เพลิงวารี & คชสีห์ ฿ Babylonia
<<
สิงหาคม 2552
 1
2345678
9101112131415
16171819202122
23242526272829
3031 
 
25 สิงหาคม 2552
 
 
เราสามคน...หนทางเดียว008(อุบัติ...เหตุ)

เมื่อตั้งสติได้แล้วนลินก็ขับรถไปยังบ้านของขวัญฤดีเพื่อเอาของหมั้นไปคืน เธอนำของลงจากรถและเดินไปรอที่ห้องนั่งเล่น ก่อนยกมือไหว้เมื่อผู้ใหญ่มาพร้อมแล้ว

ขวัญฤดีทักทายโดยไม่บอกว่าลูกชายอีกคนรออยู่ด้านนอก “สวัสดีจ๊ะ หนูลิน”

“เป็นไงบ้าง ลิน” ปีเตอร์รับรู้เรื่องจากภรรยา และยิ่งปวดหัวเมื่อเห็นกล่องที่นลินเอามาด้วย

“ก็ดีค่ะ ไม่ค่อยสบายนิดหน่อยค่ะ อืม ลินเอาของหมั้นมาคืนนะคะ ส่วนแหวนหมั้น ลินทิ้งไว้ที่บ้านพี่เขตต์ที่กรุงเทพฯ ค่ะ ไม่ได้เอาติดตัวมาด้วย คุณพ่อ คุณแม่ถามพี่ขันธ์ได้นะคะ” นลินไม่อยากพูดถึงชื่อเขาแต่ก็ต้องพูดออกมา

ตอนนี้หัวใจเธอเต้นแรงเพราะนึกถึงชื่อของเขา...พ่อของลูกเธอ

“ใจเย็นๆ ค่อยๆ พูดกันดีกว่าไหม หนูลินให้โอกาส เขตต์เขาได้อธิบายก่อนดีกว่าไหม” ขวัญฤดีพยายามเกลี่ยกล่อมแทนลูกชาย

“ไม่จำเป็นหรอกค่ะ ลินรู้อยู่แล้วว่าต้องเป็นแบบนี้ คุณแม่ตรวจดูก่อนไหมคะ” นลินไม่คิดว่าจะมีอะไรให้เธอได้ประหลาดใจเท่าเรื่องเมื่อเช้า แต่ก็ต้องตกใจเมื่อได้ยินเสียงเขา

“ไม่ต้องหรอกครับแม่ ลิน พี่ขอคุยด้วยหน่อย” ขันธ์เดินเข้ามาในห้องจากทางด้านหลังเธอ เขาทนรอไม่ไหวเมื่อเห็นเธอมาอยู่ตรงหน้า

นลินตกใจลุกขึ้นยืนแล้วหันไปมองต้นเสียง เธออยากให้แน่ใจว่าเป็นคนไหนกันแน่ แล้วเมื่อเห็นเสื้อผ้าที่ใส่และสีหน้าท่าทางก็รู้ทันทีว่าเป็นขันธ์ เธอขยับถอยหลังทันทีที่เขาเดินเข้ามาใกล้

“เอ่อ พี่ขอคุยกับลินหน่อยได้ไหม” ขันธ์พยายามพูดให้เธอยอม แต่เห็นเธอส่ายหน้าอย่างเดียวก็รู้ว่าเธอคงไม่ยอมง่ายๆ

นลินมองผู้ใหญ่ที่กำลังงุนงง ก่อนรีบก้มลงไปคว้ากระเป๋าถือแต่ช้ากว่าเขานิดเดียว เขารีบเข้ามาแย่งแล้วทำให้กระเป๋าถือเธอหล่น ทำให้ของในกระเป๋าหล่นลงพื้น ขณะที่ขันธ์ก้มลงเก็บให้ แม่เขาก็เห็นคู่มือแม่มือใหม่แล้วขมวดคิ้ว

“หนูลินท้องเหรอ” ขวัญฤดีถามขึ้นอย่างตกใจ ขณะเดียวกันปีเตอร์ก็ขอให้ภรรยาแปลให้เขาฟัง

ขันธ์นิ่งอึ้งที่รู้ว่าเธอกำลังจะมีลูก เขาเก็บของพวกนั้นขึ้นมาแล้วมองเธออย่างสงสัย

“ใช่ค่ะ ลินถึงต้องเอาของหมั้นมาคืน คือลินกับครอบครัวกำลังจะเริ่มต้นชีวิตใหม่ค่ะ แล้วลินก็นึกขึ้นได้ว่ายังไม่ได้เอาของหมั้นมาคืน” นลินเปลี่ยนเรื่องได้หน้าตาเฉย ในเมื่อเธอไม่จำเป็นต้องปิดบังเขาและครอบครัวอีกแต่ก็เลือกที่จะโกหก

“ใคร มันเป็นใคร” ขันธ์ตะคอกเสียงดังด้วยความโมโห ทำให้พ่อแม่เขามองอย่างสงสัย เพราะคนที่น่าจะแสดงอาการนี้ออกมาน่าจะเป็นลูกอีกคนมากกว่า

“จะใครก็ได้ แต่ที่แน่ๆ พี่ไม่รู้จักเขาหรอก” นลินตอบอ้อมๆ ก่อนยื่นมือไปดึงเอาของในมือเขา แต่ขันธ์กลับจับมือเธอแน่น

“บอกมาเดี๋ยวนี้นะ บอกมา มันเป็นใคร” ขันธ์ตะคอกเสียงดังมากขึ้น แล้วเขย่าร่างเธอโดยไม่ทันได้สังเกตว่าเธอผอมลงและอ่อนแอจากเดิมแค่ไหน

“ทำไมลินต้องบอกด้วย พี่ไม่เกี่ยวอะไรกับลิน ปล่อยลินเดี๋ยวนี้นะ” นลินตะคอกกลับแล้วพยายามแกะมือออกจากเขา

ขวัญฤดีเห็นท่าไม่ดีรีบเข้ามาไกล่เกลี่ย “ขันธ์ใจเย็น ลูก นี่เป็นเรื่องระหว่างเขตต์กับหนูลิน ถ้าเขาสองคนไม่มีอะไรจะเคลียร์กัน เราก็ไม่ควรจะไปยุ่งนะ”

ปีเตอร์มึนงงหนัก ตอนนี้ไม่มีใครแปลให้เขาฟังแล้ว แต่เขาก็พออ่านสถานการณ์ออกว่า ลูกชายกำลังโมโหนลินที่ไม่รู้ว่าท้องกับใคร

“ไม่ครับ ผมเกี่ยวแน่” ขันธ์ยังไม่ยอมปล่อยนลินให้หลุดไป “พี่ไม่ยอม พี่ไม่สนใจว่ามันเป็นใครก็ได้ แต่ลินต้องอยู่กับพี่ได้ยินไหม ลูกของลินต้องเป็นลูกพี่ พี่ไม่ให้ลินไป”

ขวัญฤดีถึงกับนิ่งอึ้งกับคำพูดของชาย...

