เพลิงวารี & คชสีห์ ฿ Babylonia
 
กรกฏาคม 2552
 1234
567891011
12131415161718
19202122232425
262728293031 
 
22 กรกฏาคม 2552
 
 
001(เขา...คือสายลม)

เครื่องดื่มผสมแอลกอฮอล์เต็มโต๊ะ หญิงสาวรูปร่างอวบกำลังนั่งดื่มมันทีละนิดพร้อมอาหารรสดีกับเพื่อนสาวและแฟนเพื่อนที่ชวนเธอออกมาทานอาหารเพื่อจะได้ออกบ้านบ้าง

เธอจำไม่ได้แล้วว่าออกบ้านครั้งสุดท้ายเมื่อไร อาทิตย์ก่อนหรือสองอาทิตย์ก่อนเธอก็จำไม่ได้แล้ว นลินดื่มสบายๆ เพราะรู้ตัวดีว่าคออ่อนมาก แต่มากับเพื่อนสนิทเลยวางใจดื่มได้เรื่อยๆ เพราะยังไงก็มีคนไปส่ง

“เพื่อนเธอออกบ้านครั้งสุดท้ายเมื่อไรเนี่ย” พล...แฟนหนุ่มของปอยถามขึ้นเมื่อเห็นท่าทีเฉยชาของเพื่อนสนิทของแฟนสาว

“ไม่รู้สิคะ สงสัยจะมากกว่าอาทิตย์นึง” ปอยแอบกระซิบกับแฟนหนุ่ม

“เพื่อนเธอทำอะไรอยู่แต่บ้านอ่ะ” พลสงสัยอยู่เหมือนกัน

นลินหันมามองทั้งสองคนที่ตอนนี้ถือว่าเป็นเพื่อนสนิทที่สุด “อะไรหรอ”

“เปล่า” ปอยตอบเพื่อนก่อนกระซิบกับแฟนหนุ่ม “เรียนปอโทกำลังจะจบละล่ะ แล้วก็เขียนนิยายด้วย”

“อ๋อ จำได้ละว่าปอยเคยบอก” พลจำได้แล้วแต่ก็เห็นว่าเพื่อนของแฟนท่าทางเหมือนไม่ใส่ใจอะไรเท่าไร “ลินๆ เธอดื่มไหวไหมนั่น”

นลินพยักหน้า ก่อนขอตัวลุกขึ้น “ไปห้องน้ำแปบแก้มึน” แต่ท่าเดินของเธอยังตรงไม่มีท่าทางจะเซเลยแม้แต่น้อย

“ยัยลินเขางี้แหละ ตอนนั่งทำท่าจะหลับๆ ถ้าได้เดินสักหน่อยก็สบายไม่เมามากหรอก” ปอยตักกับให้แฟนหนุ่มเอาใจ แล้วก็ไม่ค่อยห่วงเพื่อน ถึงแฟนหนุ่มขับไม่ไหว เธอก็ไม่ได้ดื่มมากเพราะต้องมีใครสักคนขับรถ

ส่วนนลินที่เดินไปเข้าห้องน้ำก็ชนกับผู้ชายคนหนึ่ง เธอขอโทษเขาแล้วไม่ทันได้มองหน้าเขาชัดเจนแต่พอจำได้คร่าวๆ พอเขาตอบกลับมาเป็นภาษาอังกฤษ เธอก็ไม่สนใจอีก เข้าห้องน้ำเรียบร้อยแล้วออกมาดื่มต่อได้สบายๆ

พอดึกขึ้น นลินเริ่มรู้สึกตัวว่าเมามากแล้วก็หยุดขอดื่มน้ำเปล่าแทน ส่วนเพื่อนสาวและแฟนหนุ่มก็ขอไปเข้าห้องน้ำ หากนลินกำลังนั่งมึนอยู่ พอมีมือผู้ชายมาดึงเธอให้ลุกขึ้น ก็นึกว่าแฟนเพื่อนจึงไม่ได้คิดมากและไม่ทันได้สังเกตว่าเพื่อนอยู่ด้วยไหม เดินตามไปด้วยความเมา

พอออกมาที่จอดรถก็ไม่ทันได้สังเกตว่ารถคันเดิมหรือเปล่า เธอเดินตามขึ้นไปแล้วโดนผลักให้นั่งด้านหน้า เธอก็นั่งตามอย่างไม่ขัดขืน

“ที่ไหน” คำถามที่ทำให้เธอขมวดคิ้ว เพราะแฟนเพื่อนก็ส่งเธอหลายครั้งแล้ว แต่ก็บอกทางไปเรื่อยๆ จนถึงคอนโดฯ ของเธอ

คนขับก็มึน คนมาด้วยก็เมา ยังดีที่นลินพยายามประคองสติไว้ได้ จึงเดินขึ้นห้อง แต่พอหันไปมองเห็นคนขับกำลังฟุบที่พวงมาลัยรถยนต์ ก็ถามขึ้น “ไหวไหม พล”

“อ๋อ อืม” คนตอบตอบแบบขอไปที

“ปอยเธอล่ะ” นลินไม่ได้ยินเสียงตอบ ก็เข้าใจว่าเพื่อนไม่ว่าอะไร “ขึ้นไปล้างหน้าข้างบนก่อนไหม”

นลินไม่ทันได้สังเกตเพราะตาลายแล้ว แต่เห็นคนขับพยักหน้า เธอก็ส่ายหน้าเรียกสติ แล้วลงไปรอที่นอกรถ มองเห็นรถสีบรอซ์นเงินก็ไม่ทันได้สังเกตว่าใช่รถแฟนเพื่อนหรือเปล่าเพราะสีเดียวกัน เธอรออยู่นานเห็นว่าไม่ออกมาจากรถก็เปิดประตูแล้วพาคนในรถไป

“ปอย แกนี่ก็ไม่รู้จักพยุงแฟนแกนะเนี่ย” นลินบ่นไปโดยไม่คิดอะไร และนึกว่าเพื่อนช่วยพยุงอีกด้านแล้วพาขึ้นห้องพัก ห้องคอนโดฯ กว้างกำลังพอเหมาะสำหรับการอยู่คนเดียวของนักเขียนสาว นลินไม่สนใจอะไรมาก พาเขาไปที่ห้องน้ำ ส่วนตัวเธอถอนเครื่องประดับในตัวแล้ววางมันลงโต๊ะแบบขอไปที

“เสร็จแล้วก็กลับกันเองนะ ตามสบาย ง่วงฉิบ” นลินไม่สนใจอีก ได้ยินเสียงปิดประตูนึกว่าเพื่อนออกไปแล้ว ก็เดินไปล็อกประตูแล้วกลับมาที่นอนเพราะเมามากจนไม่ไหว

