เพลิงวารี & คชสีห์ ฿ Babylonia
<<
ตุลาคม 2552
 123
45678910
11121314151617
18192021222324
25262728293031
 
23 ตุลาคม 2552
 
 
เราสามคน...หนทางเดียว18(พร้อมหน้า)

สี่เดือนแห่งความมหัศจรรย์ ชีวิตเขาผ่านไปโดยไร้สีสันฉูดฉาด มีแต่สีสันอ่อนหวานกับความรักที่อบอุ่น แล้วก็ได้คนรักสาวรูปร่างดี ด้วยค่าใช้จ่ายแสนแพง

“เฮ้อ” นลินทิ้งน้ำหนักลงหลังจากที่ครูฝึกกลับไปแล้ว ก่อนมองรูปร่างสมส่วนของตัวเองอย่างถอนหายใจ “ถ้าไม่มีคนบังคับลินก็คงทำไม่ได้หรอกนะเนี่ย ออกกำลังกายแล้วก็รู้สึกดีเหมือนกันแฮะ”

“จ๊ะ” ขันธ์อุ้มลูกสองคนที่อีกไม่กี่อาทิตย์ก็จะอายุครบหนึ่งขวบแล้วก็หอมแก้มคนละทีสองที แม้ทั้งสองจะพยายามขอคลานแค่ไหนก็ตาม

“เดี๋ยวลินไปอาบน้ำก่อนนะคะ” นลินเดินเข้ามาจูบแก้มลูกๆ ก่อนเดินแยกไปอาบน้ำ

“เอ่อ เดี๋ยวได้ไหมจ๊ะ” ขันธ์ถาม ก่อนวางลูกสองคนลงพื้น เมื่อเธอหันมา เขาก็ต้องพูดด้วยความลำบากใจ “ครั้งก่อนที่พี่ไปเที่ยวกับพวกเพื่อนๆ น่ะ เขาจะจัดทริปวันหยุดกัน อยากให้พาคนรักหรือคนในครอบครัวไปด้วย พอดีเพื่อนคนหนึ่งกลับจากตะวันออกกลาง แล้วเขาก็อยากแนะนำให้พวกเรารู้จักคู่หมั้นเขา แล้วเขาก็อยากรู้จักเราด้วย แต่ถ้าลินลำบากใจไม่ไปก็ได้นะ พี่ก็ไม่สนใจอยากจะไปอยู่แล้วล่ะ”

นลินเอียงคอเล็กน้อยแล้วแอบซ่อนบางสิ่งไว้ เธอรู้ว่าจะได้พบกับใคร แต่มันคงไม่แย่ไปกว่านี้ เพราะเธอต้องรู้จักเผชิญหน้า เธอจึงตอบตกลง “ได้ค่ะ ถ้าพี่ไม่กลัวเจ้าตัวเล็กซนเกินไปนะคะ ลินไปอาบน้ำก่อนนะคะ”

“เดี๋ยวสิลิน ลินรู้ใช่ไหมว่าจะต้องเจอกับเขตต์” ขันธ์พูดชื่อที่พวกเขาหลีกเลี่ยงที่จะพูดถึงมานาน

“ค่ะ ไม่เป็นไรจริงๆ พี่ขันธ์คิดว่าเราจะหลบหน้าพี่เขตต์ไปได้ชั่วชีวิตเหรอคะ เขาต่างหากที่ต้องเป็นฝ่ายหลบเรา ถ้าเขากล้ามา เราก็กล้าไป อย่าลืมสิคะ เขาหนีปัญหาด้วยการหลบหน้าเราก่อนเสียด้วยซ้ำไป เชอะ จะอะไรหนักหนากับแค่ไม่ได้จดทะเบียนสมรส เด็กเกินไปหรือเปล่า” นลินพูดขึ้นอย่างไม่ใส่ใจนัก

ขันธ์มองเธออีกครั้ง ทำให้นึกถึงช่วงเวลาเก่าๆ ที่เขาเคยบอกตัวเองว่าไม่รู้จักเธอคนนั้น หากเขาก็ถอนหายใจ บางครั้งเธอก็มีแง่มุมที่เขารู้สึกเกรงอยู่ไม่น้อย

“เวลาที่ลินเป็นแบบนี้ บางทีพี่ก็รู้สึกเหมือนไม่รู้จักลินเหมือนกัน ลินที่ดูมั่นใจราวกับทำได้ทุกอย่าง แม้แต่เรื่องเลวร้ายที่มนุษย์จะจินตนาการได้” ขันธ์พูดสิ่งที่อยู่ในใจเขา หลังจากที่เก็บมานาน

สายตานลินยามนี้แอบซ่อนบางสิ่งไว้ คล้ายสมใจที่เขาพูดออกมา ก่อนถอนหายใจแล้วพูดออกไป “คนเราก็มีหลายบุคลิกได้ค่ะ ทุกคนมีบุคลิกที่ซับซ้อนได้ แต่ไม่ใช่ทั้งหมดจะถูกแสดงออกมา อยู่ที่ว่าจิตใต้สำนึกสามารถควบคุมได้แค่ไหน แต่ลินก็แค่ใช้ให้ถูกเวลาเท่านั้นค่ะ”

“แต่รู้อะไรไหม พี่เคยมีปัญหากับมัน แต่สุดท้ายพี่ก็คิดว่า ถ้าลินไม่แตกต่าง บางทีพี่อาจไม่ทำอะไรเลยก็ได้ แล้วพี่ก็จะไม่มีทางได้มีความสุขแบบทุกวันนี้ พี่รักลินอย่างที่ลินเป็น” ขันธ์เดินเข้ามาโอบกอดเธออย่างอ่อนโยน

“บางครั้งลินก็สงสารพี่ที่ต้องมาทนกับลิน ลินมีโลกส่วนตัวมากเกินไป การเป็นนักเขียนอาจทำให้ลินจำลองบุคลิกไว้ที่ตัวเองก็ได้ค่ะ ทำให้เป็นบุคลิกที่ซับซ้อนจนยากจะจำแนกและคาดเดาได้” นลินพิจารณาตัวเองจากสิ่งที่ผ่านมา ซึ่งทำให้เธอต้องเก็บตัวจากโลกภายนอก

