เพลิงวารี & คชสีห์ ฿ Babylonia
<<
กันยายน 2552
 12345
6789101112
13141516171819
20212223242526
27282930 
 
7 กันยายน 2552
 
 
เราสามคน...หนทางเดียว012(แฝดน้อย)

พอถึงห้องฉุกเฉิน ก็ต้องตามหมอหนุ่มไปห้องคลอด แต่เพราะยังไม่ถึงกำหนดของนลิน หมอของเธอจึงไม่อยู่ และนลินก็พร้อมแล้วเพราะน้ำเดิน

“คุณจะว่าไหมถ้าผมจะทำคลอดให้คุณ” ชาร์ลถามขึ้นเมื่อรู้ว่าเพื่อนเขาไม่อยู่ไปสัมมนา

“ไม่ รีบๆ ทำเข้าเถอะ ฉันปวดท้องจะแย่อยู่แล้ว” นลินลืมตัวพูดเป็นภาษาไทยออกมา

“ภรรยาผมเขาหมายถึงให้คุณทำได้น่ะครับ” ขันธ์อธิบายแทน

“ใครเป็นเมียพี่ไม่ทราบ อย่ามามั่ว” นลินหันไปแวดกับขันธ์ที่อธิบายไปแบบนั้น

ชาร์ลงงๆ แต่ก็ไม่พูดมาก รีบสั่งพยาบาลเข็นเตียงของนลินเข้าไปในห้องคลอด ขณะเดียวกันทั้งขันธ์กับเขตต์ต่างก็เข้าไปในห้อง เขาจึงถาม “สรุปใครเป็นพ่อเด็กครับ”

“ผม เอ่อ แต่ว่านี่น้องชายผม ให้เขาอยู่ด้วยได้ไหมครับ” ขันธ์สบตาน้องชาย เพราะเขาต้องการให้เขตต์ได้โอกาสนี้ด้วย

ชาร์ลงงอยู่พักหนึ่งก่อนหันไปมองคนท้องที่กำลังทรมาน...

นลินพยักหน้าเร็วๆ ดังนั้นสองมือของเธอ จึงมีชายหนุ่มหน้าตาเหมือนกันสองคนจับกุมอยู่ ขณะที่เขตต์กับขันธ์ต่างก็เป็นห่วงเธอ เพราะแรงบีบที่บีบมือเขานั้นแรงมาก

“หมอคะ” พยาบาลหันไปมองจังหวะการเต้นของหัวใจที่ผิดปกติของคุณแม่คนใหม่

ชาร์ลเงยหน้าขึ้นมองแล้วก็ต้องตกใจ เมื่อหัวใจนลินทำงานหนักกว่าที่ควรจะเป็น “ลิน คุณเคยมีอาการโรคหัวใจบ้างไหม”

นลินไม่ตอบ รู้สึกจุกแน่นหน้าอก แต่ก็พยายามที่จะคลอดลูกด้วยตัวเอง ทว่าสติค่อยๆหายไปมีแต่ความมืดเข้ามาแทนที่ ทำให้ความวุ่นวายในห้องเกิดขึ้น เมื่อนลินไม่สามารถที่จะคลอดลูกได้เองตามธรรมชาติ

เธอหมดสติ...

“ลิน” เขตต์ร้องขึ้นและมองดูดวงหน้าของนลินที่เต็มไปด้วยเม็ดเหงื่อ

“พวกคุณออกไปก่อน เตรียมผ่าตัดด่วน” ชาร์ลเห็นว่าคงไม่มีประโยชน์ เพราะอาจเสียทั้งแม่และลูก

พยาบาลรีบเข้ามาดึงคู่แฝดออกไปจากห้อง และเมื่อออกมาแล้วทุกอย่างอยู่ในการควบคุมของหมอหนุ่ม เขตต์ทรุดลงนั่งกับพื้น แต่ไมค์เข้ามาช่วยพยุง เขารู้ข่าวจากชาร์ลเพราะเป็นคนดูแลนลินมาตลอด

“เกิดอะไรขึ้น” ไมค์สงสัย เพราะรู้แต่ว่านลินกำลังจะคลอดลูก

ขันธ์ทุบกำแพงอย่างอึดอัดก่อนตอบ “ลินสลบไป ตอนคลอดน่ะ ตอนนี้เด็กก็ยังไม่ออกมา หมอเลยต้องผ่าตัด”

“ใจเย็นๆ เรื่องแบบนี้มันเกิดขึ้นได้นะ” ไมค์พยายามปลอบเพื่อน

“ไม่ มันไม่ควรเกิดขึ้น” เขตต์กำมือแน่นอย่างอึดอัด เขาไม่รู้ว่าควรโทษสิ่งที่เกิดขึ้นกับใครดี

“ช่วงที่นายอยู่กับลิน ลินเคยมีอาหารโรคหัวใจไหม” ขันธ์ถามขึ้นเมื่อทบทวนคำถามที่หมอหนุ่มถามก่อนไล่ทุกคนออกมา

“ไม่นะ ตอนมาหาหมอที่นี่ ลินก็ปกติดี หมอบอกว่าแข็งแรงทั้งแม่ลูก ตอนหมอถามว่าลินเคยเป็นโรคหัวใจไหม ลินก็ปฏิเสธทุกครั้ง ทำไมเหรอ” ไมค์ชักสงสัยขึ้นมา เพราะปฏิกิริยาของเพื่อนแต่ละคนดูเคร่งเครียดมากกว่าดีใจที่กำลังจะได้เป็นพ่อคน

“ช่วงที่ลินอยู่กับนายล่ะดีนส์ ลินเคยบ่นอะไรบ้างไหม” ขันธ์หันไปถามน้องชายเขา เพราะเท่าที่อยู่กับเขานลินแทบไม่พูดอะไรเลย

เขตต์ขมวดคิ้วทบทวนก่อนตอบ “เวลาอากาศเปลี่ยน ลินก็จะบ่นแน่นหน้าอกบ้างแต่วันสองวันก็หาย เห็นลินบอกว่าแพ้อากาศ เป็นบ่อยๆ แต่เดี๋ยวเดียวก็หาย”

