เพลิงวารี & คชสีห์ ฿ Babylonia
<<
สิงหาคม 2552
 1
2345678
9101112131415
16171819202122
23242526272829
3031 
 
19 สิงหาคม 2552
 
 
เราสามคน...หนทางเดียว006(น้องสาว)

พอเขตต์วางสายจากนลินก็เคลียร์งานอีกเล็กน้อยและขับรถกลับบ้าน เมื่อเขามาถึงบ้านแล้วก็จัดการหุงข้าวรอคู่แฝดกับคู่หมั้นกลับบ้าน เขานั่งรออย่างใจเย็นก่อนได้ยินเสียงโทรศัพท์จึงรับสายต่างประเทศที่เข้ามา

“สวัสดีครับ”

“สวัสดีค่ะ ดีนส์ใช่ไหมคะ” น้ำเสียงอ่อนหวานถามเขาอย่างอ่อนโยน

“ครับ ไม่ทราบนั่นใครครับ” เขตต์จำเสียงปลายสายไม่ได้

“ฟรานซิสไงคะ” ฟรานซิสขอเบอร์โทรมาจากไมค์ ก่อนที่ไมค์จะขอแยกไปเที่ยวต่างจังหวัด โดยเธอเดินทางกลับประเทศเพราะหมดเวลาพักแล้ว

“อ๋อครับ เป็นยังไงบ้างครับ” เขตต์นึกถึงดวงหน้าสวยหวานได้แทบทันที

เขาไม่ได้ติดต่อกับใครเลยจนกระทั่งตอนนี้ ตั้งแต่เขารู้จักนลิน เขาแทบเปลี่ยนวิถีชีวิตไปเลยก็ว่าได้ เมื่อนลินไม่เคยเรียกร้องอะไร ไม่เคยขอให้เขาทำอะไรนอกจากขอไม่ให้ยุ่งวุ่นวายเวลาเธอทำงานเท่านั้น เขาจึงมีอิสระมากจนไม่รู้ว่าต้องทำอะไรดี

เขาพูดคุยกับฟรานซิสเป็นชั่วโมง จนกระทั่งนลินและขันธ์เปิดประตูบ้านเข้ามา เขาจึงตัดบท “แค่นี้ก่อนนะครับ ฟรานซิส”

“คิดถึงกันบ้างนะคะ สวัสดีค่ะ” ฟรานซิสหยอดคำหวานก่อนบอกลา

เขตต์ไม่ได้สัมผัสความรู้สึกแบบนี้มานาน เพราะนลินไม่ใช่หญิงสาวที่จะมานั่งเอาอกเอาใจเขา ถึงเธอไม่ขัดใจเขาทุกเรื่องแต่ก็ไม่โรแมนติกพอที่จะเอาใจเขา ซึ่งเป็นสิ่งที่เขาคุ้นเคยและได้รับจากหญิงสาวแทบทุกคนที่เข้ามาในชีวิตเขา

“พี่เขตต์กลับมานานหรือยังคะ” นลินถามขึ้นโดยไม่สนใจว่าเขาทำอะไรอยู่

“นานแล้วจ๊ะ ลินหิวไหม” เขตต์เข้ามาสวมกอดนลินด้วยความรัก ก่อนสบตาคู่แฝดเขาที่กำลังเดินขึ้นชั้นบนไปอย่างไม่ใส่ใจ “ขันธ์จะกินข้าวด้วยกันไหมเนี่ย”

“ไม่ล่ะ เดี๋ยวว่าจะออกไปเที่ยวสักหน่อย มีรถก็ติดปีกได้ละ” ขันธ์ไม่นึกอยากอยู่นิ่งเฉย ในเมื่อเขาสามารถสนุกกับชีวิตได้ง่ายดายนัก

เขตต์หัวเราะเบาๆ ก่อนโอบไหล่ไปที่โต๊ะที่เธอใช้ทำงาน แล้วหอมแก้มเธอ “คิดถึงจังเลย ทีหลังอย่าหนีพี่ไปเที่ยวอีกนะ”

“ลินเปล่าหนีเที่ยวสักหน่อย ลินก็ทิ้งโน้ตไว้ให้แล้วนี่คะ” นลินหันมาเผชิญหน้ากับเขา

หากเขตต์อุ้มเธอนั่งที่โต๊ะก่อนซบลงที่ไหล่และกอดเธอเอาไว้ นลินมองเขาและโอบกอดเขาเพื่อปลอบโยน เธอรู้สึกว่าเขตต์เปราะบางกับเรื่องนี้มากเกินไป และใช้เวลากับความเงียบอยู่นานเพื่อทบทวนสิ่งที่เกิดขึ้น

ขันธ์มองทั้งคู่ด้วยความรู้สึกแปลกๆ ก่อนเมินหน้าหนีและเดินออกจากบ้านโดยไม่พูดอะไรอีก

“ทีหลังมีอะไรก็พูดกับพี่สิ อย่าทำอย่างนี้ได้ไหม รู้ไหมว่าพี่ใจหาย” เขตต์สบตาเธอเป็นเชิงขอคำสัญญา แล้วก็โอบกอดเธอเอาไว้ในอก

ส่วนลินกลับมองผ่านไหล่เขาไปอย่างใช้ความคิด เธอไม่อยากนึกเลยว่าถ้าเธอไปจากเขาจริงๆ จะเป็นยังไงแต่อีกใจเธอก็บอกตัวเองเช่นกันว่า อย่างเธอไม่มีคุณสมบัติใดๆ ที่จะอยู่กับเขาตลอดไป เพียงตอนนี้เธอทำให้เขาดีที่สุดเท่าที่จะทำได้ก็เพียงพอแล้ว

**************************************************


เมื่อแสงอาทิตย์ลับขอบฟ้า ชายหนุ่มร่างสูงก็แต่งตัวทันสมัยใส่น้ำหอมฟุ้งดึงเอาเสน่ห์ของผู้ชายออกมาอย่างเห็นได้ชัด เขาเดินผ่านคู่แฝดที่กำลังคุยโทรศัพท์อยู่นอกบ้านดูแล้วไม่มีทางเป็นเรื่องงานแน่ แต่เขาสงสัยอยู่หลายวันแล้วจึงแอบดูโทรศัพท์น้องชายเห็นชื่อฟรานซิส...เพื่อนไมค์และคุยครั้งละหลายชั่วโมง ขณะที่นลินไม่สนใจอะไรมากและนั่งทำงานของตนเองไป

