” นาตาลีมองลูกสาววัยสี่เดือนของเธอที่กำลังนอนลับสบายอยู่บนเตียงที่ไม่มีความปลอดภัยใด นอกจากอ้อมแขนของพ่อ

“เปล่าโดดสักหน่อยครับ ก็ไม่มีอะไรมากนี่นา เลขาก็ส่งเอกสารมาให้เซ็นที่บ้านได้นี่ครับ” จีรังแก้ตัวแบบจนหนทาง ถึงจะวุ่นวายกับการเลี้ยงลูก แต่เขาก็ยอมรับว่ามีความสุข

“ไปทำงานได้แล้วยะ เดี๋ยวลีจะดูลูกเอง” นาตาลีพูดจบก็อุ้มลูกขึ้นจากเตียง มองลูกที มองเขาทีแล้วส่ายหน้า ก่อนจะเตือนเขาอีกครั้ง “คุณจะทำให้ลูกเสียนิสัยตั้งแต่เด็ก”

“ก็แหม ดูเหมือนลูกไม่อยากนอนคนเดียวนี่นา” จีรังพยายามแก้ตัวอีกรอบ

“อ๋อ ได้ เดี๋ยวจะจัดที่นอนให้ลูกตรงกลางเลย แล้วต่อไปก็คิดไว้ด้วยว่าจะมีลูกคนเดียวเท่านั้น จะไม่มีลูกเพิ่มอีก เพราะคงไม่ได้มีอะไรกันไปจนกว่า ลูกจะโตพอที่จะนอนคนเดียวได้ ซึ่งก็คงเกือบจะวัยรุ่นละนะ เอาล่ะ ฉันจะได้นัดหมอทำหมันให้คุณซะเลย หมดเรื่อง” นาตาลีบอกกับเขาหลังจากที่ออกมาจากห้องนอนลูก

“โอ๊ย ลีอ่ะ ก็ได้ๆ ผมจะพยายามใจแข็ง ไม่พาลูกมานอนในห้องเราอีก” จีรังต้องยอมรับเงื่อนไขของเธอ ก่อนที่จะไม่มีโอกาสมีลูกเพิ่ม

สมบัติมากขนาดนี้ ขืนมีคนเดียวคนอันตรายแน่ เขาเพิ่งเข้าใจคุณตาของนาตาลีที่ทำอะไรรัดกุมถึงขั้นนี้เพื่อให้หลานสาวไม่ต้องลำบากในอนาคต

บางครั้งการมีสมบัติจำนวนมากก็ไม่ใช่เรื่องดี...

พอเขาออกจากห้องน้ำก็เห็นเธอหลับไปแล้ว และลำโพงห้องลูกก็ยังคงเปิดอยู่ หากเขาไม่แน่ใจว่าเธอจะได้ยินเสียงจากลำโพง แต่ก็ไม่น่าเป็นห่วง เพราะแม่นมของเธอมีลำโพงอีกอันคอยฟังเสียงลูกสาวของเขา

แม้เวลาจะทรมาน แต่เขาแน่ใจว่า เขาต้องผ่านมันไปได้ ด้วยการคิดถึงลูกและเมียทุกลมหายใจ

เขาก้มลงจูบที่เรือนผมเธอเบาๆ ก่อนจะเน้นรอยจูบให้ชัดในใจเขาให้มากขึ้น แต่ไม่ว่ากี่จูบก็คงยากจะปลุกเจ้าหัวใจเขาให้ตื่นขึ้นมาได้ เขาจึงต้องปล่อยให้เธอหลับสบายต่อไป

เมื่อลงมาถึงชั้นล่าง เขาเดินตรงไปยังห้องอาหาร เห็นพ่อแม่เขามาแต่เช้า...อีกกลุ่มที่หลงรักลูกสาวเขา

“สวัสดีครับ คุณพ่อ คุณแม่” จีรังทักทาย ก่อนนั่งลงและยิ้มอย่างมีความสุข ที่สองครอบครัวอยู่ร่วมกันได้อย่างดี “มาแต่เช้าเชียวนะครับ”

“ทำยังไงได้ล่ะ ก็คิดถึงหลานนี่นาจริงไหมคุณ” รังรองหันไปหาสามีอย่างมีความสุขอารมณ์ดี

“พ่อก็เลยต้องมากับแม่ทุกวันเลยเชียว แล้วนี่หมอลีไปไหนแล้วล่ะ” จิระถามหาลูกสะใภ้ที่แม้จะไม่ได้จดทะเบียนสมรสกับลูกชายเขา หากก็ได้รับการยอมรับให้เป็นสะใภ้ที่ถูกต้องจากใจคนในครอบครัว