นี่มันอะไรกันแน่...นี่มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่

“พี่จะบ้าเหรอ ลูกของลินก็ต้องเป็นลูกของลินสิ จะเป็นลูกพี่ได้ยังไง อย่ามายุ่งกับลินนะ ปล่อยลินเดี๋ยวนี้” นลินไม่ยอมแพ้แม้ตอนนี้น้ำตาจะไหลอาบแก้มทั้งสองข้าง

ขันธ์เริ่มได้สติก่อนถามใหม่ “ลินท้องได้กี่เดือนแล้ว”

“สี่อาทิตย์ พอใจหรือยัง” นลินโกหกอีกครั้ง เธอท้องได้เจ็ดอาทิตย์แล้วเท่ากับระยะเวลาที่เธอไปจากเขา แต่ถ้าไม่พูดแบบนั้นเขาก็จะไม่ยอมปล่อยเธอไปแน่นอน

“แม่ครับ อ่านนี่ให้ผมหน่อยว่าลินท้องนานแค่ไหนแล้ว” ขันธ์ไม่ยอมแพ้ เขาจับมือเธอข้างหนึ่งก่อนหยิบกระดาษผลตรวจให้แม่เพราะเขาอ่านภาษาไทยไม่ออก

นลินตกใจรีบเข้าไปแย่งแต่ไม่ทันเมื่อขันธ์ส่งให้แม่เขาไปแล้ว ส่วนขวัญฤดีก็ต้องตกใจ เมื่อในเอกสารบอกว่าเธอตั้งครรภ์ได้เจ็ดเดือนกว่าแล้ว เธอเงยหน้าขึ้นมองหน้านลินแล้วก็ลูกชายและพอรู้ว่าเกิดอะไรขึ้น

“กี่เดือนแล้วครับ แม่” ขันธ์ถามเพราะเขารู้ว่าแม่รู้คำตอบแล้ว

ขวัญฤดีกำกระดาษในมือแน่น เขาตบหน้าลูกชาย ขณะเดียวกันนลินก็ทรุดลงนั่งกับพื้นแล้วปิดหน้าร้องไห้ “แกทำอะไรของแก หนูลินเป็นคู่หมั้นน้องชายแก แต่แกกลับทำเรื่องเลวทรามต่ำช้าได้ขนาดนี้ แกยังเป็นคนอยู่หรือเปล่า”

ขันธ์นิ่งงันเมื่อรู้ว่าเด็กในท้องนลินเป็นลูกของเขา แม้แม่ไม่บอกแต่เขาก็รู้ว่าอะไรเป็นอะไร “ผมขอโทษครับ ผมไม่ได้ตั้งใจแต่ผมรักลินนะครับ”

ปีเตอร์งงกว่าคนอื่น เขานึกเสียใจที่ไม่เรียนภาษาไทย เขาก็ตะโกนเสียงดัง “นี่มันเรื่องอะไรกัน มีใครบอกหน่อยได้ไหมว่าเกิดอะไรขึ้น”

“ลูกชายคนนี้ของคุณข่มขืนคู่หมั้นน้องชายตัวเองจนท้อง” ขวัญฤดีพูดความจริงอันน่าอัปยศออกมาอย่างยากเย็นแล้วก็มองหญิงสาวที่กำลังนั่งอยู่ที่พื้นแล้วซบเก้าอี้นวมร้องไห้

“อะไรนะ” ปีเตอร์มองคนในห้องแล้วตกใจ เขาโมโหมากจนเดินเข้ามาชกลูกชายจนทรุดไปกับพื้น “เลวมาก”

นลินร้องไห้กับแขนเก้าอี้ เธอก็ไม่คิดเหมือนกันว่าจะต้องเจอกับอะไรแบบนี้ แต่ก็พยายามตั้งสติแล้วปาดน้ำตา เธอเงยหน้าขึ้นแล้วลุกมาเก็บของใช้แล้วพูดราวกับเมื่อครู่ไม่เกิดอะไรขึ้น “หนูหมดธุระแล้วนะคะ ขอตัวกลับก่อนนะคะ”

“เดี๋ยวสิหนูลิน” ขวัญฤดีพยายามรั้งหญิงสาวที่โชคร้าย โดนลูกชายอีกคนของเธอทิ้งไป แล้วยังมาโดนลูกชายคนนี้ทำร้ายอีก

“อย่าค่ะ อย่าทำให้ลินต้องรู้สึกแย่มากไปกว่านี้เลยนะคะ ต่อไปนี้ขอให้เราต่างคนต่างอยู่ แล้วก็ขอร้องอย่าบอกเรื่องนี้กับพ่อแม่ลินนะคะ ลินจะไม่สร้างปัญหาให้กับพวกคุณอีก” นลินตัดสินใจแน่วแน่ เธอหันหลังแล้วมองคนร่างสูงที่นั่งอยู่กับพื้นครู่หนึ่งจากนั้นก็ก้าวเดินต่อ

ขวัญฤดีไม่รู้ว่าจะรั้งหญิงสาวคนนี้ยังไงดี ขณะที่ปีเตอร์กำลังงงว่านลินพูดอะไร เขามองไปมาอย่างไม่รู้ว่าควรทำยังไงดี แต่ตัวปัญหาเวลานี้ก็ค่อยๆ คลานเข้ามายึดข้อเท้าเธอเอาไว้ เขาอ้อนวอนอย่างที่ไม่เคยทำมาก่อนในชีวิต

“พี่ขอร้อง ลินอย่าทิ้งพี่เลยนะ พี่ขอโทษ พี่รักลินนะ อย่าทิ้งพี่เลยนะ พี่ขอร้อง” ขันธ์ทิ้งศักดิ์ศรีทั้งหมดที่เขามี เขาพยายามร้องขออ้อนวอนไม่ให้เธอไปจากเขา และเป็นภาพที่พ่อแม่แทบทนดูไม่ไหว

ขวัญฤดีอธิบายให้สามีฟัง ก่อนปล่อยให้ลูกชายแก้ไขปัญหาที่ก่อเอาไว้เอง ทั้งสองคนเลือกที่จะออกไปจากตรงนั้น เพราะไม่รู้จะช่วยหรือจะด่าลูกชายดี

นลินมองดูเขาก่อนขยับเท้าหนีแต่คงยากเพราะเขาจับยึดไว้แน่นมาก “ปล่อยนะ พี่ขันธ์”