“เฮ้ย เขตต์” ขันธ์เรียกคู่แฝด ขณะที่เขตต์หันมามองแล้วยกมือโบกให้ไม่สนใจ ทำให้ขันธ์ต้องเรียกอีกที “เฮ้ย เรียกไม่ได้ยินหรือไง”

เขตต์หันมามองอย่างสงสัย ก่อนตัดสายกับฟรานซิสแล้วมาคุยกับคู่แฝด พร้อมขมวดคิ้วไม่พอใจ “อะไรของนายน่ะ”

“ไม่ชอบว่ะ ทำไมทำอย่างงี้วะ” ขันธ์ชักสีหน้าเหมือนกัน

“ทำอะไร” เขตต์ทำเป็นไม่เข้าใจ

“นายอย่าทำเป็นไม่รู้เรื่องเลย ฉันรู้นะว่านายกับฟรานซิสโทรคุยกันทุกวัน วันละหลายชั่วโมง จะทำอะไรเห็นใจลินบ้างสิ” ขันธ์เตือนน้องชายก่อนจุดบุหรี่สูบ

“ก็เพื่อนกัน คิดอะไรมากล่ะ” เขตต์แก้ตัวแต่ในใจก็ยอมรับว่าพอใจกับสิ่งที่ทำอยู่ไม่น้อย

“นายทำอะไรคิดให้มากหน่อยนะ ตอนนี้นายมีลินอยู่ ถ้าอยากรักษาเธอเอาไว้นานๆ ละก็อย่าทำอย่างนี้ดีกว่านะ” ขันธ์ส่ายหน้าก่อนเดินขึ้นรถแล้วขับออกบ้านไป เขารู้จักน้องชายดีเรื่องเอาแต่ใจและไม่ค่อยฟังคนอื่น

เขตต์นิ่งอึ้งก่อนมองผ่านกระจกและเห็นคู่หมั้นสาวที่กำลังนั่งเล่นเกมและคุยกับเพื่อน เขาจึงเดินเข้าไปด้านในแล้วหอมแก้มจากด้านหลังก่อนมองที่หน้าจอเห็นชื่อคนที่เธอกำลังคุยผ่านคอมพิวเตอร์อยู่จึงสงสัย “ลินคุยกับไมค์เหรอ”

“ค่ะ พอดีพี่ขันธ์ยืมเครื่องลินออนเอาไว้ก่อนน่ะค่ะ แล้วไม่ได้ปิด ลินก็เลยได้คุยกับเพื่อนพี่ขันธ์น่ะค่ะ” นลินไม่ได้สงสัยว่าเป็นไมค์เดียวกับเธอเจอวันก่อน

“แล้วลินบอกไปหรือเปล่าว่า ลินเป็นอะไรกับขันธ์น่ะ” เขตต์ตกใจคิดว่าเพื่อนรู้เรื่องนลินแล้ว

“ก็บอกว่าเป็นน้องสาวค่ะ ไมค์เขาก็หัวเราะแล้วก็ชวนคุย แล้วก็ขอแอดเพื่อนในเมลของลินค่ะ” นลินหันไปมองเขตต์โดยไม่สนใจเสียงข้อความเข้าเลย แต่ก็แปลกใจที่เขตต์ขมวดคิ้ว “พี่เขตต์มีอะไรหรือเปล่าคะ”

“ขอพี่คุยกับไมค์หน่อยได้ไหม” เขตต์รู้สึกไม่พอใจที่อยู่ๆ เพื่อนเขาก็คุยกับนลิน

นลินขมวดคิ้วแต่ก็ยอมลุกจากเก้าอี้ “งั้นลินไปหาน้ำกินก่อนนะคะ พี่เอาน้ำอะไรไหมคะ”

“ไม่ล่ะ ลินไปเถอะ” เขตต์มองตามหลังนลินไปก่อนหันมาเช็คว่ามีการบันทึกการคุยกันหรือเปล่าและคุยกับเพื่อน “นายคุยอะไรกับลินเหรอ ไมค์ ฉันเองนะ ดีนส์”

“อ้าวดีนส์เหรอ ก็คุยเรื่องทั่วๆ ไปทำไมล่ะ” ไมค์ตอบเพื่อนแล้วนั่งสงสัย “ลินคุยสนุกดีนะ ใช่คนเดียวกับที่เจอวันคราวก่อนหรือเปล่า”

“ก็ใช่สิ” เขตต์ไม่รู้จะบอกเพื่อนยังไงดี เขานิ่งงัน

“อ๋อ ก็น่ารักดีนี่นา น้องคนนี้จีบได้หรือเปล่า” ไมค์ถามเพื่อหยั่งเชิงหยอกเล่น

“ไม่ได้ ลินไม่เหมาะกับนายหรอก สาวไทยคงไม่หัวสมัยใหม่เหมือนเสปกนายหรอกน่า” เขตต์ตอบอ้อมๆ

“อ๋อ นึกว่าหวงไว้เอง แต่เท่าที่ดู ลินเขาก็สบายๆ นะ คุยได้เรื่อยๆ ออกจะเปิดกว้างด้วยซ้ำ มีเบอร์โทรหรือเปล่า อยากคุยด้วยน่ะ” ไมค์เห็นว่าคงเป็นน้องสาวจริงๆ เลยกล้าขอ

“ไม่มี ลินไม่ชอบโทรศัพท์หรอก เห็นปิดไว้ประจำเลย” เขตต์ไม่ตอบตามตรง เขาไม่รู้ว่าจะทำยังไงถึงจะห้ามเพื่อนได้โดยไม่ต้องบอกความจริง

“เอาล่ะๆ ล้อเล่นน่า เพิ่งจะเคยคุยกันฉันยังไม่อะไรมากหรอก แหม หวงน้องจริงนะ” ไมค์อดยิ้มไม่ได้ เขาเพิ่งรู้ว่าเพื่อนมีน้องสาว พอนึกๆ ดูแล้วคงเป็นญาติผู้น้องห่างๆ ที่เพิ่งรู้จักกัน