ทั้งสามคนฟังแล้วคิดก็แทบบ้า เพราะนลินปิดบังทุกอย่างเอาไว้ด้วยสิ่งเหล่านี้ หรือไม่เธอก็ไม่รู้ว่าตัวเองมีอาการเริ่มต้นของโรคหัวใจ แต่ความสนใจก็ถูกดึงออกไปเมื่อชาร์ลเดินออกมาจากห้องผ่าตัด

“คุณได้ลูกชายฝาแฝดนะครับ” ชาร์ลเคร่งเครียดเมื่อแม่ของเด็กแฝดยังอยู่ในอาการทรงตัว

“ลินละครับ เธอเป็นยังไงบ้าง” ขันธ์ถามขึ้นทันที

“คงต้องรอให้เธอฟื้น ตอนนี้อาการยังทรงตัวอยู่มาก การเต้นของหัวใจก็ปกติดีอยู่ ถ้าฟื้นแล้วเราคงตอบอะไรได้มากกว่านี้ คุณคงไม่รู้ว่าจังหวะการเต้นของหัวใจเธอไม่ปกติ ผมหวังว่าจะไม่ใช่เพราะเธอเป็นโรคหัวใจนะครับ” ชาร์ลหวังให้เป็นแบบนั้น

“เธอเคยบ่นว่ามีอาการแน่นหน้าอก เดือนละครั้งสองครั้งน่ะครับ แต่เธอแพ้อากาศด้วย” เขตต์รีบบอกเผื่อข้อมูลจะช่วยอะไรได้มาก

“ผมหวังว่าจะเป็นอย่างนั้น ถ้าเธอไม่เคยมีอาการโรคหัวใจ ก็คงเป็นอย่างที่คุณพูดจริงๆ ผมขอตัวไปดูคนไข้ก่อนนะครับ อีกสักครู่พยาบาลคงย้ายเธอไปยังห้องปลอดเชื้อได้” ชาร์ลค่อนข้างสับสนกับสิ่งที่เกิดขึ้น แต่อาชีพหมอทำให้เขาพร้อมรับสถานการณ์เสมอ

ขันธ์ปวดหัวถึงแม้จะรู้ว่าเขาได้ลูกชาย แต่แม่ของลูกเขายังไม่มีทีท่าว่าจะฟื้นขึ้นมาด่าว่าเขาอย่างที่ควรเป็น ถ้าหากนลินฟื้นขึ้นมาจะให้เขาทำอย่างไรก็ได้

************************************


หลายชั่วโมงแห่งการรอคอยทำให้ทุกคนปวดใจ ไมค์ยอมหยุดงานและพักทุกอย่าง เพื่อมาอยู่เป็นเพื่อนให้เพื่อนทั้งสอง ใจหนึ่งเขาอยากเห็นว่าเธอปลอดภัยดี ขณะที่คู่แฝดยังอยู่ในชุดเดิมและเฝ้าอยู่ข้างเตียงไม่ไปไหน

เสียงถอนหายใจดังขึ้นในห้อง ก่อนที่นลินจะค่อยๆ ลืมตาตื่น เธอเจ็บที่ท้องน้อยรู้สึกเหมือนมีอะไรมากรีดจนเป็นแผล ก่อนมองท้องที่เคยนูนใหญ่แล้วตั้งสติ

ชายหนุ่มสามคนเลือกนั่งอยู่ไม่ห่างจากเธอมากนัก เธอขมวดคิ้วมองพวกเขาก่อนพยุงตัวลุกขึ้น แต่ก็เจ็บเกินกว่าจะพยุงตัวสำเร็จ

“ใจเย็นๆ ลิน” เขตต์ที่ฟุบอยู่รีบช่วยพยุงร่างเธอเอาไว้ “เป็นอะไรไหม เจ็บหรือเปล่า”

นลินขมวดคิ้วแล้วส่ายหน้า “ลูกล่ะ”

“ปลอดภัยดี อยู่ที่ห้องเด็ก คงต้องอยู่ในตู้อบนานหน่อย คลอดก่อนกำหนดน่ะ” ขันธ์ขยับเข้ามาใกล้ๆ ดูเธอให้เต็มตาด้วยความเป็นห่วง

“ไม่เป็นอะไรแล้วนะ คุณสลบไปตอนคลอด หมอเลยต้องผ่าตัดน่ะ” ไมค์อธิบายอีกคน เพราะเห็นสีหน้าซีดเซียวของเธอชัดเจน

นลินพยักหน้าช้าๆ รับรู้ ก่อนหลับตาลงอีกครั้ง เหนื่อยเหลือเกินจนไม่รู้ว่าอะไรเป็นอะไร

“ลินเคยมีอาการโรคหัวใจไหม” ขันธ์ถามขึ้นเมื่อเห็นว่าเธอตั้งสติได้

นลินขมวดคิ้วแล้วชั่งใจว่าควรพูดให้เครียดไหม แต่เพราะนึกขึ้นได้ว่าชาร์ลถามในห้องคลอดก็ต้องพยักหน้า “ครั้งเดียวแล้วก็ไม่มีอะไรมาก คิดว่าคงคิดไปเองมากกว่า”

“ทำไมลินไม่บอกก่อนล่ะ รู้ไหมว่ามันอันตรายมาก” เขตต์ปัดผมที่ตกลงมาปิดดวงตาของเธอ หากนลินไม่ยอมให้เขาทำให้

“ก็บอกแล้วไงว่าไม่รู้ ตอนนั้นคิดว่าเพราะเครียดแล้วคิดไปเองก็เลยมีอาการเหมือน แต่หลังจากนั้นก็ลาออกจากงาน เพราะไม่อยากเครียดแบบนั้นอีก พี่คิดว่าลินออกจากงานเพื่ออะไรล่ะ” นลินอธิบายเสียงแข็งเหมือนเด็กโดนจับผิด