“อย่าทิ้งพี่เลยนะ พี่ผิดไปแล้วให้โอกาสพี่แก้ตัวนะ พี่สัญญาว่าจะไม่ทำให้ลินเสียใจ” ขันธ์ยังคงเฝ้าอ้อนวอนอยู่และไม่ยอมปล่อยมือจากข้อเท้าเธอง่ายๆ

“คำสัญญาจอมปลอมอีกแล้วเหรอคะ ไม่รู้ว่าทำไมผู้ชายถึงชอบให้คำสัญญาจอมปลอมแล้วคิดว่าผู้หญิงทุกคนจะเชื่อ ลินยังไม่ลืมสัญญาจอมปลอมของพี่เขตต์หรอกนะคะ ชีวิตจริงมันไม่เหมือนในนิยายหรอกค่ะ ผู้หญิงอย่างลินไม่โง่ซ้ำแล้วซ้ำอีกหรอก” นลินพยายามชักขาหนีแต่ก็ไม่อยากดึงแรง เพราะเธอไม่อยากล้มลงแล้วทำร้ายตัวเองและชีวิตใหม่

“พี่ไม่เคยให้สัญญากับผู้หญิงคนไหนเลยในชีวิต แต่พี่ให้ลินนะ ขอแค่ลินให้โอกาสพี่พิสูจน์คำพูดของพี่เท่านั้น พี่ขอร้องนะ พี่ไม่เคยขอร้องใคร พี่ขอร้องลินนะ พี่ยอมไม่มีศักดิ์ศรี พี่ยอมทุกอย่าง ขอแค่ให้ลินอยู่กับพี่ ขอแค่นั้นจริงๆ” ขันธ์ยอมลดทุกอย่างที่เขามี ยอมลดสิ่งที่เขาเรียกว่า ‘ศักดิ์ศรี’ แล้วนอนลงแทบเท้าเพื่อขอร้องผู้หญิงที่เขารักมากที่สุด

“พี่ยอมขนาดนี้เพราะลินมีลูกกับพี่เหรอคะ” นลินเหนื่อยที่จะยืน เธอนั่งชันเข่าอย่างหมดแรง

“พี่ก็บอกแล้วไงว่า ถึงเด็กในท้องลินไม่ใช่ลูกพี่ ขอเพียงเป็นลูกลิน พี่จะถือว่าเป็นลูกพี่ ขอร้องนะ ขอให้ลินอยู่กับพี่” ขันธ์ลุกขึ้นนั่ง แล้วเอื้อมมือไปแตะที่เข่าเธอ แต่นลินเบือนหน้าหนีและยังโกรธเขาเรื่องที่เขาทำกับเธอ

ขันธ์ได้โอกาสจึงโอบกอดเธอเอาไว้ ก่อนพูดความในใจที่เขาเก็บมานาน “พี่คิดถึงลินนะ พี่รักลินเหลือเกิน...เกินกว่าที่พี่คิดเอาไว้”

นลินไม่ตอบคำ เธอเหนื่อยใจกับเขา...กับคู่แฝดเขา กับทุกอย่างที่เกี่ยวข้องกับพวกเขา ตอนนี้เธอนึกอะไรไม่ออก เธอปวดหัวเกินกว่าจะบังคับตัวเองให้ออกไปจากอ้อมกอดเขา

ขันธ์ซบลงที่ไหล่เธออย่างโล่งใจ เขารู้สึกว่าเธอกำลังสะอื้นไห้ จึงจูบที่เรือนผมเธอเบาๆ “พี่ผิดไปแล้วให้โอกาสพี่แก้ตัวนะ ให้โอกาสพี่ได้ดูแลลินกับลูก พี่จะมีแต่ลินเท่านั้น”

นลินรู้แต่ว่าระหว่างเขากับเธอยังมีเรื่องยุ่งยากอีกมากมายนัก เธอไม่แน่ใจว่าจะแก้ไขปัญหานี้ยังไงดี แล้วไม่รู้จะพูดกับพ่อแม่เธอยังไงดี เธอยกมือขึ้นลูบหน้าดูเหมือนปัญหาจะแก้ไม่ได้ง่ายๆ อย่างที่เธอคิด

“ลินพูดกับพี่สักคำนะ” ขันธ์ดึงเธอมาซบไหล่เขาและเธอก็ทำตามง่ายๆ เพราะเหนื่อยเกินไป

นลินถอนหายใจยาวก่อนพูดขึ้น “ลินไม่รู้จะพูดอะไรอีกแล้ว ทำไมพวกพี่ถึงได้ชอบตื้อเหมือนกันแบบนี้นะ ทีเรื่องอื่นไม่เห็นเหมือนกันเลย”

ขันธ์ยิ้มแล้วดึงเธอมาจูบที่หน้าผาก แค่คำพูดสั้นๆ ก็เพียงพอแล้วสำหรับเขา

“พาลินกลับบ้านได้ไหมคะ ลินขับรถไม่ไหว” นลินไม่อยากพูดอะไรมาก เธอเหนื่อยที่จะคิด ตั้งแต่รู้จักคู่แฝดคู่นี้เธอก็รู้สึกว่าชีวิตสับสนอลหม่านไปหมด

“ขึ้นไปพักข้างบนก่อนไหม เดี๋ยวพี่ขับรถไปส่งก็ได้” ขันธ์เริ่มเป็นห่วงเธอกับลูก เพราะดูเธอเหนื่อยมาก แล้วเขาไม่รอให้เธอปฏิเสธ เขาอุ้มเธอขึ้นไปห้องนอนเขาแล้วนอนข้างๆ เธอโอบกอดเอาไว้ ไม่ยอมให้เธอไล่ออกจากห้อง

“พี่ทำไมชอบเผด็จการอยู่เรื่อย” นลินบ่นอย่างไม่จริงจังนัก

“ก็เพราะลินดื้อไง ตอนนี้ลินต้องห่วงสองชีวิตแล้วนะ ไม่สิพี่อีกคนก็เป็นสามชีวิต” ขันธ์พูดอย่างสบายใจ

เขาไม่สนใจว่าคนอื่นจะพูดว่าเขายังไง เขารู้แต่ว่าเขาต้องการนลิน แล้วน้องชายเขาก็ละทิ้งเธอไปมีคนใหม่ก่อน ถึงจะยังต้องการและหวงนลินอยู่ ซึ่งเขารู้ดี แต่ตอนนี้เขามีโอกาสได้ครอบครองเธอ เพราะอย่างนั้นเขาก็ไม่คิดปล่อยเธอไปให้ใครอีกแล้ว