“เปล่า แค่ไม่อยากให้ลินเสียใจ” เขตต์พิมพ์บอกปัด

“เออๆ ไม่แตะต้องให้เสียใจหรอกน่า ถ้าจะจีบก็จะจีบจริงจัง เพราะยังไงก็ญาตินาย” ไมค์พิมพ์รูปหัวเราะใส่มาด้วย

“แค่นี้นะ ลินเรียกแล้ว ไว้ค่อยคุยกัน” เขตต์กดปิดการสนทนาก่อนหันไปมองลินที่กำลังเปิดโทรทัศน์เพื่อดูรายการต่างๆ ที่มีอยู่ตอนนี้ เขาเดินมานั่งด้านข้างแล้วโอบกอดนลิน “ง่วงหรือยังจ๊ะ”

นลินหันมามองก่อนนึกสนุกหอมที่ปลายคางเขาเบาๆ แต่ไม่ทันระวังโดนเขตต์รวบตัวก่อนโน้มลงไปนอนที่โซฟา “ไม่เอาค่ะ พี่เขตต์” เธอพยายามหลีกเลี่ยง

“ลินเริ่มก่อนนะ พี่ไม่ได้เริ่มเลย” เขตต์ไม่สนใจฟัง ประทับรอยจูบที่หน้าผากแล้วค่อยๆ เลื่อนลงมาที่ริมฝีปาก ก่อนที่นลินจะขัดขืนและเบือนหน้าหนี

“อย่าสิคะ พี่เขตต์” นลินบิดตัวหันข้างก่อนพยายามหนีให้พ้นอ้อมกอดของเขา หากเขตต์ก็กอดเธอแน่นแม้ตอนนี้เธอจะหันหลังให้เขาแล้วก็ตาม

“จะหนีไปไหนล่ะ พี่ไม่ทำอะไรหรอกน่า” เขตต์หัวเราะเบาๆ ที่เธอยังเขินอายอยู่ทั้งๆ ที่น่าจะคุ้นเคยแล้ว

นลินจึงหันมาเผชิญหน้า “แน่นะคะ”

“แน่สิ มานี่มา นั่งดีๆ” เขตต์ดึงนลินมากอดและนั่งมองโทรทัศน์ก่อนทบทวนเรื่องที่คู่แฝดเขาพูด “ถ้าพี่มีคนอื่น ลินจะทำยังไง”

“คะ” นลินนิ่งคิดก่อนถอนหายใจ “ลินก็ไปตามทางของลิน”

เขตต์ตกใจแล้วก้มลงมองดวงหน้าเรียบเฉย เขาให้รู้สึกเหน็บหนาวเหมือนเธอไม่ผูกพันกับเขาเลย

“อย่าเข้าใจผิดสิคะ ลินหมายถึงในเมื่อพี่ไม่ต้องการลินแล้ว ลินก็ควรจะไป” นลินไม่สบตาแล้วลุกขึ้น

เธอต้องยอมรับว่าเธอคิดจะไปแทบทุกขณะจิต... เพียงแต่ไม่พูดออกมาเท่านั้น แต่ที่ยังอยู่กับเขา...เธอยังสงสัยว่าเพราะอะไรเธอยังอยู่กับเขา

เขตต์นิ่งอยู่ในความคิด ถ้าเขามีคนอื่นจริง คาดว่านลินคงไม่มีวันยอมแน่ แต่ความจริงเขาไม่รู้ว่าสิ่งสำคัญไม่อยู่ที่ว่าเขามีคนอื่น แต่อยู่ที่ว่าเขาทำให้นลินรู้สึกว่าเขายังต้องการเธออยู่หรือไม่เท่านั้น...

**************************************************


หญิงสาวร่างอวบลืมตาขึ้นในความมืดก่อนมองคนร่างสูงที่นอนอยู่ด้านข้าง ในคอเธอแห้งผากหากเมื่อพยายามควานหาแก้วน้ำแล้วยกขึ้นดื่มก็รู้ว่าน้ำหมดแก้วแล้ว เธอบิดตัวให้หายเมื่อยและค่อยๆ ลุกขึ้นหาเสื้อคลุมมาใส่ปิดบังร่างกายเปล่าเปลือย ก่อนลูบหน้าตั้งสติ

นลินนิ่งคิด เธอไม่รู้ว่าความสัมพันธ์ระหว่างเธอกับเขาจะยืนยาวแค่ไหน บอกไม่ได้เช่นกันว่า เธอต้องการเขาจริงๆ หรือนี่เป็นเพียงความผูกพันหรือเปล่า หากในบางครั้งเธอก็ไม่อยากนึกถึงมัน จึงสะบัดหน้าแรงๆ และลุกขึ้นจากเตียงเข้าห้องน้ำเพื่อชำระล้างร่างกาย

เมื่อเสร็จธุระแล้วก็เดินลงไปชั้นล่างพร้อมแก้วน้ำที่ว่างเปล่า เธอมองนาฬิกาในห้องครัวก็รู้ว่าเพิ่งจะตีหนึ่งเท่านั้น เธอรู้สึกหิวก็ต้มน้ำเพื่อดื่มนมแก้หิวและทดแทนพลังงานที่เสียไป

“ขอกาแฟแก่ๆ ให้พี่สักถ้วยสิ” น้ำเสียงสงบทำให้เธอเข้าใจผิดได้ แต่เพราะกลิ่นเหล้าคละคลุ้งทำให้นลินรู้ว่าคนที่พูดคือ...ขันธ์ ซึ่งน่าจะกลับจากเที่ยวและแอบงีบบนโซฟา แล้วคงตื่นเพราะได้ยินเสียงเธอเดินลงมาและแสงไฟ

นลินหันมามองเขา ก่อนบอกเขา “นั่งก่อนค่ะ รอน้ำเดือดเดี๋ยวนะคะ”

ขันธ์พยักหน้าช้าๆ ก่อนนั่งที่หัวโต๊ะเขาไม่ได้ดื่มอย่างเดียวแต่ตื่นบนเตียงของผู้หญิงแปลกหน้า พอตื่นแล้วเขาก็รีบกลับบ้าน เพิ่งล้มลงนอนบนโซฟาก็ได้ยินเสียงเดินลงบันได จึงตื่นและฝืนลุกมา