“แต่หลังจากนั้นลินก็แน่นหน้าอกบ่อยๆ ใช่ไหม ทำไมไม่ไปตรวจดูหน่อย” ขันธ์ดุเธออย่างไม่จริงจังนัก

“เอ๊ะ พวกพี่นี่มายุ่งอะไรกับลิน ลินจะตรวจหรือเปล่ามันก็เรื่องของลิน แล้วบอกไว้ก่อนนะ อย่ามายุ่งกับลินกับลูกด้วย พวกพี่ไม่มีสิทธิ” นลินเริ่มหาเรื่องเมื่อนึกถึงสิ่งที่พวกเขาพูดกันหน้าห้องเธอ

“ใจเย็นๆ สิ ลิน พักก่อนดีกว่าไหม” เขตต์หาทางประนีประนอม

“ได้ถ้าพวกพี่ออกไปให้หมดเลย” นลินไล่คู่แฝดออกไป ก่อนนึกขึ้นได้แล้วพูดกับไมค์เป็นภาษาสากล “คุณอยู่เป็นเพื่อนฉันก่อนนะ”

เขตต์ขมวดคิ้วแล้วตั้งท่าจะหาเรื่องเพื่อน แต่ขันธ์ดึงเขาออกไปทันที เพราะไม่อยากให้นลินอารมณ์เสียมากไปกว่านี้ “พักผ่อนให้มากๆ นะ พี่อยู่หน้าห้องมีอะไรก็เรียกนะ”

ไมค์ลำบากใจที่เพื่อนรักทั้งสองถูกไล่ออกไปนอกห้อง แต่เขามองหญิงสาวในห้องกำลังมองออกไปนอกหน้าต่าง เขาไม่รู้ว่ามีอะไรอยู่ในใจเธอบ้าง จะมีใครรู้ได้มากเท่าเจ้าตัว

“ขอโทษที่ทำให้เป็นห่วงกันนะคะ” นลินหายใจเข้าลึกๆ ก่อนพูดกับเขา

“ครับ ผมว่าคุณควรให้โอกาสพวกเขาได้แก้ไขบ้างนะ ยังไงคู่แฝดน้อยๆ ก็เป็นลูกของแพทริก” ไมค์พยายามเกลี่ยกล่อมหญิงสาวที่มีความสำคัญสำหรับเขาไม่น้อยไปกว่าเพื่อนรัก แต่เขาไม่ถึงกับยึดเธอเอาไว้กับตัว

“ฉันไม่รู้จะทำยังไงหรอกนะ ฉันอยากกลับบ้านแต่ก็ทำไม่ได้ อยากคุยกับเพื่อนสนิทฉันแต่ฉันก็ไม่รู้จะคุยยังไง ตอนนี้นอกจากพวกคุณ พวกเนลสัน ไม่มีใครรู้เรื่องที่ฉันมีลูกแล้วด้วยซ้ำไป” นลินระบายความในใจออกมาเป็นครั้งแรก เธอเจ็บปวดแต่พูดอะไรกับใครไม่ได้

ไมค์นั่งที่ข้างเตียงก่อนลูบผมเธอเบาๆ เพื่อปลอบโยน เขาไม่รู้ว่าควรทำอะไรมากไปกว่านี้ แต่อย่างน้อยเขาก็อยากให้เธอสบายใจที่มีเขา “แต่คุณรักเขาทั้งสองคนใช่ไหม”

“ไม่ ฉันจะรักคนสองคนพร้อมกันได้ยังไง ฉันไม่รู้ว่าจะรักคนสองคนพร้อมกันได้ยังไง ไม่ ฉันต้องไม่รัก” นลินย้ำซ้ำๆ เป็นการย้ำกับตัวเอง...ความจริงที่เธอไม่อยากยอมรับ ทำให้เธอต้องบอกตัวเองเช่นนั้น

“ผมว่าคุณพักผ่อนดีกว่านะ อย่าเพิ่งคิดมากเรื่องพวกนี้เลย ยิ่งคุณเครียด หัวใจคุณก็จะยิ่งทำงานหนัก คุณยังต้องมีชีวิตเพื่อลูกๆ ของคุณนะ” ไมค์ปรับที่นอนให้เอนลง รอจนเธอหลับแล้วออกมาคุยกับเพื่อนนอกห้อง

“ลินเป็นอะไรมากไหม” เขตต์ถามเพื่อน เขาได้ยินสิ่งที่นลินกับเพื่อนพูดในห้อง เขาไม่ควรระแวงเพื่อนอย่างไมค์

“อย่าให้เธอเครียดดีกว่า ฉันว่าคงเพราะเธอเครียดมาหลายเดือนก็เลยทำให้ร่างกายอ่อนแอน่ะ ตอนนี้ฉันว่านายหาคนอื่นที่เธอเชื่อฟังมาดูแลเธอดีกว่า เพราะฉันก็ไม่อยากมีปัญหากับพวกนายนะ แต่ที่ผ่านมา ฉันจำเป็นต้องเก็บเงียบก็เพราะกลัวว่าเธอจะเตลิดไปไหนแล้วจะเป็นอันตราย” ไมค์พูดตามความจริง เขาไม่เคยคิดแย่งผู้หญิงของเพื่อน

“ขอบใจนายมาก ฉันรู้แล้วว่าตอนนี้ใครจะเอาลินอยู่” ขันธ์กดหมายเลข แล้วบอกแม่เขาไปบ้างแล้วในช่วงที่นลินยังไม่ฟื้น “แม่ฉันกำลังเดินทางมาทันทีที่ได้เที่ยวบิน แล้วพวกฉันคงต้องโดนหนักแน่”

ไมค์หัวเราะเบาๆ ก่อนตบไหล่เพื่อน “มันก็คุ้มค่าที่จะโดน ลินเพิ่งหลับไป แต่ถ้าตื่นอีกรอบก็พาลูกไปให้ลินดูหน้าหน่อยนะ”

“อืม อ้าว แล้วนายจะไปไหนล่ะ อยู่เป็นเพื่อนกันก่อนสิ” เขตต์ชวน เพราะคงมีแต่เพื่อนเท่านั้นที่เป็นกันชนให้ได้ตอนนี้