ไม่ใช่เธอกลัวโลกภายนอก...แต่เธอกลัวตัวเธอเอง

ขันธ์เดินเข้ามากอดเธออีกครั้ง ก่อนปลอบเธอ “คงเพราะว่าลินไม่มีหลักยึดเหนี่ยวน่ะสิ คนเราถ้าอยู่คนเดียวนานๆ แล้วแยกจากคนอื่น จะทำให้เราสับสนได้นะ ตอนนี้ลินมีพี่ มีลูกๆ ซึ่งน่าจะทำให้ลินมีเป้าหมายในชีวิตนะ”

“ค่ะ พี่อาจจะรำคาญแล้วก็เบื่อลินก็ได้ หรือไม่วันหนึ่งลินอาจจะเป็นบ้าก็ได้” นลินถอนใจยาว

“ผู้หญิงนี่ความลับเยอะจริงๆ แต่รู้อะไรไหม คนที่บ้ามีสองอย่างคือคนที่ยึดมั่นในบางสิ่งมากเกินไป กับคนที่ไม่มีอะไรให้ยึดมั่นและไม่พยายามจะค้นหา ลินไม่มีหลักยึดแต่ลินพยายามค้นหา นั่นทำให้ลินแตกต่างรู้ไหม พี่เชื่อว่าลูกคือสิ่งยึดเหนี่ยวที่ลินรักที่สุด” ขันธ์เตือนเธออย่างใจเย็น

“พี่แน่นะ...ว่าจะไม่จับลินขังไว้ในโรงพยาบาลบ้า” นลินพูดแล้วก็ขำ ก่อนปลดมือเขาออกจากตัวอย่างนุ่มนวล

“แน่ใจสิ พี่จะไม่มีทางขังลิน ถ้าลินไม่อยากอยู่ บอกแล้วไงว่า...เวลาที่เรารักใครสักคน เราก็ยอมตามใจในบางโอกาส” ขันธ์ต้องยอมรับว่าบางโอกาสนั้นสำคัญมากพอ

“แค่บางโอกาสก็ยังดีค่ะ ลินไปอาบน้ำได้หรือยังคะ เหนียวจะตายอยู่แล้ว” นลินถามก่อนหันหลังเตรียมเดินออกจากห้อง

“อาเธอร์ฝากเนธานกับอีธานหน่อย” ขันธ์พูดขณะอุ้มเธอซึ่งตอนนี้น้ำหนักไม่ถึงหกสิบขึ้นชั้นบน

“พี่ขันธ์บ้าจะทำอะไร” นลินตกใจที่ถูกอุ้มวิ่งขึ้นบ้าน ขณะที่ลูกๆ พยายามคลานตามพ่อแม่ แต่ถูกพ่อบ้านกับพี่เลี้ยงยึดไว้

“ก็อาบน้ำไง” ขันธ์ตอบแล้วก็ยึดเธอให้มั่นขึ้น

หากก่อนที่เธอจะได้แย้งอะไรก็ถูกเขาปิดปากด้วยรอยจูบ แล้วกดดันด้วยรอยมือบนร่างเธอ เมื่อเปิดประตูสำเร็จก็เหลือแต่เสียงหัวเราะของคนทั้งสอง

จนกว่าความวุ่นวายจะเข้ามาพรากความรักไปจากพวกเขา...

********************************************


เมื่อเวลาแห่งการเผชิญหน้ามาถึง นลินก็ต้องพยายามทำใจให้ได้ เธอหันไปมองลูกทั้งสองคน โดยไม่มีพี่เลี้ยงที่นี่ เพื่อเธอจะได้มีข้ออ้างไม่ต้องอึดอัดกับเขตต์บ่อยนัก

ขันธ์หันไปมองเธอแล้วก็ลำบากใจไม่น้อย ก่อนบอกเธอ “เรายังขับรถออกไปทัน ถ้าลินต้องการ”

นลินกระแทกลมหายใจใส่ตัวเองอีกครั้ง ก่อนฮึดขึ้นมา “ไปเถอะค่ะ เพื่อนๆ พี่รออยู่ไม่ใช่เหรอคะ เราถ่วงเวลามานานแล้วนี่คะ”

ขันธ์มองเธอก้าวลงจากรถ แล้วเขาก็เช่นกัน ลงไปยกที่นั่งเด็กทั้งสองคนลงมาก็ทำให้ชีวิตนี้ป่วนได้ เพราะทันทีที่รู้สึกตัวเจ้าธรรม์ก็ร้องจะลงจากที่นั่งเด็ก ส่วนเจ้าธารก็หันไปมาตามคู่แฝด

“เจ้าคู่ป่วนนี่” ขันธ์ต้องรีบวิ่งพาลูกๆ เข้าไปในบ้าน ก่อนที่จะกรีดร้องลั่นทำให้เขาต้องรีบแกะที่นั่งให้เด็กน้อยทั้งสอง ก่อนเงยหน้ามองเพื่อนที่เดินเข้ามาแล้วตกใจ “โทษทีนะ เด็กๆ อยากคลานเล่นน่ะ”

“ไม่เป็นไร” พีทีหรือปีเตอร์เพื่อนเขามองเด็กเล็กกำลังคลานมองรอบๆ แล้วหันไปมองเพื่อนที่เหลือที่มาพร้อมกัน

“สวัสดีค่ะ” นลินทักทายทุกคนที่เดินมาในสายตา ซึ่งรวมถึงเขา...คู่แฝดเขา

“ไงลิน” ไมค์รีบเดินเข้ามาโอบกอดทักทาย “ใจเย็นๆ นะ”

“ไงดีนส์” ขันธ์ทักทายคู่แฝด “แล้วก็นายด้วยพีที แดน แล้วก็นี่ลินกับลูกๆ ของฉัน”

“ไอ้บ้า มีลูกแซงหน้าเพื่อน ยินดีที่ได้รู้จักครับ ลิน อ๋อ นี่คู่หมั้นผมซาร่าห์ นี่จูเลียแฟนพีทีครับ” แดนแนะนำทุกคนให้รู้จักกัน

นลินยิ้มให้ ก่อนมองไปที่เขตต์กับหญิงสาวผมสีทอง ซึ่งกอดเอาไว้ เธอรีบรวบมือไปด้านหลังก่อนที่มันจะสั่นต่อหน้าทุกคน สายตาที่เขามองเธอนั้นคล้ายกับกำชัยชนะเอาไว้

ขันธ์เดินเข้ามาประชิดแล้วโอบไหล่เธอเอาไว้ก่อนยิ้มให้ทุกคน “แหม มันก็ต้องมีข้ามขั้นกันบ้างสิ”

