เพลิงวารี & คชสีห์ ฿ Babylonia
<<
สิงหาคม 2552
 1
2345678
9101112131415
16171819202122
23242526272829
3031 
 
11 สิงหาคม 2552
 
 
เราสามคน...หนทางเดียว005(ยามเฝ้า)

สองวันที่เขตต์นิ่งอึ้ง เขามองโน้ตที่เธอทิ้งไว้หน้าตู้เย็น ‘ลินไปเที่ยวกับปอยสองสามวันกลับค่ะ’ ข้อความสั้นๆ ที่ทิ้งไว้ทำให้เขาฉงนสงสัย เขางงที่เธอไปเที่ยวโดยไม่วางแผนล่วงหน้า ขณะที่ขันธ์มองปฏิกิริยาของคู่แฝดแล้วอยากนึกขำแต่ก็ทำไม่ลง

“ไง ออกลายแล้วสิแม่ลินคนนี้น่ะ” ขันธ์อดไม่ได้จึงพูดออกมา

“ฉันไม่เข้าใจเลยว่ะ นี่มันเรื่องอะไรเนี่ย” เขตต์งุนงงกับปฏิกิริยาของนลินอย่างมาก

“สัญชาตญาณผู้หญิงนะ ไวจะตายเวลาที่คนที่อยู่ด้วยผิดปกติล่ะ นายไปทำอะไรให้เขาผิดสังเกตเหรอ” ขันธ์ชักสงสารที่น้องชายถูกทิ้งอย่างไร้สาเหตุ

“ก็ไม่ได้ทำอะไรเลย” เขตต์นึกไม่ถึงกับสิ่งเล็กน้อย

“แน่ใจ คิดดีๆ” ขันธ์ช่วยน้องชายทบทวน เขารู้สึกว่านลินไม่โง่ขนาดดูไม่ออก แต่ไม่คิดว่าหล่อนจะหายออกไปจากบ้านเหมือนต้องการสละสิทธิ์มากกว่ายืนยันสิทธิของตัวเอง

“เอ่อ ก็แค่เอามือเขาออกจากแขนตอนเจอกับไมค์น่ะ แค่นั้นแหละ” เขตต์นึกขึ้นได้ เขาก็รู้ว่านลินไม่โง่จนดูไม่ออก “แย่แล้วสิ หรือลินจะคิดมากเรื่องนี้ ไม่เอาน่า ไม่น่าจะคิดมากเลย”

“เขาก็ไม่ได้โง่นี่” ขันธ์นึกถึงเรื่องคืนนั้น ที่เขาทำกับเธอไม่ดี ทั้งที่เธอสามารถใช้มีดขู่เขาแล้วเดินออกไปจากห้องได้ เธอกลับไม่ทำ...เป็นปฏิกิริยาแปลกใหม่ที่ทำให้เขาต้องกลับมาทบทวน

เขตต์ถอนหายใจยาว ไม่คิดว่านลินจะคิดเล็กคิดน้อย เพราะที่ผ่านมาเธอไม่ค่อยคิดอะไรมากแต่เอาเข้าจริงๆ เธอก็คิดมากได้เหมือนกัน แต่เขายังไม่ทันได้พูดอะไรก็ได้ยินเสียงเปิดประตู เขารีบหันไปมองเจ้าของเสียง เห็นนลินเดินนำเข้ามา

“ไม่ต้องก็ได้” นลินบอกเพื่อนว่าไม่ต้องเข้ามาแต่เพื่อนไม่ยอม

ปอยเดินเข้ามาเป็นคนต่อไปโดยมีพล...แฟนหนุ่มเดินตามเข้ามา “โทษทีนะคะ พี่เขตต์ เอ่อ” แต่ก็ต้องตกใจที่เห็นเขตต์สองคน

“นี่ขันธ์ คู่แฝดพี่” ขันธ์แกล้งทำเป็นคู่แฝดเขา

“นี่คุณขันธ์ คู่แฝดพี่เขตต์ ส่วนคนที่ยังไม่ได้พูดน่ะ พี่เขตต์” นลินแยกแยะคู่แฝดที่เหมือนกันราวแกะพิมพ์ได้อย่างง่ายดาย

ขันธ์นิ่งอึ้งที่นลินแยกแยะเขากับเขตต์ได้อย่างง่ายดาย ขณะที่เขตต์ก็งงไม่แพ้กัน

แต่เพื่อนนลินถามขึ้นมาก่อน “แกนี่เก่งนะ แยกออกด้วยว่าคนไหนพี่เขตต์ งั้นแนะนำตัวมั่งดีกว่า สวัสดีค่ะพี่ ขันธ์ ปอยแล้วก็พลค่ะ”

“ก็ไม่ยากเท่าไรนี่” นลินพูดเหมือนเป็นเรื่องปกติ

เธอยื่นมือออกไปขอกระเป๋าเดินทางจากพล ทั้งที่เธอพยายามขอไปนอนที่คอนโดฯ แต่เพื่อนกลับยืนยันให้เธอกลับบ้านมาอยู่กับเขตต์มากกว่า “จะกินน้ำไหม”

“ไม่ดีกว่าลิน เดี๋ยวเราพาปอยกลับเลยดีกว่า ดึกแล้ว” พลปฏิเสธ เขาเชื่อว่านลินและเขตต์คงมีเรื่องต้องคุยกัน “ไปกันเถอะปอย ลานะครับ พี่เขตต์ พี่ขันธ์”

“ครับ เดินทางดีๆ นะครับ” เขตต์เดินมารับกระเป๋าเดินทางใบย่อมของเธอเอาไว้ เพราะกลัวว่านลินจะเปลี่ยนใจเดินตามเพื่อนออกไป และเมื่อรถของทั้งสองออกไปจากบ้าน เขาก็ทิ้งกระเป๋าลงที่พื้นก่อนโอบกอดนลินเอาไว้แน่น “รู้ไหมพี่เป็นห่วง”

นลินกอดรับเขาเบาๆ ด้วยสีหน้าเรียบเฉย ก่อนออกจากอ้อมกอดเขาและไม่ได้พูดอะไรอีก ซึ่งท่าทางเฉยชาของเธอทำให้เขตต์สะอึก ขณะที่ขันธ์ออกจะแปลกใจกับท่าทางของนลินมาก เขาไม่ถึงกับตกใจแต่ดูเหมือนนลินต่างหาก...กำลังจะทิ้งเขตต์ไป

