Group Blog
 
 
มีนาคม 2548
 
 12345
6789101112
13141516171819
20212223242526
2728293031 
 
18 มีนาคม 2548
 
All Blogs
 

โรคปวดเข่า....โปรดระวัง

ปวดเข่า เป็นเหตุหนึ่งที่ทำให้ผู้ป่วยไม่สามารถประกอบกิจกรรมต่าง ๆ ในชีวิตประจำวันได้ตามปกติ โดยเหตุที่ข้อเข่าต้องรับน้ำหนักตัวเกือบตลอดเวลา รวมทั้งอุปนิสัยของคนไทยที่ใช้เข่าในท่าพับงอ เช่น นั่งพับเพียบ นั่งขัดสมาธิ หรือการนั่งยอง ๆ จึงเกิดความเสื่อมของกระดูกอ่อนเร็ว การชลอความเสื่อมเป็นสิ่งสำคัญที่ต้องคำนึงถึงและความสามารถปฏิบัติได้ หากได้รับการแนะนำในเรื่องการใช้เข่าให้ถูกต้อง การบำรุงรักษาสุขภาพ และการบริหารกล้ามเนื้อรอบข้อเข่า จะช่วยขจัดปัญหาอาการปวดเข่าเรื้อรังและการติดยาของผู้ป่วย
ลักษณะโครงสร้างของเข่า

เข่า เป็นอวัยวะข้อของร่างกาย ประกอบด้วยส่วนต่าง ๆ คือ

กล้ามเนื้อ ซึ่งเสริมความแข็งแรง และช่วยในการเคลื่อนไหวของข้อ
กระดูก
กระดูกอ่อนบุผิวข้อ
เยื่อบุด้านในของข้อ (ทำหน้าที่สร้างน้ำหล่อเลี้ยงข้อและช่วยหล่อลื่นข้อ
ปลอกหุ้มด้านนอกข้อ
เอ็น เป็นส่วนของปลอกหุ้มข้อที่หนาตัวเพื่อยึดข้อให้แข็งแรง
นอกจากนี้ยังมีเส้นเลือดและเส้นประสาทมาเลี้ยงบริเวณนี้ด้วย
สาเหตุข้อเข่าเสื่อม

1. น้ำหนักตัวมาก

อายุเกิน 40 ปี
การยืนหรือนั่งงอเข่านาน ๆ
การมีลักษณะเข่าโก่งออกนอกหรือโค้งเข้าใน
จากสาเหตุใดก็ตามที่ทำให้กล้ามเนื้อรอบข้อเข่าอ่อนแรง เช่น ได้รับบาดเจ็บ
ปัจจัยส่งเสริมอื่น ๆ เช่น ขาดอาหาร หญิงวัยหมดประจำเดือน การได้รับยาฉีดเข้าข้อ โรคข้ออักเสบจากสาเหตุอื่น เช่น โรคเกาส์ โรครูมาตอยด์ ฯลฯ
อาการ

ปวดรอบเข่า นั่งแล้วลุกลำบาก หรือ ปวดมากเวลาเดิน
บวมและร้อนรอบเข่า
ในรายที่เป็นมากแม้เคลื่อนไหวโดยไม่ลงน้ำหนัก หรือขณะพักอยู่นิ่ง ๆ ก็ปวด
สภาพเข่าโก่ง หรือโค้งผิดรูปมากขึ้น
การป้องกัน