***************************************


เมื่อเธอหลับ เขาจึงออกมาจากห้อง สุขภาพเธอน่าเป็นห่วงกว่าที่เห็นคงเพราะเธอเครียดมาก แล้วเขาก็เจอพ่อแม่ที่กำลังยืนรอเขาอยู่เพื่อถามความจริงจากเขา

“ไปที่ห้องทำงานดีกว่าไหมครับ” ขันธ์พูดคุยกับพ่อแม่เขาให้เข้าใจ

เมื่อเข้าไปในห้องพ่อเขาก็นั่งลงที่หลังโต๊ะ ส่วนแม่เขากอดอกและยืนอยู่ใกล้หน้าต่าง แต่ละคนกำลังสับสนปนโกรธที่ลูกชายแต่ละคนสร้างปัญหาคนละอย่างให้กับผู้หญิงคนเดียวกัน

“นี่ใช่ไหมที่ลูกบ้าคลั่งตามหาลินมาตลอดเกือบสองเดือน ตอนแรกแม่ก็เข้าใจว่าเพราะดีนส์ แต่นี่มันมากเกินไปแล้วนะ” ขวัญฤดีทบทวนเรื่องราวใหม่จนเข้าใจพฤติกรรมของลูกชายไม่ยากนัก

“แพทริกซ์ ลูกรู้ไหมว่าดีนส์ก็กำลังร้อนใจตามหาลินเหมือนกัน แล้วลูกจะบอกน้องยังไง” ปีเตอร์ถามคำถามเข้าประเด็นมากที่สุด ตอนนี้คนที่น่าเป็นห่วงมีสองคน คนหนึ่งก็คือลูกชายคนที่อยู่นิวยอร์ก และอีกคนก็คือหญิงสาวที่กำลังอุ้มท้องหลานของพวกเขา

“ผมไม่รู้ครับ ทุกอย่างมันเกิดขึ้นเอง ผมยอมรับว่าผมไม่มีความรับผิดชอบแต่ผมจะคุยกับดีนส์เองครับ” ขันธ์รู้ว่าเขาคงขอให้คนอื่นพูดกับน้องชายแทนไม่ได้ เพราะเป็นเรื่องที่เขาก่อขึ้น

“ลูกต้องคุยกับน้องทันทีที่นั่นเช้าแล้ว และต้องรับผิดชอบต่อลินด้วยการแต่งงานกับเธอซะ” ปีเตอร์สรุปสุดท้าย เขาส่ายหน้าและไม่คิดว่าลูกชายแต่ละคนของเขาจะเหลวไหลได้มากเพียงนี้

ก่อนที่ขันธ์จะดีใจที่พ่อสรุปแบบนั้น ขวัญฤดีก็ขัดขึ้นมา “เดี๋ยวก่อนเรื่องแต่งงานเดี๋ยวค่อยว่ากัน ไว้คุยกับลินก่อน แม่ว่าถามลินก่อนดีกว่าไม่รู้ว่าลินจะเอายังไง เพราะถ้าลินอยากแต่งงานกับแพทริกซ์ คงไม่เลือกเก็บเรื่องลูกเอาไว้เงียบๆ เท่าที่รู้นิสัยลิน แม่ว่าถามเขาก่อนดีกว่า”

ขันธ์ทบทวนแล้วก็เห็นด้วยกับแม่ “จริงด้วยครับแม่”

“งั้นลูกต้องทำยังไงก็ได้ให้เธอยอมตกลง แล้วอย่าสร้างปัญหาอีก” ปีเตอร์ส่ายหน้ากับปัญหาที่ลูกๆ หามาให้ หลายครั้งหลายหนที่เขาเจอกับปัญหาธุรกิจแต่แก้ปัญหาได้ทุกครั้ง พอเป็นเรื่องของลูกชายสองคน...เขาก็ต้องจนปัญญา

ขวัญฤดีมองตามลูกชายเดินออกไปจากห้องแล้วก็ต้องถอนหายใจยาว ก่อนวางมือบนไหล่สามีที่กำลังหงุดหงิดเพราะลูกฝาแฝดทั้งสองคน

***************************************


เขาหยิบซองยาที่เขาอ่านไม่ออกและกระเป๋าถือของเธอเข้ามาในห้อง มองเธอกำลังนอนหลับพักผ่อนจากความตึงเครียดที่พึ่งผ่านไป เขาหวังให้เธอยอมแต่งงานกับเขา แต่เท่าที่รู้มาจากน้องชายเขา เธอไม่ใช่คนจะยอมอะไรง่ายๆ ถ้าไม่มีเหตุผลเพียงพอ

ขันธ์รู้ว่าเขาเห็นแก่ตัวที่ยึดเธอเอาไว้คนเดียว โอกาสมาถึงเขาแล้วเขามีลูกเป็นเครื่องต่อรองกับน้องชาย แต่ก็ยังไม่แน่ใจว่าเขาจะหักใจทำร้ายน้องชายเขาได้หรือเปล่า...แต่เขาต้องลองดู เพราะน้องชายเขาก็ปล่อยให้เขามีโอกาสได้อยู่ใกล้เธอเอง

เขานอนลงกอดเธอเอาไว้ในอ้อมกอดอย่างทะนุถนอม ในชีวิตเขาไม่เคยเจอผู้หญิงคนไหนใจแข็งและเด็ดขาดเท่าเธอ ขณะเดียวกันก็ใจอ่อนไร้เหตุผลอย่างไม่น่าเชื่อ เพียงแต่บอกไม่ได้ว่าเวลาไหนที่จะเธอจะเป็นแบบไหน...

เสียงเคาะประตูในขึ้นในช่วงเย็น ทำให้ร่างในอ้อมกอดเขาพลิกตัวเล็กน้อย ขันธ์ตื่นขึ้นและมองแสงไฟที่ลอดเข้ามาในห้อง เขามองแม่ก่อนลุกขึ้นแล้วเดินตามออกไปนอกห้อง

“แม่ว่าถึงเวลาที่ลูกต้องคุยกับดีนส์แล้วนะ” ขวัญฤดีคุยกับลูกชายต่อหน้าสามีก่อนส่งโทรศัพท์ให้

ขันธ์รับคำก่อนต่อสายคุยกับน้องชาย “ดีนส์เหรอ”

“อือ” เขตต์ตอบกลับมา ขณะขับรถไปรับฟรานซิสที่สนามบิน

“นายขับรถเหรอ จอดรถก่อนค่อยคุย” ขันธ์พยายามใจเย็นแล้วต่อรอง

“ไม่ล่ะ มีอะไรก็ว่ามาเลย” เขตต์ไม่สนใจ

เพราะช่วงหลังนับตั้งแต่นลินหายไป เขาก็เลิกคุยดีกับพี่ชายมานานมากแล้ว เพราะทุกทีไม่อีกฝ่ายใส่อารมณ์ อีกฝ่ายก็ต้องใส่อารมณ์ ตอนนี้เขาเพียงยึดคนที่ทำให้เขาสบายใจได้...นั่นก็คือฟรานซิสเท่านั้น