“ลินเป็นอะไรหรือเปล่า” เขตต์ถามขึ้น

“เปล่าค่ะ อืม พรุ่งนี้ลินว่าจะไปคอนโดหน่อยนะคะ” นลินหยิบกระเป๋าจะเอาไปเก็บแต่เขตต์กับรั้งกระเป๋าเอาไว้

“ลินมีอะไรก็พูดออกมาสิ” เขตต์ชักทนไม่ไหว เขาวางกระเป๋าลงที่พื้นแล้วจับแขนทั้งสองข้างของเธอเอาไว้

“ไม่มีอะไรนี่คะ ลินแค่อยากไปดูคอนโดหน่อยเท่านั้นเอง” นลินไม่กล้าสบตา

ใช่...เธอกำลังจะไปจากเขาก่อนที่จะจากเขาไปไม่ได้และยอมให้เขาทำตามใจมากไปกว่านี้

“ลินอย่าปิดบังพี่ดีกว่าน่า ลินมีอะไรในใจทำไมไม่พูด” เขตต์พยายามคาดคั้นเอาความจริงจากปากเธอ

นลินจึงเงยหน้าขึ้นสบตาเขา จากที่หวั่นไหวก็กลายเป็นเฉยชา “ก็ไม่มีอะไรให้พูดนี่คะ พี่เขตต์มีอะไรต้องพูดหรือเปล่าละคะ ถ้าไม่มี ลินขอตัวไปอาบน้ำก่อนนะคะ ลินเหนื่อยแล้วก็ง่วงด้วยค่ะ”

เขตต์ปล่อยมือจากเธอ เขาสัมผัสได้ถึงความเฉยชาในท่าทางนั้น แปลกที่รู้สึกเหมือนกำลังจะสูญเสียเธอไป

ขันธ์ไม่เข้าใจผู้หญิงคนนี้เลยแม้แต่น้อย เขางุนงงกับท่าทางของเธอมาก “ใจเย็นๆ น่า ลินคงไม่ทิ้งนายหรอก”

“นายไม่เข้าใจหรอก ขันธ์ นายไม่เคยเจอท่าทางอย่างนี้ของลิน ท่าทางเฉยๆ เหมือนไม่มีอะไร ฉันเจอตั้งแต่วันแรกที่รู้จักกับลิน” เขตต์ไม่เคยเล่ากับท่าทางเฉยๆ ของนลิน ท่าทีเรียบง่ายแต่กำจัดเขาได้รวดเร็วนัก

“แล้วไง” ขันธ์ถามตรงๆ

“ก็ลินทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นแล้วก็ไล่ฉันออกจากห้องเขาน่ะสิ แทนที่เขาจะร้องไห้ฟูมฟายก็ไม่เลย เหมือนเขารู้ว่าอะไรเป็นอะไร แล้วต้องควบคุมตัวเองยังไง แต่ฉันเองล่ะ ที่ไปตื้อเขา” เขตต์อธิบายตามความจริง

“เขาไม่โกรธ หรือแกล้งทำให้นายสงสารเลยเหรอ” ขันธ์ชักแปลกใจมากขึ้นเรื่อยๆ

“ใช่สิ เขาชวนฉันทานอาหารเช้าแล้วก็บอกฉันว่าล็อกประตูให้เขาด้วย ก่อนหันไปนั่งหน้าคอมฯ” เขตต์เล่าต่อไปแล้วถอนหายใจ “แปลกไหมกับผู้หญิงที่ไม่เคยผ่านใครเลย แต่กลับมีปฏิกิริยาเหมือนสิ่งที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องปกติ”

“แปลกสิ แปลกมากด้วย เขาขอเบอร์โทร ขอติดต่อนายไหม” ขันธ์เริ่มสนใจอยากรู้เรื่องผู้หญิงคนนี้มากขึ้น

“ไม่เลย ไม่แม้แต่จะถามชื่อ พอฉันลงไปชั้นล่าง ก็ดูชื่อเธอจากกล่องจดหมายแต่ก็แปลกนะ ฉันคิดถึงลินทั้งวันเลย จนต้องย้อนกลับไปใหม่” เขตต์นั่งคิดก่อนรู้สึกว่าไม่ได้แล้ว เขาลุกเดินตามนลินไปที่ชั้นบน

ขันธ์มองตามคู่แฝดเขาไปอย่างงงๆ ปกติเขาหาเหตุผลมาอธิบายผู้หญิงที่จะมาตามจับผู้ชายรวยๆ ได้ง่าย แต่กับนลิน...เขาชักเริ่มไม่แน่ใจแล้วว่านลินจะเป็นอย่างที่เขาคิดตอนแรกจริงๆ

เขตต์ได้ยินเสียงน้ำดังมาจากในห้อง ขณะที่นลินนั่งมองน้ำไหลมากกว่าจะอาบน้ำจริงๆ เธอไม่เศร้าใจ แต่กำลังคิดว่าทำยังไงจะไปจากเขาได้ ก่อนปิดน้ำ แล้วถอดเสื้อผ้าอาบน้ำสระผมจนเสร็จและออกมาจากห้องน้ำ เห็นเขานอนอยู่บนเตียงเอามือก่ายหน้าผากรอเธออยู่

“พี่เขตต์อาบน้ำหรือยังคะ” นลินเช็ดผมและสวมชุดนอนเรียบร้อยแล้ว

เขตต์ลุกขึ้นนั่งและทำสีหน้ายากอธิบาย “ลินอย่าทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นได้ไหม พี่ไม่อยากให้เราเป็นอย่างนี้เลย”

“พี่เขตต์ก็คิดมากไปได้ ก็ลินไม่มีอะไรจริงๆ” นลินเช็ดผมแล้วมองกระจกไม่หันไปมองเขาเลย

“คอมพิวเตอร์ของลินอยู่ไหน” เขตต์เห็นเธอเฉไฉไม่ตอบก็ถามอีกเรื่อง

“อ๋อ ลินไปเอาของที่คอนโดน่ะค่ะก็เลยลืมคอมฯ ไว้ที่นั่น” นลินโกหกเพื่อให้จบเรื่อง

เธอตั้งใจทิ้งมันเอาไว้ที่นั่น เพื่อเป็นข้ออ้างที่เธอจะได้กลับไปที่นั่นและอ้อยอิ่งมากพอที่จะอยู่ค้างที่นั่นเลย

เขตต์เห็นว่าพูดไปก็ไม่ทำให้เธอยอมบอกความจริง เขาเดินมาที่ด้านหลังเข้ามาช่วยเธอเช็ดผม หากเขาไม่ปล่อยให้เธอนิ่งเฉยอยู่นาน เขาโน้มไปจูบที่ใบหู ก่อนหยุดมือไม่เช็ดผมแล้วโอบกอดเธอแน่น

“อย่าค่ะ พี่เขตต์ ลินอยาก...”