“หลับแล้วครับ เพิ่งกลับมาก่อนพ่อแม่มาได้สักเดี๋ยว ช่วงนี้หมอผ่าตัดไม่ค่อยว่าง ลีก็เลยเข้าไปช่วยครับ แต่ทุกอย่างก็โอเค ยกเว้นเมื่อคืนยายหนูแทบทำผมประสาท เพราะแกโยเยทั้งคืนเลยเชียวครับ” จีรังบ่นๆ ก่อนจะได้ฟังเสียงหัวเราะของพ่อแม่

“กรรมตามทัน จำตอนที่นายจีนป่วยได้ไหม คุณ ทั้งพ่อทั้งแม่แทบเอาไม่อยู่เลยทีเดียว” จิระยิ้มขำกับภรรยา

“โธ่ พ่อครับ ตอนนั้นผมรู้เรื่องที่ไหน ก็ผมยังแบเบาะนี่นา” จีรังแก้ตัวอย่างเขินๆ

“ไม่รู้เรื่อง จำตอนเข้าอนุบาลได้ไหมคุณ นายจีนข่วนแขนคุณจนเลือดออกเลยทีเดียว” รังรองก็รำลึกความหลังต่อไป ก่อนจะนึกได้ “จีน เมื่อไรจะมีหลานคนต่อไปให้แม่อีกล่ะ มีหลายๆ คนเลยนะลูก”

จีรังอ้าปากค้างมองหน้าแม่อย่างมึนๆ ก่อนตั้งสติได้ “ใจเย็นๆ ครับแม่ ยายหนูเพิ่งจะสี่เดือนกว่า ให้ลีเขาได้ตั้งตัวก่อนดีกว่าไหมครับ”

“นั่นสิคุณหญิง อย่าเพิ่งรีบ เรายังมีหลานได้อีกหลายปี ทำปีเว้นปียังไหวเลย จริงไหมลูก ห้ามขี้เกียจทำหลานให้แม่นะ” จิระแกล้งทำเป็นขู่ลูกชายตบท้าย แต่ก็ยิ้มขำ

“แหม พ่อครับ ผมทำหน้าที่ทุกครั้งที่มีโอกาสแหละครับ แต่จะให้ดี พ่อกับแม่ล่ะ ที่ต้องกล่อมให้ลีไม่คุม ลีเค้าเป็นหมอ เค้าคุม ผมก็ไม่รู้หรอกครับ” จีรังต้องยอมรับว่าทุกอย่างอยู่ในการควบคุมของเธอ

“กรรม จะมีลูกต้องให้พ่อแม่พูดแทน ดีนะไม่ให้พ่อแม่ทำแทนให้” จิระแซวลูกชายอย่างเอ็นดู

“พูดอะไรกันเนี่ย พ่อลูกคู่นี้ แต่ไม่เป็นไร วันนี้แม่จะลองพูดกับหนูลีดู ดีไหม” รังรองรับปากลูกแบบแบ่งรับแบ่งสู้

“ดีครับ ผมก็จะพยายามทำหลานออกมาให้คุณแม่ตั้งทีมฟุตบอลดีไหมครับ” จีรังบอกกับแม่ ก่อนจะได้ยินเสียงจากลำโพงดังขึ้น

“ไม่เอาย่ะ ตั้งทีมฟุตบอลเลยเรอะ” นาตาลีได้ยินจากลำโพงที่ไม่ได้ปิดไมค์ก่อนวาง

“กรรม ลีได้ยินหมดแล้วครับ” จีรังหน้าซีดทันทีทันใด แต่แทนที่พ่อแม่จะเห็นใจกลับหัวเราะ

“ได้ยินเสียงลูกร้องมั่งไหมเนี่ย” เสียงนาตาลียังคงดังขึ้น แต่มีเสียงเบาๆ ของเด็กทารกร้องลอดออกมา

“ง่า จะไปเดี๋ยวนี้ล่ะจ๊ะ ที่รัก” จีรังรีบลนลานจะตามไปดูลูก

เสียงหัวเราะของนาตาลีกลับดังขึ้น ก่อนจะบอกเขาผ่านลำโพง “ไม่ต้องหรอก ลูกคงหิวนมน่ะ ไปทำงานเถอะ”

“แม่ไปดูหลานหน่อยดีกว่า คุณอยู่กับลูกก่อนแล้วกัน หนูลีคงกำลังป้อนนมยายหนูน่ะ” รังรองมองสามารถเป็นเชิงรู้กัน

จีรังก็พยักหน้าช้าๆ ก่อนจะบอกลาแม่ล่วงหน้า เพราะเขาทานอาหารเช้าจนเสร็จแล้ว

ด้านรังรองที่เดินเข้าไปในห้องหลานสาว ก็เห็นนาตาลีกำลังให้นมลูกจากอกแม่ จึงยิ้มให้ ก่อนจะนั่งลงที่ด้านข้าง