นลินมองด้วยสีหน้าเรียบเฉย เธอหันไปหยิบถ้วยออกมาสองถ้วยและใส่นมลงในถ้วยของเธอ ก่อนนิ่งคิดว่าควรใส่กาแฟดีหรือไม่ แล้วตัดสินใจใส่นมลงไปแทน

“อาบน้ำดึกจังเลยนะ” ขันธ์เห็นน้ำเกาะที่เรือนผมด้านข้างก็เดาว่าเธอคงเพิ่งจะอาบน้ำ หากผมเธอช่างยาวเหลือเกินเห็นแล้วเรียบร้อยน่ามอง “ทำอะไรเหรอถึงยังไม่นอนน่ะ”

นลินไม่รู้ว่าจะตอบเขายังไงดี จึงบอกอ้อมๆ “ก็ทำอะไรไปเรื่อยเปื่อยค่ะ”

ขันธ์สังเกตแล้วรู้ทันที เธอไม่เหมือนคนยังไม่ได้นอนและถ้าตื่นกลางดึกอย่างนี้แล้วอาบน้ำ แสดงว่าต้องมีอะไรกับน้องชายเขาแน่ๆ แต่เขาไม่พูดมาก หากเขารู้สึกแปลกๆ เวลาคิดถึงเรื่องนี้แทนที่จะเห็นเป็นเรื่องธรรมดา จึงพยายามสลัดความคิดนี้ทิ้งไป

“นี่ค่ะ” นลินส่งแก้วนมให้เขาแล้วทำหน้าเฉยๆ

ขันธ์ยังไม่ได้มองชัดพอดื่มไปเป็นนมก็เงยหน้าขึ้น “นมนี่นา”

“ก็นมสิคะ ดึกแล้วดื่มนมอาบน้ำนอนไม่ดีกว่าเหรอคะ ดื่มกาแฟเดี๋ยวก็ตาค้างหรอกค่ะ” นลินให้เหตุผลด้วยความหวังดีและยิ้มให้เขาเล็กน้อย

ขันธ์หัวเราะเบาๆ แล้วมองรอยยิ้มเธอให้ชัดขึ้น เขามือและดึงเธอมาใกล้ๆ “มาตรงนี้เลย มาให้ดูชัดๆ หน่อยสิ”

นลินไม่ขัดขืนและยืนพิงขอบโต๊ะ เธอยืนหันหน้าไปที่ประตูห้องครัวและวางมือไว้บนโต๊ะไม่ห่างจากขันธ์มากนัก อีกมือถือถ้วยนมเอาไว้ก่อนถามอย่างไม่เข้าใจ “มองลินทำไมคะ”

“เปล่าหรอก แค่อยากมองน่ะ” ขันธ์มองเธอแล้วนิ่งงัน

ขันธ์ไม่เข้าใจว่าผู้หญิงหน้าตาธรรมดาทำไมถึงได้ติดอยู่ในความคิดเขาเสมอ แต่หลังจากได้รู้จักนลินมากขึ้น เขาก็รู้สึกว่าเธอไม่เหมือนผู้หญิงคนอื่นอย่างที่เขตต์ว่าจริงๆ และเข้าใจแล้วว่าทำไมแม่เขาจึงถูกใจเธอ ถึงขั้นบอกเขาว่าอยากได้ผู้หญิงคนนี้มาเป็นสะใภ้

“หน้าลินมีอะไรผิดปกติเหรอคะ” นลินถามอย่างสงสัย

ขันธ์เงยหน้าอยู่ เขาจึงใช้นิ้มมือจิ้มเข้าที่จมูกรั้นๆ ของเธออย่างเอ็นดู “พูดมากจริงนะ เรา”

“พี่ขันธ์น่ะ ลินพูดอะไรผิดเหรอคะ” นลินยิ้มและขมวดคิ้วอย่างสงสัย หากเมื่อสบตาเขาเพียงครู่เดียว เธอก็ต้องมองไปทางอื่น

“ไม่สงสัยได้ไหมล่ะ ลินจะเอาอะไรกับคนเมาล่ะ ดีเท่าไรแล้วขับรถกลับบ้านถูกน่ะ” ขันธ์หัวเราะแล้วก้มลงดื่มนมจนหมดก่อนยื่นถ้วยให้และไล่เธอไปนอน เขาเริ่มกลัวใจตัวเองมากขึ้น “ไปนอนได้แล้ว”

“ทีหลังก็อย่าดื่มให้เมาสิคะ เคยได้ยินไหมคะ เมาไม่ขับ” นลินเตือนด้วยความเป็นห่วงและรับถ้วยมาอย่างสงสัย หากไม่คิดมากและเดินเอาไปเก็บที่อ่างล้างจานแล้วหยิบแก้วน้ำเปล่ามาใส่น้ำยื่นให้เขา “ดื่มน้ำเย็นก่อนนะคะ แล้วอย่าลืมอาบน้ำก่อนเข้านอนนะคะ”

นลินถือแก้วของตัวเองกำลังจะเดินออกไปจากห้อง หากขันธ์ก็จับมือเธอเอาไว้โดยไม่มีคำพูด นลินรอสักพักก็เดินออกไปจากห้องขณะที่ขันธ์ไม่ได้กุมมือเธอแน่นมาก เขาปล่อยให้เธอเดินไปจนกระทั่งมือเธอหลุดไปจากการเกาะกุมของเขาและทำให้เขารู้สึกใจหาย

ขันธ์ถอนหายใจ เพียงได้สัมผัสความห่วงใยเล็กน้อยที่เธอมีให้ เขาก็หวั่นไหวอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน เพราะเขาไม่เคยปล่อยให้ตัวเองใกล้ชิดหญิงสาวคนไหนเท่านลิน หากเธอเป็นผู้หญิงของน้องชายฝาแฝดของเขา เขาจะทำอะไรได้นอกจากเก็บเอาไว้ในใจอย่างเงียบงัน

เขากำลังตกหลุมพรางที่ตัวเองตั้งใจใช้กับเธอ...