“เนธาน” นลินเรียกลูกชายที่คลานไปนั่งเล่นอยู่ที่ขาของเขตต์ เด็กน้อยตีเท้าเบาๆ ก่อนเงยหน้ามองแล้วขมวดคิ้ว

เขตต์ก้มลงมองแล้วพยายามข่มใจไม่ให้เอ็นดูหลานมากนัก เขาต้องเข้มแข็งแล้วเดินถอยหนีโดยพยายามไม่มองทั้งหมด “ไปกันเถอะ แอบบี้”

เด็กน้อยเอียงคอแล้วขมวดคิ้ว ก่อนคลานกลับมาหาคู่แฝดตัวเองแล้วนอนเล่นกัน

“ขอโทษนะคะ พวกเราตามใจเขามากไปหน่อยค่ะ” นลินรีบตามจับเจ้าตัวป่วนทั้งสองที่ดูจะต้องการสำรวจสถานที่ใหม่

“โทษนะ ลูกนายนี่เหมือนจะซนเกินไปหรือเปล่า” พีทีเดินเข้ามาตบไหล่เพื่อนอย่างปลงๆ

“ลิงกลับชาติมาก่อนน่ะสิ ซนสุดยอด ฉันคงต้องไปเอาคอกเด็กในรถมาวางก่อนล่ะ” ขันธ์หันหลังแล้วเดินไปเอาคอกเด็กมาวางในที่โล่ง ก่อนจับทโมนทั้งสองมาใส่คอก

“พี่น่ะ ทำเหมือนลูกเป็นลูกหมาไปได้” นลินเดินเข้าไปพร้อมอุ้มเจ้าธารที่เรียบร้อยกว่าไว้

“เหมือนจริงๆ ลองปล่อยล่ะได้วิ่งวุ่น” ขันธ์ตอบแล้วก็นึกไม่ออกว่าจะดูแลลูกๆ ในช่วงวันหยุด ขณะที่อยู่กับเพื่อนๆ ยังไง

“พวกนายพูดกันแต่ภาษาไทยเหรอ” แดนเดินเข้ามาถาม ขณะที่สาวๆ พากันตื่นเต้นที่เห็นเด็กวัยเกือบขวบแต่ไม่กลัวคนแปลกหน้า กำลังนั่งเล่นของเล่นที่แม่เพิ่งเอาใส่มือ

“เปล่า ว่าแต่นายเถอะ จะแต่งงานเมื่อไร” ขันธ์เปลี่ยนเรื่องแล้วปล่อยให้เด็กๆ เล่นกับสาวๆ ไป ก่อนมองไปยังเพื่อนโสดคนเดียว “แล้วนายล่ะ ไม่พาใครมาด้วยเลยเหรอ”

ไมค์มองตัวเองแล้วก็ส่ายหน้า “ไม่มี ช่วงนี้งานยุ่งเหมือนนายนั่นแหละ วุ่นๆ จนไม่มีเวลาน่ะ”

“เออๆ” ขันธ์พยักหน้าแล้วไม่ซักเพื่อนมากนัก

หากดูเหมือนเพื่อนจะมีความสุขกับการได้คุยออนไลน์กับนลิน ซึ่งเขาทำอะไรไม่ได้มาก เพราะคนอย่างนลินนั้นยากจะควบคุม และรู้ดีว่าอะไรควรไม่ควรมากพอ

“ดื่มนี่หน่อยคงช่วยได้นะ ว่าแต่ทำไมไม่แต่งงานให้เป็นเรื่องเป็นราวซะล่ะ ลูกก็มีให้อุ้มแล้วนี่” พีทีถามขึ้นเมื่อส่งขวดเบียร์ให้เพื่อน

“เธอไม่อยากแต่ง ฉันก็บังคับไม่ได้” ขันธ์ตอบ

“อะไรนะ” แดนตกใจแล้วมองหน้าเพื่อน ก่อนมองหญิงสาวที่ทำให้เพื่อนไม่อาจสละโสดได้ “ฉันว่านายไม่อยากแต่งมากกว่า ลินก็สวยดีแบบเอเชีย ทำไมไม่แต่งซะ”

“เชื่อฉันเถอะ ฉันอยากแต่งแต่เธอไม่อยากแต่ง” ขันธ์แทบจะขอให้เพื่อนเชื่อ ก่อนหาคนสนับสนุน “นายบอกพวกนี้ไปดิ”

ไมค์หัวเราะเบาๆ ก่อนพยักหน้า “ผู้หญิงดีๆ ที่ไหนจะยอมแต่งงานกับนายง่ายๆ ล่ะ ยิ่งผู้หญิงฉลาดๆ อย่างลินละก็คงต้องคิดนานๆ คิดหนักๆ ก่อนจะแต่งงานกับนายละนะ”

“ให้ช่วยพูดแต่กลับมาแดกดันกันได้” ขันธ์ตำหนิเพื่อนอย่างไม่จริงจังนัก

“เหอะ คนน่ารักก็มีไว้ให้เข้าข้าง โดยเฉพาะนิสัยดีด้วย” ไมค์พูดก่อนมองไปยังร่างบางของเธอ

เขาได้เห็นเธอในหลากหลายรูปร่าง เพราะเมื่อว่างเขาก็ไปเยี่ยมเธอได้โดยที่เพื่อนเขาไม่ว่าอะไร แต่บางครั้งเขาก็ถามตัวเองเช่นกันว่า ถ้าเขาได้อยู่ในชีวิตเธอ เขาจะรู้สึกอย่างไร...