“หาไรกินว่ะ หิวแล้ว พวกนายไม่หิวหรือไง ยังไงลินก็ลุกหนีพวกนายไม่ได้หรอกน่า” ไมค์อารมณ์ดีขึ้นเมื่อเพื่อนๆ เข้าใจเขามากขึ้น “ฉันฝากชาร์ลไว้แล้วล่ะ เขาคงจัดพยาบาลดูแลให้ตลอดล่ะ ไปเหอะ เดี๋ยวลินตื่นอีกรอบ ก็อาจใจเย็นขึ้น”

“หวังว่านะ แม่คุณคงใจเย็นอยู่หรอก” ขันธ์ตบบ่าน้องชายชวนกันออกไปหาอะไรทาน

เขตต์พยักหน้าช้าๆ ก่อนเดินตามทุกคนออกมา หากก็ยังไม่ลืมมองเข้าไปในห้อง เห็นเธอกำลังหลับอยู่แต่ก็ไม่สบายใจขึ้น เขาถอนหายใจพร้อมทำใจไปพร้อมกัน

************************************


สถานการณ์น่าจะดีขึ้นเมื่อคุณขวัญฤดีมาถึง หลังจากที่หลานทั้งสองออกจากตู้อบแล้ว แต่ดูเหมือนคุณย่ามือใหม่จะไม่เข้าข้างลูกชายตัวเองแม้แต่น้อย พอมาถึงก็เทศนาลูกชายทั้งสองจนเรียบร้อย ก่อนเข้าไปเกลี่ยกล่อมลูกสาวคนโปรด

“แม่ขอให้หนูลินไปอยู่ที่บ้านแม่นะ หนูลินยังไม่แข็งแรง ถ้าไม่อยากให้พวกนั้นเข้าใกล้ แม่จะไม่ให้เข้าไปยุ่งวุ่นวายกับหนูลินเลย แต่อย่าหนีไปอย่างนั้นอีกนะ แม่ขอร้อง” ขวัญฤดีรู้บทบาทของตนเองดี โดยเฉพาะหญิงสาวตรงหน้าว่าดื้อรั้นอย่างไร

“ค่ะ” นลินตอบเสียงอ้อมแอ้ม ก่อนมองคู่แฝดเจ้าปัญหาที่กำลังยืนซึมอยู่ในห้องพักใหญ่ในบ้าน แล้วพอพยาบาลส่วนตัวส่งลูกฝาแฝดให้เธอ เธอก็อุ้มอย่างระมัดระวัง

“น่าเกลียดน่าชังจริงๆ หนูลินตั้งชื่อหรือยังจ๊ะ” ขวัญฤดีนึกเอ็นดูหลานชายฝาแฝดมากพอๆ กับแม่ของหลานๆ

“ธารธรรม กับธรรมธารค่ะ” นลินนึกชื่อเอาไว้เสร็จสรรพก่อนยิ้มเอ็นดูลูกน้อยที่กำลังดื่มนมจากอก

ขวัญฤดีดูสีหน้าของลูกสาวคนโปรดแล้วก็นึกเอ็นดู “ดีจ๊ะ ธารกับธรรม์ ดีๆ ส่วนชื่อฝรั่งก็ให้ชื่อธษรว่าเนธานแล้วกัน ธรรม์ก็อีธานนะ”

“แม่ครับ” เขตต์สะกิดแม่ให้เกลี่ยกล่อมให้นลินยอมจดทะเบียนกับใครสักคน

“ออกไปก่อนตาเขตต์ พีทคะ พาลูกออกไปก่อนได้ไหมคะ” ขวัญฤดีรีบไล่ลูกชายใจร้อนออกไป ก่อนมองลูกชายอีกคนที่ยืนนิ่งอยู่ “ลูกด้วย แพทริก”

“เอ่อ ครับ แม่” ขันธ์มองนลินอีกครั้ง เห็นเธอไม่สนใจมองพวกเขาเสียด้วยซ้ำแล้วก็นึกหนักใจ

ตอนนี้เขาแทบไม่รู้สึกว่าลูกฝาแฝดเป็นลูกเขา เพราะดูเหมือนจะมีคนแย่งเป็นผู้ปกครองเยอะไปหมด ด้วยลูกฝาแฝดกำลังน่ารัก เป็นดวงใจประจำครอบครัวไปเลย แต่พอมองลูกแล้วเขาก็รู้สึกว่าควรใจเย็นกว่าที่เป็นมา เขาไม่ควรใจร้อนอีกแล้ว เพราะตอนนี้เขาเป็นพ่อคน

“ลูกคงเข้าใจความรู้สึกของพ่อแม่แล้วสินะ ไม่ว่าเรื่องนี้จะจบลงยังไง ก็ขอให้ลูกสองคนทบทวนให้ดีว่าสิ่งที่ทำอยู่มันถูกต้องหรือเปล่า” ปีเตอร์ได้แต่เตือนลูกชายอย่างอ้อมๆ

ขวัญฤดีดูลูกสาวคนโปรดป้อนนมให้หลานชายฝาแฝดทั้งสองจนเสร็จ ก่อนชวนคุยเรื่องสำคัญ “หนูลินจะบอกพ่อแม่ไหมจ๊ะ คือแม่ว่าหนูลินควรบอกนะ”

“อืม ตั้งแต่มาที่นี่ ลินก็ไม่ค่อยได้บอกท่านเรื่องนี้เลยค่ะ ลินกลัวว่าท่านจะรับไม่ได้น่ะค่ะ” นลินเริ่มหนักใจอีกครั้ง เธอยังคงอยากอุ้มลูกทั้งสองคน แต่พยาบาลกลัวแผลคุณแม่จะปริจึงขอรับทารกทั้งสองมาก่อน

“แม่จะพูดให้ก่อนนะ ลินไม่ต้องกลัวไป ถ้าจำเป็น แม่จะไล่สองคนนั่นออกจากกองมรดก แล้วรับลินกับหลานมาแทน” ขวัญฤดีพูดจริงจัง เพราะลูกชายสองคนทำเรื่องหนักหนาเอาไว้มาก