นลินยังไม่ทันได้พูดจนจบก็ถูกเขตต์จับหันมาและปิดปากเธอด้วยริมฝีปากเขา หากเขตต์ไม่หยุดเพียงนั้น เขาสอดมือเข้าไปในเสื้อของเธอ ขณะที่เธอพยายามปัดป้องไม่ให้เขาถอดเสื้อเธอออกได้ แต่เขาไม่สนใจ อุ้มเธอขึ้นนั่งที่โต๊ะเครื่องแป้งแล้วจูบเข้าซอกคอเธอ

“พี่เขตต์ปล่อยลินนะ” นลินพยายามใช้มือผลักไหล่เขาให้ถอย

หากคนร่างสูงไม่ยอมให้เธอผลักง่ายๆ อีก เขากดเธอเข้ากับกระจกก่อนสอดมือสัมผัสหน้าอกเธอจนนลินรู้สึกวาบหวิว แต่นลินพยายามเรียกสติและยังคงพยายามผลักไสเขาอยู่ตลอดเวลา

เขตต์ไม่สนใจ เขาช้อนสะโพกเธอยกขึ้น ก่อนอุ้มเธอไปที่เตียง “อย่าดื้อสิ”

“พี่เขตต์ปล่อยลินนะ” นลินพยายามพลิกตัวและคลานหนี

เขตต์กลับไม่สนใจ เขาดึงเธอกลับมาและจัดการกับเสื้อผ้าเธอและเขาอย่างรวดเร็วโดยไม่ฟังเสียงนลินอีก เขาจูบเธอไม่ยั้งอย่างรุนแรงจนนลินรู้สึกเจ็บจึงพยายามเบี่ยงหนี “ลินเจ็บนะคะ”

เขตต์หายใจแรงและหยุดพักตั้งสติ “พี่ขอโทษ”

หากเขาไม่หยุดเพียงอ่อนโยนลง และเมื่อเห็นเขาผ่อนปรน นลินจึงปล่อยใจไปกับเขาอีกครั้งจนเขาและเธอเป็นหนึ่งเดียวกัน เธอเจ็บจนจุกหลายครั้ง หากแปลกที่ครั้งนี้เธอน้ำตาไหล เกิดความรู้สึกเศร้าปนสุข

นลินลืมตาขึ้นและสบตากับเขา ทำให้เขตต์ชะงักและหลับตาลง เธอเอื้อมมือขึ้นไปสัมผัสดวงหน้าของเขา เขตต์จึงเลื่อนมือจากสะโพกเธอขึ้นมาโอบด้านหลังเธอเอาไว้

“พี่รักลินนะ” หน้าผากเขาสัมผัสหน้าผากของเธอ ก่อนจูบเธออีกครั้ง

“แค่ความรัก บางครั้งอาจไม่เพียงพอสำหรับพี่ก็ได้นะคะ” นลินพูดความจริงเป็นครั้งแรก

ความจริงที่ต่างฝ่ายต่างรู้กันดีอยู่...

เขตต์หมดคำพูด เขาซบลงที่อกเธอก่อนนอนลงข้างเธออย่างหมดแรง “ทำไมล่ะ ลิน”

“วันหนึ่งพี่อาจจะเข้าใจคำพูดของลิน” นลินหันหลังให้เขา ก่อนลุกขึ้นจากเตียงทั้งที่ร่างกายเปล่าเปลือย

**********************************************

เธอหยิบผ้าเช็ดตัวมาพันรอบกายก่อนเดินเข้าห้องน้ำเพื่ออาบน้ำอีกครั้ง เมื่อออกมาก็เห็นเขาหลับจึงเดินลงไปที่ชั้นล่างเพื่อหาน้ำดื่มดับกระหาย

นลินนิ่งงันอยู่ในห้องครัว ในมือเธอถือแก้วน้ำก่อนวางมันที่โต๊ะ แล้วก็เปลี่ยนท่าทีเมื่อเห็นขันธ์เดินเข้ามาในห้อง เธอจึงหยิบขวดเติมน้ำลงแก้วและคิดจะออกไปจากห้องครัวแต่ขันธ์กลับดึงแขนเธอเอาไว้

“เดี๋ยวสิ เธอคิดจะไปจากเขตต์จริงๆ เหรอ” ขันธ์สังเกตได้ว่าเธอเพิ่งอาบน้ำทั้งๆ ที่บอกจะไปอาบน้ำตั้งแต่เมื่อสองชั่วโมงก่อน แสดงว่าเธอกับน้องชายเขาคงมีอะไรกัน

“คุณน่าจะดีใจนะคะ” นลินสะบัดแขนให้หลุดจากการเกาะกุมจากเขา

ขันธ์บอกไม่ถูกเหมือนกันว่าเขากำลังรู้สึกยังไง “ผมควรรู้สึกอย่างนั้นแต่แปลกที่มันไม่เป็นอย่างนั้น”

“คุณไม่ต้องห่วง ฉันรู้ดีว่าที่ไหนเหมาะกับฉัน” นลินหยุดเดินไม่ตอบ

“นั่งก่อนได้ไหม พี่อยากคุยด้วย” ขันธ์เริ่มอยากทำความเข้าใจเธอให้มากกว่านี้

“จะมีประโยชน์อะไรในเมื่อฉันกำลังจะไปจากชีวิตคุณ จากชีวิตคู่แฝดคุณ” นลินเยือกเย็นเสียจนคนฟังสับสน