นลินหันมามองเขาแล้วยิ้มให้อย่างเป็นมิตร ก่อนหันไปมองลูกชายแล้วก็สนทนากับสาวโสดทั้งหลายต่อ เธอเข้ากับสังคมได้ดีๆ พอๆ กับอยู่บ้าน อาจทำให้คนอื่นประหลาดใจได้บ้าง แต่ไม่ใช่ขันธ์

********************************************


ทะเลยามต้องแสงแดดช่างสวยงาม หากในแววตาเขาเต็มไปด้วยหลายอย่าง ไม่พบเธอหลายเดือนแล้วเมื่อได้เจอ...เขาก็ต้องยอมรับว่าเธอทำให้เขาประหลาดใจ

รูปร่างผอมเพรียว สีหน้าสดใสทำให้เขาเกิดความรู้สึกหดหู่ขึ้นอย่างน่าแปลก ยิ่งเธอดูดีมากขึ้นเท่าไร ยิ่งทำให้เขารู้สึกแย่มากขึ้นเท่านั้น

เธอควรเป็นสาวร่างอวบเหมือนตอนที่เขาจากมา ไม่ใช่คุณแม่ยังสาวสวยสุขภาพดีอย่างที่เขาเห็น เพราะมันทำให้เขารู้สึกห่างไกลจากเธอมากขึ้น

ใช่...เขาเห็นแก่ตัวที่อยากให้เธอเป็นคนเดิม ซึ่งเขาเพิ่งเจอ

เขานึกขวางขึ้นมาทันที เมื่อเห็นคู่แฝดเขาโอบไหล่เธอ ทุกอย่างผิดจากที่เขาคาดไว้...ท่าทางนลินคงไม่ได้มีใจให้เขา เธอจึงเริ่มต้นใหม่ได้อย่างหน้าตาเฉย

“เป็นไงบ้างล่ะ เรียนดีไหม” ขันธ์เข้ามาทักคู่แฝดที่อยู่ตามลำพัง

เขตต์มองอย่างไม่พอใจนัก แต่ก็ตอบ “ดีสิ เป็นอิสระดี ไม่ต้องคอยกลัวว่าจะทำผิด ไม่ต้องคอยกลัวว่าจะมีใครมาแย่งแฟนหรือเปล่า สบายใจดี”

“งั้นก็ดีแล้วล่ะ ถ้านายสบายใจ” ขันธ์ตอบแล้วก็ทำเป็นไม่สนใจอีก ถอยออกมาดีกว่าชนกับคนไร้เหตุผล

“ยังไงก็พี่น้องกันทำไมไม่คุยกันดีๆ ละวะ” ไมค์เดินเข้ามาเตือน และคอยเป็นกันชนหลายครั้ง เมื่อออกไปเที่ยวด้วยกัน

“อย่างกับมันอยากคุย ทีหลังไม่ต้องบอกแล้วนะว่าให้คุยกับมัน รำคาญ” ขันธ์บอกก่อนเดินกลับเข้าบ้านพัก

แดนเดินเข้ามาหาเพื่อนแล้วถามอย่างสงสัย “มีอะไรที่พวกนายไม่บอกพวกเราหรือเปล่าวะ แค่แยกย้ายกันไปทำงานไม่กี่ปี ทำไมไอ้แฝดคู่นี้มันหันหลังให้กันงี้ล่ะ”

“ก็ช่างมันเถอะว่ะ ทะเลาะกันทั้งปีก็รู้นี่” ไมค์ยักไหล่กลบเกลื่อน

“แต่ก็ไม่ทำแบบนี้ว่ะ” พีทีเข้ามาถามอีกคน ก่อนตั้งข้อสังเกต “คงไม่ใช่เรื่องผู้หญิงหรอกนะ แต่ก็ต่างฝ่ายต่างก็มีของตัวเองแล้วนี่หว่า”

ไม่มีใครมองออกว่าหญิงสาวชาวเอเชียคนหนึ่งจะทำให้ทั้งคู่แตกคอกันได้ ขณะที่ไมค์ก็ได้แต่เปลี่ยนเรื่องกลบเกลื่อนอย่างตั้งใจ เพราะรู้อยู่แล้วว่าเพื่อนต้องสังเกตได้

ไมค์เดินเข้าไปถามเพื่อนที่อยู่ในบ้านก่อนเป็นคนแรก “นายจะปิดเรื่องนี้อีกนานไหม”

ขันธ์ขมวดคิ้วแล้วมองหน้าเพื่อน “บอกพวกมันแล้วได้อะไรวะ ช่างมันเถอะ สี่ห้าวันเองไม่เป็นไรหรอกน่า”

“สี่ห้าวันที่ฉันต้องอึดอัดน่ะสิ” ไมค์ย้อนเพื่อน

“ใจเย็นๆ น่า ฉันจะพยายามกันลินให้ห่างจากดีนส์ เดี๋ยวมันจะคลั่งอีก” ขันธ์ตบไหล่เพื่อน

“นายว่ามันจะลืมเรื่องลินไปหรือยังวะ ถ้าลืมได้คงดี สงสารลินจะได้ไม่ต้องกังวล” ไมค์พูดตามที่คาด เห็นท่าทางชะงักก็พอเข้าใจ ที่เธอไม่พูดอะไรออกมาเลยตลอดเวลาที่คุยกับเขา ก็คงเพราะเธอไม่อยากให้เขาลำบากใจ และคงไม่ต้องการสะกิดแผลใจตัวเอง

“ไม่หรอก นายน่าจะรู้ดี” ขันธ์ตอบ ก่อนกลับเข้าไปร่วมกิจกรรมกับเพื่อนๆ

ไมค์พยักหน้า ก่อนเปลี่ยนเรื่องไปคุยเรื่องอื่นๆ เมื่อหนุ่มๆ ว่างก็นั่งคุยกัน โดยเขตต์ก็นั่งด้วย เพียงแต่ไม่มองหน้าคู่แฝดบ่อยๆ เท่านั้น บางครั้งก็ลุกขึ้นเดินเล่นแล้วกลับมาเล่าเรื่องราว ก่อนเล่นเกมที่ถนัด

ไมค์ลุกขึ้นเดินไปยังห้องนั่งเล่นซึ่งตอนนี้ถูกคู่แฝดน้อยๆ ยึดไปเสียแล้ว เขาเดินมานั่งข้างๆ นลิน ก่อนถามตามปกติ “เขียนนิยายอยู่หรือเปล่าเนี่ย”

“ก็เขียนนะ แต่ว่าคงไม่เยอะแล้วล่ะ อ่านดีกว่า เวลาที่ให้เจ้าแฝดน้อยเนี่ยก็หมดแล้วนะ กลัวว่าถ้าเขียน ก็จะมัวแต่เขียนน่ะสิ เจ้าแฝดนี่เผลอได้ที่ไหน เดี๋ยวได้คลานไปทั่ว ชนโน้นชนนี่อันตรายนะ” นลินพูดแล้วก็หัวเราะเบาๆ เมื่อนึกถึงพ่อของลูกที่มักทำหน้าไม่เข้าใจในสิ่งที่ลูกตัวเองเป็น