“แม่ขอโทษทีนะจ๊ะ ที่ลีต้องมาได้ยินเรื่องหลานคนต่อๆ ไป” รังรองขอโทษ เพราะกลัวว่าลูกสะใภ้จะไม่พอใจ

“ไม่เป็นไรหรอกค่ะ ลีก็ชอบขู่เค้าเล่นแบบนั้นประจำล่ะค่ะ แต่ลีก็ขอพักสักระยะ ให้หนูรินโตสักหน่อยนะคะ สักขวบสองขวบก็ยังดีค่ะ พ่อเค้าจะได้หัวหมุนน้อยลง” นาตาลีรู้ว่าลูกชอบแกล้งพ่อให้เอาใจแค่ไหน ก็ต้องคอยระวังหน่อยกลัวว่าพ่อจะเอาใจลูกเกินกว่าเหตุมากไป

เธอแน่ใจว่าเด็กแม้จะไม่รู้ภาษาหากก็กำลังเรียนรู้ แล้วถ้าเรียนรู้ว่าพ่อรักและเอาใจหนักๆ เขาก็จะได้ใจคิดว่าทำได้ โดยไม่รู้ขอบเขต เพราะความเห็นเด็กนั่นเอง

“นั่นสินะ แม้แต่แม่ยังอดใจไม่ให้ตามใจไม่ไหวเลย” รังรองพูดแล้วก็ก้มลงมองหน้าหนูรินใจหลานสาวคนโตของเธอ

ก็น่ารักซะอย่างนี้สิ...พ่อแม่ถึงได้รักหนักหนา ส่วนปู่ย่าไม่ต้องพูดถึงทั้งรักทั้งหลงกันเลยทีเดียว

***************************************************


สิบปีกว่า...ห้าคน

เสียงเด็กเต็มบ้านวิ่งให้วุ่น และเป็นบ้านทรงไทยหลังใหญ่อยู่ห่างจากใจเมือง ที่นาตาลีชอบมา และเพลิดเพลินกับการมองทาสรักกำลังวิ่งไล่จับลูกๆ

“หยุดนะ หนูริน ตาโซล หนูชา ตาหรั่ง โอ๊ย ตาอินด้วยเหรอเนี่ย โธ่ ลูก” จีรังแทบหมดแรง เพราะแม้แต่ลูกวัยสองขวบของเขายังร่วมมือกับพี่ๆ แกล้งเขา ก่อนจะหันไปทางนายทาสแสนรักที่ยังคงนั่งนิ่ง มองอย่างเงียบๆ จึงโอดครวญ “ลีครับ ช่วยผมด้วย”

“หนูริน” น้ำเสียงเข้มงวดออกชัดเจน เด็กทั้งหมดก็หยุดกึกคล้ายต้องมนต์ “ห้ามแกล้งพ่อ แล้วมานั่งให้เรียบร้อยตรงนี้ ส่วนคุณก็จูงเจ้าอินมาสิ แล้วทีหลังอย่าทำวงแตกอีกนะ”

“แหม ลีก็” จีรังต้องจูงลูกชายจอมซนวัยสองขวบมานั่งที่ศาลารับแขก “ก็นะ ลูกๆ ก็น่ารักดีไง ผมก็แหย่เล็กๆ น้อยๆ”

“แล้วเคยเอาตัวรอดได้ไหมเนี่ย ดีเท่าไรแล้วที่ลูกไม่ชวนกันนั่งทับที่หลังอีก ประจำเลย อายเพื่อนบ้างไหม” นาตาลีเห็นทาสควบคุมลูกไม่ได้ ต่างจากหัตถาที่เอาลูกอยู่หมัด

“ไม่อ่ะ ก็ลูกน่ารักนี่นา ปั้นออกมาได้ตั้งห้าคนก็ต้องเลี้ยงได้จริงไหมจ๊ะ” จีรังกอดลูกแต่ละคนที่เข้ามากอดพ่ออ้อนอย่างมีความสุข

“พ่อจ๋า” ลูกๆ ก็ยังคงอ้อนพ่อกันต่อไป

นาตาลีได้แต่ส่ายหน้า ก่อนปล่อยให้โซลนั่งบนตัก พร้อมทั้งโอบรอบคอเธอเป็นการออดอ้อน ก่อนที่ลูกคนอื่นๆ ยกเว้นเจ้าอินไม่มาตามพี่ๆ

“นั่งดีๆ ให้เรียบร้อยสิ แล้วก็อย่าแย่งกันพูดด้วย ถึงเป็นเด็กก็ต้องมีมารยาท อย่าทำตัวเหมือนพ่อตอนหนุ่มๆ ได้ไหม” นาตาลีดุลูกกระทบพ่อ ทำเอาพ่อของลูกๆ ทำหน้าไม่ถูกเลยทีเดียว