ลดน้ำหนักตัว โดยควบคุมอาหาร

รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ เช่น เนื้อสัตว์ไม่ติดมัน ไข่ ผัก ผลไม้รสไม่หวานจัด เช่น แตงโม ชมพู่ สับประรด ส้ม มะละกอ พุทรา และฝรั่ง หลีกเหลี่ยงอาหารรถจัด อาหารมัน อาหารที่ทำจาก แป้ง กะทิ ขนมหวานต่าง ๆ และผลไม้รสหวานจัด เช่น เงาะ ทุเรียน องุ่น มังคุด ละมุด ลำไย น้อยหน่าและมะม่วงสุก
รับประทานอาหรให้เป็นเวลา ครบ 3 มื้อ รับประทานอาหารพออิ่ม ไม่รับประทานอาหารจุกจิก และดื่มน้ำบ่อย ๆ
หลีกเหลี่ยงการนั่งกับพื้น การนั่ง งอเข่า ชันเข่า นั่งพบเพียบ นั่งขัดสมาธิ นั่ง ยอง ๆ และเวลาขับถ่ายควรใช้ส้วมแบบนั่ง หรือใช้เก้าอี้เจาะรูวาง
หลีกเหลี่ยงการขึ้นที่สูง การขึ้นบันได้ บ่อย ๆ การยืนหรือการเดินนาน ๆ
ออกกำลังบริหารกล้ามเนื้อรอบข้อเข่าอย่างสม่ำเสมอทุกวัน ถึงแม้ในปัจจุบันยังไม่มีอาการปวดเข่า
วิธีการบริหารกล้ามเนื้อรอบเข่า

1. ประโยชน์
1.1 ทำให้กล้ามเนื้อรอบเข่าแข็งแรง
1.2 ป้องกันการอักเสบ และ ชะลอความเสื่อมของเข่า
2 หลักการบริหารกล้ามเนื้อรอบข้อเข่า
2.1 เป็นการบริหารโดยการเกร็งกล้ามเนื้อรอบข้อเข่า มีวิธีการบริหาร 4 ท่า ในแต่ละท่า ทำประมาณ 10 ครั้ง ในเข่าแต่ละข้าง ดังจะได้อธิบายต่อไป
2.2 ไม่บริหารอย่างเร่งรีบ หรือหักโหม ควรบริหารอย่าง ช้า ๆ ด้วยความตั้งใจ บริหารทุกวัน อย่างน้อยวันละ 2 ครั้ง เช้า – เย็น
2.3 ในแต่ละท่าการบริหาร จะบริหารเข่าที่ละข้างหรือสองข้างพร้อมกันก็ได้ ควรบริหารทั้ง สองข้าง ถึงแม้จะมีอาการปวดเข่าเพียงข้างเดียวก็ตาม
2.4 ไม่มีน้ำหนักกดที่เข่าขณะบริหาร
2.5 งดการบริหารขณะมีอาการปวดเข่ามาก ควรพักและใช้เข่าเท่าที่จำเป็นและให้เริ่มบริหารเมื่ออาการปวดเข่าทุเลาลงแล้ว

2. วิธีการบริหาร

ท่าที่ 1 นอนหงาย ศรีษะหนุนหมอนเหยียดขาตรงบนพื้นราบ เกร็งกล้ามเนื้อรอบเข่า โดยขณะเกร็งใต้ท้องเข้าจะสนิทแนบกับพื้นตลอดเวลา เกร็งค้างไว้นาน 6-10 วินาที หรือนับ 1-10 แล้วจึงคลาย พักสักครู่ และเริ่มบริหารใหม่ ช้า ๆ ขณะเกร็งจะกระดกข้อเท้าขึ้นด้านบนด้วยก็ได้
ท่าที่ 2 นอนหงาย ศรีษะหนุนหมอนใช้หมอนข้างหรือหมอนหนุนศรีษะอีกใบหนึ่ง วางไว้ใต้เข่า ออกแรงต้นกดขากอดหมอนนี้ไว้ พร้อมกับเกร็งเหยียดส่วนของขาใต้เข่าให้ตรง เกร็งค้างไว้นาน 6-10 วินาที หรือนับ 1-10 แล้วจึงคลาย พักสักครู่ และเริ่มบริหารใหม่ (ท่านที่มีอาการปวดหลังไม่ควรบริหารท่านี้)
ท่าที่ 3 นั่งบนเก้าอี้หลังพิงพนักพิง เท้าวางราบกับพื้น หรือวางเท้าบนม้านั่งตัวเล็ก ๆ เพื่อไม่ให้เข่างอมาก เริ่มบริหารโดยวางต้นขานิ่ง ๆ บนเก้าอี้ พร้อมกับเกร็งเหยียดส่วนของขาใต้เข่าให้ตรงในระดับแนวตะโพก เกร็งค้างไว้นาน 6-10 วินาที หรือนับ 1-10 แล้วจึงคลาย พักสักครู่และเริ่มบริหารใหม่
ท่าที่ 4 นั่งบนเก้าอี้ หลังพิงพนักพิงไขว้ขาสองข้างซ้อนกัน โดยให้ขาข้างหนึ่งข้างใดอยู่ด้านบนก่อนก็ได้ แล้วออกกำลังเกร็งกดขาสู้กัน เกร็งสู้กันไว้นาน 6-10 วินาที หรือนับ 1-10 แล้วจึงคลาย พักสักครู่ และเริ่มบริหารใหม่สลับบริหารเข่าทั้งสองข้าง
การรักษา