“มีพี่เลี้ยงไม่ใช่เหรอ ก็ให้พี่เลี้ยงช่วยดูสิ” ไมค์ถามขึ้น

“มี แต่ก็อยากเลี้ยงเอง อยากสังเกตเขา ค่อยๆ ดูแลแล้วก็เข้าใจเขาด้วยน่ะ ถึงเขาจะยังเป็นเด็กทารก แต่เราก็ต้องคอยดูแลเขานะ ให้คนอื่นดูแล เดี๋ยวก็โดนว่า ว่าเป็นแม่ภาษาอะไรหรอก” นลินอธิบายเป็นภาษาสากลอย่างคล่องแคล่ว

“อยากมีลินเป็นแม่ซะแล้วสิ ผมโตมากับพี่เลี้ยงน่ะ พ่อแม่ผมยุ่งมากเลยล่ะ” ไมค์พูดก่อนพิงเก้าอี้ยาว แล้วมองเด็กเล็กที่ค่อยๆ คลานไปที่เบาะนอน แล้วผล็อยหลับ

“ไม่เอาล่ะ มีลูกโตอย่างคุณ มีหวังปวดหัวแน่ๆ” นลินพูดแล้วก็หัวเราะ

“อ้าว ดีออก ไม่ต้องเสียเวลาวิ่งจับให้วุ่น บอกให้ทำงานก็ทำได้ หาเงินได้ด้วยนะ” ไมค์คุยขำๆ

“ลูกนะคะ ไม่ใช่ทาส แหม ดูสิคะ พวกเขาน่ารักออกจะตาย กินแล้วก็นอน แล้วก็เล่น ไม่ต้องคิดมาก ไม่ต้องห่วงอะไร ให้เขาอยู่ในโลกของเขาไปอีกนานๆ ดีกว่าค่ะ ฉันยังไม่อยากได้ลูกตัวโต” นลินอธิบายก่อนหัวเราะใส่เขา

หากพอเห็นเด็กๆ ขยับเหมือนจะมองทั้งสองก็ต้องแอบยิ้มให้กัน ก่อนนลินเงยหน้าขึ้นเห็นเขตต์จ้องมาทางเธอกับไมค์ เธอก็ได้แต่ถอนหายใจแล้วสลัดความคิดเกี่ยวกับเขาทิ้งไป

ไมค์มองตามแล้วก็ขมวดคิ้ว ไม่ทันมองว่าเพื่อนคนไหน “มีอะไรหรือเปล่า หรือผมทำให้คุณอึดอัดไหม”

“คิดมากจัง คุณก็ไม่ได้ทำอะไรน่าเกลียดนี่คะ คนเป็นเพื่อนกันนั่งคุยกันก็ไม่เห็นจะมีอะไรเสียหายนี่นา” นลินยิ้มให้เขาสบายใจ “ฝากเด็กๆ ไว้สักครู่นะคะ ลินว่าจะไปหาน้ำดื่มสักหน่อยค่ะ”

ไมค์มองแก้วเบาแล้วก็พยักหน้า ก่อนมองหาอะไรทำ แต่ก็ไม่มี และเขาคงไม่อ่านหนังสือที่เธอวางไว้ เพราะเขาไม่เข้าใจภาษาไทยเลยแม้แต่น้อย

********************************************


นลินเทน้ำลงแก้วก่อนถอนหายใจเพื่อเรียกสติ ตอนนี้เธอต้องนึกถึงแต่ขันธ์เท่านั้น ซึ่งเขาจะไม่หึงหวงงี่เง่าแน่นอน เพราะงั้นสายตานั่นต้องเป็นเขตต์แน่นอน

สายตาที่มีแต่ความโกรธเกรี้ยว...

เสียงกระแทกของลงโต๊ะทำให้นลินตกใจจนต้องหันมามอง และเห็นดวงหน้าที่คุ้นเคย เธอจึงเลี่ยงด้วยการถือแก้วน้ำพร้อมเหยือกออกไปจากห้อง

“เดี๋ยวนี้จะไม่ทักทายกันเลยเหรอ หรือว่าลืมไปแล้วว่าเคยนอนด้วยกันมาก่อน” เขตต์ทำเสียงเยาะหยันอย่างประชดประชัน แต่ถ้าเขาต้องเจ็บ เธอก็ต้องเจ็บด้วย

นลินหันกลับมาก่อนวางของในมือลงบนโต๊ะ คนละด้านกับเขา ความโกรธทำให้เธอสงบใจได้ดีเสียจนอาการสั่นหวั่นวิตกหายไป เธอยิ้มให้เขาก่อนถามอย่างสงบ “ทำไมไม่บอกไปเลยละคะว่าเรามีเซ็กท่าไหนกันบ้าง เผื่อว่าจะได้อารมณ์ยิ่งกว่าเดิม”

“ลิน” เขาตะคอกเสียงดังในห้องนั้น

“เรียกทำไมคะ กลัวฉันจะลืมเหรอคะ ว่าฉันคือนลิน ผู้หญิงที่เคยนอนกับคุณ และตอนนี้ก็เปลี่ยนมานอนกับคู่แฝดคุณแทน” นลินยิ้มได้ร้ายกาจ

ถ้าเธอเห็นดวงหน้าของตัวเองยามนี้ เธอก็คงกลัวตัวเองเช่นกัน และเธอกำลังเห็นมันในดวงตาเขา แล้วเห็นความสงสัยแตกตื่นในนั้นเช่นกัน

เขตต์ตั้งสติได้ ก่อนปรับสีหน้าให้เฉยชามากขึ้น “เหมือนที่เธอกำลังจะเปลี่ยนไปนอนกับเพื่อนของพวกฉันใช่ไหมล่ะ สนุกมากใช่ไหมที่หลอกให้ผู้ชายนอนด้วยทีละคนจนตายใจแล้วใช้เขาเป็นเครื่องมือ”

“ในเมื่อรู้หมดแล้วก็ตอบตัวเองสิคะ อย่ามาถามให้มากความ น่ารำคาญ” นลินคว้าแก้วน้ำกับเหยือกเดินออกไปจากห้องอย่างเย็นชา ทว่าในใจเธอนั้นเจ็บปวดเกินทน

ความงี่เง่าของเขามากเกินกว่าจะให้อภัยได้ด้วยคำพูด...และคงยากที่จะอธิบาย

เมื่อนลินกลับมาที่ห้อง ซึ่งเด็กๆ หลับอยู่ก็เห็นดวงหน้าดวงเดิมตามมาหลอกหลอนในห้อง เพียงแต่ใส่เสื้อผ้าคนละชุด เธอวางเหยือกลง แล้วเดินเข้าไป ต่อยที่ไหล่เขาแรงๆ