“ขอล่ะ พี่เสียใจกับสิ่งที่ทำลงไป ขอโอกาสพี่ได้ไหม” ขันธ์ยอมลงให้เธอมากขึ้น เขาดึงมือเธอให้กลับมานั่งที่โต๊ะกินข้าว

นลินเหนื่อยใจเกินกว่าจะขัดขืน จึงนั่งลงและวางแก้วน้ำลงที่โต๊ะแต่ก็ไม่ยอมพูดอะไรสักคำจนกว่าเขาจะถาม

“ลินไม่ได้รักเขตต์ใช่ไหม เพราะถ้ารักลิน คงไม่ไปจากเขตต์ง่ายๆ แบบนี้” ขันธ์ถามและสบตาเธอเอาคำตอบ

“คุณก็รู้แล้วนี่ จะถามเพื่ออะไร” นลินเล่นคำไม่ตอบตามตรง

“แล้วถ้าไม่รัก ลินอยู่กับเขตต์ทำไม เพียงเพราะเขตต์เป็นผู้ชายคนแรกของลินงั้นเหรอ พี่ไม่คิดว่าเป็นอย่างนั้นหรอกนะ” ขันธ์ไม่เข้าใจแต่ก็รู้ว่าเธอสร้างกำแพงสูงกั้นขวางเขาเอาไว้เพราะพฤติกรรมที่เขาแสดงออก

“คุณจะมาสนใจทำไม ในเมื่อคุณต้องการให้ฉันไปจากชีวิตพี่เขตต์อยู่แล้ว” นลินไม่ยอมตอบคำถามง่ายๆ เธอไม่คิดไว้ใจขันธ์เลย

“ขอร้องล่ะ ตอบคำถามพี่ดีๆ ได้ไหม พี่ขอโทษที่ทำไม่ดีกับลิน พี่ยอมรับว่ามีประสบการณ์แย่ๆ กับผู้หญิงทุกคนที่เข้ามาใกล้ชิดเขตต์” ขันธ์ยอมอ่อนข้อลงให้อย่างมาก

“ไม่รู้เหมือนกัน ลินก็ไม่รู้เหมือนๆ กับพี่นั่นแหละ ลินหาเหตุผลที่จะไปจากพี่เขตต์ได้เยอะมาก แต่นึกเหตุผลที่จะอยู่กับพี่เขตต์ไม่ออก แม้จะยังอยู่ด้วยกันก็ตาม แต่ลินแน่ใจว่าลินยังไม่นึกรักพี่เขตต์ บางทีอาจจะเป็นความต้องการตามธรรมชาติละมั๊ง” นลินเค้นหัวเราะประชดประชันออกมา แม้แต่ตัวเธอเองก็ไม่เข้าใจเหมือนกัน

ขันธ์นิ่งงัน ฟังแค่นี้เขาก็แน่ใจแล้วว่าเธอคงไม่ได้เข้ามาในชีวิตน้องชายเพียงเพื่อหลอกลวงเงินทอง เพราะจนบัดนี้ เธอยังไม่เคยเรียกร้องเงินทองใดๆ จากน้องชายเขาเลย

“ถึงพี่ถามลิน พี่ก็คงไม่ได้คำตอบหรอก แต่ตอนนี้ลินชักเริ่มคิดแล้วสิว่ายังอยู่กับพี่เขตต์เพื่ออะไร” นลินกำลังจะลุกจากโต๊ะ แต่ขันธ์จับมือเธอเอาไว้เป็นเชิงห้าม “พี่อยากรู้อะไรอีกละคะ”

“เปล่าหรอก นั่งเป็นเพื่อนพี่สักครู่ได้ไหม” ขันธ์รู้สึกแปลกใจที่เขาพูดออกไปอย่างนั้น

นลินพยักหน้าเมื่อเห็นท่าทีครุ่นคิดของเขา เธอทำสิ่งที่ไร้เหตุผลอีกครั้ง โดยไม่แน่ใจว่าสิ่งที่เกิดขึ้นกับเธอไร้เหตุผลหรือว่าเธอไม่ต้องการหาเหตุผลของมัน ทั้งๆ ที่ชีวิตเธอมักครุ่นคิดถึงเหตุผลของสิ่งที่เกิดขึ้นในชีวิตเสมอ

ในความเงียบดูเหมือนไร้คำตอบ หากนลินรู้สึกไม่อยากคิดอะไรอีก เพราะเธอคิดอะไรหลายอย่างมากเกินไปในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ด้วยเวลาว่างที่เธอมีอย่างเหลือเฟือ...

**********************************************

เขามองแสงสว่างที่ค่อยๆ เพิ่มขึ้น เขานั่งอยู่ตรงนี้จนเช้า และมีหญิงสาวร่างอวบฟุบหลับที่โต๊ะโดยไม่ขึ้นไปนอนข้างบน ขันธ์มองเธอด้วยความแปลกใจ เพียงเขาบอกให้เธอนั่งเป็นเพื่อน พอเธอง่วง...เธอก็ฟุบหลับได้เลยเหมือนเธอไว้ใจเขามากจากเดิม

“ลิน” เสียงคู่แฝดเขาดังขึ้น คาดว่าคงกระวนกระวายใจที่ตื่นมาไม่เจอคู่หมั้นสาว

ขันธ์ลุกไปต้มน้ำร้อนสำหรับกาแฟ ขณะที่เขตต์เดินลงมาดูนลินที่ห้องครัวแล้วเห็นคู่แฝดกำลังเติมน้ำร้อนลงในถ้วยและสบตาคู่แฝดด้วยสีหน้าราบเรียบ หากเขตต์ไม่สนใจ เขาก้มลงไปจูบนลินที่กำลังฟุบอยู่ที่โต๊ะ

“ไม่ขึ้นไปนอนข้างบนละ ลิน” เขากระซิบที่ข้างหูเธอ

นลินสะดุ้งและตั้งสติ มองชายหนุ่มทั้งสองคนในห้องครัว ก่อนพยักหน้าช้าๆ และเดินขึ้นห้องทันที โดยไม่สนใจอะไรอีก เธอเพียงมองแสงยามเช้าอย่างเฉื่อยชา