**************************************************


ชีวิตนลินไม่เปลี่ยนไปจากเดิมแม้เขตต์จะเดินทางกลับอเมริกาเพื่อทำงานสำคัญบางอย่าง เธออยู่ในบ้านกับขันธ์ได้อย่างไม่มีปัญหาเพราะเขาไม่ค่อยอยู่บ้านและกลับดึกเสมอ ส่วนเธอก็ยังไม่มีแผนชีวิตอะไรเป็นชิ้นเป็นอันและยังคงตื่นช่วงสายของวันแล้วก็ต้องแปลกใจเมื่อได้ยินเสียงโครมดังขึ้นที่ชั้นบน

เธอเดินไปตามเสียง ตรงไปยังห้องของขันธ์ที่อยู่อีกปีกของบ้าน เธอเดินเข้าไปในห้องเขาและเห็นคนร่างสูงกำลังพยายามดึงตัวเองขึ้นบนเตียงอีกครั้ง “พี่ขันธ์”

ขันธ์ปล่อยให้เธอพยุงร่างของเขาขึ้นบนเตียง ตอนนี้สมองเขากำลังสับสนและเห็นแต่ความมืดเมื่อขยับตัว “มึนจัง”

“ก็แน่สิคะ พี่ตัวร้อนเป็นไฟแบบนี้ ไม่มึนก็บ้าแล้วค่ะ” นลินตอบก่อนจัดผ้าห่มให้เขา “วันนี้หยุดงานสักวันนะคะ”

“อืม คงงั้นเพราะลงเตียงยังไม่ไหวเลย” ขันต์เอามือกุมขมับ สงสัยอยู่ว่าแอลกอฮอล์ที่กินเข้าไปนั้นทำให้เขาเป็นอย่างนี้หรือเพราะฝนที่ตกเมื่อวันก่อนกันแน่

“เดี๋ยวดื่มนมแล้วก็ทานยานะคะ ถ้าไม่ไหว ลินคงต้องพาพี่ไปหาหมอแน่ๆ” นลินขู่เล็กน้อยก่อนขยับถอยออกจากข้างเตียงแต่ก็ไปไม่ได้เพราะเขาดึงแขนเธอเอาไว้

“ไม่ไป” ขันธ์ดื้อดึง

“อะไรคะ กลัวหมอเหรอ ตัวโตจะตายยังกลัวหมออีก” นลินนึกสนุกพูดเล่นกับเขาที่กำลังเป็นคนป่วยจอมดื้อดึง

“กลัว...กลัวใจพยาบาล” ขันธ์หัวเราะเบาๆ ก่อนปล่อยมือเธอ

“พี่นี่จริงๆ เลย รอเดี๋ยวนะคะ” นลินเดินไปที่ประตูแต่ก็ต้องหยุดฟังคนเอาแต่ใจอีกครั้ง

“ขอพยาบาลพิเศษหน้าตาคุ้นๆ มาเฝ้าไข้ด้วย คนป่วยขี้เหงาน่ะ” ขันธ์พูดเสียงอ่อยๆ

“ขอเงินค่าจ้างด้วยค่ะ” นลินยิ้มออกเมื่อได้ยินเสียงร้องโหยหวนของคนป่วย

เมื่อเธอกลับมา ก็เห็นเขาหลับไปอีกครั้ง เธอจึงนั่งมองเขาแล้วนึกถึงเขตต์ ทั้งสองมีดวงหน้าคล้ายกันเหมือนพิมพ์เดียว เสียงก็เหมือนกันแค่เปลี่ยนน้ำเสียง คนหนึ่งอ่อนโยนขี้อ้อน ส่วนอีกคนเด็ดขาดขี้เล่น สำหรับคนอื่น เพียงคนใดคนหนึ่งก็น่าสนใจแล้ว หากนลินคิดว่าถ้ามีทั้งสองคนในร่างเดียวก็คงดีไม่น้อย

“นั่งมองอย่างงี้ พี่ก็เขินเป็นนะ” ขันธ์ทักขึ้นเมื่อเห็นเธอมองเขานาน

นลินพ่นลมหายใจแล้วนึกขำก่อนสลัดความคิดทิ้งไป เพราะคงไม่มีผู้ชายคนไหนที่สมบูรณ์พร้อมดังพระเอกในนิยายที่เธอชอบอ่านและเขียน เธอเปลี่ยนท่าทีแล้วค่อยๆ พยุงเขาให้ลุกขึ้น “ตื่นแล้วก็ไม่บอกนะคะ”

“ก็เห็นมองหน้าพี่นานๆ เขตต์รู้คงดีใจตายเลย เพราะลินเห็นหน้าพี่แล้วคิดถึงเขตต์” ขันธ์ลุกขึ้นนั่งก่อนพิงหมอนที่เธอจัดให้ แต่พอมองสีหน้าเฉยชาของเธอเมื่อพูดถึงเขตต์แล้วก็ต้องแปลกใจเพราะเธอดูไม่ค่อยสนใจเท่าไรนัก “คิดถึงเขตต์บ้างไหม”

“ก็มีบ้างค่ะ แต่ช่วงนี้พี่เขตต์คงยุ่งๆ ไม่ค่อยโทรมาเลย แต่ก็เข้าใจล่ะค่ะ” นลินส่งแก้วนมให้คนป่วย และมียาอยู่ในช้อนพร้อมน้ำเปล่าเต็มแก้ว

“ดีจริง ผู้หญิงคนอื่น ถ้าแฟนไม่โทรมาก็ต้องโทรหาแล้ว ลินไม่ทำแบบนั้นเหรอ” ขันธ์ถามอย่างสงสัย และค่อยๆ ดื่มนมช้าๆ เพราะกลัวจะอาเจียนออกมาด้วยรู้สึกเวียนหัว

“ทำทำไมละคะ ถ้าเขาไม่รักเรา เราก็ต้องรักตัวเองล่ะค่ะ ไม่ยากหรอก” นลินเตรียมใจไว้เสมอ

เธอไม่คิดว่าจะมีใครทนนิสัยแปรปรวนของเธอได้ ถึงตอนนี้สองพี่น้องฝาแฝดจะยังไม่มีโอกาสลิ้มรสความร้ายกาจของเธอ เพราะเธอยังอยู่ในช่วงกลางของอารมณ์ แต่คิดว่าไม่ช้าไม่นานก็คงมีโอกาสได้เจอแน่นอน