“แม่จ๋า พ่อทำอะไรเหรอจ๊ะ” หนูรินถามแม่อย่างสงสัย

“เอาไว้โตกว่านี้แม่จะเล่าให้ฟัง แต่ช่วงที่รอต้องทำตัวดีๆ ไม่งั้นแม่จะพาไปอบรมบนเกาะเหมือนพ่อ” นาตาลีบอกกับลูกๆ ก่อนจะยิ้มขำ

“แหม ก็เพราะได้รับการอบรมมาดีเนี่ยแหละ ถึงได้เป็นพ่อที่ดีแบบนี้ไงครับ” จีรังเท้าคางแล้วก็ลูบผมลูกชายคนเล็กบนตัก

“แม่ หนูอยากนั่งบนตักแม่บ้างอ่ะ พี่โซลนั่งอยู่คนเดียวเลย” พูดจบหนูชาก็เบียดก้นดันพี่ชายให้ถอยไป

“ใครจะยอม” โซลก็เบียดน้องสาวกลับอีก

“หยุดนะ ทำไมต้องมาทะเลาะกันบนตักของแม่ด้วย แบ่งกันนั่งสิ” หนูรินก็ออกโรงดุน้องทั้งสอง

“หนูไปนั่งตักพ่อดีกว่า” หรั่งเดินไปนั่งเบียดน้องชายคนเล็กแทน ขี้เกียจแย่งชิงกับพี่อีกสามคน

นาตาลีจูบลูกทุกคนที่ยื่นหน้ามาให้ ก่อนจะมองพ่อที่มองหน้าเธอละห้อย อยากให้เธอจูบบ้าง เธอก็ส่ายหน้าดุๆ ก่อนจะมองครอบครัวเล็กๆ ของเพื่อนที่เดินขึ้นบันไดมา

“ไง ได้ยินเสียงโอดครวญมาแต่ไกลเชียว เลยมาดูสถานการณ์สักหน่อย ดูเหมือนว่าลีจะจัดการทุกอย่างได้เหมือนเดิมเลยนะ” หัตถาปล่อยลูกชายตัวแสบวิ่งไปนั่งกับเพื่อนๆ

“ก็งั้นแหละ” นาตาลีตอบญาติตนเอง ก่อนจะพูดกับเพื่อน “เด็กเจ็ดคน ดีนะที่แกรีบทำหมันก่อนจะมีมาอีก”

“ฉันเห็นชะตากรรมของแกแล้วก็รีบทำหมันเลย จะได้ไม่มีปัญหา และที่แน่ๆ ฉันก็ให้เขาไปทำหมันด้วย เหมือนแกเดะ ป้องกันปัญหาความเจ้าชู้ที่อาจจะเกิดขึ้นในอนาคต” จอมใจพูดได้เฉียบทำเอาหนุ่มๆ มองหน้ากันแล้วหัวเราะในชะตากรรมของตนเอง

“งานเข้าแน่” หัตถาหันไปกระซิบกับเพื่อน

“ก็อย่าทำตัวให้งานเข้าสิ” จีรังยิ้มแห้งๆ ให้กับนายทาสที่รักและเคารพ แล้วก้มลงเจ้าตัวเล็กตาแป๋วทั้งสองที่กำลังถือขนมอยู่ในมือ “นิ่งเป็นรับประทาน ขยับเป็นลิงเลยนะลูก”

“ว่าลูกเข้า เดี๋ยวก็ขยับเป็นลิงจริงๆ หรอก ไอ้รังเอ๊ย” หัตถาล้อเพื่อน

จีรังก็ได้แต่ภาวนาให้ลูกๆ ทั้งห้าคนทานกันอย่างเรียบร้อยต่อไป รวมลูกของเพื่อนทั้งสองคน

อย่านะลูก...อย่าเพิ่งอิ่ม...ขอพ่อพักหายใจก่อนนะ

นาตาลีกับจอมใจได้แต่ยิ้มขำ เพราะถ้าคิดใช้ชีวิตคู่กับพวกเธอแล้วจะไม่ช่วยเลี้ยงลูกละก็คิดผิดแน่...