เขตต์มองคู่แฝดเขาก่อนทักทาย “วันนี้นายตื่นเช้าจริงๆ นะ”

“ยังไม่คุ้นเวลาน่ะ” ขันธ์ขี้เกียจอธิบาย จึงปล่อยให้คู่แฝดเข้าใจไปอย่างนั้น

“วันนี้นายว่างหรือเปล่า” เขตต์รับถ้วยกาแฟมาจากคู่แฝดก่อนถามขึ้น

“ว่างทำไมเหรอ” ขันธ์ไม่สนใจ มองคู่แฝดที่กำลังหยิบไข่และไส้กรอกจากตู้เย็น ก่อนหยิบขนมปังมาใส่เครื่องปิ้ง

“นายไปทำงานแทนฉันหน่อยสิ วันนี้นัดลูกค้าเอาไว้และก็มีประชุมด้วย” เขตต์พูดขณะตั้งกระทะ

“เรื่องอะไร ฉันมาพักนะ ไม่เอาด้วยหรอก” ขันธ์ปฏิเสธทันควันก่อนถาม “ว่าแต่นายจะไปไหนเหรอ”

“ก็จะตามลินไปคอนโดสิ ถ้านายไม่ไปทำงานแทนฉัน งั้นนายก็ไปส่งลินหน่อยสิ” เขตต์ไม่ได้สนใจมองคู่แฝด เขาสนใจทำอาหารเช้ามากกว่า

“ทำไมต้องตามด้วยล่ะ ลินก็แค่ไปเอาคอมที่ลืมไว้ไม่ใช่เหรอ” ขันธ์สงสัยกับปฏิกิริยาของคู่แฝด

เขตต์หันมามองคู่แฝดก่อนพูดตามตรง “บอกตามตรง ฉันระแวงกลัวลินหาเหตุไม่กลับมาน่ะสิ พูดง่ายๆ คือฉันอยากให้นายไปส่งแล้วก็รอรับกลับมาด้วยเลย”

“เฮ้ย นายอย่าประสาทเสียเรื่องไม่เป็นเรื่องหน่อยเลยน่า” ขันธ์หัวเราะเบาๆ ที่เห็นคู่แฝดกังวลเรื่องไม่เป็นเรื่อง

“นายไม่รู้จักลินเท่าฉันหรอก” เขตต์ทำอาหารเช้าสำหรับสามคนไปด้วยเลย

“คงไม่ขนาดนั้นหรอกน่า” ขันธ์ทำหน้างงเมื่อเห็นคู่แฝดจริงจังเรื่องนี้อย่างมาก

“ตกลง นายรับปากหรือเปล่าล่ะ” เขตต์ถามโดยไม่หันมามอง เขาง่วนกับการทำอาหารเช้ามากกว่า

“เออ ไปก็ได้ เรื่องแค่นี้เอง ยังไงก็ไม่มีอะไรทำอยู่แล้วนี่” ขันธ์รับคำอย่างขอไปที หากเขาไม่รู้ว่าอีกไม่กี่ชั่วโมงเขาเริ่มจะเห็นด้วยกับคู่แฝดเขาเรื่องนลิน

“อืมๆ ว่าแต่นายจะอยู่ที่นี่นานไหม” เขตต์ถามเรื่องทั่วไปบ้าง

“ก็ไม่รู้สิ ที่เตรียมไว้ก็ราวเดือนหนึ่งนะ พักบ้างว่ะ” ขันธ์หยิบไส้กรอกจากในจานมากินโดยไม่รอให้เสร็จครบ

“อืม ดีแล้วล่ะ พักซะบ้างก็ดี ฉันอาจจะไปนิวยอร์กพร้อมนายนะ แต่ดูก่อนไม่รู้ว่าพ่อเอาไงแน่” เขตต์บ่นๆ เพราะเขาต้องรับผิดชอบมากขึ้นแต่เขาไม่ชอบงานบริหารที่ทำอยู่

“อ๋อ ประชุมผู้ถือหุ้นน่ะเหรอ ไม่เห็นมีอะไรนี่ นายก็ไม่ต้องคิดมากหรอกน่า พักหลังนายทำงานดีขึ้นนี่นา” ขันธ์ตบไหล่คู่แฝดก่อนนั่งลงทานอาหารเช้าที่คู่แฝดทำให้

“นั่นแหละที่ไม่อยากให้เกิดขึ้น ทำแค่ที่นี่ก็เบื่อจะแย่แล้ว” เขตต์บ่นเรื่องงานอีกหลายคำ

ขณะที่ขันธ์ไม่สนใจจะฟัง เพราะได้ยินมาหลายครั้งแล้ว เขารู้สึกว่าเป็นเรื่องไร้สาระมากกว่าจะเก็บมาใส่ใจ ในเมื่อนี่เป็นธุรกิจของครอบครัว...ยังไงเขตต์ก็ต้องทำงานเพื่อครอบครัว

**********************************************

เที่ยงกว่านลินตื่นขึ้นและลงมายังชั้นล่าง เธอเดินเข้าครัวแล้วเห็นอาหารเช้าอยู่ในจานและใช้พลาสติกใสคลุมไว้ เธอนำมันเข้าในไมโครเวฟ ก่อนจัดการอาหารในจานจนหมด และล้างจานที่ค้างไว้ตั้งแต่เมื่อเช้า แต่เมื่อเดินออกมาจากห้องครัวก็ต้องตกใจที่เห็นขันธ์ล้มลงนอนบนโซฟายาว

“จะไปกี่โมงล่ะ” เขาถามทั้งที่ยังขยี้ตาอยู่ ถึงหน้าตาเหมือนกันแต่บุคลิกทั้งสองคนแตกต่างกันอยู่บ้าง

“ไปไหนคะ” นลินถามขึ้นและทำเป็นไม่เข้าใจ

“อ้าว ก็เขตต์บอกว่าลินจะไปเอาคอมที่คอนโดไม่ใช่เหรอ เขตต์บอกให้พี่ไปส่งน่ะ” ขันธ์เกาหัวอย่างเกียจคร้านและกอดหมอนอิงมองคู่หมั้นน้องชายเป็นเชิงถาม