“อย่าให้ถึงขนาดนั้นเลยนะคะ ลินก็คนนอก ยังไงลินก็คงต้องบอกพ่อแม่แล้วก็จะกลับเมืองไทยให้เร็วที่สุดค่ะ” นลินตัดสินใจเด็ดขาด ขืนอยู่ต่อไปก็ต้องลำบากใจมากไปกว่านี้แน่

“หนูลินไม่ได้เป็นคนนอกนะจ๊ะ สำหรับแม่ ลินคือลูกสาว ยังไงซะแม่จะอยู่เป็นเพื่อนลินอีกหลายวันนะ จนกว่าลินจะแข็งแรงพอ แต่ถ้าแม่ไม่อยู่แล้วพวกนั้นสร้างปัญหาให้ลินละก็ บอกแม่จ๊ะ แม่จะมาจัดการให้เด็ดขาดเลย” ขวัญฤดีเอาใจลูกสาวคนโปรดเต็มที่ เพราะลูกชายตัวแสบสองคนสร้างปัญหาให้ไม่เว้นแต่ละวัน

“ค่ะ” นลินได้แต่รับคำอย่างลำบากใจ เพราะดูเหมือนเธอจะหนีไปไม่พ้นครอบครัวเนลสัน

“เพราะงั้นต่อไปนี้ขอให้หนูลินอยู่ในบ้านแม่อย่างสบายใจ ถ้ายังไม่สบายใจอีก แม่จะยกหุ้นกับค่าใช้จ่ายที่แน่นอนให้หนูลินเป็นเครื่องรับประกันว่าหนูจะไม่ลำบาก” ขวัญฤดีต้องการชดเชยให้กับชีวิตประหลาดๆ ที่หญิงสาวคนนี้ได้รับ เพราะความเอาแต่ใจของลูกชายฝาแฝดของเธอ

“ไม่ค่ะ ลินไม่ต้องการ ได้โปรด อย่าให้อะไรลิน นอกจากให้อิสระกับลิน กับลูกๆ ลินไม่อยากถูกผูกมัดเพียงเพราะลินมีลูกกับพี่ขันธ์ค่ะ” นลินค่อนข้างหวาดกลัวกับความคิดคนในครอบครัวนี้

ไม่มีอะไรได้มาโดยไม่เสียอะไรไป...ตอนนี้เธอกลัวที่จะต้องสูญเสียลูกๆ ไปมากกว่า

“ไม่มีใครบังคับหนูลินหรอกนะจ๊ะ ไม่มีหรอก” ขวัญฤดีเห็นนลินเริ่มดูกระวนกระวายใจมากขึ้นก่อนเอะใจ “หรือพวกนั้นขู่จะเอาลูกไปจากหนูลินเหรอจ๊ะ”

นลินส่ายหน้า แต่ก็ต้องยอมรับว่า...นั่นคือสิ่งเธอกลัวที่สุด

ขวัญฤดีกลับเข้าใจไปอย่างนั้น เธอไม่คิดเข้าข้างลูกๆ เพราะถึงยังไงเธอก็เข้าใจหัวอกคนเป็นแม่ คงไม่มีใครยอมรับได้ ถ้าต้องถูกแย่งลูกไปทั้งที่เพิ่งคลอดออกมา เธอจึงคาดคั้นเพื่อจะได้ตามไปว่าลูกชายถูก “ใครพูดก็บอกแม่มานะ แม่จะจัดการขั้นเด็ดขาดให้ ขออย่างเดียวหนูลินอย่าพาหลานๆ หนีไปอีกนะ ผู้หญิงตัวคนเดียวจะอยู่ได้ยังไง”

นลินปล่อยให้ขวัญฤดีลูบผมปลอบโยน ตอนนี้คงมีเพียงขวัญฤดีเท่านั้น ที่ปลอบโยนหญิงสาวตัวคนเดียวในต่างแดนได้ ทั้งที่เธอเป็นแม่ของพวกเขา กลับรู้สึกอยากเข้าข้างผู้หญิงคนนี้มากกว่า

“ไม่ต้องกลัวนะ ถ้าเขตต์กับขันธ์ทำอะไรหนูลิน บอกแม่นะ แม่จะจัดการให้ทุกอย่าง พ่อเขาด้วย ไม่ต้องเกรงใจนะ หนูลินก็คือลูกสาวแม่นะ” ขวัญฤดีโอบกอดร่างที่กำลังสั่นเทา เพราะกลัวว่าจะต้องสูญเสียลูกๆ ไป

นลินพยักหน้าช้าๆ แล้วโอบกอดขวัญฤดีไว้เป็นที่พึ่ง แต่ก็ไม่ไว้ใจนัก เพราะไม่รู้ว่าขวัญฤดีจะบังคับลูกชายได้อย่างที่พูดหรือเปล่า แต่เธอก็ไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากเชื่อเท่านั้น...

พอนลินหลับพักผ่อน ขวัญฤดีก็ออกมานอกห้อง ก่อนจะฟาดฝ่ามือที่ไหล่ลูกชายคนแรกที่ใกล้มือที่สุด “ใครขู่ลินว่าจะแย่งลูกมา”

“อ้าว ทำไมลูกพูดอย่างนี้กับลินล่ะ” ปีเตอร์ฟังเข้าใจชัดเพราะภรรยาพูดภาษาอังกฤษ

“เปล่าครับ ผมไม่ได้พูด ดีนส์ นายพูดหรือเปล่า” ขันธ์รีบพูด

เขตต์ลูบไหล่ก่อนส่ายหน้า “ไม่เคยพูดเลย จะบ้าเหรอ ฉันมีสิทธิที่ไหน ยังไงก็ลูกนายกับลิน”

“ลินหนีไปก็เพราะกลัวว่าลูกจะแย่งลูกไปจากเธอนะ” ขวัญฤดีอธิบาย

“เปล่าครับ ไม่เคยเลย ผมไม่เคยพูด ดีนส์ก็ไม่เคยพูด แล้วลินคิดอย่างนั้นได้ยังไง” ขันธ์หันไปมองในห้องคนป่วยอย่างสงสัย