หากยังไม่ทันได้ล้มตัวลงนอนก็ถูกโอบกอดจากด้านหลัง ริมฝีปากเขาจูบที่ซอกคอเธอ มือเขาเลื่อนเข้าไปในเสื้อซับใน มือเขาลูบไล้ไปที่ท้องน้อยกำลังจะเลื่อนต่ำ แต่นลินจับมือเขาไว้ไม่ให้รุกล้ำต่ำลงไปอีก “อย่านะ”

เธอพยายามดิ้นรนให้หลุดจากอ้อมกอดเขา แต่ไม่ทันระวังล้มลงบนเตียงทำให้เขาได้โอกาสดึงเสื้อตัวบางไร้เสื้อชั้นใน เพราะนลินนึกว่าเพื่อนกลับแล้วจึงถอดกางเกงยีนส์และเสื้อตัวนอกพร้อมเสื้อชั้นในให้นอนสบายขึ้น

ริมฝีปากเขาได้ลุกลงต่ำจูบที่เม็ดสีชมพูอย่างอ่อนโยน ทำให้นลินอ่อนยวบ มือเขาค่อยๆ ลูบลงต่ำเข้าไปด้านในกางเกงตัวจิ๋ว ลูบไล้สะโพกกลมของเธอจนพอใจ ก่อนจับขาเธอยกขึ้นดึงรั้งเอาเสื้อผ้าชิ้นสุดท้ายออกจากตัวเธอ

ร่างนลินสั่นสะท้านทุกรสสัมผัสอย่างไม่คุ้นเคย ทว่าฤทธิ์แอลกอฮอล์และรสสัมผัสช่างเย้ายวนแรงปรารถนาที่แอบซ่อนของหญิงสาวที่เรียกได้ว่าแทบไม่เคยผ่านมือชายใด ต่อให้อยากต่อสู้ให้หลุดพ้น ทว่าจิตใจก็อ่อนแอเกินกว่าจะปฏิเสธรสสัมผัสของเขา

นลินปล่อยให้เขาเล้าโลม แม้อยากขวางก็ห้ามใจไม่ได้ หญิงสาวขาดประสบการณ์อย่างเธอมาเจอกับคนมีประสบการณ์อย่างเขาย่อมยากต้านทาน ทว่ารสสัมผัสเขาอ่อนโยนกว่าที่เธอคิดไว้ เขาไม่เร่งเร้าตามอารมณ์ปรารถนา กลับผ่อนปรนท่าทีตามจังหวะไม่คุ้นเคยของเธอ

ยามผิวสัมผัสกันทำให้เกิดความร้อนแรง เขาจึงเร่งจังหวะขึ้นบ้าง แต่นลินร้องครวญครางเพราะรู้สึกเจ็บจึงผงะถอยจากเขา หากเขาก็ยึดเธอไว้แน่นและผ่อนปรนท่าทีลงจากร้อนใจเป็นช้าลงอย่างรู้จังหวะ นลินจึงปล่อยให้เขาทำตามใจต่อไป

ความรู้สึกวาบหวิวที่เธอไม่เคยสัมผัส รสรักทั้งเร่าร้อนและอ่อนหวานแม้เจ็บบ้างหากเธอก็ปล่อยให้เขานำทางให้แก่เธอ จนกระทั่งเธอรู้สึกจุกที่ท้องน้อย ริมฝีปากเขาก็สัมผัสริมฝีปากเธอล่างของเธอเบาๆ ก่อนสอดลิ้นเข้ามาด้านในลูบไล้ลิ้นเธอเบาๆ ไร้รสชาติกระหาย ปล่อยให้นลินเคลิบเคลิ้มกับรสจูบของเขา

นานพอดูทำให้เขาเข้าจังหวะกับหญิงสาวขาดประสบการณ์ได้อย่างลงตัว นลินปล่อยแรงปรารถนาของหญิงสาวออกไปอย่างเต็มที่ เขานำขณะที่เธอตาม ทว่ายามรู้สึกเจ็บ...เธอก็ผงะถอยตามประสาไม่เคยผ่านประสบการณ์วาบหวิวแบบนี้

สองสามชั่วโมงเขาก็อ่อนแรง ขณะที่นลินเริ่มมีสติหลังเมา เธอสะดุ้งตื่นจากฝันอันแสนหวาน ทว่ามันไม่ใช่ความฝันแต่เป็นความจริง เธอตื่นตระหนกเพราะนึกกลัวว่าจะเป็นแฟนหนุ่มของเพื่อน จึงเปิดมือถือจนมีแสงไฟจากมือถือมองดูก่อนโล่งอกที่ไม่ใช่

พอมองดูสายไม่ได้รับหลังจากเปิดเครื่อง คาดว่าเธอคงลืมล็อกเครื่องจึงเผลอกดปิดเครื่องไป เห็นเพื่อนโทรมาหลายสาย เธอมองนาฬิกาบนมือถือ แต่ไม่แน่ใจว่าเพื่อนจะห่วงแค่ไหน จึงโทรกลับไป

“เออ แกหายไปไหนวะ กลับมาที่โต๊ะหายไปเลย เกิดอะไรขึ้น” เสียงอู้อี้แม้จะหลับไปแล้วแต่เห็นชื่อเพื่อนก็โล่งใจ

“เอ่อ โทษที สงสัยจะเมามากไปหน่อย ตอนนี้อยู่บ้านแล้วไม่ต้องเป็นห่วงนะ แค่นี้นะ” นลินรีบกดตัดสายเมื่อชายหนุ่มข้างกายพลิกตัวหันมา แต่เขายังหลับสนิทอยู่

นลินลูบหน้าตัวเองตั้งสติ นี่เธอทำอะไรลงไป ดื่มจนขาดสติและพลาดท่าเสียทีให้คนไม่รู้จักอย่างนั้นน่ะหรือ เสียงถอนหายใจดังขึ้น เธอตั้งสติอีกครั้งก่อนเอาไฟมือถือมาส่องดูดวงหน้าของเขาอีกครั้ง

อย่างน้อยก็เป็นชายหนุ่มลูกครึ่งหน้าตาดี จะว่าไปก็ไม่ใช่ประสบการณ์ที่แย่อะไรนัก ดีกว่าตอนโดนแฟนเก่าจูบ ตอนนั้นเธอแทบหนีเพราะจูบกระหายของแฟนเก่า ทว่าจูบของเขาคนนี้ช่างอ่อนหวานนุ่มนวลไม่กระหายหิวอย่างที่เธอเคยผ่านมา เธอจำได้ว่าตั้งแต่นั้นก็หลบเลี่ยงไม่อยู่กับแฟนเก่าคนนั้นตามลำพังอีก

นลินตั้งสติพร้อมทำใจ ในเมื่อทุกสิ่งก็เกิดขึ้นมาแล้วจะให้แก้ไขยังไงก็คงไม่ได้ แต่คิดไปคิดมาก็ยังนึกอายที่ทำตัวแบบนี้ ทั้งที่รักษาตัวไม่ยอมมีอะไรกับใครมาตลอดแต่กลับต้องมาพลาดท่าเสียทีเพราะความเมาของตัวเอง