“อ๋อ ลินไปเองได้ค่ะ อีกอย่างไม่รู้ว่าจะกลับเมื่อไรด้วย เพราะว่าจะทำความสะอาดห้องด้วยค่ะ” นลินยังตัดสินใจไม่ได้ แต่บางอย่างบอกเธอว่าถ้าเธอกลับไปที่คอนโด เธออาจไม่กลับมาที่นี่อีก

“คงไม่ได้หรอกนะ เพราะพี่รับปากเขตต์แล้วว่าจะไปส่งลินแล้วรับกลับมาด้วย ถ้าพี่ไม่ทำ เขตต์คงว่าพี่ไม่รักษาคำพูดนะ เอาล่ะ ไปเปลี่ยนเสื้อผ้าได้แล้ว เดี๋ยวกลับเย็น” ขันธ์สั่งการเธอเหมือนเธอเป็นลูกน้องในสังกัด

นลินขมวดคิ้วและไม่ชอบใจในสิ่งที่เขาทำ แต่เธอเข้าใจในคำพูดเขา “จริงๆ แล้วพี่ไม่จำเป็นต้องไปก็ได้นะคะ”

“พี่บอกแล้วไงว่าจะไปก็ไปสิ ลินไปเปลี่ยนเสื้อผ้าได้แล้ว หรือจะใส่ชุดนอนไปล่ะ” ขันธ์พูดแล้วยิ้มขำ ทั้งยังมองเสื้อสายเดี่ยวสีขาวไร้บราที่สวมเสื้อเชิ้ตตัวหลวมของเขตต์ทับไว้กับกางเกงขาสั้นใส่สบายๆ

“ตกลงค่ะ” นลินไม่คิดว่าเขตต์จะทำให้ขันธ์ยอมไปส่งเธอได้ และไม่คิดว่าขันธ์จะยอมทำอะไรแบบนี้ ซึ่งทำให้เธอยอมแพ้สองพี่น้องคู่นี้

เมื่อทั้งสองคนพร้อม นลินก็บอกทางไปบ้านให้ขันธ์ขับไป เธอนึกเกรงอยู่ว่าขันธ์จะขับรถถูกไหมเมื่อถนนและพวงมาลัยไม่เหมือนที่ต่างประเทศ แต่เขาก็ทำได้ดีจนถึงคอนโดของเธอ โดยที่เธอไม่ได้พูดอะไรมากและตอบอะไรพื้นๆ

“ซื้ออะไรหน่อยไหม พี่หิวแล้ว” ขันธ์บ่นเมื่อมาถึง

นลินหันกลับไปมองอย่างเซ็งๆ ก่อนตอบตกลง “ก็ได้ค่ะ”

ขันธ์หัวเราะและเอ็นดูกับท่าทางอย่างนั้น เมื่อสิ่งที่เขาทำมีผลต่อเธออยู่บ้าง ความรู้สึกแปลกใหม่ที่เขาไม่เคยสัมผัส เขามองเธอเลือกซื้อของกินและเครื่องดื่มอีกเล็กน้อย ก่อนเดินตามเธอเข้าลิฟต์และไปยังที่ห้องพักของเธอ

นลินเดินนำเข้าห้อง ในเมื่อเขตต์มั่นใจและไว้ใจให้ขันธ์มาส่งเธอ เธอจึงไม่กังวลอะไรมากและจากที่เมื่อคืนเขามีท่าทีอ่อนลง เธอก็ไม่ระแวงอะไรอีก “พี่จะทานก่อนหรือว่าจะรอเก็บห้องก่อนคะ”

“ห้องลินไม่ค่อยสกปรกนี่ ทำแปบเดียวก็เสร็จแล้วละมั๊ง” ขันธ์ไม่เห็นคราบฝุ่นมากนัก คงเพราะเธอปิดห้องมิดชิด เห็นของใส่กล่องเป็นระเบียบและคลุมผ้าเอาไว้หมด

“ค่ะ ถึงบอกว่าไม่ต้องมาส่งก็ได้ไงคะ” นลินเดินไปเปิดน้ำและไฟฟ้าในห้อง

“ทีหลังจ้างแม่ทองมาทำความสะอาดให้ก็ได้นะ นิดเดียวเอง” ขันธ์ออกความเห็น

“ไม่ล่ะค่ะ ทำเองก็ได้ไม่ยากเท่าไร รอแปบหนึ่งนะคะ เดี๋ยวลินขอดูดฝุ่นและก็เช็ดพื้นก่อน” นลินไม่อยากให้วุ่นวาย และรู้สึกผิดแผนที่มีขันธ์มาด้วย

ขันธ์เข้ามาในห้องแล้วมองไปรอบๆ ก่อนเสนอ “พี่ช่วยละกันจะได้เสร็จเร็วๆ”

นลินไม่ทันได้พูดอะไรมาก เขาก็ทำท่าปรามเธอจากนั้นทั้งสองคนก็ร่วมมือกันทำความสะอาด ท่าทางขันธ์ไม่เหมือนคุณหนูที่ทำอะไรไม่เป็นตรงกันข้ามเขาทำได้ดีเสียด้วย

“พี่นี่เก่งกว่าที่คิดนะคะ” นลินพูดหลังจากทำเสร็จแล้ว และเมื่อมองออกไปนอกห้องก็เห็นว่าบ่ายกว่าแล้วก็เห็นว่าขันธ์กำลังเหงื่อตกเพราะอากาศร้อนของเมืองไทย “เดี๋ยวลินเปิดแอร์ให้นะคะ”

“กำลังจะบอกอยู่เลยล่ะ” ขันธ์หัวเราะอย่างอารมณ์ดี ท่าทางเขาผิดจากตอนที่ตั้งป้อมมองเธอไม่ดีตอนแรกมากนัก เรียกได้ว่าผ่อนคลายมากขึ้น

เขามองร่างอวบอยู่ในห้องแคบๆ อย่างเพลิดเพลิน นลินเดินไปที่ครัวหลังเปิดเครื่องปรับอากาศเสร็จและนำอาหารใส่จานที่เพิ่งล้างหมาดๆ และอุ่นด้วยไมโครเวฟก่อนหันมามองโต๊ะที่ตั้งไว้และสบตากับขันธ์อย่างจัง ทำให้ต่างฝ่ายต่างหันไปมองทางอื่นอัตโนมัติ