“ฉันเจอลินแล้ว แต่มีเรื่องหนึ่งที่ฉันไม่ได้บอกนายตั้งแต่ลินหายไป นายแน่ใจนะว่าไม่อยากจอดรถก่อน” ขันธ์ถามย้ำเพื่อให้แน่ใจว่าน้องชายจะไม่เจออุบัติเหตุ

“ไม่ นายบอกมาซะที บอกมาเดี๋ยวนี้” เขตต์หัวเสียมากขึ้นทั้งที่ตอนแรกดีใจที่ลินกลับมา

ขันธ์ได้ยินน้องชายตะคอกก็พยายามกล่อมให้น้องชายจอดรถ “นายจอดรถก่อนดีกว่านะ”

“บอกให้บอกมาไง” เขตต์โมโหมากขึ้น แล้วจอดรถบนเนินพร้อมใส่เบรกมือ “จอดแล้วก็บอกมาซะที”

ขันธ์รู้อย่างนั้นก็ใจเย็นขึ้น “เหตุผลที่ลินหายก็คือ ฉันมีอะไรกับลินแล้วตอนนี้ลินก็กำลังท้องกับฉัน”

เขตต์มือสั่นเมื่อได้ยิน เขาตะโกนเสียงดัง “อะไรนะ” ก่อนทำมือถือหล่น เขาก้มลงเก็บแต่กลับมีรถมาชนท้ายเขาแล้วทำให้เขาเผลอปลดเบรกมือ แล้วรถก็ไหลลงเนิน ก่อนถูกชนเข้าอย่างจังทำให้สัญญาณเสียงขาดหายไป

“ดีนส์” ขันธ์ได้ยินเสียงโครมทำให้เขาตกใจ

“เกิดอะไรขึ้น แพทริกซ์” ขวัญฤดีมองสีหน้าลูกชายที่กำลังตื่นตระหนก

“ดีนส์ครับ แม่ ผมได้ยินเสียงเหมือนรถชน ดีนส์รถชน” ขันธ์ตกใจมาก และพอมองเข้าไปในห้องเห็นลินตื่นแล้วก็ได้ยินพอดี เขาสบตาเธอแต่กลับไม่เห็นท่าทางตกใจจากเธอ

ขวัญฤดีตกใจจนแทบล้มทั้งยืน ปีเตอร์ต้องเข้ามาพยุงภรรยา ก่อนพาเข้าไปพักในห้องนอน

“ลิน เขตต์ขับรถชน” ขันธ์ค่อนข้างแน่ใจว่าเกิดอะไรขึ้นกับน้องชายเขา

“ค่ะ ลินได้ยินแล้วค่ะ” นลินกลับเฉยชากับข่าวที่ได้ยิน ก่อนปลอบขันธ์ “พี่ขันธ์เข้าไปดูแลแม่ดีกว่านะคะ เดี๋ยวลินขอตัวกลับบ้านก่อนนะคะ”

ขันธ์เห็นท่าทางเฉยชาของเธอแล้วนิ่งงัน เธอดูเหมือนจะเป็นห่วงแม่เขามากกว่าเขตต์น้องชายเขาเสียอีก หากเขาทำอะไรไม่ถูก นอกจากเดินไปส่งเธอที่หน้าบ้าน “พรุ่งนี้พี่ไปหานะ”

“ค่ะ” นลินนั่งที่ด้านคนขับ ก่อนเงยหน้าขึ้นมองเขาอีกครั้ง “ทำใจดีๆ นะคะ พี่เขตต์คงไม่เป็นอะไรมากหรอกค่ะ”

ขันธ์ขมวดคิ้วนิ่งงัน ยิ่งมองรถเธอเคลื่อนออกไป เขายิ่งไม่เข้าใจเธอมากขึ้นเรื่อยๆ หรือเธอไม่รู้สึกผูกพันกับน้องชายเขาสักนิด แม้ได้ยินข่าว เธอก็ทำเหมือนได้ยินข่าวของคนแปลกหน้า เขายอมรับว่าตามเธอไม่ทัน

***************************************


เสียงถอนหายใจดังขึ้น เมื่อขันธ์บอกข่าวกับเธอเรื่องที่เขตต์เกิดอุบัติเหตุจนต้องเข้าโรงพยาบาล เขาและพ่อแม่กำลังวางแผนจะเดินทางไปดูอาการเขา ขันธ์กำลังถามนลินว่าเธอต้องการไปด้วยไหม

“ลินไม่ไปได้ไหมคะ” นลินต่อรอง

เธอไม่มีอารมณ์จะไปเจอหน้าเขตต์ในสถานการณ์แบบนี้ ที่เธอต้องตัดสินใจว่าจะเอายังไงระหว่างอยู่กับขันธ์หรือไปจากขันธ์ การที่เธอยอมอ่อนลงเมื่อวันก่อนก็ไม่ได้หมายความว่าจะเธอจะยอมไปอยู่กับขันธ์ เธอแค่เหนื่อยเกินกว่าจะตัดสินใจมากกว่า

“ไปเถอะ ลิน พี่อยากให้ลินไปกับพี่นะ พี่ไม่อยากให้ลินอยู่ที่นี่ พี่รู้นะ ถ้าลินอยู่ที่นี่ ลินก็จะหาเรื่องพาลูกไปจากพี่อีก พี่ขอร้องนะ ไปกับพี่นะ” ขันธ์พูดดักคอ

“แต่ลินไม่อยากเจอพี่เขตต์ อีกอย่าง ลินไม่อยากไปอยู่ที่ที่ลินไม่คุ้น ลินอยู่ที่นี่ ลินสบายใจกว่านะคะ” นลินอธิบาย และยอมรับว่าสิ่งที่เขาพูดถูกต้องทุกอย่าง

“อืม ลินยังไม่ต้องตัดสินใจเรื่องจะแต่งงานกับพี่หรือไม่ก็ได้นะ แต่อยากให้ลินลองใช้ชีวิตอยู่กับพี่ แล้วให้โอกาสพี่ได้ดูแลลินกับลูกนะ ลินไม่ต้องไปเยี่ยมเขตต์ก็ได้ ถ้าลินไม่ต้องการ” ขันธ์เข้าใจเธอแต่ก็พยายามเกลี่ยกล่อมให้เธอยอมไปกับเขา

นลินครุ่นคิดก่อนตอบตกลง “ก็ได้ค่ะ ว่าแต่พี่เขตต์เป็นไงบ้างคะ”