การรักษาทางยา ควรได้รับการรักษาจากแพทย์ ไม่ซื้อยาใช้เอง เพราะยาที่ใช้จะเป็นยาแก้ปวด เมื่อใช้ไม่ถูกวิธี จะเกิดปัญหาต่อสุขภาพผู้ป่วย เช่น เกิดแผลในกระเพาะอาหาร โลหิตจาง หรือมีอาการแพ้ยา
การทำกายภาพบำบัด เพื่อคงการเคลื่อนไว้ของเข่า และลดการอักเสบ
การรักษาโดยการผ่าตัด ซึ่งอยู่ในการพิจารณาของแพทย์ในผู้ป่วยแต่ละราย การผ่าตัดมี 2 วิธี คือ
1. การผ่าตัดกระดูกขาให้ตรง
2. การผ่าตัดเปลี่ยนข้อเข่า และใส่ข้อเข่าเทียม

สรุป
ข้อเข่ามีความหมายต่อสุขภาพ ขอให้ท่านสนใจเสียแต่วันนี้ เพื่อสุขภาพของข้อเข่าที่แข็งแรงทุกวันในปัจจุบันและอนาคต




 

Create Date : 18 มีนาคม 2548
6 comments
Last Update : 18 มีนาคม 2548 18:09:12 น.
Counter : 2611 Pageviews.

 

แวะมาเยี่ยมค่า


ยินดีที่ได้รู้จักนะคะ

 

โดย: Bz (เพลิงวารี ) 5 ตุลาคม 2548 23:52:18 น.  

 

แวะมาเยี่ยมบล็อคชาวบ้าน (อาการของคนเห่อบล็อคใหม่ หุๆ)

เราก็เป็นนะ ไอ้โรคปวดเข่าเนี่ย อายุเพิ่งจะยี่สิบก่าๆเอง ยิ่งช่วงที่อยู่อังกฤษ บ้านอยู่บนเนิน มหาลัยอยู่บนเขาเนี่ย เช้าก็ลงเนิน ขึ้นเขา เย็นก็ลงเขา ขึ้นเนิน (พูดซะเว่อร์ จริงๆก็ไม่ได้บ้านนอกขนาดนั้นหรอก อิอิ) แต่ก็ไม่ค่อยชินไงคะ ไปไหนมาไหนก็มีแต่เดินกับรถเมล์ รถไฟ ปวดเข่าทุกๆสามเดือนเลยอะ จนเพื่อนต้องจับกรอกวิตามิน เหอๆ

 

โดย: อุรัสยา (อุรัสยา ) 1 มีนาคม 2549 21:38:56 น.  

 

โอ้ เพิ่งเห็นว่าบล็อคนี้ไม่ได้รับการอัพเดทมาชาติเศษๆแล้วหรือนี่ หุๆ

 

โดย: อุรัสยา (อุรัสยา ) 1 มีนาคม 2549 21:39:42 น.  

 

 

โดย: วรัญญา IP: 203.172.224.194 31 สิงหาคม 2549 14:12:48 น.  

 

 

โดย: อรัญญา IP: 203.172.224.194 31 สิงหาคม 2549 14:14:10 น.  

 

เรารักพระเจ้าอูย่หัว

 

โดย: วนิดา IP: 203.172.224.194 31 สิงหาคม 2549 14:16:18 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


honeymew
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




Friends' blogs
[Add honeymew's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.