“ดีจริงๆ อยากมีแฟนแบบลินสักโหล พี่จะได้มีสาวๆ ในสังกัดเยอะๆ” ขันธ์ยิ้มนิดๆ เขาพอคุ้นกับคำพูดแบบนี้เพราะเที่ยวกลางคืนบ่อยแล้วเจอเด็กสาวเด็กหนุ่มหลายคน

“ตามสบายค่ะ” นลินเห็นเขาดื่มนมจนหมดแล้วก็ส่งยาให้ทานตามทันทีแล้วน้ำต่อ โดยไม่สนใจคำพูดของเขาอีก เพราะคิดว่าเขาคงพูดแบบนี้กับผู้หญิงจนติดเป็นนิสัยแล้วและคงไม่มีความหมายอะไรถ้าพูดกับเธอ “งั้นลินไปก่อนนะคะ อยากดูทีวีสักหน่อย พี่ขันธ์จะได้พักผ่อน”

“ลินดูในห้องพี่ก็ได้นะ” ขันธ์รีบดึงมือเธอเอาไว้แล้วก้มลงซบหมอนไม่อยากให้เธอเห็นสีหน้าอ่อนแอของเขา เวลาป่วย...เขาก็ไม่อยากอยู่คนเดียว

นลินพอเข้าใจ เธอจึงวางถาดไว้ข้างเตียงก่อนเปิดโทรทัศน์ด้วยรีโมทแล้วถามขึ้น “มีหูฟังไหมคะ”

“มีสิ” ขันธ์เงยหน้าขึ้นชี้ให้เธอมองตาม ก่อนนอนหลับ

นลินเลือกนั่งด้านข้างของเตียงแล้วดูโทรทัศน์ตามใจต้องการ และเมื่อเขาหลับแล้วเธอก็เดินออกไปจากห้อง ก่อนหยิบคอมพิวเตอร์โน๊ตบุ๊คแล้วกลับมาในห้องอีกครั้ง เธอต้องทำหน้าที่พยาบาลจำเป็นให้เขาจนได้...

**************************************************


ขันธ์ไม่สบายสามวันก็ลุกขึ้นมาทำงานได้เป็นปกติ เขาหยุดมองคู่หมั้นสาวของน้องชายกำลังง่วนกับโปรแกรมแชทหน้าจออยู่ก็ส่ายหน้า แล้วหยุดมองเล็กน้อย ก่อนถามขึ้น “อะไรคุยกับไมค์เหรอ”

“ค่ะ ไมค์คุยสนุกดีนะคะ” นลินหันมามองเขาแล้วหัวเราะ

“อะไร เขตต์ไม่โทรหาแค่อาทิตย์เดียวถึงกับแอบมีกิ๊กเลยเหรอ” ขันธ์แซวเมื่อเห็นเพื่อนเขาส่งข้อความเชิงจีบมาให้

นลินขมวดคิ้วก่อนย่นจมูกรั้นๆ ให้เขา “ใครบอกละคะ คุยไม่ค่อยรู้เรื่องเลยต่างหาก พูดเรื่องนั้นก็ตอบอีกอย่าง ลินไม่เก่งภาษาเท่าไรค่ะ”

“นี่ไมค์มันคงไม่รู้สิว่าจีบผิดคน” ขันธ์หัวเราะก๊ากเมื่อนลินตอบ

นลินมองข้อความซ้ำอีกครั้ง ก่อนหันมามองขันธ์ที่กำลังนึกสนุก “ใครจีบใครคะ ไมค์ก็แค่ชวนคุยเรื่อยเปื่อยต่างหาก”

ขันธ์ยิ่งหัวเราะหนักขึ้นเมื่อเธอตีความหมายของข้อความของไมค์ไปอีกอย่าง “ก็นี่ไง ไมค์มันถามอยู่เนี่ยว่าชอบมันบ้างไหม แล้วลินก็บอกก็ต้องชอบสิ ไม่ชอบได้ไง”

“อ้าว หรือไม่จริงละคะ ก็ลินไม่ได้เกลียดนี่นา” นลินเถียงข้างๆ คูๆ แต่ในใจก็เริ่มเห็นด้วยจึงตอบเพิ่มไปว่า ชอบแบบเพื่อน ทำให้ขันธ์ต้องขำเมื่อเพื่อนเขาตอบกลับมาด้วยรูปผิดหวัง

“เอาล่ะ เดี๋ยวพี่ไปทำงานก่อนแล้วกัน เคลียร์กันเอาเองนะ” ขันธ์ลูบเรือนผมเธอเบาๆ อย่างเอ็นดู หากในใจเขานึกอยากจูบเรือนผมเธอมากกว่า แต่เขาก็รู้ว่าเธอเป็นคู่หมั้นน้องชายเขา

“ค่ะ ตอนเย็นก่อนออกไปเที่ยว อย่าลืมแวะส่งข้าวส่งน้ำให้ลินด้วยนะคะ” นลินยิ้มแป้นให้เขา ทำให้เขานึกอยากเขกกะโหลกเธอสักที

“ก็ได้” แต่เขาก็ต้องยอมให้เธอ

สามวันที่เธอดูแลเขาอย่างดี คอยทำอาหารง่ายๆ และรับโทรศัพท์ทุกสายที่สำคัญก่อนจดบันทึกให้เหมือนเลขาฯ ส่วนตัวของเขา ต้องยอมรับว่าเธอทำหน้าที่ได้ดีพอๆ กับเลขาฯ มืออาชีพ

นลินยิ้มส่งก่อนหันมามองที่หน้าจอ แล้วก็พิมพ์ถามไมค์ “เจอดีนส์บ้างไหม”

เธอรอพักเดียวก็เห็นแสงไฟกระพริบ “เจอสิ คุณน่าจะได้เห็นนะ ท่าทางดีนส์มีความสุขมากเลยล่ะ เขาพาแฟนคนใหม่มาให้ผมรู้จักด้วย ตลกดีที่แฟนใหม่ของดีนส์ก็เพื่อนผมนั่นแหละ”