“หรือว่าไมค์พูด” เขตต์ตั้งข้อสังเกต

“งั้นก็เป็นไปได้นะ แต่โทษไมค์ไม่ได้หรอก มันเป็นเรื่องปกติที่คนอเมริกันจะคิดแบบนั้น” ขันธ์ตบไหล่น้องชายเบาๆ ก่อนมองแม่ที่เริ่มเข้าใจทุกอย่าง

“ตอนนี้ปัญหาคงอยู่ที่ทำยังไงให้ลินรู้สึกสบายใจมากขึ้น พ่อหวังว่าลูกคงไม่สร้างปัญหาให้กับเธอ” ปีเตอร์ยังไม่อยากคิดว่าลูกๆ จะจัดการยังไง แต่ดูเหมือนไม่มีใครยอมถอยอีกคน คาดว่าคงต้องให้คนกลางตัดสินใจ

“ตอนนี้ยังไม่หรอกครับ แต่อีกไม่นานก็ไม่แน่” เขตต์พูดขึ้นเพราะยังไงก็ต้องตัดสินใจเรื่องความสัมพันธ์ที่จะมีในอนาคต

“งั้นก็ให้นานกว่านี้หน่อย อย่าให้ลินเตลิดหนีไปอีกล่ะ หลานๆ จะลำบาก” ขวัญฤดีเป็นห่วงหลานๆ มากเช่นกัน เพราะคุณแม่ใจเด็ดคงสามารถพาหลานฝาแฝดของเธอไปได้ไกลมากแน่ๆ

“ผมรู้ครับ ตอนนี้ผมขอร้องให้คุณแม่ช่วยกล่อมให้ลินยอมอยู่ในบ้านนี้ไปก่อนนะครับ เพราะถ้าขืนกลับเมืองไทย เพื่อนๆ ของลินต้องยื่นมือมาช่วยแล้วลินต้องไปแน่ๆ” ขันธ์พอเดาออกอยู่บ้าง จากที่เคยถามนลินในช่วงที่เธอหายไป

“เรื่องนั้นไม่มีปัญหา ลูกก็อย่าทำให้ลินลำบากใจรู้ไหม” ขวัญฤดีเตือนลูกชายอีกครั้ง ก่อนมองลูกสองคนคอตกก็นึกสงสาร “ไม่ว่าลูกจะแก้ไขปัญหายังไง ก็รีบทำก่อนที่พ่อแม่จะรับลินเป็นลูกบุญธรรมนะ”

“ไม่ได้นะครับ” เขตต์กับขันธ์พูดพร้อมกันอย่างไม่ตั้งใจ

ขวัญฤดีมองลูกชายแล้วยิ้มขำ แต่ก็ต้องขีดเส้นตายเอาไว้ด้วย “แม่ให้เวลาสามเดือน ไปเคลียร์มาให้เรียบร้อยว่าลินจะแต่งกับใครกันแน่ แล้วถ้าสรุปแล้วขออย่าให้พี่น้องต้องทะเลาะกันอีกนะ”

ขันธ์มองหน้าเขตต์ก่อนคู่แฝดพยักหน้าให้เขาพูด “แม่กับพ่อจะว่าอะไรไหมครับ ถ้าผมกับดีนส์จะขออยู่กับลินทั้งคู่ตลอดไป”

“จะบ้าเหรอ” ปีเตอร์ตะโกนเสียงดัง เพราะความคิดแผลงๆ ของลูกชายทั้งสอง

“ใจเย็นๆ นะคะ คุณ” ขวัญฤดีรีบปลอบสามีก่อนหันมามองลูกชายทั้งสอง “มันจะเป็นไปได้ยังไง ลินคงไม่ยอมหรอก”

“ผมก็จะขอใช้เวลาที่แม่ให้ลองกล่อมลินดู ผมสองคนบอกได้เลยว่าเราต่างก็ขาดลินไม่ได้ และที่สำคัญ เราก็เห็นลินอยู่ในอ้อมกอดผู้ชายคนอื่นไม่ได้ ถ้าเป็นดีนส์ ผมยอมได้ แต่ถ้าเป็นคนอื่น ผมบอกได้เลยว่าผมจะทำทุกอย่างให้ผู้ชายคนนั้นหายไปจากชีวิตเธอ” ขันธ์ให้คำสัญญาที่เขาเชื่อมั่นว่าเขาจะทำได้แบบนั้นจริงๆ

“ใช่ครับแม่ ผมก็คิดอย่างเดียวกับแพทริก ขอเวลาให้เราสองคนได้เกลี่ยกล่อมลินนะครับ ผมเชื่อว่าลินจะต้องยอม” เขตต์เห็นด้วยกับคู่แฝด เพราะเขาก็ไม่ต้องการมานั่งทะเลาะกันเรื่องนลินอีกต่อไป

ปีเตอร์ต้องช็อคเพราะความคิดของลูกชายทั้งสองอีกครั้ง สิ่งที่พวกเขาจะทำนั้นขัดกับหลักการทั่วไป แล้วจะเป็นไปได้อย่างไรที่ผู้หญิงคนหนึ่งจะใช้ชีวิตฉันสามีภรรยากับผู้ชายสองคน

ขวัญฤดีแตะที่หลังสามีเบาๆ แล้วเดินหนีโดยไม่แสดงความเห็นใดๆ นึกอยากห้ามแต่ก็รู้ว่าคงยาก สุดท้ายทั้งหมดก็อยู่ที่การตัดสินใจของนลินเพียงคนเดียวเท่านั้น...