“โอ๊ย ต่อยพี่ทำไมเนี่ย” ขันธ์ตกใจที่อยู่ๆ เขาก็ถูกเธอต่อยทำให้ร้องเสียงหลง จนเด็กๆ ตกใจตื่นร้องไห้จ้า

นลินทำหน้างอ ก่อนอุ้มลูกขึ้นมาโอ๋ปลอบ มองหน้าเขาแบบงอนๆ จนเขาแปลกใจ ขณะที่เขาก็พยายามปลอบลูกให้หลับอีกรอบเช่นกัน แต่คงไม่สำเร็จ เพราะเจ้าตัวเล็กออมแรงเต็มที่พร้อมสำหรับการเล่นอีกครั้ง ทั้งสองจึงต้องปล่อยให้เด็กๆ นั่งเล่นกันต่อไป

“เอาล่ะ พี่ถามได้หรือยังว่าต่อยพี่ทำไม” ขันธ์ถามก่อนดึงเธอเข้ามากอด เพราะจำสีหน้างอนๆ ของเธอได้

“ขอโทษค่ะ ลินแค่หมั่นไส้คนหน้าเหมือนพี่อยู่ เฮ้อ คิดแล้วก็อารมณ์เสีย” นลินซบพิงอกเขาอย่างมั่นคง

“แล้วนี่จะโกรธคนที่เสียงเหมือนไหมนี่ พี่จะได้ปิดปาก” ขันธ์ไม่โกรธแต่นึกขำขึ้นมามากกว่า แต่พอคิดลึกๆ ก็จริงอยู่ที่เขานึกสงสัยขึ้นมา “เกิดอะไรขึ้น เขตต์ทำอะไรลิน”

“คนงี่เง่า อย่าไปสนใจเลยค่ะ” นลินบอกปัด ก่อนต้องเล่นเกมจ้องตากับเขา “ก็ได้ค่ะ ก็ได้ คือก่อนหน้านี้ตอนที่เด็กๆ เพิ่งหลับไป ไมค์มานั่งคุยกับลิน แล้วพี่เขตต์มาเห็นเข้า แต่ลินก็ไม่คิดอะไรหรอกค่ะ พอเดินไปเอาน้ำมาดื่มแค่นี้ พี่เขตต์ก็รีบยัดข้อหาให้ลินเลย”

“ข้อหาอะไร ข้อหาเฮงซวยอีกน่ะสิ บอกมาเลย” ขันธ์ต้องจับเธอมาคาดคั้นด้วยการขโมยจูบที่ริมฝีปากเธอเบาๆ อย่างไม่จริงจัง แต่ก็อดห่วงไม่ได้ว่าเกิดอะไรขึ้นแน่

“ชอบบังคับจริงๆ พี่ก็น่าจะรู้ว่าข้อหาอะไร” นลินไม่อยากพูดออกมาให้ตัวเองเจ็บปวด แต่มองดูสายตาเขาแล้วก็ต้องพูด “ก่อนจะบอก ขอพี่อย่าโวยวายแล้วก็อย่าทะเลาะกันได้ไหมคะ”

“ได้ แต่ลินต้องคอยกล่อมให้พี่ใจเย็นโอเคไหม” ขันธ์พอเดาได้จึงเตรียมใจให้เย็น

“พี่เขตต์บอกว่าลินสนุกกับการได้ปั่นหัวผู้ชาย แล้วตอนนี้ก็เปลี่ยนไปปั่นหัวไมค์เพื่อนพี่แทน” นลินบอกแล้วก็เห็นเขาทำท่าเหมือนจะลุกไปเตะใครสักคนก็ดึงเอาไว้

เสียงเขาทรุดลงนั่งทำให้เด็กเล็กทั้งสองหันมามองพ่อตัวเอง เมื่อเขาเห็นลูกๆ หันขวับก็ฝืนยิ้ม “โอเค พี่จะใจเย็น แต่ ไอ้ลูกหมาเอ๊ย”

“ใจเย็นๆ ค่ะ ลินถามพี่หน่อยได้ไหมคะ” นลินพยายามลูบหลังเขาเบาๆ ให้เขาใจเย็นลง

“จ๊ะ” เขารับคำอย่างฝืนๆ ก่อนแตะที่หลังเธอเบาๆ แล้วโบกมือให้ลูกชายที่ไม่รู้เรื่องของเขา ซึ่งหันไปเล่นต่อ

“พี่ไม่ระแวงลินกับไมค์บ้างเหรอคะ ไม่คิดว่าลินจะเป็นอย่างที่พี่เขตต์ว่าเหรอคะ” นลินมองเขาอย่างไม่มั่นใจนัก แต่เพราะท่าทางของเขตต์ทำให้เธอหวั่นไหว

“ไม่และก็ไม่เป็นไรถ้าจะเป็น ตราบที่ลินยังอยู่กับพี่ ใครจะสน อีกอย่างลินเนี่ยนะจะทำแบบนั้น แล้วไมค์เนี่ยนะจะทำ คนที่คิดได้มีแต่ไอ้บ้านั่นแหละ เฮ้อ อย่าไปสนมัน แต่ถ้าอยากให้พี่ใจเย็นมากกว่านี้ บอกพี่ทีสิว่าคืนนี้ลินจะมีรางวัลให้พี่” ขันธ์ยิ้มกริ่มเวลาพูด

นลินหรี่ตาลงมอง ก่อนทำเฉไฉหันไปหาลูกๆ เมื่อเข้าใจความหมายของทุกคำพูดของเขา ก่อนดักคอ “คืนนี้อย่าลืมเอาเปลเด็กไปไว้ในห้องด้วยนะคะ เพราะลูกๆ จะนอนกับเราค่ะ”

ขันธ์ถอนหายใจยาว ก่อนยิ้มอย่างมีแผน และแน่นอนว่ามีหนุ่มโสดหนึ่งคนที่มีที่ว่างให้ลูกสองคนพักนอนด้วย

********************************************


อ้อมกอดที่อบอุ่นแต่ก็ทำให้นลินนึกขำได้เช่นกัน ที่เขาจัดการให้ลูกไปนอนห้องของไมค์อย่างไม่มีทางเปลี่ยนได้ แล้วนี่ก็เป็นเช้าอันแสนสุขของเขาอีกครั้ง