ขันธ์นึกแปลกใจตัวเองมากพอๆ กับนลิน เขารู้สึกอึดอัดกับบรรยากาศแบบนี้จึงชวนเธอคุย “ลินนึกอยากลดน้ำหนักบ้างไหมเนี่ย”

นลินพ่นลมหายใจแรงๆ ก่อนหันมายิ้มและหัวเราะเบาๆ “ไม่ล่ะค่ะ ผอมได้ก็ผอม ผอมไม่ได้ก็ไม่ผอม”

“ถ้าลินผอมคงน่ารักมากเลยนะ” ขันธ์เผลอพูดออกมาตรงๆ

นลินหัวเราะก่อนถือจานมาวางไว้ที่โต๊ะ “อยากเห็นตอนนั้นเหรอคะ”

“เห็นได้ไหมล่ะ” ขันธ์รับจานมาและทานอาหารที่ซื้อมาอย่างหิวโหย

“งั้นรอเดี๋ยวนะคะ เดี๋ยวลินเอาให้ดู” นลินรู้สึกสนุกเมื่อขันธ์อารมณ์ดีและขี้เล่น ขณะที่เขตต์มักนิ่งๆ และเรียบร้อยกว่าคู่แฝดเขามาก

“จริงสิ เมื่อก่อนลินทำงานเป็นผู้จัดการนี่ เป็นไงสนุกไหม” ขันธ์หาข้อมูลเธอมาดีพอ จึงมีเรื่องคุยกับเธอได้เรื่อยๆ

“ก็สนุกและไม่สนุกค่ะ” นลินตอบขณะหันไปหารูปเก่าๆ เมื่อตอนที่เธอยังเป็นสาวผอมบางมาให้เขาดู “นี่ค่ะ”

ขันธ์มองหญิงสาวในภาพเทียบกับนลินตอนนี้แล้วให้แปลกใจ หญิงสาวหน้าตาดี แม้ไม่สวยมากนักแต่ก็จัดได้ว่าเป็นที่สนใจของผู้ชายอยู่ไม่น้อย ทั้งเธอยังดูแลตัวเองแต่งหน้าแต่งตัวทันสมัยผิดกับตอนนี้ที่ปล่อยเนื้อปล่อยตัวไม่สนใจเหมือนก่อน

“เกิดอะไรขึ้นกับลินเหรอ ทำไมลินถึงเปลี่ยนแปลงชีวิตแบบนี้ล่ะ” ขันธ์แปลกใจที่เห็นรูปภาพสมัยเรียนแล้วก็รูปภาพตอนทำงานก่อนเก็บตัวเงียบ

“ก็แค่เบื่อค่ะ ไม่มีอะไรมากเลย ลินเบื่อชีวิตแบบนั้น ต้องระวังโน้นนี่ ลินไม่มีปัญหาถ้าต้องอยู่คนเดียว เพราะยังดีกว่าเจ็บปวด ลินบอกตัวเองแล้วว่าจะไม่ยอมให้ใครทำให้ลินเจ็บปวดอีก” นลินพูดเหมือนเป็นเรื่องปกติ

ขันธ์นิ่งงัน เขาเชื่อในสิ่งที่เธอพูดได้อย่างสนิทใจ “ลินปิดตัวเองมากไปหรือเปล่า”

“ลินผิดหวังกับคนมามากจนรู้สึกว่าไม่คุ้มค่าที่จะพยายามเพื่อใคร ตอนนี้ลินเหลือแต่ครอบครัวกับเพื่อนสนิทเท่านั้นล่ะค่ะ ที่ทำให้ลินยังรู้สึกดีด้วย” นลินไม่สนใจว่าเขาจะคิดยังไงกับเธอ แต่น่าแปลกที่เขตต์ไม่เคยถามอะไรมากไปกว่าเรื่องปัจจุบัน ขณะที่ขันธ์ถามเธอละเอียดอย่างสนใจ

เสียงโทรศัพท์ของขันธ์ดังขึ้นทำลายความเงียบ เขารับสายหลังจากมองหมายเลขโทรเข้า “มีอะไร เขตต์”

“เสร็จหรือยัง จะกลับบ้านกันหรือยังล่ะ” เขตต์กลัวใจนลินจริงๆ จนต้องโทรตามเช็ค เขาจะกล้าชะล่าใจได้อย่างไรในเมื่ออยู่ๆ นลินก็ทิ้งข้อความสั้นๆ และหายไปเที่ยวโดยไม่มีโทรศัพท์ให้เขาติดตามได้มาแล้ว

“เสร็จแล้ว กำลังกินไรนิดหน่อย กำลังจะกลับละล่ะ ใช่ไหม ลิน” ขันธ์ส่งมือถือให้นลินคุยแทนเพราะขี้เกียจอธิบาย

นลินรับมือถือมาคุย “กำลังจะกลับแล้วค่ะ พี่เขตต์”

“อ๋อ ดีแล้วจ๊ะ งั้นเดี๋ยวพี่คงกลับเย็นๆ นะ หาอะไรทานกันไปก่อนนะ” เขตต์ค่อยโล่งใจที่นลินไม่ดื้อรั้น

“ค่ะ เดี๋ยวเจอกันค่ะ” นลินรับคำสั้นๆ ก่อนรอให้เขาตัดสายและส่งมือถือคืนให้ขันธ์

“เขตต์นี่ท่าทางเป็นเอามากนะ พี่ยังไม่เคยเห็นเขตต์รักใครเท่าลินมาก่อน” ขันธ์วิจารณ์อย่างตรงไปตรงมาเสมอ

“เหรอคะ” นลินไม่อยากยึดถือคำพูดของฝาแฝดคู่นี้มาคิดมากนัก เธอไม่อยากสร้างความหวังให้กับตัวเอง

“ลินไม่เชื่อเหรอ” ขันธ์สงสัยมากขึ้นเมื่อนลินไม่ปลื้มกับสิ่งที่เขาพูด

“ไม่รู้สิคะ อย่างที่ลินบอก ลินไม่มั่นใจแล้วก็ไม่อยากคิดอะไรมากนะคะเวลานี้ บางทีอาจเป็นเพราะต่างฝ่ายต่างก็เหงาก็ได้นะคะ” นลินพูดตามที่คิดและสิ่งที่เธอคิดมีพื้นฐานจากความจริง