************************************


“ออกไปนะ” นลินออกปากไล่ชายหนุ่มที่แอบเข้ามาในห้องพักของเธอ

“จ๊ะๆ” เขตต์รีบรับปากก่อนเดินออกจากห้องพักเธอในบ้านเขาเอง

ขันธ์ยืนรออยู่นอกห้อง มองคู่แฝดคอตกเดินออกมา เขายิ้มนิดๆ แล้วรอจนพยาบาลพิเศษพาลูกชายทั้งสองออกมาให้เขาอุ้มหลังจากดื่มนมจากแม่เสร็จแล้ว

“ไม่ต้องพูดว่าเตือนแล้วหรอกน่า” เขตต์รีบดักคอ ก่อนที่อีกฝ่ายจะพูดอะไรออกมาให้อารมณ์เสีย

“เอาน่า แม่ลูกอ่อนก็งี้แหละ อารมณ์เสียง่ายนะ” ขันธ์อุ้มลูกชายเอาไว้ก่อนบอกให้พยาบาลส่งอีกคนให้คู่แฝดเขา

“ลูกนายน่ารักนะ” เขตต์ชมที่เด็กทั้งสองอารมณ์ดีและเป็นขวัญใจของใครหลายคนไปแล้ว

“ลูกนายด้วยนั่นแหละ” ขันธ์ยิ้มให้ลูกชายอย่างเอ็นดู “นายแยกออกไหม คนไหนธาร คนไหนธรรม”

“ออกสิ” เขตต์ยกแขนเล็กๆ ที่มีผ้าผูกชื่อของลูกทั้งสองคนไว้

“บ้าน่า ถ้าไม่มีมันจะแยกออกไหมนั่น” ขันธ์หัวเราะเสียงดังจนคนหงุดหงิดในห้องได้ยินแล้วเดินออกมาดู

เธอกำลังเท้าเอวมองพวกเขาที่กำลังสนุกกับการเล่นกับลูกฝาแฝดทั้งสอง “แยกไม่ออกก็ไม่ต้องแยก เอาลูกมานะ”

“อ่ะๆ อย่านะ พวกพี่อยู่นอกห้อง แล้วก็ไม่ได้ทำอะไรลินด้วย เพราะงั้นพวกพี่มีสิทธิเล่นกับลูกๆ” ขันธ์อุ้มลูกหลบ ขณะที่เขตต์แทบจะประคองลูกให้เธอ แต่ก็ชะงักงันเมื่อคู่แฝดเขาพูดแบบนั้น

นลินมีสีหน้าขัดใจแล้วไม่สนใจคำพูดเขา “เอาลูกมานะ ไม่งั้นลินจะกลับเมืองไทย”

เขตต์รีบส่งลูกให้โดยไม่ต้องคิด ก่อนหันมาพยักหน้ากับคู่แฝด “ให้ลินไปเถอะ”

ขันธ์ออกอาการเซ็ง เพราะดูเหมือนตอนนี้นลินจะมีอำนาจในการต่อรองสูง จากการที่แม่เขาเข้าข้างลูกสาวคนโปรดคนนี้อย่างออกหน้าออกตา “ก็ได้ แต่อย่าขู่จะกลับเมืองไทยบ่อยๆ ได้ไหม แค่ออกนอกประตูบ้าน พี่ก็แทบแย่แล้ว”

“ชิๆ ทำพูดดี อย่านึกว่าลินไม่ได้ยินที่คุยกันหน้าห้องนะ อย่าหวังเลย ลินไม่เอาพี่ทั้งคู่แหละ” นลินอุ้มลูกทั้งสองคนเข้าไปในห้องอย่างระมัดระวัง

“ได้ยินสิดี แล้วพิจารณาให้นานๆ นะ เดี๋ยวจะมาเอาคำตอบ” ขันธ์ชิงตอกย้ำเพราะรู้ว่านลินต้องดื้อแน่นอน แต่เขาก็ดื้อพอกัน ย่อมรู้ว่าจะทำยังไงให้ได้ดังใจ

“ไม่มีทาง” นลินปิดประตูใส่หน้าเขา ยิ่งทำให้ขันธ์สมใจกว่าเดิม

“นายเป็นบ้าอะไรของนายอีก” เขตต์ส่ายหน้าเพราะไม่เข้าใจในสิ่งที่คู่แฝดทำเลยแม้แต่น้อย

“ก็จัดการกับคนดื้อที่มีแม่พวกเราให้ท้ายไง ไปเถอะ ไปทำงาน นายคงไม่เบี้ยวงานอีกนะ” ขันธ์จับไหล่น้องชายให้ออกไปทำงานด้วยกัน

“เออ ฉันทำอาหารบำรุงของนลินเสร็จตั้งแต่เช้าแล้วล่ะ วันนี้มีประชุมโปรเจ็คใหม่ใช่ไหมล่ะ อ่านเสร็จตั้งแต่เมื่อคืนแล้วไปเหอะ เดี๋ยวสาย” เขตต์พยักหน้าแล้วเดินไปด้วยกัน

“ในฐานะที่เราจะมีเมียคนเดียวกัน นายก็ต้องขยันเพิ่มขึ้นนะ” ขันธ์เตือนให้น้องชายรับผิดชอบมากขึ้น โดยใช้นลินกับลูกเป็นข้ออ้างแทน

“รู้แล้วน่า” เขตต์ขัดใจที่โดนเตือนแบบนั้น ไม่ใช่เขาไม่รู้...แต่เขาไม่อยากโดนเปรียบเทียบ

ถ้าเทียบกัน ขันธ์มีภาษีเขามากกว่าเรื่องทำงานและความมั่นคง แต่สิ่งที่ขันธ์ไม่ค่อยมีคือ...ความอดทนต่อผู้หญิง เพราะไม่เคยต้องอดทนอะไรแบบนั้น ขณะที่เขตต์อดทนได้มากกว่าและใจเย็นกว่าเรื่องแบบนี้ เขาอยู่กับผู้หญิงมากกว่าทำให้รู้ว่าผู้หญิงต้องการอะไร...