ชายหนุ่มแปลกหน้ายังคงหลับอยู่ด้านข้างอย่างไร้สติ นลินมองเขาในความมืดก่อนลุกขึ้นหยิบเสื้อผ้าของเธอแล้วเข้าห้องน้ำอาบน้ำชำระร่างกาย เธอต้องทำใจให้ได้และต้องรู้ว่าเขาจะไม่ผ่านกลับเข้ามาในชีวิตเธออีก

ระหว่างอาบน้ำ นลินก็นึกกลัว เพราะไม่รู้ว่าเขาใช้ถุงยางหรือเปล่า แต่ไม่เป็นไรพรุ่งนี้เธอรีบออกไปร้านขายยาซื้อยาคุมหลังมีอะไรกันก็แก้ไขได้แล้ว ถึงเธอจะไม่เคยผ่านประสบการณ์แบบนี้แต่ก็ไม่ใช่ว่าไม่รู้ว่าต้องป้องกันยังไง เพราะเคยมีเพื่อนที่เป็นหมออธิบายเรื่องพวกนี้ให้เธอฟังอยู่บ้าง

หากรอยยิ้มก็ปรากฏที่ริมฝีปากเมื่อนึกถึงรสสัมผัสอ่อนโยนและความใจเย็นของเขา ท่าทางเขาคงช่ำชองมากเพราะไม่ทำให้เธอเจ็บมากอย่างที่เคยเข้าใจ แต่เพื่อนคนหนึ่งก็เคยบอกเช่นกัน ถ้าผู้ชายห้ามใจไม่ให้ร้อนเกินไปได้ ฝ่ายหญิงก็จะไม่เจ็บมากแค่จุกนิดๆ เท่านั้น

นลินอาบน้ำเสร็จแล้วก็รู้สึกเพลียจึงกลับมานอนต่อตรงที่ว่างที่เขาเหลือทิ้งไว้ให้ โชคดีที่เตียงนลินเป็นเตียงหกฟุต ไม่อย่างนั้นคงยากที่คนสองคนจะนอนด้วยกัน และด้วยความเหนื่อยอ่อนทำให้เธอหลับสนิทจนแสงแดดลอดเข้ามาภายในห้อง

ชายหนุ่มแปลกหน้าจึงค่อยรู้สึกตัว เขาพลิกไปกอดร่างอวบนิดๆ ด้านข้าง สูดดมกลิ่นหอมจากตัวเธออย่างพอใจ ก่อนตกใจเพราะไม่ใช่กลิ่นที่คุ้นเคย เขาเกือบลุกพรวดขึ้นนั่งแต่ยั้งไว้ทัน จึงค่อยๆ ลุกขึ้นนั่งและมองไปรอบๆ เห็นเป็นคอนโดฯ ห้องเดี่ยวที่แบ่งโซนไว้ตามการใช้งาน

เขตต์ยกมือขึ้นลูบหน้า พอตั้งสติได้ก็นึกถึงเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อคืนระหว่างเขากับเธอ เขายอมรับว่าขาดสติปล่อยใจมากเกินไป เพราะเขาไม่ถึงกับเมาจนจำไม่ได้ว่าเกิดอะไรขึ้น หนุ่มลูกครึ่งนิ่งงันอยู่พักหนึ่ง ก่อนมองหญิงสาวหน้าตาธรรมดาที่นอนอยู่อย่างสบาย

เขาถอนหายใจ ทำไมเขาจะไม่รู้ว่าเธอไม่เคยผ่านมือผู้ชาย เขาไม่โง่จนมองไม่ออกและไม่ขาดสติจนสังเกตไม่ได้ พี่ชายฝาแฝดเขาก็เคยเตือนแล้วว่าจะยุ่งกับผู้หญิงคนไหนก็ได้ยกเว้นหญิงสาวพรหมจรรย์ แล้วเขาก็ตกใจที่เธอค่อยๆ ลืมตาขึ้น ขณะที่เธอกำลังพลิกตัวแล้วหันหลังให้เขา

นลินลูบหน้าลูบตาเบลอนิดๆ ก่อนตั้งสติได้ว่าไม่ได้นอนอยู่บนเตียงคนเดียวเหมือนเช่นทุกวัน เธอหันไปมองเขาที่กำลังนั่งทำหน้าตื่นมองเธอ “ตื่นแล้วเหรอคะ ผ้าเช็ดตัวอยู่ในตู้เสื้อผ้าน่ะ ถ้าคุณอยากอาบน้ำก่อนกลับนะคะ”

เขตต์ตั้งหลักไม่ถูกว่าควรทำยังไงกับสถานการณ์แบบนี้ เขาทำตามเธอเมื่อเธอชี้ทางไปห้องน้ำให้เขา ขณะที่นลินเข้าครัวเล็กๆ ต้มน้ำหานมร้อนๆ ดื่มเพื่อตั้งสติ และคอยบอกตัวเองว่าเขาก็เป็นเพียงสายลมพัดผ่าน อีกไม่กี่นาทีก็คงจากเธอไปแล้ว

เขตต์ออกมาจากห้องน้ำ เห็นนลินยังทำเฉยเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ปฏิกิริยาเธอไม่เหมือนอย่างที่เขาคิดเอาไว้ตอนแรก เขามองเธอขณะเช็ดผมจนนลินต้องมองกลับเพราะรู้สึกว่าถูกจ้องมากเกินไป

“หิวไหม คุณ มีกาแฟสำเร็จอยู่ ฉันปิ้งขนมปังเอาไว้แล้ว กินให้อิ่มก่อนไปไหม” นลินหลีกเลี่ยงที่จะพูดถึงเรื่องเมื่อคืน เธอบอกตัวเองให้ทำใจ...เขาคือสายลมที่กำลังจะจากไป

เขตต์รู้สึกโง่และงงพร้อมกัน เธอไม่เพียงไม่ฟูมฟายร้องไห้ ไม่เรียกร้อง ไม่ถามหาความเป็นธรรม ยังชวนเขาทานอาหารเช้าหน้าตาเฉย ทบทวนยังไงเขาก็รู้ว่าเธอไม่เคยผ่านมือผู้ชายแน่นอน แต่กลับทำเหมือนเรื่องเมื่อคืนเป็นเรื่องปกติยังไงยังงั้นเลย

“คุณพูดแค่นี้เหรอ” เขาถามคำถามโง่ๆ แต่กลับทำให้เธอสะอึกจนเกือบสำลัก

นลินมองเขาตาโต เธอพยายามหลีกเลี่ยงที่จะไม่พูดอะไรแบบนั้น ก่อนเลื่อนจานขนมปังปิ้งกับถ้วยกาแฟ “กินให้อิ่มแล้วลืมเรื่องเมื่อคืนซะ”