***************************************************


วันเกิดหนูรินอายุครบยี่สิบห้าปีมาถึงอย่างรวดเร็วจริงๆ

จีรังก็หยิบกล่องแหวนออกมาแล้วก็ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ ความสุขเล็กๆ น้อยๆ ของเขาที่ได้เก็บแหวนวงนี้ไว้ ยี่สิบห้าปี แต่ก็คุ้มค่าที่จะรอต่อไป

“ทำอะไรน่ะ จะจ้องแหวนอีกนานไหมเนี่ย เก็บไว้ซะนาน ดีที่ไม่มีโจรมาปล้นนะ” นาตาลีพูดขึ้นด้านหลังเขา แล้วก็นึกอย่างปลื้มๆ ที่เขายังคงเป็นคนเดิมไม่เปลี่ยนแปลง

“เง้อ ลีรู้แล้วเหรอ” จีรังถามขึ้นอย่างสงสัย

“ไม่รู้มั้ง เห็นย้ายที่ซ่อนตลอดเวลา ก็เลยไม่อยากบอกว่ารู้แล้วว่าซื้อแหวนไว้น่ะ” นาตาลียิ้มที่มุมปากออกแววเอ็นดูและขำ ที่เขาชอบทำอะไรที่คิดว่าโรแมนติกแบบนี้อยู่เรื่อย

ตลอดเวลาที่ผ่านมา ถ้าไม่ทำโน้นก็ทำนี่ หวังให้เธอรักมากขึ้นๆ และเขาก็ไม่ผิดหวัง แต่ก็ยังไม่รู้ตัวว่าเธอรักเขามากขึ้นทุกครั้งแค่ไหน

เพราะน้อยครั้งที่คำว่า ‘รัก’ จะหลุดออกมาจากปากเธอ...

“แง” จีรังก็แกล้งร้องไห้งอแง ทั้งที่วัยล่วงเลยใกล้หกสิบเต็มที

“จะบ้าหรือไง ชอบทำให้ลูกนึกว่าฉันแกล้งคุณอยู่ได้ แก่จนจะลงโลงกันอยู่แล้วนะ แล้วก็เลิกคิดเรื่องแต่งงานไปได้เลย เพราะฉันคิดว่าเรายังต้องคอยปกป้องลูกๆ ต่อไป” นาตาลีอธิบายก่อนจะนั่งลงบนเตียง แล้วกวักมือเรียกเขามานั่งข้างๆ

จีรังถือแหวนไปด้วยแล้ววางลงบนมือเธอ...ก่อนจะซบไหล่เธอแล้วถอนหายใจ เขาน่าจะเดาได้มานานแล้ว

“ฉันไม่อยากให้ภาระตกที่ลูกๆ ของเรา ลองคิดดูสิว่าถ้าแบ่งสมบัติให้ลูกๆ จะเกิดอะไรขึ้น คนที่อยากกอบโกยก็จะเข้ามาเยอะแยะไปหมด แล้วก็คงไม่ต่างจากที่แม่คุณคอยปกป้องคุณเท่าไรหรอกน่า” นาตาลีอธิบายให้เขาฟังอย่างเข้าใจ

“อันนั้นผมก็รู้อีกนั่นแหละ ตอนนี้หนูรินมีแฟนแล้วอีกต่างหาก โซลกับหนูชาก็อยู่แต่บ้านสามโคก นานๆ จะกลับมาที ยังดีที่มางานวันเกิดพี่สาวตัวเองนะเนี่ย ดีที่จัดภายใน หวังว่าแฟนหนูรินจะไม่มาด้วย ไม่ใช่หวงลูกหรอกนะ แต่สายตามันแพรวพราวเหลือเกิน คุ้นๆ ยังไงก็ไม่รู้สิ” จีรังได้ทีก็บ่นชุดใหญ่

“คุณว่าเราทำเหมือนที่คุณตาทำดีไหม พินัยกรรมเนี่ย” นาตาลีถามขึ้น

จีรังกระแทกลมหายใจก่อนจะพยักหน้าช้าๆ “ลีจะทำแบบนั้นก็ได้นะ ผมก็เห็นด้วย ห่วงหนูรินคนเดียว พี่สาวคนโต มั่นใจเกินไป ยังดีที่ยังหัวเก่าอยู่บ้างนะ ให้ไปอยู่กับคุณพ่อคุณแม่ แบบนี้ผมก็ห่วงน้อยลง แต่ก็ไม่เข้าใจว่าทำไมหนูรินถึงคบกับผู้ชายแบบนั้น ผิดกับหนูชา รายนั้นยอมให้ตาโซลคุมอย่างดีเลยทีเดียว แถมยังไม่สนใจผู้ชายด้วย”

“ดีจะได้มีสะใภ้สี่คนไง ฮ่าๆๆ” นาตาลีพูดชวนหัว กลับทำให้คนเป็นพ่อเครียดกว่าเดิม

“ไม่เอาอ่ะ ลูกเขยมั่งก็ได้” จีรังบ่นก่อนจะคิดได้ “ง่ะ เฮ้อ ลูกโตแล้วต้องให้อิสระลูก”

นาตาลีส่ายหน้า ก่อนจะโอบไหล่เขาที่กำลังล้มลงนอนหนุนตักเธอ “ลูกเราไม่โง่เหมือนพ่อหรอกน่า”