************************************


แล้ววันๆ หนึ่งของนลินก็ผ่านไปอย่างช้าๆ คงมีแต่ลูกเท่านั้นที่ยังทำให้เธออยู่ได้ เธอมานั่งคิดถึงเงินเก็บและชีวิตในวันข้างหน้าโดยไม่มีพวกเขา แล้วก็ต้องตอบตัวเองให้ได้ว่าจะไปทางไหน อีกทั้งเธอยังไม่อยากให้ขวัญฤดีบอกเรื่องนี้กับพ่อแม่เธอ

“ลิน” ไมค์เดินเข้ามาในห้องนั่งเล่นเห็นนลินกำลังนั่งเหม่อลอยอยู่ แต่ก่อนหน้านั้นเขาเห็นเพื่อนทั้งสองคนนั่งอยู่นอกห้องแล้วก็สงสาร

“คะ ดีใจจังได้เจอคุณ” นลินยิ้มให้ ก่อนมองสองคนที่กำลังแอบมองจากนอกห้อง

“ผมไม่เคยเห็นใครทำให้คู่แฝดจอมหยิ่งหงอได้แบบนี้มาก่อนเลยจริงๆ นะ” ไมค์มองเพื่อนที่นอกห้องแล้วยอมรับว่าทั้งขำทั้งสงสาร

“เหรอคะ ลินก็ไม่ได้ทำอะไร แล้วนี่ก็บ้านเค้า ถ้าพวกเค้าอยากทำอะไรก็เป็นสิทธิของพวกเค้า” นลินยืนยันคำพูดแต่ในทางปฏิบัตินั้นตรงกันข้าม

ไมค์นั่งลงใกล้ๆ เธอก่อนกุมมือเธอเอาไว้เบาๆ อย่างอ่อนโยน “ให้โอกาสพวกเค้าหน่อยสิ แล้วคุณค่อยคิดก็ได้ว่าจะเลือกอยู่กับใคร”

นลินมองไมค์อย่างสำรวจ ก่อนถอนหายใจ “คุณไม่รู้เหรอว่าเพื่อนคุณมีความคิดแผลงๆ ยังไง”

ไมค์ขมวดคิ้วสงสัย มองไปนอกห้องก่อนมองเธออีกครั้ง “ความคิดอะไรเหรอ”

นลินยกมือขึ้นลูบหน้า “คุณไม่ถามพวกเค้าเอาเองแล้วกัน”

เธอปล่อยให้เขางงกับคำตอบ...เพราะคงยากที่จะบอกความคิดประหลาดๆ ซึ่งฝาแฝดคู่นี้คิดได้ แล้วนำเสนอให้เธอยอมรับ...คงต้องทำใจให้หนัก แต่ตอนนี้เธอไม่อยากคิดอะไร

************************************
สวัสดีค่ะ (ยิงฟันขาวมาก่อน อิอิ)
จริงๆ อยากจะโพสแต่มันก็แบบว่าเลือกไม่ถูก
จากนั้นก็คิดไว้เป็นสองทางเลือก
แบบที่ 1 เป็นแบบที่จะมีในตอนจบแน่นอนค่ะ
แต่อีก 2 แบบที่แตกต่างกันนั้น
จัดไว้สำหรับเป็นทางเลือกให้ตัวเองแล้วก็คุณผู้อ่านด้วยค่ะ
คิดเผื่อไว้ก่อน แล้วจะเขียนทั้งสองแบบแน่นอนค่ะ
เอาเป็นว่ายังไม่ตัดสินใจนะคะว่าจะโพสยังไง
รอใกล้ๆ จบก่อนค่อยตัดสินใจค่ะ
555+ เลือกยากจึงต้องเลือกในวินาทีสุดท้ายแทนค่ะ

ส่วนใครต้องการอยากได้ทางเข้าบล็อคกับพาสเวิร์ดเข้าห้องพิเศษ
ก็ขอให้เมลมาที่ plerngwaree@hotmail.com นะคะ
คือไม่อยากให้ดูเป็นการโปรโมทบล็อคเท่าไร
-*- แต่ว่าบล็อคแก๊งมีระบบใส่พาสเวิร์ดด้วยค่ะ
ก็เห็นว่าสะดวกดี เพราะบางเรื่องก็กลัวว่าคนอ่านจะรับไม่ได้เหมือนกันค่ะ
แต่ตอนนี้ยังไม่มีอะไรในบล็อคเลยนะคะ
คือมีแต่ตอนพิเศษของนิยายเก่าเท่านั้นเองค่ะ
ขอบคุณติดตามและทุกกำลังใจนะคะ

คุณ mimny --- อิอิ >.< รู้ทันอ่า รู้ทัน

คุณ mallow --- ส่งให้แล้วนะคะ

คุณ tuk_ora --- คิดออกยังคะ ถ้ายังเดี๋ยวส่งให้ใหม่ค่ะ

คุณ greentea --- อิอิ สู้ๆ ต่อไปนะคะ เป็นกำลังใจให้ค่ะ

คุณ CaspeR GhosT --- 2ช+1ญ = 2ช+1ญ+2ทารกค่ะ 555+ (มีเรื่องเข้าคิวอีกสามเรื่องค่ะ อิอิ)

คุณ fiona --- ยังค่า เพิ่งจะได้ครึ่งเรื่องเองค่า

คุณ mommy --- ส่งให้แล้วนะคะ ^^


Create Date : 07 กันยายน 2552
Last Update : 7 กันยายน 2552 0:46:36 น. 2 comments
Counter : 383 Pageviews.

 
แม่ลินจะทำยังไงต่อไปเนี๊ยะะะะะ ดูท่าทางเริ่มอ่อนๆๆลงแล้วนะ


โดย: CaspeR GhosT IP: 123.243.8.121 วันที่: 7 กันยายน 2552 เวลา:9:26:10 น.  

 
เลือกซะคนเถ๊อะลินถึงจะต้องมีหนึ่งในแฝดเสียใจก็เป็นเรื่องที่ต้องยอมรับ


โดย: mimny วันที่: 7 กันยายน 2552 เวลา:22:51:21 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 
 

เพลิงวารี
Location :
นนทบุรี Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 3 คน [?]




ไหดองเหล็กไหล
New Comments
[Add เพลิงวารี's blog to your web]

 
pantip.com pantipmarket.com pantown.com
pantip.com pantipmarket.com pantown.com