ขันธ์ยิ้มออกเมื่อเธอตอบตกลงและยอมถามถึงอาการของน้องชายเขา “ก็ปลอดภัยแล้วล่ะ แต่ขาขวากับแขนขวาหัก หมอบอกว่าถ้าสมองไม่บวมก็ไม่มีอะไรน่าเป็นห่วง เพราะแขนขาก็ทำกายภาพบำบัดได้”

“อ๋อค่ะ แล้วลินต้องไปวันไหนคะ” นลินถามขึ้น

“ลินมีพาสปอร์ตไหม เดี๋ยวพี่ทำเรื่องขอให้ลินไปก็ไปได้เลยล่ะ” ขันธ์เดาใจเธอไม่ถูก แต่คิดว่าเธอน่าจะยอมอ่อนลงบ้าง แต่เรื่องระหว่างเธอกับพวกเขายังเป็นเรื่องน่าหนักใจ ถึงเขาจะรู้สึกว่าเขามีภาษีดีกว่าน้องชายก็ตาม

นลินไม่ใช่คนที่จะกะเกณฑ์ให้เธอทำอะไรตามใจได้หมด...

นลินเฉยชากับเขตต์มากขึ้นเรื่อยๆ แล้วปล่อยให้เป็นเรื่องของอนาคต ตอนนี้เธอไม่คิดอะไรทั้งนั้นและยังไม่อธิบายให้พ่อแม่ฟัง เธอบอกแต่เพียงว่าเขตต์เกิดอุบัติเหตุ ครอบครัวเนลสันอยากชวนเธอไปดูอาการ และเธอก็ตอบตกลงไปด้วยก็เท่านั้นเอง

***************************************


ในห้องพักคนป่วยเข้าวันที่เจ็ดแล้วที่เขตต์ต้องนอนนิ่งแล้วดูทุกอย่างอยู่บนเตียง เขาเซ็งและหงุดหงิดที่ไปไหนไม่ได้ ขณะที่ฟรานซิสมาเฝ้าไข้เขาได้แค่บางช่วงเท่านั้น ส่วนครอบครัวเขาคาดว่าคงมาถึงในวันนี้

“เป็นไงบ้างคะ” ฟรานซิสเข้ามาเยี่ยม

เธอเข้าไปหอมแก้มเขาเบาๆ เป็นการปลอบใจและนั่งพูดคุยเป็นเพื่อนเขา จนกระทั่งไมค์มาเยี่ยมอีก แต่เขามาพร้อมครอบครัวของเขตต์

“ไง พาพ่อแม่นายมาด้วยแล้วล่ะ” ไมค์พูดพร้อมเชิญพ่อแม่เพื่อนเข้ามา

ปีเตอร์ดูสภาพลูกชายแล้วก็ส่ายหน้า เป็นห่วงก็ห่วงแต่หมอบอกว่าปลอดภัยแล้ว เหลือแต่ให้แผลผสานตัวแล้วค่อยทำกายภาพก็สบายใจ “ดีขึ้นไหม”

“ครับพ่อ” เขตต์กอดรับแม่อย่างยากลำบากก่อนตอบพ่อเขา

“ดีแล้วล่ะ ไว้หายดีแล้วค่อยคุยกัน” ขวัญฤดียังไม่อยากคุยเรื่องปัญหาในครอบครัวเวลานี้

ขันธ์ยืนรออยู่นอกห้อง ก่อนตัดสินใจเดินเข้ามา แล้วก็เป็นอย่างที่เขาคิด เพราะสายตาที่คู่แฝดมองเขานั้นเกลียดชังมากกว่า “เป็นไงบ้าง ดีนส์”

ไมค์เห็นบรรยากาศในห้องเปลี่ยนไปก็รู้สึกแปลกๆ ขณะที่ฟรานซิสก็พอรู้บ้างว่าพี่น้องทะเลาะกัน แต่ไม่รู้ว่าเรื่องอะไร

“ยังไม่ตายอย่างที่นายอยากให้เป็น” เขตต์ประชดคู่แฝดแล้วหันหน้าไปอีกทาง

“พี่น้องกัน คุยกันดีๆ ก็ได้นะ” ปีเตอร์ออกปากปรามลูกชาย

“ไม่เป็นไรครับ พ่อ ดีนส์อารมณ์ไม่ดี งั้นผมกลับก่อนนะครับ” ขันธ์ขอตัวทุกคน “บายบายไมค์ ฟรานซิส”

“ก็ดีเหมือนกัน พาลินไปหาหมอหน่อยนะ เห็นสีหน้าไม่ค่อยดีเลย” ปีเตอร์เผลอพูดกับลูกชายอีกคน เพราะเป็นห่วงนลินกับหลานในท้องที่กำลังรออยู่ในรถ

“ลินมาที่นี่เหรอ ผมอยากเจอลิน บอกให้ลินมาหาผมหน่อยได้ไหม” เขตต์หน้าตาตื่นเมื่อรู้ว่านลินมาที่นี่

เขาไม่สนใจว่าฟรานซิสจะอยู่ที่นี่ด้วยหรือไม่ เขาอยากจะพบนลินเท่านั้น

“ไว้วันหลังดีกว่านะ ดีนส์ ไว้นายอารมณ์ดีกว่านี้” ขันธ์ไม่กล้าบอกน้องชายว่านลินไม่ต้องการพบเขา

“อารมณ์ดี วันไหนดีล่ะ ไม่ใช่เพราะนายเหรอ นายต้องการแย่งลินไปจากฉัน นายทำให้ลินไปจากฉัน” เขตต์ลืมตัวโวยวายเป็นภาษาไทย ทำให้คนในห้องไม่เข้าใจ นอกจากพี่ชายฝาแฝดกับแม่เขาเท่านั้น

“นายมาโทษฉันงั้นเหรอ ถ้าไม่ใช่เพราะนายมีคนอื่นแล้วลินจะไปจากนายเหรอ” ขันธ์ชักอารมณ์เสียก็พูดออกมาตรงๆ

“พวกนายรวมหัวกันปั่นหัวฉันใช่ไหม นายกับลินก็ชั่วพอกันนั่นแหละ” เขตต์โมโหเมื่อนึกถึงว่านลินเปลี่ยนใจจากเขาไปหาคู่แฝดเขา

“ไอ้เลวเอ๊ย” ขันธ์โมโหมาจนหยุดไม่อยู่ เขาเดินเข้าไปจะชกหน้าคู่แฝดที่กำลังนอนป่วย แต่ไมค์รีบรั้งเพื่อนออกมาก่อนจะมีเรื่องมากไปกว่านี้