“ง่า ลีด่าผมอีกแล้ว” จีรังทำท่าทางงอนๆ อย่างไม่จริงจังนัก

“ก็เหมือนคุณก่อนจะเจอฉันไง อ๋อ ฉลาดมาตั้งแต่เกิดล่ะสิ” นาตาลีผลักศีรษะเขาให้พ้นตักแล้วจะลุกหนี

“ง่า อย่าไปเลยนะครับ กลับมาก่อนจิ” จีรังพยายามเรียกภรรยาที่กำลังหัวเราะแล้วเดินออกไปจากห้องนอน

“เร็วๆ ลูกๆ รออยู่นะยะ” นาตาลีหัวเราะใส่ก่อนจะเปิดประตูห้อง แล้วก็ต้องตกใจ เมื่อเห็นลูกๆ ยืนยิ้มค้างอยู่นอกห้อง

“บอกแล้วว่าพ่อไม่ได้แต่งหรอกน่า จ่ายมาๆ” ชายหนุ่มวัยยี่สิบสองแบมือขอเงินจากพี่สาวและน้องชายคนเล็ก

“เฮ้อ พ่อแพ้แม่อีกแล้ว หนูอุตส่าห์ลุ้นให้พ่อชนะนะ รอบนี้เนี่ย” อินบ่นออกมาอย่างไม่จริงจังนัก เขาเป็นเด็กหนุ่มที่ชอบทำตัวเด็กกับพ่อแม่เสมอ

“แต่พี่เดาถูก” หรั่งยิ้มแป้น ก่อนจะยื่นดอกไม้ให้แม่ “พวกเราเตรียมมาไว้เผื่อแม่จะยอมแต่งงานกับพ่อน่ะครับ ผมว่านะ ยังไงพ่อกับแม่ก็ถือว่าแต่งงานกันตั้งนานแล้วนี่ เรื่องของกฎหมายน่ะ ช่างมันเถอะครับ”

“ใช่ค่ะ เนอะ พี่ริน” ชาหันไปพยักเพยิดกับพี่สาวคนโต

“สุขสันต์วันเกิดนะลูก พร้อมไปเกาะกันหรือยัง” นาตาลีถามขึ้น

“พร้อมเสมอครับ/ค่ะ” ลูกๆ ทั้งห้าต่างก็รับคำแต่โดยดี ก่อนจะลงไปรอด้านล่าง

นาตาลีหันมามองพ่อที่ยิ้มแห้งๆ เพราะลูกๆ ต่างก็เชื่อฟังแม่มากกว่าเขาทั้งหมด ก่อนเธอจะบอกเขาอย่างไม่ใส่ใจนัก “ของน่ะเอาขึ้นรถแล้ว ฉันเก็บเผื่อคุณด้วย ไปกันเถอะ”

“ครับ” จีรังยังคงว่านอนสอนง่ายต่อไป

รักนะครับ...นายทาสของผม

เรื่องอะไรจะยอมเสียทาสแบบนี้ไป...ก็น่ารักน่าเอ็นดูซะแบบนี้

ต่างฝ่ายต่างก็ยิ้มออกมาอย่างมีความหมาย หากความหมายที่แอบซ่อนอยู่นั้นแตกต่างกัน ทว่าอบอวลไปด้วยบรรยากาศแห่งรักทั้งสิ้น

***************************************************


เสียงคลื่นลมพัดผ่าน คนรุ่นใหม่ทั้งห้าก็นั่งเล่นอยู่ริมหาด ใต้ร่มเงาไม้ ต่างดื่มกินหาของว่างมากันเอง เพราะที่นี่ไม่มีคนคอยดูแลรับใช้ แต่ก็ไม่เป็นปัญหา จากการอบรมของพ่อแม่ ที่กลัวว่าลูกจะช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ยามไม่มีพวกเขา

เสียงฝีเท้าดังขึ้นมาด้านหลัง คนรุ่นใหม่อีกสองคนมาเพิ่มเติม และยิ้มให้อย่างร่าเริง

“เป็นไงวะ” จิตติตบไหล่โซลก่อนจะนั่งลงที่พื้น

“นอนได้สบายหายห่วง ดีที่แม่สร้างบ้านเพิ่มอีกหลัง ไม่งั้นนอนเบียดกันเจ็ดคนเหมือนเมื่อก่อนตายกันพอดี” โซลบ่นๆ ก่อนจะมองรูปร่างเก้งก้างของแต่ละคน “ตัวเล็กๆ กันทั้งนั้นเลย”