คำพูดที่ควรเป็นคำพูดของเขา กลายเป็นคำพูดของเธอไปได้ แต่ที่เขาไม่รู้ สิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อคืนจะเป็นประสบการณ์ที่เธอจะไม่มีวันลืม เพราะเป็นครั้งแรกและให้ความรู้สึกดีๆ แต่เธอก็ต้องพยายามบอกตัวเองว่า...เขาก็เป็นเพียงสายลมที่กำลังจะพัดจากเธอไป

นลินจัดการของตัวเองเรียบร้อยก็เดินกลับไปที่โต๊ะทำงานที่เธอตั้งไว้ข้างเตียง เหมือนเตรียมพร้อมเสมอที่จะนอนตลอดเวลาที่ต้องการโดยไม่สนใจเขาอีก

เขตต์เป็นงง หากเขาก็หิวพอที่จะจัดการอาหารที่เธอเตรียมเอาไว้อย่างง่ายๆ พอเขาทานเสร็จ นลินหันมามองพอดีก็บอกเขาว่า “ออกไปก็อย่าลืมล็อกประตูให้ฉันด้วยนะคะ” แล้วหันมานั่งแชทกับเพื่อนที่ต่างประเทศและนั่งพิมพ์งานต่อ

ทุกคำพูดของเธอทำให้เขางงได้ตลอดเวลา ตกลงนี่เป็นเรื่องอะไรกันแน่ เขตต์งุนงงแต่ก็ทำตามเธอ เขาหันมาจะบอกลาเธอ แต่ก็พูดไม่ออกจึงเดินออกจากห้องเธอ เขาหันกลับมามองหมายเลขห้องอีกครั้ง

พอลงลิฟท์ไปถึงชั้นล่างก็มองที่กล่องรับจดหมายประจำห้อง เขาเห็นจดหมายยื่นออกมาจึงอ่านชื่อบนซอง “นางสาวนลิน กุมุทินี”

****************************************************************************


พอเขาออกไปจากห้องเธอแล้ว นลินก็ลุกขึ้นไปเปลี่ยนเสื้อผ้าตั้งใจจะไปร้านขายยา ‘ไม่ได้ ถึงจะเป็นความผิดพลาดก็ไม่ควรจะผิดซ้ำผิดซาก’ เธอคิดและตัดสินใจเด็ดขาด หลังจากซื้อยามาแล้วก็กินให้เรียบร้อย ก่อนนั่งเหม่อลอยอยู่หน้าคอมพิวเตอร์ และหันไปมองเตียงนอนอีกรอบ

นลินตัดสินใจเด็ดขาด ถอดเครื่องนอนทั้งหมดออกไปซัก แล้วเอาชุดใหม่มาแทนที่ เธอยิ้มให้กับความเด็ดขาดของตัวเองอีกครั้ง ในความคิดเธอ...ผู้หญิงสมัยนี้ต้องอดทนและเข้มแข็งจะมานั่งอ่อนแอเสียน้ำตาง่ายๆ ไม่ได้

ในเมื่อตอนนี้สมองไม่แล่น เธอจึงหันไปเปิดเกมในเครื่องเล่นแบบขอไปที ให้สมองเธอไม่ต้องคิดถึงเรื่องเมื่อคืน พร้อมเปิดละครจีนชุดเป็นเพื่อนไปเรื่อยๆ ปล่อยผ่านเวลาไปจนกระทั่งฟ้ามืด เธอกำลังจะเดินไปหยิบอาหารแช่แข็งสำเร็จที่มีขายตามห้างออกมาก็ต้องชะงักเมื่อมีคนมากดกริ่งหน้าบ้าน

นลินขมวดคิ้วก่อน เพื่อนก็ไม่ได้โทรมาบอกว่าจะมาหา แค่โทรมาถามตามเรื่อง และเธอก็ไม่กล้าบอกความจริงเพื่อนสนิทว่าทำตัวเหลวไหลเมื่อคืน แต่ก็เดินไปมองที่ช่องเล็กๆ ตรงประตู เห็นเจ้าของดวงหน้าที่ควรเป็นสายลมที่พัดจากเธอไปเมื่อเช้ามายืนหน้าห้อง

เขตต์ยืนรออยู่พักใหญ่ ไม่เห็นเธอเปิดประตู เขาก็เข้าใจว่าเธอออกไปข้างนอก เขาจึงนั่งลงที่พื้นหน้าห้อง พร้อมถุงใส่ของกินสำหรับมื้อเย็น เขานั่งคิดว่าตัวเองที่ไม่รู้จักคิดให้ละเอียด ตอนนี้เธออาจไปที่ไหนก็ได้

นลินยืนมองอยู่นาน แกล้งทำเป็นไม่อยู่ แต่ท้องก็เริ่มประท้วงเพราะความหิว ถ้าทำอะไร เขาก็อาจจะรู้ว่าเธออยู่ แต่ทนไม่ไหวแล้ว จึงเคาะที่ประตูทำให้เขาตกใจก่อนถามเขาโดยไม่เปิดประตู “คุณกลับมาทำไมอีก”

เขตต์ดีใจที่เธออยู่ จึงลุกขึ้นยกถุงของกินขึ้นแทนธงขาวสงบศึก “ผมมีเรื่องอยากคุยกับคุณ”

“แต่ฉันไม่มีนี่นา คุณกลับไปเถอะ ฉันบอกให้ลืมๆ ไปซะยังไงล่ะ” นลินใจแข็งตอบเขาและไม่ยอมเปิดประตูอีก

“ได้โปรดเถอะ ผมมีเรื่องอยากคุยกับคุณจริงๆ นะ คุณนลิน” เขตต์พยายามเจรจากับเธอดีๆ

“เข้ามาสิ” นลินเห็นเขาไม่ไปง่ายๆ ก็ถอนหายใจยาวก่อนเปิดประตูให้เขา ก่อนนึกขึ้นได้ “คุณรู้จักชื่อฉันได้ยังไง”

เขตต์ยิ้มแห้งๆ ก่อนวางของลงที่โต๊ะ “ผมแอบดูที่ตู้จดหมายของคุณน่ะ”

“ฉันขอคุณล่ะ เลิกยุ่งกับฉันซะเถอะ เรื่องเมื่อคืนก็แค่เรื่องบังเอิญเท่านั้น คุณให้มันจบไปได้ไหม” นลินพูดอ่อนใจ เมื่อเห็นเขายังคงหยิบของใส่จานวางลงที่โต๊ะเตี้ยๆ ภายในห้อง “คุณฟังฉันอยู่หรือเปล่าเนี่ย”

“ฟังครับ แต่ทานให้ท้องอิ่มก่อนได้ไหมครับ” เขตต์หันมายิ้มสู้ รอยยิ้มที่ทำให้หญิงสาวหลายคนต้องใจอ่อน