ปีเตอร์งงกับท่าทางลูกชาย แต่ก็พอเดาได้ว่าทั้งสองคนทะเลาะกัน เขาเดินมาปลอบฟรานซิสแล้วพาเธอออกไปจากห้อง ขณะเดียวกันขวัญฤดีก็นึกผิดหวังที่ลูกชายคนที่นอนอยู่มีมุมมองคับแคบ

“เขตต์ แม่ไม่คิดเลยนะว่าเขตต์จะพูดแบบนั้นออกมา ถึงขันธ์จะทำไม่ดีแต่ขันธ์ก็ไม่พูดจาดูถูกผู้หญิงแบบนี้ แม่บอกได้แต่ว่าลินไม่เกี่ยวกับเรื่องนี้เลย ขันธ์ขืนใจลินทำให้ลินหนีไปแต่ลินท้อง แม่เสียใจที่ดึงลินเข้ามาทั้งที่ลินน่าจะไปจากทุกคนตั้งนานแล้ว” ขวัญฤดีพูดด้วยความผิดหวัง เธอเดินไปนั่งที่โซฟาแล้วนิ่งเงียบไม่มีคำพูดใดอีก

“ผมขอโทษครับ” เขตต์หันไปมองนอกหน้าต่าง

“คนที่เขตต์ควรขอโทษคงไม่ใช่แม่หรอก แต่เป็นลิน” ขวัญฤดีไม่สนใจลูกชายอีก เธอหยิบหนังสือขึ้นมาอ่านแล้วไม่พูดอะไรอีก

เขตต์สำนึกเสียใจที่เขาพูดสิ่งที่ไม่ดีออกไป แต่เขาคงไม่มีโอกาสได้พูดขอโทษเธอต่อหน้าในเวลานี้แน่นอน

***************************************


ในอพาร์ทเมนใหม่ที่ขันธ์ซื้อ เพื่อให้นลินได้อยู่ห่างจากเขตต์ตามที่เจ้าตัวต้องการ ที่นี่กำลังเต็มไปด้วยความอึดอัด เมื่อขันธ์กำลังขอร้องให้นลินไปเยี่ยมเขตต์ที่บ้านเนลสัน เพราะน้องชายเขาไม่ยอมทำกายภาพ

“ไม่ค่ะ ทำไมลินต้องไปด้วย ไหนพี่บอกว่าลินไม่ต้องไปก็ได้ถ้าลินไม่อยากไปไงคะ” นลินส่ายหน้าไม่ยอมทำตามที่เขาร้องขอเพราะไม่เห็นความจำเป็น

“ลินใจเย็นๆ ก่อนนะ คือ เขตต์เขาอยากเจอลิน ไม่งั้นเขาก็ไม่ทำกายภาพบำบัดน่ะ พ่อแม่พี่ช่วยกันกล่อมแล้วเขาไม่ยอมท่าเดียว พี่ขอร้องล่ะนะ ลินไปดูเขตต์แปบเดียวก็ได้ ไม่อยากคุยก็ไม่ต้องคุยก็ได้ ไม่งั้นแม่พี่คงจะมาคุยกับลินเองนะ” ขันธ์รู้ว่านลินเกรงใจพ่อแม่เขามาก แต่ก็เป็นความจริงที่ว่าขวัญฤดีจะมาพูดกับเธอเอง ถ้าเขาไม่สามารถเกลี่ยกล่อมได้

นลินลังเลอยู่ครู่หนึ่งก่อนตอบตกลง “ก็ได้ค่ะ แต่แค่ไปเจอแล้วกลับนะคะ ไม่มีอะไรมากไปกว่านั้น”

“จ๊ะ” ขันธ์รีบรับคำก่อนเธอเปลี่ยนใจ

ขอแค่เธอยอมไปพบ เขาก็ถือว่าทำสำเร็จแล้วแต่ก็คิดไม่ออกเหมือนกันว่า น้องชายเขาจะพูดอะไรกับเธอหรือต่อรองกับเธอ

ที่สำคัญ เขาไม่แน่ใจว่าจะเกิดอะไรขึ้นระหว่างเขา เธอและคู่แฝดเขา...

นลินนิ่งเงียบตลอดทาง เธอไม่คุยกับเขาด้วยซ้ำ…

“ลินยังแพ้อยู่หรือเปล่า ไปหาหมอแล้วค่อยยังชั่วไหม” ขันธ์ถามขึ้นทำลายความเงียบที่แสนอึดอัด

“ดีขึ้นมากแล้วค่ะ แต่หมอบอกว่าคงแพ้ไปอีกเดือนสองเดือน” นลินรู้ว่าต้องติดอยู่กับเขาไปอีกพักใหญ่ แต่เธอยังไม่คิดเรื่องแต่งงานกับเขาเวลานี้ เธอไม่แน่ใจว่าจะอยู่กับเขาได้อีกนานแค่ไหน

ขันธ์ชวนเธอคุยเรื่องลูก จนกระทั่งถึงบ้านหลังใหญ่ของเขาและครอบครัว เขาขับเข้าไปด้านในแล้วโอบไหล่พาเธอเข้าบ้าน เขานึกหวงเธอเหมือนกันที่คู่แฝดเขายังรักเธออยู่

“เขตต์ไม่มีคนดูแลน่ะ เลยต้องมาอยู่บ้านพ่อแม่ ฟรานซิสทำงานแล้วต้องเดินทางบ่อย” ขันธ์เล่าให้ฟังคร่าวๆ

“ค่ะ” นลินไม่มีท่าทีโกรธเหมือนตอนแรก

เธอแค่ไม่ชอบที่โดนบังคับให้ทำโน้นทำนี่ก็เท่านั้นเอง และพอเข้ามาในห้องก็เห็นเขตต์กำลังนั่งบนรถเข็น ใส่เฝือกที่แขนกับขา ส่วนเขตต์ก็กำลังมองเธอ เธอสบตาเขาอย่างเย็นชา แล้วก็ยกมือไหว้ผู้ใหญ่ที่อยู่ในห้อง

“ลิน” เขตต์เรียกชื่อเธอ

“ลินกลับได้หรือยังคะ พี่ขันธ์” นลินทวงถามสัญญาจากขันธ์ ขณะที่เขาทำหน้าอึดอัด เพราะเธอไม่ยอมคุยกับน้องเขาสักคำ

“ถ้ามาแค่นี้แล้วลินมาทำไม” เขตต์ที่หงุดหงิด เพราะทำอะไรอย่างที่ใจคิดไม่ได้ก็โวยวายใส่ทันที