นลินขมวดคิ้ว ก่อนอ่านทวนอีกครั้งมือเธอสั่นเพราะแน่ใจว่าคงไม่ได้อ่านผิดแน่นอน ก่อนพิมพ์ถามอย่างสงบ “แฟนดีนส์เป็นไงมั่งเหรอ”

“ดีนส์ชื่นชมแฟนคนนี้มากเลยนะ บอกว่าสวยและดี ยังว่าผมอยู่เลย บอกเก็บเพื่อนเอาไว้ตั้งนานไม่พามาให้รู้จัก” ไมค์ตอบกลับมามาตรงๆ เพราะรู้แต่ว่านลินเป็นน้องสาวและญาติห่างๆ ของเพื่อน

“งั้นเหรอ ไม่เห็นดีนส์แนะนำให้ฉันรู้จักเลย” นลินโกรธที่โดนหลอกแต่ก็สะกดใจถามอย่างใจเย็น

“ก็เพิ่งคบกันไม่นานนะ ช่วงก่อนเห็นจีบๆ กัน แต่คุณเป็นน้องสาวเขา ยังไงเขาก็ต้องแนะนำล่ะ” ไมค์ยังไม่รู้ว่าอะไรเป็นอะไรก็บอกตามความจริง

“อืม คงงั้น อืม ไมค์ ฉันขอตัวไปข้างนอกก่อนนะ ไว้ค่อยคุยกันใหม่ ดีใจที่ได้คุยกับคุณนะ ฝันดีนะ” นลินโมโหเกินกว่าจะพูดอะไรได้อีก

เธอกดปิดเครื่องทันที ก่อนมองแหวนที่นิ้วและถอดมันวางไว้ที่โต๊ะอย่างไม่ไยดี เธอเดินขึ้นห้องพร้อมเก็บข้าวของส่วนตัวเธอทันที เธอมองเงินที่เขาวางทิ้งไว้ให้แล้วเชิดใส่อย่างไม่ใส่ใจนัก ชีวิตที่เคยราบเรียบของเธอเปลี่ยนไปแล้ว

อารมณ์ที่เคยนิ่งเฉยก็เปลี่ยนเช่นกัน สิ่งที่เธอคิดไว้ไม่ผิดแต่ก่อนที่อารมณ์จะพลุ่งพล่านมากว่านี้ เธอก็พยายามปรับอารมณ์ให้ปกติและเก็บข้าวของ ถ้าเธอรู้สึกผิดหวังก็คงผิดหวังที่เขาเป็นอย่างที่เธอคิดไว้ บางอย่างที่เคยทำเคยชอบคงยากจะเปลี่ยน และเธอก็ไม่สามารถเป็นอย่างที่เขาเคยชอบและยังชอบต่อไปได้

นลินรู้ตัวดีว่าเธอเป็นผู้หญิงธรรมดาและหน้าตาธรรมดาไม่สวยเด่น ฐานะครอบครัวก็พออยู่ได้ไม่ถึงกับสบายใช้จ่ายฟุ่มเฟื่อยแต่ก็พออยู่ได้ไม่ลำบาก ถึงไม่มีเขา...เธอก็อยู่ได้

เสียงโทรศัพท์ดังขึ้นปลุกเธอตื่นจากภวังค์ความคิด เธอรู้ว่าใครโทรมาก็รับสายอย่างช้าๆ “สวัสดีค่ะ”

“ไง ลินทำอะไรอยู่” เขตต์ถามเหมือนไม่อยากถาม เขากำลังสนุกกับสิ่งแปลกใหม่รอบตัวจนแทบลืมไปว่าเขามีคู่หมั้นสาวอยู่

“ก็กำลังเก็บข้าวของน่ะค่ะ พี่เขตต์ละคะ ทำอะไรอยู่คะ หายไปหลายวันเลย” นลินทำน้ำเสียงปกติถามเขาตามเรื่อง

“อะไร ทำไมลินพูดแบบนี้ล่ะ หลายวันแล้วทำไม ทำไมพี่ต้องโทรหาลินทุกวัน” เขตต์กลับทำน้ำเสียงหงุดหงิดใส่เธอและนั่นทำให้นลินฉุนขาด

“อ๋อค่ะ ก็ไม่ทำไมหรอกค่ะ ทีหลังไม่ต้องโทรมาอีกนะคะ ลินวางแหวนไว้ให้แล้วเดี๋ยวจะเอาของหมั้นไปคืนให้ทีหลังนะคะ” นลินกดตัดสายและปิดเครื่องทันทีทันทีแล้วก้มหน้าลงเก็บของใส่กระเป๋าต่อ แต่เสียงโทรศัพท์บ้านก็ดังขึ้น เธอก็เดินไปรับสาย “สวัสดีค่ะ”

“ลินเป็นอะไรหรือเปล่า พี่ขอโทษที่พูดไม่ดีกับลิน” เขตต์ทำเสียงอ่อนลง

“ก็เป็นปกตินี่คะ พี่มีอะไรอีกไหมคะ ลินกำลังเก็บของอยู่ ลินจะไปต่างจังหวัดหลายวัน” นลินพูดปกติแต่แฝงไว้ด้วยความเย็นชา

“เอ่อ ลินจะไปไหนเหรอ” เขตต์เริ่มรู้สึกไม่ดีมากขึ้นเรื่อยๆ

“จะกลับบ้านค่ะ จะได้เอาของหมั้นไปคืนพ่อแม่พี่ไงคะ มีอะไรจะพูดอีกไหมคะ ลินจะได้เก็บของให้เสร็จ” นลินยังไม่ตัดสายแต่ยังคงพูดกับเขาอย่างใจเย็น

“เอ่อ ลิน ใจเย็นๆ พี่ขอโทษ” เขตต์รู้ว่าเธอเอาจริงแล้ว

“ขอโทษทำไมคะ พี่ผิดด้วยเหรอ ลินไม่เห็นว่าพี่จะผิดตรงไหนเลย ไม่ต้องห่วงนะคะ แฟนพี่จะไม่รู้เรื่องลินหรอกค่ะ ได้ข่าวว่าแฟนพี่สวยมากนี่คะ เป็นเพื่อนกับไมค์ด้วยนี่” นลินพูดเป็นปกติแต่ทำให้คนฟังหนาวลึก