นลินลูบหน้ายอมแพ้กับอาการหน้ามึนของเขา “ก็ได้ ทานเสร็จคุณก็กลับไปเลยนะ แล้วไม่ต้องกลับมาอีก ลืมที่นี่ซะ”

เขตต์เห็นความพยายามในการไล่ของเธอแล้วก็ถอนหายใจ “คุณนลิน เอ่อ ผมลืมไปยังไม่ได้แนะนำตัวเลย ผมเขตต์ ดีนส์ เนลสัน เขตต์เป็นชื่อไทยของผม ดีนส์เป็นชื่อจริงของผม”

“อืมๆ รู้แล้วๆ” นลินพูดเหมือนไม่สนใจ

เธอพยายามที่จะไม่สนใจชายหนุ่มลูกครึ่งหน้าตาดีคนนี้ เพราะทุกครั้งที่มองเขาก็นึกถึงรสรักแรงปรารถนาเมื่อคืนทำให้ดวงหน้ามีสีแดงระเรื่อ จนรู้สึกร้อนที่ดวงหน้าเธอจึงหันหน้าหนีและไม่ยืนอยู่กับเขานานๆ

เขตต์เห็นเธอหันหลังให้ก็เดินเข้าไปสัมผัสแขนทั้งสองข้างจากด้านหลัง ก่อนจับเธอให้หันหน้ามามองเขาอย่างช้าๆ แปลกที่เธอไม่ขัดขืนเขาเหมือนคำพูด ทว่านลินตั้งสติ เดินไปที่โต๊ะเพื่อทานมื้อเย็นกับเขา พร้อมหันโทรทัศน์จากตอนแรกหันไปทางที่นอนมาทางโต๊ะตัวเล็กเพื่อทำลายความเงียบ

เขาแปลกใจตัวเองที่รู้สึกอยากสัมผัสเธออีก บางสิ่งดึงดูดให้เขากลับมาที่นี่ คงเป็นท่าทางไม่ไยดีของเธอที่ทำให้เขาต้องกลับมา ชายหนุ่มหน้าตาดีฐานะอย่างเขานึกอยากให้หญิงสาวคนไหนสวยแค่ไหนเอาใจเก่งแค่ไหนก็ได้ แต่เธอกลับไม่เป็นเช่นนั้น

“บอกมาตามตรงเถอะ คุณมาที่นี่ทำไม” นลินพูดขึ้นทำลายความเงียบ เพราะคาดว่าถ้าทานเสร็จแล้วเขาคงจะพัดจากไปชีวิตเธอตลอดไป

“ถ้าบอกว่าผมสำนึกผิดเรื่องเมื่อคืนก็คงไม่แปลกใช่ไหม แต่ที่สำคัญผมเหงา” เขตต์พูดกับเธอตรงๆ เมื่อเธอเปิดประเด็นตรงๆ

“ฉันไม่ใช่ผู้หญิงที่มีไว้เพื่อให้คุณแก้เหงาหรอกนะ คุณไปหาเอาที่อื่นไม่ดีกว่าเหรอ ถ้าคุณไม่สังเกตนะ ฉันชอบอยู่คนเดียว” นลินสบตาเขาอย่างจริงจัง แต่ได้เพียงครู่เดียวก็ต้องมองไปที่อื่น

“ผมไม่ได้หมายความว่าคุณเป็นแบบนั้น เอ่อ ผมอาจใช้ประโยคไม่ถูก ผมขอโทษ” เขตต์ยอมรับว่าเขาไม่ตั้งใจให้เธอคิดแบบนั้น

“ช่างเถอะๆ แฟนคุณล่ะ หน้าตาอย่างคุณไม่มีแฟนก็คงแปลก แต่ทำตัวแบบนี้ ไม่คิดถึงแฟนคุณบ้างหรือไง” นลินเตือนสติเขา

“แล้วคุณล่ะ แฟนคุณล่ะ” เขตต์ฟังเธอพูดถึงแฟนเขาก็อารมณ์เสียขึ้นมาจึงยอกย้อนเธอ

“เลิกไปเป็นชาติละ ผู้ชายสมัยนี้หาที่พึ่งพาได้ยากจะตาย นอกจากจะดูแลตัวเองไม่ได้ ฉันยังต้องมาดูแลอีก แถมยังเจ้าชู้ มีผู้หญิงอื่นมาให้ฉันต้องปวดหัวอีก ฉันดูแลตัวเองดีกว่า” นลินพูดตามตรง อดีตที่เธอเกือบถลำลึกจนเกือบลุกขึ้นมายืนด้วยตัวเองไม่ไหว

“ผมขอโทษ” เขตต์เห็นแววตาแข็งกร้าวของเธอขึ้นมาทันที เขารู้ว่าเธอโกรธชายหนุ่มในอดีตมากแค่ไหน

“ช่างเถอะๆ ผู้ชายก็เหมือนๆ กันหมดแหละ ทานเสร็จแล้วคุณก็ไปจากชีวิตฉันซะเถอะ แฟนคุณจะได้ไม่ต้องวุ่นวายกับฉัน” นลินไม่อยากให้ใครมาวุ่นวายกับเธออีก เธอเบื่อความสับสนในอดีต

“แฟนผมเหรอ” เขตต์ถอนหายใจแรงกระแทกอย่างโมโห “พอไม่มีเงินให้ก็เริ่มบอกต้องการระยะห่าง ขอช่องว่าง ขอเวลา ทีตอนผมมีเงินเยอะแยะ ซื้อให้ทุกอย่าง ก็เอาอกเอาใจผม ผมมันก็โง่ เจอมาหลายครั้งแล้วยังไม่เข็ด”

“ในเมื่อคุณรวยแล้วทำไมอยู่ๆ เงินขาดมือล่ะ แหมให้เขาหลอกมาตั้งนาน ตอนนี้เครื่องยนต์น้ำมันหมดหรือไง ก็เติมสิ” นลินประชดพวกลูกคนรวยดีแต่ใช้เงินอย่างเขา

“พี่ชาย พ่อแม่ตัดเงินผมน่ะสิ ตอนนี้เหลือแต่เงินเดือนเอง” เขตต์บ่นอย่างเซ็งๆ

“อ๋อ คุณเลยไปเมาคนเดียวล่ะสิ ฉันไม่สนใจหรอกนะ แต่แฟนคุณนี่เหลือร้ายเลยนะ ดีที่พี่ชาย พ่อแม่คุณรู้ว่าจะจัดการยังไง” นลินพูดวิจารณ์ตามตรง ในเมื่อเขาจะไม่เข้ามายุ่งกับเธออีกแล้ว

“ผมถึงไม่โกรธพวกเขาไง ผมโกรธตัวผมเองที่โง่ให้ผู้หญิงหลอกซ้ำแล้วซ้ำอีก” เขตต์ระบายความในใจที่เขาไม่กล้าพูดกับคนในครอบครัว