“นายสิ ตัวโตจะตายอยู่ละ ยังนอนดิ้นอีก” จิตติบ่นเพราะโดนถีบทั้งคืน

“งั้นผมก็ตัดสินใจถูกที่นอนข้างเตียงกับอิน ว่าแต่หรั่งไม่รู้สึกโดนถีบหรือไง” จอมหันไปถาม

“ไม่ครับ ผมคิดไปคิดมาก็นอนที่โซฟาในห้องแทนครับ” หรั่งตอบก่อนจะหัวเราะเพราะรู้จักพี่ชายดี

“ถึงว่าล่ะ ลงมานอนข้างอินเมื่อไรก็ไม่รู้ นอนดิ้นเหมือนกันนะพี่หรั่ง” อินบ่นกับพี่ชายแล้วก็หัวเราะ

“เฮ้อ ช่างมันๆ ว่าแต่สาวๆ เป็นยังไงบ้างล่ะ” โซลหันไปถามฝั่งสาวๆ

“ก็บอกแล้วให้ซื้อเตียงสองชั้นก็ไม่เชื่อนี่คะ พวกเรานอนสบายเนอะ” ชาบอกกับพี่ๆ น้องๆ

“เฮ้อ ช่างเถอะๆ พี่ริน เมื่อวานพ่อบ่นว่าไม่เข้าใจทำไมพี่รินถึงได้คบกับไอ้พระเอกจอมเจ้าชู้คนนั้นอ่ะฮะ” โซลถามพี่สาวอย่างสงสัย

รินทำหน้าเมื่อยก่อนหันไปมองจิตติ “อธิบายไปสิ นายจิต อย่าให้พี่ต้องอธิบายเลย”

จิตติหัวเราะก่อนจะบอก “เอาน่า จริงๆ ไม่มีอะไร ทุกคนก็คิดมากไป จริงๆ แล้วพี่รินน่ะ ไม่ได้รักอะไรนายนั่นหรอก คืองี้เพื่อนฉันน่ะ โดนพระเอกนั่นหลอกจีบ ฉันแค้นก็เลยปรึกษาพี่ริน แล้วพี่รินก็ใช้ความสวย รวย เก่ง เจ้าคารม หลอกล่อมันจนมันหลง แต่แหม จะปล่อยไปง่ายๆ ไม่ได้หรอก พวกเฮงซวยแบบนี้ พี่รินก็เลยแกล้งอยู่นี่แหละ”

“เห็นด้วย” ทั้งห้าเสียงที่เหลือก็ประสานเสียงกันแบบไม่ต้องนัดแนะ

“อีกสักเดือนสองเดือนค่อยบอกเลิก ก็บอกแล้วว่าไม่ต้องเป็นห่วง พ่อก็อย่างนี้ทุกทีเลยอ่ะนะ” รินพูดก่อนหันไปมองพ่อแม่ที่กำลังเดินเล่นอยู่ห่าง

ภาพคนวัยใกล้หกสิบกำลังเดินเล่นเป็นภาพที่คนเป็นลูกมองได้อย่างพอใจ ฝ่ายพ่อกำลังเดินล้อมรอบแม่ ท่าทางยังกรุ่มกริ่มราวกับหนุ่มๆ ขัดกับอีกคู่ที่กำลังนั่งเล่นอยู่บนเสื่อ ที่ฝ่ายพ่อกำลังโอบไหล่ภรรยาตัวอย่างพอใจ แล้วก็จับไหล่แน่น ก่อนอีกฝ่ายบิดอย่างขัดขืน ก่อนจะฟาดมือเข้าให้

เฮ้อ...พ่อฉัน

นี่แหละแม่ฉัน...



*******จบบริบูรณ์*******

จบแล้วค่ะ
สบายดีไหมคะ
ตอนนี้ก็ไม่ค่อยได้วุ่นเรื่องร้าน เพราะไม่ค่อยมีลูกค้าเท่าไร อิอิ
เขียนนิยายเรื่องใหม่จนจบแล้วค่ะ
พอดีมีผู้อ่านมาเคาะฝาไหดองนิยาย
เพลิงวารีก็รีบออกจากไหดองมาโพสต์ตอนจบค่ะ
เพลิดเพลินบันเทิงใจกันไป
พระท่านว่าจะทุกข์หรือสุข ขอให้ทำใจในแต่ละวันให้ปลอดโปร่ง
ก็จะเป็นสุขได้ไม่ต้องเดือดร้อนนะคะ

ขอบคุณที่ติดตามมาตลอดค่ะ
เลิฟ...เลิฟ




 

Create Date : 15 ธันวาคม 2553
14 comments
Last Update : 15 ธันวาคม 2553 19:21:39 น.
Counter : 1640 Pageviews.

 

สวัสดีครับ

 

โดย: MaFiaVza 15 ธันวาคม 2553 19:46:15 น.  