ขันธ์ขยับขึ้นหอมและกอดเธออีกครั้ง จากนั้นก็ห่มผ้าให้เธอ ทั้งที่รู้ว่าเธอตื่นอยู่ ก่อนลุกขึ้นเดินไปที่ประตูระเบียงและเปิดม่านออกดูภายนอก มองทะเลแล้วนึกถึงวันที่ดีวันหนึ่งของเขาแต่เป็นวันที่สับสนสุดๆ ของเธอ

นลินลืมตาขึ้นมองเขาที่กำลังพันเพียงผ้าเช็ดตัวที่ช่วงล่าง ก่อนมองผ่านไปที่ทะเลยามเช้า พระอาทิตย์ยังไม่ขึ้นและมีเมฆบ้าง “ไปดูพระอาทิตย์ขึ้นไหมคะ”

“มารับลูกๆ นายไปหน่อยสิ ร้องไห้จ้าไปหมดแล้ว” เสียงไมค์จากไมโครโฟนดังขึ้นอย่างงัวเงีย ขณะพยายามเอาหมอนอุดหู

ทั้งสองก็หัวเราะใส่กัน ก่อนเดินไปรับลูกๆ มาจากห้อง แล้วมองไมค์ที่พยายามนอนต่อ โชคดีที่ฝาแฝดน้อยได้รับการฝึกจากพี่เลี้ยงชั้นดีให้นอนหลับเกือบตลอดทั้งคืน เขาจึงไม่ต้องทนโอ๋เด็ก

“ขอบใจ” ขันธ์บอกกับเพื่อนที่โบกมือไล่

นลินก็เช่นกัน ก่อนอุ้มลูกๆ กลับห้อง เพื่อทำกิจกรรมยามเช้า ซึ่งทำอย่างเรียบร้อย พร้อมเดินเล่นด้วยกันทั้งครอบครัว เขากับเธอต่างก็อุ้มลูกไว้คนละคน เดินบนชายหาดใกล้ชิดให้ไออบอุ่นได้สัมผัสกันและกัน จนเพื่อนที่ตื่นมาทีหลังต้องมองแล้วยิ้ม

“ให้ตายเถอะ เสือสิ้นลายก็คราวนี้” แดนมองแล้วก็อดขำไม่ได้

“ไม่น่าเชื่อนะคะว่าเพื่อนที่คุณเล่าให้ฟังจะมีครอบครัวได้อย่างอบอุ่น” ซาร่ามองแล้วก็รู้สึกได้เช่นกัน

“แต่บางทีถ้าเรารู้สึกว่าต้องรับผิดชอบใครสักคน ก็ทำให้เราเป็นผู้ใหญ่ได้นะคะ” จูเลียพูดแล้วก็หันไปมองคนรักที่ทำท่าทางไม่รู้เรื่องอยู่ ก่อนหัวเราะให้กันและกอดกันอย่างอบอุ่น

อีกคนที่ไม่พอใจหยุดมองแล้วนึกหงุดหงิดถึงคำพูดเธอเมื่อวาน ก่อนทิ้งน้ำหนักลงที่เสื่อบนพื้นทราย “ก็แค่ภาพลวงตา”

สายตาสี่คู่หันมามองเขาอย่างสงสัย ก่อนแฟนสาวของเขาเดินเข้ามาโอบไหล่แล้วมองเช่นเดียวกัน

“ไม่เอาน่า พวกนายจะทะเลาะอะไรกันนักหนา ยังไงก็เป็นพี่น้องกันน่า” พีทีพยายามไกล่เกลี่ย แล้วเริ่มรู้สึกว่าคิดผิดที่พยายามจับสองคนนี่มาอยู่ในที่เดียวกัน

“ใช่ ถ้ามันยังไม่ตาสว่างจากผู้หญิงคนนั้น เธอก็คือสาเหตุที่พวกเราทะเลาะกันยังไงล่ะ หลอกคนนั้นทีคนนี้ที เบื่อก็ทิ้งไปคว้าคนใกล้ตัวมาควงให้เจ็บใจเล่น” เขตต์พูดอย่างเก็บกด

ภาพน่าขัดตานั่น...ควรเป็นภาพเขากับเธอ ถ้าเธอไม่โลเลใจง่าย

“พูดบ้าๆ ถ้าเธอเป็นแบบนั้นจริง คนที่จะเห็นเป็นคนแรกน่าจะเป็นแพทริก” แดนแก้แทนเพื่อนที่ได้ชื่อว่าลื่นไหลเรื่องผู้หญิงที่สุด

“ถ้านายอยากรู้ก็จะบอกให้ ฉันเป็นผู้ชายคนแรกที่หล่อนเคยอยู่ด้วย แล้วต่อมาก็เป็นคู่แฝดผู้แสนฉลาดหนักหนา แต่ก็ต้องตกม้าตาย และต่อมาก็คงจะเป็นไมค์ ที่อาจจะได้เป็นพ่อคนต่อไปของพวกเด็กนั่น หรือบางทีรายต่อไปอาจเป็นพวกนาย” เขตต์ยังเคืองโกรธเธออยู่ไม่คลาย

“เฮ้ย พูดจริงเหรอวะ” พีทีมองแล้วถามซ้ำ

“โกหกแล้วได้อะไร พวกนายไม่เห็นเหรอว่าฉันไม่เคยอยากเข้าใกล้แม่นั่นอีกเลย” เขตต์อธิบาย

“ดีนส์ ดีจังที่คุณเตือนเราเสียก่อน ดูท่าทางก็ดี ไม่น่าเชื่อว่าจะร้ายลึกแบบนี้” แอบบี้มองอย่างไม่ชอบใจนัก ยิ่งหล่อนเคยมีสัมพันธ์กับคนรักเธออีก ยิ่งไม่ชอบมากขึ้น

“คนเราเวลาโง่ก็โง่ได้ขนาดหนักจริงๆ แต่ตราบที่แม่นั่นอยู่ที่บ้านฉัน ฉันจะไม่มีวันกลับไป” เขตต์พูดหนักแน่นย้ำชัด หากพอเห็นพวกเธอเดินเข้ามาก็พาแอบบี้ออกไปจากวง

พีทีกับแดนต่างก็มองด้วยความฉงน ไม่รู้ว่าจริงหรือเปล่า...แต่เพื่อนก็ไม่มีเหตุผลที่จะโกหกอีก