“ตอนนี้คุณควรจะกลับไปตั้งใจทำงานดีๆ คนในครอบครัวคุณจะได้คืนทุกอย่างให้คุณ” นลินแนะนำตามตรง

“คุณจะไม่ถามผมเหรอว่าผมเลิกกับแฟนหรือยัง” เขตต์ถามออกมาตรงๆ

“มันเรื่องของคุณนี่ ในเมื่อคุณรู้อะไรเป็นอะไร ไม่เลิกก็เรื่องของคุณ ว่าแต่ตอนนี้ก็กินอิ่มแล้ว นี่ก็ดึกมากแล้ว คุณก็ควรจะไปจากที่นี่ได้แล้ว” นลินยกจานไปเก็บและไม่ฟังคุณหนูอ่อนต่อโลกอย่างเขาอีก

“ถ้าผมเลิกกับเขาล่ะ คุณจะว่ายังไง” เขตต์ถามขึ้นตามใจโดยที่เขาไม่แน่ใจว่าถามเธอทำไม

“ก็อย่างที่บอก มันเรื่องของคุณ” นลินเขี่ยเศษอาหารลงในถุงขยะ และหันหลังให้เขาเช่นเดิม แต่ก็ต้องตกใจเมื่อเขาเข้ามากอดเธอจากด้านหลัง ซบลงที่ซอกคอเธออย่างเหนื่อยอ่อน

เธอปลดมือเขาออกแล้วล้างมือ ก่อนหันมามองเขา “คุณต้องการอะไรจากฉันกันแน่ ฉันไม่ใช่ผู้หญิงชั่วคราวของใครนะ ให้เกียรติกันบ้างสิคุณ ใช่ เมื่อคืนมันคือความผิดพลาด แต่มันจะได้รับการแก้ไขถ้าคุณไม่มาที่นี่อีก”

“มันไม่ใช่ความผิดพลาด มันอาจจะเป็นความจงใจของโชคชะตาก็ได้ ที่ส่งคุณมาให้ผมในเวลาที่ผมต้องการใครสักคน” เขตต์คิดเข้าข้างตัวเอง ถึงเธอไม่สวยอะไร รูปร่างไม่ผอมเพรียวบาง แต่เขาสัมผัสความอบอุ่นจากร่างกายเธอได้

นลินผลักเขาออกไปให้ไกล แต่เขาก็กอดเธอแน่นเสียจนเธอหนีไปไม่พ้นอ้อมกอดเขา “คุณต้องการแค่ผู้หญิงโง่ๆ คนหนึ่งเข้ามาบำบัดความต้องการเพียงชั่วคราว รอจนมีคนสวยๆ มาเอาใจคุณแล้วคุณก็ทุ่มเทให้ครั้งแล้วครั้งเล่าน่ะเหรอ ปล่อยฉันนะ”

เขตต์ตกใจข้อหาที่เธอยัดเยียดมาให้เขา คำพูดเธอทำให้เขาเจ็บปวดได้อย่างเหลือเชื่อ

“ไปซะ หรือถ้าคุณคิดว่าการที่ฉันเปิดประตูให้คุณเข้ามาในห้องฉันง่ายๆ หรือยอมให้คุณมีอะไรกับฉันง่ายๆ อย่างเมื่อคืนทำให้ฉันเป็นคนใจง่ายละก็ คุณคิดผิดแล้วล่ะ ถ้าฉันใจง่ายอย่างที่คุณคิด เรื่องเมื่อคืนก็ไม่ใช่ความผิดพลาดหรอก แต่ฉันก็คงทำกับผู้ชายมาอีกหลายคนแล้วล่ะ” นลินพูดประชดก่อนเดินถอยหลัง นัยน์ตาจ้องเขาไว้ไม่ยอมให้เขามาลุกล้ำเธออีกแล้ว

“คุณพูดอย่างนี้ทำไม ทำไมต้องดูถูกตัวเองอย่างนั้นด้วย คุณไม่มีทางเป็นอย่างนั้นในสายตาผมได้หรอก ผมไม่โง่จนสังเกตไม่ออกหรอกนะ คุณนลิน ผมรู้ว่า...” เขตต์กำลังจะพูดต่อแต่เธอใช้มือปิดปากเขา

น้ำตาค่อยๆ ไหลออกมา นลินก้มหน้าลงและปล่อยให้ความเจ็บปวดที่เกิดจากความไม่ตั้งใจ แม้จะมีความประทับใจอยู่บ้างแต่ก็เป็นเพียงความฝันชั่วตื่นหนึ่งที่เธอต้องพยายามลืม หากตอนนี้เขากำลังตอกย้ำให้เธอจดจำและคาดหวังกับมัน

เขตต์โอบกอดเธอไว้แน่น แรงดึงดูดที่ทำให้เขาเลือกเธอ อำนาจพิเศษที่ทำให้เขาไม่สามารถลืมเธอได้ทั้งวันจนต้องกลับมาหาเธออีกครั้ง เขาเชยคางเธอขึ้นมา ก่อนหยิบผ้าเช็ดหน้าซับน้ำตาให้เธอ “ผมขอโทษที่ทำอะไรไปโดยไม่คิด ผมขอโทษที่ไม่จัดการปัญหาและยังมาสร้างปัญหาให้คุณอีก แต่รู้อะไรไหมผมไม่เสียใจที่กลับมาที่นี่ กลับมาหาคุณ”

“คุณกลับไปซะเถอะ อย่ากลับมาที่นี่แล้วให้ความหวังลมๆ แล้งๆ กับผู้หญิงอย่างฉันเลย” เสียงหัวเราะประชดประชันดังขึ้นจากลำคอของเธอ “ฉันเลยวัยเพ้อฝันมานานมากแล้ว อายุอย่างฉันไม่ตั้งความหวังแบบเทพนิยายแล้วล่ะคุณ”

เขตต์ไม่ยอมให้นลินเดินหนี เขายังดึงเธอมากอดเอาไว้ ก่อนหยิบมือถือเขาออกมาแล้วกดโทรออก ทำให้นลินมองเขาอย่างสงสัยไม่รู้ว่าเขากำลังโทรหาใคร

“โทรมาทำไมเหรอคะ เขตต์ พลอยไม่ว่างค่ะ คุยได้แปบเดียว” ปลายสายตอบมาอย่างนั้น

“สิ่งที่ผมเคยให้คุณ ผมยกให้คุณ แต่ต่อไปนี้ ผมจะไม่พบคุณอีก ลาก่อนนะ เราเลิกกันแค่นี้เพราะผมคงไม่มีเงินให้คุณอีกแล้ว ผมโดนตัดออกจากกองมรดกแล้วล่ะ” เขตต์เปิดลำโพงแล้วปิดปากนลินให้ฟังคำตอบ