“ลินใจเย็นๆ ไมค์เอาเรื่องอะไรมาพูดก็ไม่รู้ ลินอย่าไปใส่ใจสิ” เขตต์พยายามเกลี่ยกล่อม

“ไม่ต้องห่วงนะคะ ลินก็จะเป็นน้องที่ดีแล้วก็ยินดีที่พี่มีแฟนสวยแฟนดี แค่นี้นะคะ เดี๋ยวลินจะโทรบอกพี่ขันธ์ว่าลินจะกลับบ้านต่างจังหวัด ขอให้พี่มีความสุขนะคะ” นลินกดตัดสายโดยไม่ฟังว่าปลายสายจะพูดว่ายังไงต่อ เธอกดสายหาขันธ์ทันที

“พี่ขันธ์ถึงโรงแรมหรือยังคะ” นลินปรับเสียงให้ปกติ จากที่กำลังโมโหมากก็กลายเป็นเย็นชา

“ยังหรอก รถเมืองไทยติดจะตาย ลินมีอะไรเหรอ เอ่อ เดี๋ยวนะ เขตต์โทรมา” ขันธ์กำลังจะสลับสายไปคุยแต่นลินห้ามไว้

“เดี๋ยวค่ะ ลินจะบอกว่าวันนี้ไม่ต้องซื้ออะไรมาให้ลินนะคะ ลินจะกลับบ้านต่างจังหวัดค่ะ แค่นี้นะคะ ฝากบอกลาขาดพี่เขตต์ด้วยนะคะ ขอบคุณค่ะ” นลินกดตัดสายอีกคนแล้วก็ยกหูออกแล้วเดินไปเก็บของต่อ

ขันธ์ขมวดคิ้วสงสัย อะไรทำให้นลินเปลี่ยนไปมากขนาดนี้ เขาเป็นงง เพราะเมื่อตอนเขาออกจากบ้าน เธอยังยิ้มแย้มแจ่มใส คุยกับเพื่อนเขาและเขาอย่างเป็นมิตร เขากดรับสายน้องชายแล้วถามทันที “นายทำอะไรลิน”

เขตต์รู้แล้วว่านลินคงออกฤทธิ์กับพี่ฝาแฝดแล้ว เขาถอนหายใจยาว “ไม่รู้ ลินพูดประมาณว่าฉันมีแฟนสวย แฟนดี อะไรนี่แหละ ไม่รู้ไมค์ไปพูดอะไรกับลิน”

“นายก็พูดความจริงมาเถอะว่า นายนอกใจลินแล้วลินดันจับได้เพราะความไม่รู้ของไมค์ ไม่รู้นายบ้าหรือเซ่อ แต่ก็ขอบใจ” ขันธ์ด่าพร้อมประชดน้องชายไปในเวลาเดียวกัน

“เออ ยอมรับก็ได้ นายช่วยกล่อมลินหน่อยสิ ลินกำลังจะเก็บของกลับบ้านแล้วล่ะ ตอนนี้ ช่วยหน่อยได้ไหม” เขตต์กล่อมพี่ชายเผื่อว่าอะไรจะดีขึ้น

“ไม่ล่ะ จะช่วยเรื่องเดียว เรื่องที่ลินไม่หนีกลับบ้านแต่จะไม่กล่อมลินให้กลับมาคืนดีกับนาย ทำได้แค่นี้แหละ จะหาที่กลับรถล่ะ” ขันธ์ตัดสายน้องชายแล้วหาทีกลับรถเพื่อกลับบ้าน

เขากำลังจะไปเคลียร์งานแต่กลับต้องมาเคลียร์เรื่องน้องชายแทน แต่เขาก็ยืนยันตามนั้นจริงๆ เขาไม่อยากให้เธอไปจากเขาไม่ใช่ไปจากน้องชายเขา นึกอีกทีเขาก็ไม่เดือดร้อนเรื่องน้องชายเท่าไร เพราะถ้าเธอถอนหมั้นน้องชายเขาจริง บางทีเขาอาจได้มีโอกาสเรียนรู้เธอมากกว่านี้

**************************************************

สวัสดีค่ะ ขออภัยที่หายไปเสียนาน
ไปนั่งคิดแล้วก็เขียนออกมาค่ะ
หุหุ ที่คิดไว้ก็พยายามจับให้ลงตัวที่สุดค่ะ
ขอบคุณที่ติดตามนะคะ

คุณ CaspeR GhosT --- ขอบคุณค่ะ ^^

คุณ fiona --- ขอบคุณค่ะ อิอิ


Create Date : 19 สิงหาคม 2552
Last Update : 19 สิงหาคม 2552 4:42:54 น. 2 comments
Counter : 444 Pageviews.

 
สนุกมากเลย อ่านแล้วอ่านอีกก็ชอบ ไม่ชอบพี่เขตต์มากๆๆเลย เชียร์พี่ขันธ์สุดฤทธิ์ อยากให้ลงเยอะกว่านี้อ่ะ (นี่ก็เยอะแล้วแหล่ะแต่สนุกมากอ่านจบไม่อยากให้จบเลย) ขอบคุณที่สร้างสรรนิยายสนุกๆๆมากให้อ่าน ชอบมากจริงๆๆ


โดย: CaspeR GhosT IP: 123.243.8.121 วันที่: 19 สิงหาคม 2552 เวลา:13:30:14 น.  

 
/\\
/\\
เห็นด้วยกะคุณcasper ghost มากๆ แบบตอนนี้ก็ยาวนะค่ะ แต่รู้สึกมันสั้นเพราะไม่อยากให้จบ

อ่านเวปโน้นแต่พอเห็นเว็บนี้ก็อดเเวะเข้ามาเจิมไม่ได้


โดย: fiona IP: 203.171.199.13 วันที่: 19 สิงหาคม 2552 เวลา:17:10:33 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 
 

เพลิงวารี
Location :
นนทบุรี Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 3 คน [?]




ไหดองเหล็กไหล
New Comments
[Add เพลิงวารี's blog to your web]

 
pantip.com pantipmarket.com pantown.com
pantip.com pantipmarket.com pantown.com