เมื่อทั้งสองอุ้มลูกมายังกลุ่มที่นั่งอยู่ก่อน ทันทีที่นลินมาถึงสองสาวก็ลุกจากเสื่ออย่างรังเกียจ ทำให้เธอต้องขมวดคิ้วที่ถูกมองแบบนั้น และเพื่อนอีกสองคนของเขาก็มองหน้าเธอแบบแปลกๆ

ขันธ์ก็สังเกตเห็นเช่นกัน แต่ก็พยายามไม่พูดอะไรมาก นอกจากคุยเรื่องทั่วไป “เมื่อคืนหลับสบายดีมาก ไม่ต้องทำงานนี่ก็ดีเหมือนกันนะเนี่ย”

“เออๆ ดีแล้วล่ะ เฮ้ย วันนี้จะไปดำน้ำกัน นายไปด้วยกันสิ” พีทีพูดขึ้นแก้เก้อ ไม่กล้าสบตาหญิงสาวชาวเอเชียของเพื่อน ขณะที่แดนได้แต่ขมวดคิ้วครุ่นคิด

“อืม ไปได้ไหม ลิน” ขันธ์หันมาถามไปตามเรื่อง

“อะไร ต้องขออนุญาตกันเลยเหรอ มากไปหน่อยไหม” พีทีพูดขึ้นแกมประชด รู้สึกไม่ชอบใจสักเท่าไรนัก

“เฮ้ย ไม่ใช่อย่างนั้น ดูก่อนสิว่าลินดูลูกคนเดียวได้ไหม คนเรามีลูกแล้วก็ต้องห่วงใยสิ” ขันธ์อธิบายเพื่อนแล้วก็รู้สึกถึงสิ่งผิดปกติ

“ลินอยู่กับลูกได้ค่ะ ไปเถอะค่ะ” นลินบอกแล้วรู้สึกอึดอัดชอบกล จึงเลี่ยงออกไป “ลินไปหยิบนมให้ลูกก่อนนะคะ”

แดนมองตามแล้วรู้สึกขัดแย้งแปลกๆ ตลอดเวลาที่คุยกันยังไม่เห็นนลินแสดงท่าทีกรุ่มกริ่มแต่อย่างใด เขาไม่รู้ว่าควรคิดอย่างไร แต่ที่แน่ๆ สาวๆ คิดไปไกลแล้ว

“ถามจริงเหอะ ที่นายไม่ไปไหน เพราะหลงหล่อนมาขนาดนี้เลยเหรอ” พีทีถามขึ้นอย่างสงสัย

“หลงบ้าหลงบออะไรวะ เที่ยวมาตั้งกี่ปีแล้ว อยู่บ้านดูแลลูกกับคนรักมันผิดด้วยเหรอวะ” ขันธ์ตอบอย่างเลี่ยงๆ เพราะไม่อยากพูดถึงสิ่งที่เกิดขึ้นระหว่างเขา คู่แฝดและเธอ ด้วยเกรงว่าจะมีแต่เสียกับเสียเท่านั้น

“ผู้หญิงคนนี้มีดีอะไรวะ ถึงทำให้นายเลิกทุกอย่าง” พีทีถามอีก

“ดีทุกอย่าง แต่จะให้ดีกว่านี้ นายช่วยทำน้ำเสียงให้มันฟังแล้วน่าตอบหน่อย ฉันไม่ชอบน้ำเสียงเวลาพูดถึงผู้หญิงของฉันแบบนี้” ขันธ์พยายามข่มใจที่อะไรๆ ก็ดูจะเปลี่ยนไปในช่วงเวลาไม่นานนัก

แดนขมวดคิ้ว ถ้าเป็นเมื่อก่อน ป่านนี้พีทีคงลงไปนอนกับพื้น แล้วทั้งสองก็คงตะลุมบอนกันไปเรียบร้อยแล้ว แต่ไม่...ขันธ์ใจเย็นกว่าเดิมมาก

“เอาน่า อย่าคิดมาก เดี๋ยวก็เที่ยวกันให้สนุกจริงไหม” แดนพยายามไกล่เกลี่ย เพราะไม่อยากให้เที่ยวครั้งนี้กร่อย

ขันธ์ยักไหล่ ก่อนมองลูกๆ ที่พยายามคลานบนทราย เขาไม่คิดจะจับปูใส่กระด้งแต่เช้า และเด็กๆ ก็แค่คลานไปรอบๆ เท่านั้น หากเขารู้สึกเป็นห่วงอย่างบอกไม่ถูก เหมือนกำลังจะมีบางสิ่งเกิดขึ้น

********************************************

สวัสดีค่ะ (ทักทายจบก็เก็บหางแล้ววิ่งหน้าตั้ง)
ขอบคุณที่ติดตามค่ะ
รักษาสุขภาพด้วยนะคะ

คุณ pik --- ^^ ขอบคุณค่ะ

คุณ greentea --- U_______U จนได้ใจแล้วค่ะตอนนี้ อิอิ (ว่าแต่เวบเข้าไม่ได้แล้วเหรอคะ)


Create Date : 23 ตุลาคม 2552
Last Update : 23 ตุลาคม 2552 20:54:13 น. 4 comments
Counter : 417 Pageviews.

 
ว่างๆฝากไปยืม blog ผมด้วยน่ะครับ

news
blog เล็้กๆๆของน้องเปรม


โดย: prempcc วันที่: 23 ตุลาคม 2552 เวลา:22:17:40 น.  

 
เป็นบุคคลที่น่ารังเกียจจริงๆเขตต์ใครกันแน่ที่โลเลก่อน ผู้ชายสวะๆแบบนี้ไม่ควรจะเป็นคู่ชีวิตใครทั้งนั้น


โดย: mimny วันที่: 24 ตุลาคม 2552 เวลา:0:39:21 น.  

 
โห่ พี่ขันน่ารัก ส่วนเขตก็นะ


โดย: fiona IP: 203.171.199.196 วันที่: 24 ตุลาคม 2552 เวลา:6:19:20 น.  

 
ใครก็ได้ช่วยเอาเขตต์ไปเก็บที....
ผู้ชายแบบนี้แย่มาก เห็นแล้วแค้นแทนลิน


โดย: mooda IP: 222.123.95.123 วันที่: 25 ตุลาคม 2552 เวลา:7:46:25 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 
 

เพลิงวารี
Location :
นนทบุรี Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 3 คน [?]




ไหดองเหล็กไหล
New Comments
[Add เพลิงวารี's blog to your web]

 
pantip.com pantipmarket.com pantown.com
pantip.com pantipmarket.com pantown.com