“มาดูคนขี้แพ้ไง” นลินพูดจบก็ออกไปจากห้องโดยไม่มองกลับมาเลยสักนิด

“เดี๋ยวสิ ลิน” ขันธ์เดินตามเธอไป แต่เห็นเธอหยุดคุยกับไมค์

นลินชะงักเท้าเมื่อเจอไมค์อีกครั้ง เธอถอนหายใจยาวขณะที่ขันธ์พยายามบอกให้เพื่อน พานลินไปสงบสติอารมณ์แล้วกลับเข้าไปในห้อง

เขามองหน้าน้องชายที่คอยฟาดหัวฟาดหางกับทุกคนแล้วพูด “ถ้านายยังไม่ทำตัวงี่เง่าอีกล่ะก็ นายก็คงเป็นอย่างที่ลินพูดจริงๆ นั่นแหละ ขนาดตัวนายเองยังดูแลตัวเองไม่ได้เลย จะไปดูแลคนอื่นได้ยังไง ดีแล้วล่ะที่ลินไม่คิดจะอยู่กับนาย เพราะนายมันเป็นอย่างงี้ไงล่ะ”

“ใช่สิ นายจะบอกว่าลินรักนายล่ะสิ ไม่ต้องบอกฉันก็ดูออกหรอกน่า” เขตต์ได้สติบ้างแต่ก็ยังไม่ยอมแพ้

“รักเหรอ ลินไม่รักใครหรอก แม้แต่ฉัน นายคิดว่าลินรักฉันเหรอ ถ้าลินรักฉันละก็ ลินคงไม่ไปจากฉันง่ายๆ หรอก นายน่าจะคิดให้ดีก่อนจะพูดอะไร การที่ลินยอมมาที่นี่ก็เพราะลินยังเป็นห่วงนาย ถ้านายคิดว่าลินเกลียดนาย ลินคงไม่มาเหยียบที่นี่ให้เสียเวลาหรอก” ขันธ์อธิบายและปลอบน้องชายในเวลาเดียวกัน

เขตต์นิ่งงันแล้วคิดทบทวนก่อนยื่นข้อเสนอ “ฉันจะทำกายภาพบำบัดก็ได้ แต่ลินต้องมาอยู่ที่นี่”

ขวัญฤดีส่ายหน้ากับความเอาแต่ใจของลูกชาย เธอทนไม่ไหวแล้วลุกออกไปจากห้องพร้อมสามี

“แม่ครับ” ขันธ์รู้ว่าสิ่งที่น้องชายขอมากไป และคงมีแม่คนเดียวเท่านั้นที่สามารถเกลี่ยกล่อมนลินได้

“คุยกันเอง ถ้าลินยอม แม่ก็จะอนุโมทนาสาธุให้ แต่แม่ไม่ออกหน้าให้หรอกนะ แค่นี้แม่ก็เสียผู้ใหญ่มากพอแล้ว” เธอตอบก่อนอธิบายเป็นภาษาอังกฤษให้สามีฟัง

เขตต์นั่งนิ่งอยู่บนรถเข็น เขาไม่รู้ว่าเธอจะยอมไหม แต่ตอนนี้เขานึกเสียใจในสิ่งที่ตัวทำลงไป ก่อนที่นลินจะอุ้มท้องหลานของเขา ส่วนขันธ์รู้สึกผิดกับน้องชาย เขารักน้องมากพอที่จะยอมให้นลินมาดูแลน้องชาย และเพราะเขาทำผิดกับนลินด้วย

“ฉันจะคุยให้ลินมาอยู่ที่นี่ก็ได้ แต่เรื่องระหว่างเราสามคนก็คงต้องแล้วแต่ลิน เพราะฉันจะไม่ยอมแพ้เหมือนกัน” ขันธ์ยอมได้แค่นี้ เขาออกไปจากห้องอีกคนแล้วรู้ว่าเธออยู่ในสวนกับเพื่อนเขา



***************************************

ขอบคุณทุกคำอวยพรนะคะ
โดนกระแสจิตจากผู้อ่านจึงรีบมาโพส
ตอนแรกกะจะปั่นสักตอนแล้วค่อยโพสตอนใหม่
^^ อิอิ คิดถึงกำลังใจจากคนอ่านด้วยค่ะ
ก็เลยมาโพส

คุณ หมู --- ขอบคุณค่ะ ^^

คุณ CaspeR GhosT --- อ่ะ อย่างนี้ต้องอวยพรย้อนหลังค่ะ อิอิ

คลิกๆๆ รูปสวยๆน่ารักๆไว้ส่งต่อเพียบ...

ป.ล. ตอนจบมี 3 เวอชั่นค่ะ 555+ เดี๋ยวคอยดูนะคะ


Create Date : 25 สิงหาคม 2552
Last Update : 25 สิงหาคม 2552 10:11:18 น. 4 comments
Counter : 429 Pageviews.

 
โอ๊ยยยยยยยยยยยยย ติดงอมแงมเลยค่ะคุณเพลิงวารี สนุกมาก ไม่อยากให้มีตอนจบเลย อยากอ่านไปเรื่อยๆๆๆ แต่ตอนจบมี 3 เวอร์ชั่นนี่น่าสนใจแฮะ มาต่อตอนต่อไปเร็วๆนะคะ


โดย: CaspeR GhosT IP: 123.243.8.121 วันที่: 25 สิงหาคม 2552 เวลา:14:49:16 น.  

 
ลืมบอกว่า เชื่อไหมค่ะคุณเพลิงวารี ว่า CaspeR GhosT อ่ะ มองหาเรื่องของคุณเพลิงวารีเป็นเรื่องแรกเลยเวลาเข้า pantip ประมาณว่ามาต่อยังน๊า หุหุ


โดย: CaspeR GhosT IP: 123.243.8.121 วันที่: 25 สิงหาคม 2552 เวลา:14:51:10 น.  

 
ให้อ่านทั้งสามเวอร์ชันเลยหรือเปล่าคะ อยากอ่านมากๆๆ


โดย: mimny IP: 117.47.4.160 วันที่: 25 สิงหาคม 2552 เวลา:15:36:55 น.  

 
อาการเดียวกันเลยค่ะ คุณcasper เมื่อก่อนเปิดเน็ตแล้วเข้าเด็กดีก่อน แต่เดี๋ยวนี้เข้าเว็บสิรินดา5เวลาก่อนอาหาร ออกแนว ติดงอมแงม


โดย: fiona IP: 203.171.199.128 วันที่: 26 สิงหาคม 2552 เวลา:18:23:26 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 
 

เพลิงวารี
Location :
นนทบุรี Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 3 คน [?]




ไหดองเหล็กไหล
New Comments
[Add เพลิงวารี's blog to your web]

 
pantip.com pantipmarket.com pantown.com
pantip.com pantipmarket.com pantown.com