“ก็ดีค่ะ จะมาเก็บของคุณไปจากห้องพลอยเมื่อไรค่ะ” หญิงสาวตอบกลับมาอย่างง่ายๆ

“คุณเก็บใส่กล่องไว้ละกัน อันไหนที่คุณไม่เอา ผมจะให้คนไปเอามาเอง” เขตต์ตอบง่ายๆ เช่นกัน เขาไม่เคยเก็บของสำคัญเอาไว้ที่นั่น เพราะเขามีบ้านที่เขามักเก็บสิ่งสำคัญเอาไว้

“ได้ค่ะ มีธุระแค่นี้ใช่ไหม แค่นี้นะคะ” ปลายสายกดตัดสายอย่างไร้เยื่อใย

เขตต์มองนลินที่ทำตามโตตื่นตะลึง ก่อนบอกกับเธอ “ตอนนี้ผมมีแต่ตัวกับเงินเดือนอีกนิดหน่อย คุณพอจะรับผมไว้พิจารณาได้ไหม แถมแฟนก็ไม่มีด้วย ผมไม่อยากกลับบ้านไปอยู่คนเดียว ขอผมอยู่กับคุณได้ไหม”

นลินกลืนน้ำลายลงคอยากเย็น มองเขาอีกครั้งและตัดสินใจอย่างรวดเร็ว “ขอดูเอกสารสำคัญก่อนได้ไหม อย่างน้อยให้ฉันได้รู้จักคุณบ้าง”

เขตต์ยิ้มก็หยิบกระเป๋าเงินให้เธอดู “ตอนนี้ผมมีแค่นี้ ส่วนเอกสารสำคัญอื่นๆ ผมเก็บไว้ในรถแล้วก็ที่บ้าน ถ้าคุณอยากดู พรุ่งนี้ผมจะเอามาให้ดู”

นลินมองเฉยๆ แล้วให้เขาเอากระเป๋าเงินออกมาแจกแจงให้เธอดูเอง “คุณไม่ได้ใช้สัญชาติไทยใช่ไหมเนี่ย”

“แน่นอนครับ ผมเกิดที่นิวยอร์ก อเมริกา ไปๆ มาๆ ระหว่างเมืองไทยกับอเมริกาแล้วก็เรียนภาษาไทยเพราะแม่ผมเป็นคนไทย” เขตต์อธิบาย

นลินรับทราบก่อนนึกขึ้นได้ “เอ่อ คืนนี้คุณจะค้างที่นี่ใช่ไหม”

“แน่นอนครับ” เขตต์ตอบตามตรง

นลินกรอกตาไปมาเหมือนกำลังคิดอยู่ว่าสิ่งที่ทำนี่ถูกต้องหรือเปล่า แต่ยังไม่ทันได้คิดอะไรมาก ริมฝีปากเขาก็สัมผัสริมฝีปากเธอ มือเขารั้งเธอเข้ามากอดให้ใกล้เข้าอีก แล้วเขาก็ลุกล้ำเข้าใกล้เธออีก สอดลิ้นเข้าไปสัมผัสลิ้นเธอช้าๆ ก่อนถอนริมฝีปากจากเธอแตะหน้าผากกอดเธอเอาไว้แนบอก

นลินหลับตา ลืมตัวปล่อยใจให้เขาอีกครั้ง ก่อนถอยออกมาให้ห่างจากเขา เม้มริมฝีปากขัดใจเมื่อตั้งสติได้ว่าเขาล่วงเกินเธออีกแล้ว “คุณนี่”

เขตต์ยิ้มกริ่ม “คุณไม่เคยจูบใครแบบนี้เลยเหรอ”

“ทำไมฉันต้องตอบคุณด้วยล่ะ” นลินเล่นแง่ไม่ตอบ

“งั้นผมเดาว่าไม่เคยแน่ๆ มานี่สิผมจะสอนคุณเอง” เขตต์คิดจะดึงเธอเข้ามากอดอีกครั้ง แต่นลินถอยหนี “ผมล้อเล่น”

นลินขมวดคิ้วเข้ม “คุณนี่จริงๆ เลยนะ ฉันไปอาบน้ำดีกว่า”

“อาบด้วยได้ไหมครับ” เขตต์ทำเสียงอ้อน

“จะบ้าเรอะ” นลินค้อนเขาเข้าให้

“ไม่เห็นเป็นไรเลยนี่ อาบด้วยกันก็สบายดีไงครับ ประหยัดน้ำ” เขตต์เท้าคางยิ้มอ้อน

“ฉันมีเงินจ่ายค่าน้ำค่าไฟ” นลินไม่ยอมท่าเดียว ขณะเดินไปหยิบผ้าเช็ดตัวและชุดนอน แล้วหยุดคิดก่อนหยิบเสื้อชุดที่รัดกุมที่สุด

เขตต์ไม่สนใจเข้ามาสวมกอดอีกครั้ง แล้วจูบที่ซอกคอเธอแผ่วเบาแล้วค่อยๆ แรงขึ้นเรื่อยๆ จนของในมือเธอหล่น เขาไม่หยุดแค่นั้นแล้วพลิกเธอหันมาเผชิญหน้ากับเขาก่อนอุ้มเธอเล็กน้อยแล้วจูบที่ริมฝีปากเธออีกครั้ง ทำแบบเดิมก่อนกระซิบเบาๆ “ลองสอดลิ้นคุณเข้ามาบ้างสิ”

นลินอายจนทำอะไรไม่ถูก จึงไม่ยอมทำตาม แต่เขาจูบเธอไม่หยุดจนเธอต้องทำตามที่เขาต้องการ เขาจึงหยุดและมองเธอด้วยรอยยิ้มเจ้าเล่ห์นิดๆ “ปล่อยลินเถอะค่ะ”

เขตต์ไม่ยอมปล่อยเธอ แต่กลับดึงเธอนั่งบนตักเขาที่เตียงแทน “ไม่ปล่อยง่ายๆ หรอก ดื้อจริง บอกอะไรทำไมไม่ทำตามล่ะ”

“คุณนี่ ก็ลินอาย” นลินพยายามแกะมือเขาเพราะตอนนี้กำลังเสียเปรียบอยู่

“ผมรู้” เขตต์วางคอที่ไหล่เธอแต่มือลูบขาอ่อนขาวอวบที่โผล่ออกมาจากกางเกงขาสั้นที่เธอใส่อยู่ ขณะที่นลินพยายามปัดมือเขา

“อย่าซนสิ” นลินเห็นว่าปัดไม่สำเร็จจึงตีมือเขาแทน

“เปล่า สักหน่อย ลินใจร้ายจัง” เขตต์บ่นไปก็พยายามจูบเธอต่อ

“ไม่เอาค่ะ ลินจะไปอาบน้ำ” นลินพยายามไปให้พ้นเขา เพราะรู้ว่าเขาต้องการอะไร

“งั้นอาบด้วยกัน ผมช่วยอาบ” เขตต์ถือโอกาสเลย

“ไม่ ลินอาบคนเดียวได้” นลินถือโอกาสตอนเขาเผลอไปที่ตู้เสื้อผ้าอีกครั้งแล้วรีบหยิบ แต่เขตต์มายืนขวางเธอที่หน้าตู้ “ลินขอละ ให้ลินอาบคนเดียวนะ ลินอาย”