“ลินไม่รักเขตต์เลยเหรอ” ขันธ์เห็นเธอกลบเกลื่อนด้วยการเดินไปหยิบน้ำมาเติมใส่แก้ว จนเขาต้องจับมือเธอเอาไว้ไม่ให้หนีไป

นลินสบตาขันธ์ก่อนตอบตามที่ใจคิด “ลินไม่รู้ว่ารักหรือเปล่า แต่ลินแน่ใจว่าลินไปจากชีวิตพี่เขตต์ได้ทุกเมื่อค่ะ”

“แล้วลินไม่เสียใจเหรอถ้าต้องไปจากเขตต์” ขันธ์ไม่ถนัดเรื่องความสัมพันธ์ระยะยาวมากนัก แต่เขาก็ยังเชื่อว่าเธอน่าจะรักน้องชายเขาบ้าง

“เสียใจสิคะ แต่ว่าถ้าพี่เขตต์ไม่ต้องการลิน ลินก็ไม่อยากอยู่ในลำบากใจหรอกค่ะ ลินไม่อยากเสียใจระยะยาว อยู่ไปก็ใช่ว่าอะไรจะดีขึ้น ถ้าคนที่เราอยู่ด้วยไม่ใช่คนที่ต้องการเรา” นลินยักไหล่ เธอมีแผนชีวิตที่แน่นอนอยู่แล้ว

ขันธ์มองเธอด้วยความฉงน เขาขมวดคิ้วไม่เข้าใจ เพิ่งเคยเจอผู้หญิงที่อยู่กับน้องชายเขาด้วยความสงสาร “ลินสงสารเขตต์จนอยู่กับเขตต์งั้นเหรอ”

“ไม่รู้อีกเหมือนกันค่ะ ลินก็แค่ทำหน้าที่ตอนนี้ให้ดีที่สุดเท่านั้นเอง” นลินพูดกับเขาอย่างตรงไปตรงมา ความจริงที่เธอไม่กล้าบอกเขตต์

“แล้วลินต้องการอะไรล่ะ ลินพูดแต่ว่าการที่ลินอยู่กับเขตต์เป็นความต้องการของเขตต์” ขันธ์ยิ่งฟังยิ่งงง

นลินนิ่งคิด เธอไม่เคยคิดในแง่นี้มาก่อน รู้แต่ว่าถ้าวันไหนเธอรู้สึกว่าเขตต์ไม่จำเป็นต้องมีเธอ ก็คือวันที่เธอจะไปจากเขา “อืม ลินไม่เคยคิดถึงตรงนั้นนะคะ ลินรู้แต่ว่าถ้าลินรู้สึกว่าพี่เขตต์ไม่ต้องการลินแล้ว ลินก็จะไปทันที แต่ถ้าถาม ลินอยากไปตอนนี้ดีกว่าเสียเวลาอยู่ด้วยกันแล้วผูกพันกันมากไปกว่านี้นะคะ”

“แสดงว่าที่เขตต์คิดไม่ผิดใช่ไหม วันนี้ลินคิดจะกลับมาอยู่ที่นี่จริงๆ ใช่หรือเปล่า” ขันธ์ชักเริ่มตามความคิดเธอทันมากขึ้น

“ถ้าลินต้องการอย่างนั้น พี่ก็เห็นด้วยใช่ไหมคะ” นลินยิ้มแป้นที่เขารู้ทันความคิดเธอ

“ไม่มีทาง” ขันธ์เผลอพูดออกมาแล้วฉุกคิด

เขามาที่นี่เพื่อกำจัดเธอออกไปจากชีวิตน้องชายเขาแต่ตอนนี้เขากลับไม่อยากทำแบบนั้น เพียงไม่กี่วันเธอเปลี่ยนความคิดเขาอย่างไม่ตั้งใจ สิ่งที่เธอเป็นเหนือความคาดหมายเขาเกินจะกะเกณฑ์ได้

นลินโบกมือไปมาตรงหน้าเขา ก่อนถามขึ้น “พี่เป็นไรหรือเปล่าคะ”

“เปล่าๆ เอ่อ กลับบ้านกันเถอะ ไหนล่ะ คอมของลิน” ขันธ์งุนงงกับความคิดของตัวเอง เขาไม่เคยเปลี่ยนความคิดตัวเองรวดเร็วแบบนี้มาก่อน

นลินเดินไปที่โต๊ะ และหยิบกระเป๋าใส่คอมพิวเตอร์ที่เธอยังไม่ได้เอาออกมาใช้เลยแล้วเดินตามหลังขันธ์ไปอย่างเงียบๆ หากพอล็อกประตูเสร็จแล้ว ขันธ์กลับจับมือเธอเดินไปที่ลิฟต์จนกระทั่งถึงรถ เขาจึงปล่อย...

**********************************************

^^ มาต่อตอนต่อไปค่ะ
อยากลงไหใบใหม่ แต่คิดว่าคงต้องแต่งเรื่องนี้ให้จบก่อนค่ะ
ขอบคุณที่ติดตามนะคะ



Create Date : 11 สิงหาคม 2552
Last Update : 11 สิงหาคม 2552 23:57:14 น. 2 comments
Counter : 396 Pageviews.

 
สนุกมากๆๆเลยคะ ชอบมากๆๆๆ แอบลุ้นๆๆว่าตอนจบสงสัยลินได้คู่กับพี่ขันธ์แน่เลย อิอิ


โดย: CaspeR GhosT IP: 123.243.8.121 วันที่: 12 สิงหาคม 2552 เวลา:11:52:25 น.  

 
มาแวะเยื่อมบล้อกค่ะ


โดย: fiona IP: 203.171.199.156 วันที่: 12 สิงหาคม 2552 เวลา:20:18:14 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 
 

เพลิงวารี
Location :
นนทบุรี Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 3 คน [?]




ไหดองเหล็กไหล
New Comments
[Add เพลิงวารี's blog to your web]

 
pantip.com pantipmarket.com pantown.com
pantip.com pantipmarket.com pantown.com