 

thank ka

 

โดย: xyz IP: 115.87.118.117 15 ธันวาคม 2553 21:27:54 น.  

 

ติดตามมาจนถึงตอนสุดท้าย
ชอบและประทับใจมากค่ะ
ตีพิพม์เมื่อไร. บอกกันบ้างนะค่ะ
ขอบคุณท่ีทํานิยายเรื่องนี้ให้เป็นแรงบันดาลใจดีๆ

 

โดย: Velanla IP: 202.124.75.45 15 ธันวาคม 2553 21:34:44 น.  

 

เรื่องต่อไปเรื่องของใครค่ะ รออ่านอยู่นะ


เป็นกำลังใจให้ค่ะ

 

โดย: Dewii IP: 58.8.109.196 15 ธันวาคม 2553 22:02:43 น.  

 

จบด้วยความสมบูรณ์ อ่านแล้วมีความสุขค่ะ
รออ่านเรื่องต่อไปนะค่ะ เป็นกำลังใจให้เสมอค่ะ
รักษาสุขภาพด้วยค่ะ

 

โดย: เอิงเอย IP: 118.172.2.202 15 ธันวาคม 2553 22:57:26 น.  

 

รอนานมากค่ะ แต่ไม่เป็นไรกลับไปอ่านทวนของเดิมอีกนิด แล้วจะรอเป็นเล่มนะคะ

 

โดย: tuk_ora 16 ธันวาคม 2553 11:45:35 น.  

 

สนุกจังค่ะ แล้วเอาเรื่องใหม่มาลงเร็ว

 

โดย: c IP: 58.137.140.114 16 ธันวาคม 2553 15:35:23 น.  

 

พ่อเเม่ไม่ได้เเต่งไม่ได้จดทะเบียนงั้นลูกๆก็เป็นลูกนอกกฏหมายกันหมดนะสิ เรื่องต่อไปเด็กๆทั้ง7คนใครจะได้เป็นพระเอกหรือนางเอกก่อนหนอ

 

โดย: VEE IP: 66.172.227.210 16 ธันวาคม 2553 22:20:28 น.  

 

ขอบคุณค่ะ มีความสุขที่ได้อ่านทุกครั้ง จะคอยอ่านเรื่องต่อไป และขอแอบเป็นกำลังใจเล็กๆให้นะคะ

 

โดย: boi IP: 223.207.163.191 17 ธันวาคม 2553 10:29:56 น.  

 

น่ารักดีค่ะ
อ่านแล้วอมยิ้ม

 

โดย: fiona IP: 110.168.123.101 17 ธันวาคม 2553 19:42:33 น.  

 

อ่านแล้วสนุกมาเลยค่ะ

เหงาๆอยู่คนเดียวในต่างแดน

อ่านเรื่องนี้แล้วก็ทำให้ยิ้มค่ะ

 

โดย: Rabbitt IP: 134.225.166.48 19 ธันวาคม 2553 0:40:20 น.  

 

ขอบคุณทุกท่านที่เข้ามาแวะเม้นให้กำลังใจนะคะ

^^ เรื่องต่อไปเป็นเรื่อง "แผนร้ายในทางรัก" ค่ะ ได้โพสต์แล้วนะคะ ขณะเดียวกันก็พยายามทำให้ลูกๆ พายตกสะเก็ดอยู่ค่ะจะพยายามแต่งให้จบให้ได้ แล้วว่าจะแต่งนิยายภาคต่อของ "แม่จ้าววายุ" ฉลองครบรอบ5ปี นิยายเรื่องนี้ 555+ ตามาด้วย บ้านสามโคก เดอะซีรี่ย์ หุหุ คุณ VEE แอบรู้ใจจริงๆค่ะ

หวังว่านิยายเรื่องต่อไป จะทำให้ทุกคนบันเทิงต่อไปนะคะ

 

โดย: เพลิงวารี 23 ธันวาคม 2553 2:06:17 น.  

 

ภาคต่อ "แม่จ้าววายุ" ขอแบบหวาน ๆ หน่อยนะคะ เป็นแฟนของคุณเพลิงวารี ก็จากนิยายเรื่องนี้ล่ะค่ะ

 

โดย: maam IP: 223.205.186.233 15 มกราคม 2554 19:31:54 น.  

 

ภาคต่อนี่อาจจะไม่ค่อยหวานเท่าไรนะคะ
หรือว่าจะหวานหนอ อิอิ

 

โดย: เพลิงวารี 20 มกราคม 2554 16:25:41 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

 

เพลิงวารี
Location :
นนทบุรี Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 3 คน [?]




ไหดองเหล็กไหล
New Comments
[Add เพลิงวารี's blog to your web]

 
pantip.com pantipmarket.com pantown.com
pantip.com pantipmarket.com pantown.com