“อายอะไรเหรอ” เขตต์ทำเป็นไม่เข้าใจ

“คุณก็รู้นี่ อย่าแกล้งลินเลยนะ ลินขอร้องก็ได้ ลินไม่ใช่คนสวย รูปร่างก็ไม่ดี ผิวก็ไม่สวย ไม่มีอะไรให้มองหรอก” นลินพูดตามตรงทุกอย่าง

เขตต์จึงจูบเธอที่หน้าผากและแตะหน้าผากเขาที่หน้าผากเธอ “ผมเจอผู้หญิงสวยๆ รูปร่างดีๆ ผิวสวยๆ มาเยอะ แล้วเป็นไง แต่ละคนมีแต่หลอกผม พอผมไม่เหลืออะไร แล้วมีใครอยู่กับผมบ้าง”

นลินโอบรอบคอเขา ก่อนถามตามจริง “แล้วคุณแน่ใจได้ยังไงว่าลินไม่ใช่คนแบบนั้น คุณจะเชื่อได้ยังไงว่าลินจะไม่หลอกคุณ”

“ผมก็ไม่รู้สิ แต่ผมเชื่อว่าลินจะไม่หลอกผม เพราะถ้าลินจะหลอกผม ลินคงไม่ไล่ผมตลอดหรอก” เขตต์มองโลกในแง่ดี

“คุณนี่เชื่อใจคนง่ายจริงๆ ไม่เอาละ ลินจะไปอาบน้ำละ” นลินผลักเขาออกไปให้พ้นทางและยืนยันตามความคิดเดิมไม่ตามใจเขา

เขตต์ยิ้มพอใจ เธอแตกต่างจากหญิงสาวคนอื่นที่เดินเข้ามาในชีวิตเขาจริงๆ เธอไม่โอนอ่อนตามเขาเสียทุกอย่าง แต่ก็ไม่ถึงกับขัดใจเขาไปเสียหมด เขาเชื่อว่าเขาได้เจอคนที่น่าสนใจเข้าให้แล้ว

นลินอาบน้ำเสร็จแล้วออกมาก็เห็นเขานั่งอยู่ที่เตียงกำลังยิ้มแป้นให้เธอ ทำให้เธอต้องแอบกลืนน้ำลายอีกครั้ง เมื่อเห็นสายตาของเขา เธอเลี่ยงด้วยการไล่เขาไปอาบน้ำ “ไปอาบน้ำสิคะ”

เขตต์ไม่ตอบคำ รับผ้าเช็ดตัวจากเธอแต่ก็เบียดแล้วสูดกลิ่นหอมจากเธอก่อนหัวเราะเบาๆ และเดินไปอาบน้ำตามที่เธอต้องการ ขณะที่นลินก็พอรู้ว่าไม่อาจรอดจากรสรักแรงปรารถนาของเขา เธอประเมินได้จากสายตาเขา ตอนนี้เธอต้องถามตัวเองว่าพร้อมจะเสี่ยงกับเขาไหม...

นลินต้องสะดุ้งเมื่อเขาเข้ามากอดเธอจากด้านหลัง ทว่าคราวนี้เธอหันไปเผชิญหน้ากับเขาแล้วพยายามผลักเขาให้พ้นตัว “อย่าค่ะ ลินยังไม่พร้อม”

“ไม่พร้อมสำหรับอะไรเหรอ” เขตต์ไม่ฟังเธอพูด เขาจูบเธอปิดปากไม่ให้เธอพูดในสิ่งที่เขาไม่อยากฟังในเวลานี้

นลินพ่ายแพ้ต่อความต้องการอีกครั้ง ปล่อยให้เขาแตะต้องจุดอ่อนที่ทำให้หญิงสาวคนไหนก็ไม่อาจต้านทานเขาโดยเฉพาะกับหญิงสาวที่เพิ่งมีประสบการณ์อย่างเธอ ถึงแม้รู้ว่าเธอจะต้องเสี่ยงกับสายลมอย่างเขา แต่เธอก็ไม่อาจต้านทานแรงปรารถนาที่เธอกักเก็บเอาไว้เป็นเวลานานได้เช่นกัน



**********************************
เบื่อๆ เซ็งๆ หันไปเจอนิยายที่แต่งไว้นานแล้ว ก็เลยหยิบมาให้อ่านค่ะ
^^ เปลี่ยนรสชาติกันบ้างนะคะ
(ไม่รู้ว่าจะเป็นเทศกาลเปิดไหหรือเปล่า อันนี้ต้องคอยดูกันต่อไปค่ะ)
ช่วงนี้เพลิงวารีทำทีสีสจนถึงโค้งสุดท้ายแล้ว คาดว่าคงจะยังไม่มีผลงานออกมาเป็นเล่ม
ไปอีกพักใหญ่มาก +กับสภาพความคิด (ติสต์แตก) คงจะพักไปกันใหญ่
ขออนุญาตงัดไห ออกมาแบ่งปันค่ะ
ใครที่เคยผ่านไปในบ้านเด็กดีอาจเคยเจอเรื่องนี้โพสแล้วนะคะ
แต่โพสไปไม่เท่าไรค่ะ ก็รอติดตามได้ค่ะ
ขอบคุณที่เข้ามาอ่านค่ะ


Create Date : 22 กรกฎาคม 2552
Last Update : 22 กรกฎาคม 2552 2:44:36 น. 2 comments
Counter : 476 Pageviews.

 
เข้ามาเป็นกำลังใจค่ะ เรื่องนี้พอมีบทนำให้ทำความเข้าใจกับตัวละครบ้างไหมค่ะคุณเพลิงวารี แต่ยังไงก็จะติดตามผลงานต่อไปนะคะ เรื่อง "พาย" เป็นเรื่องที่ชอบมากเลยค่ะและนางเอกของคุณเพลิงวารีแต่ละคนจะแตกต่างกันโดยสิ้นเชิง ชอบนะคะเพราะเป็นผู้หญิงเก่ง.....


โดย: tuk_ora วันที่: 22 กรกฎาคม 2552 เวลา:10:19:42 น.  

 
อ้าวทำไมไปยอมให้เค้าอยู่ด้วยง่ายๆอย่างนั้นล่ะลินยังไม่ค่อยจะรู้จักกันเลย


โดย: mimny วันที่: 24 กรกฎาคม 2552 เวลา:13:49:08 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 
 

เพลิงวารี
Location :
นนทบุรี Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 3 คน [?]




ไหดองเหล็กไหล
New Comments
[Add เพลิงวารี's blog to your web]

 
pantip.com pantipmarket.com pantown.com
pantip.com pantipmarket.com pantown.com