เพลิงวารี & คชสีห์ ฿ Babylonia
<<
สิงหาคม 2552
 1
2345678
9101112131415
16171819202122
23242526272829
3031 
 
20 สิงหาคม 2552
 
 
เราสามคน...หนทางเดียว007(ต่างคนต่างไป)

นลินนึกขัดใจที่เห็นรถเลี้ยวเข้ามาในบ้าน ก่อนเธอขนของออกไปจากบ้าน เธอถอนหายใจยาวเมื่อเห็นดวงหน้าของขันธ์ ที่เหมือนเขตต์ราวแกะจากพิมพ์เดียวกัน เพียงแต่ขันธ์ชอบแต่งตัวมีสีสันต์เข้ากับสีหน้าขี้เล่นของเขา เขายิ้มนำแทนธงขาว

“จะรีบไปไหนเหรอ ให้พี่ไปส่งไหม” ขันธ์พยายามปั้นยิ้มก่อนเดินไปดึงแขนนลินให้เข้าบ้าน “มีอะไรก็ค่อยพูดค่อยจากันนะ โกรธเขตต์แต่ก็ไม่เห็นต้องทิ้งพี่เลยนี่”

นลินทำหน้าเซ็งก่อนเดินไปตามแรงเขา “พี่เอาอะไรมาพูดน่ะ ใครโกรธใคร ใครทิ้งใคร”

“ลินนี่พูดตลกแฮะ โกรธก็บอกว่าโกรธสิ ทำเป็นไม่รู้เรื่องไปได้” ขันธ์รู้แล้วว่าเขตต์กลัวอะไรในตัวนลิน เพราะนลินเด็ดขาดและไม่นึกถึงความผูกพันลึกซึ้งที่มีให้กันนั่นเอง เป็นเขาก็คงเครียดเพราะดูเหมือนไม่มีอะไรทำให้นลินอยากอยู่กับน้องชายเขาหรือใครนานๆ ถ้าเจ้าตัวไม่ยอม

“ใช่ ลินโกรธ โกรธที่ทำไมเขาต้องมาโกหกลินด้วย ลินรำคาญ ลินไม่อยากรั้งพี่เขตต์ไว้หรอก ไม่มีวัน...คนอย่างลินอยู่ได้ถึงจะไม่มีพี่เขตต์” นลินพูดหนักแน่นตอกย้ำความคิดของขันธ์เป็นอย่างดี

“ใจเย็นๆ ก่อนสิ ลิน พี่ยังไม่ได้บอกให้ลินคืนดีกับเขตต์สักหน่อย ก็แค่ไม่อยากให้ลินทำอะไรใจร้อนแล้วก็วู่วามเท่านั้น” ขันธ์พยายามเกลี่ยกล่อมให้เธอใจเย็นอีกครั้ง ก่อนใช้วิธีที่เขาถนัด “เดี๋ยวพี่ช่วยเก็บของนะ คืนนี้ลินย้ายไปนอนห้องพักแขกก็ได้ ถ้าไม่อยากนอนห้องเดิมน่ะ”

นลินถอนหายใจออกมาแรงๆ อย่างขัดใจ ที่ขันธ์ไม่ยอมรอให้เธอปฏิเสธ เขาเดินไปเก็บข้าวของของเธอเข้าบ้านไปไว้ที่ห้องพักแขก ก่อนเดินลงมาชั้นล่างมองเธอในชุดที่แปลกตาออกไป ถ้าไม่เพราะมีเรื่องเขาคงสังเกตเห็นความแตกต่างมากขึ้นแล้ว

นลินสวมชุดกระโปรงสีชมพูยาวถึงเข่า เธอแต่งหน้าโทนสีชมพูเล็กน้อยเข้ากับผมยาวที่เธอไดร์จนตรงแล้วรวบไว้เล็กน้อยแลดูเป็นผู้หญิงมากขึ้น รองเท้าที่วางอยู่ก็เป็นรองเท้าส้นสูงที่น้อยครั้งจะเห็นเธอนำมาใส่

“ไหนๆ ก็ไหนๆ แล้ว ลินอุตส่าห์แต่งตัวสวยแบบนี้ เราออกไปเดินเล่นกันดีกว่าไหม” ขันธ์ยิ้มพอใจที่ได้เห็นเธอแต่งตัวน่ารักเข้ากับบุคลิกมากกว่าทำตัวเป็นสาวทอมบอยในบ้านอย่างที่ทำอยู่ทุกวัน

นลินมองตัวเองแล้วก็ส่ายหน้า “ไม่เอาค่ะ ไม่มีอารมณ์”

“น่าพี่ไม่ได้เที่ยวมาหลายวันแล้วอยู่บ้านก็เบื่อ ลินใจดีไปเที่ยวเป็นเพื่อนพี่หน่อยนะ” ขันธ์นึกสนุกอยากพาเธอออกไปคลายเครียด อย่างน้อยก็เกลี่ยกล่อมให้เธออยู่เป็นเพื่อนเขาไปก่อน และเชื่อว่าตราบใดที่เขายังไม่สร้างปัญหาให้เธอ เธอก็คงยอมทำตามที่เขาต้องการแน่นอน

“ก็ได้ค่ะ ไปไหนดีละคะ” นลินรับคำอย่างว่าง่าย

อย่างน้อยเธอก็ไม่อยากอยู่ในสถานที่ที่มีความทรงจำเกี่ยวกับเขตต์เต็มไปหมดในเวลานี้ เพราะยิ่งนึกเธอก็ยิ่งโมโหที่เขาทำเหมือนเธอเป็นของตาย

“ไปเที่ยวทะเลไหม” ขันธ์นึกสนุกชวนเธอไปเที่ยวทะเล อีกอย่างเขาจะได้ทำงานด้วยเพราะเลขาฯ โทรมาบอกให้ไปดูงานที่ภูเก็ต

“ไหนว่าแค่ออกไปเที่ยว ไหงไปไกลเลยละคะ” นลินขมวดคิ้วสงสัย

ขันธ์หัวเราะแก้เก้อ ก่อนอธิบาย “ก็พอดีพี่ต้องไปดูงานที่ภูเก็ตอ่ะนะ ไปเป็นเพื่อนพี่หน่อยแล้วกันน่า ไม่ต้องเก็บของไปหมดนะ เอาแค่ของที่จำเป็นก็พอ ไปสามวันเอง”

“แล้วก็ไม่บอกแต่แรกนะคะ งั้นรอเดี๋ยวนะคะ” นลินรับทราบแล้วเข้าไปจัดของสำหรับค้างคืนสามวัน

อย่างน้อยตอนนี้เธอก็อยากไปให้พ้นจากตรงนี้แล้วค่อยกลับมาคิดอีกทีว่าจะเอายังไงต่อไป แต่ยังไงเธอก็คงต้องหยุดคิดเรื่องเขตต์สักพัก เพราะกลับมากรุงเทพฯ เมื่อไรก็ต้องไปงานแต่งงานเพื่อนรัก ซึ่งกำลังจะมีขึ้นในอาทิตย์หน้า

**********************************


บ้านพักตากอากาศริมทะเลมีบริเวณพื้นที่เป็นส่วนตัว ทำให้ไม่ต้องกลัวใครเข้ามาสร้างความรำคาญให้ นลินมองจากห้องนอนที่หันหน้าเข้าสู่ทะเล...ยามเย็น ที่ห้องนี้คงสวยน่าดูเพราะสามารถมองพระอาทิตย์ตกดินได้

“นี่ให้นอนห้องนี้เลยนะเนี่ย คนพิเศษๆ อย่างลินโดยเฉพาะเลย” ขันธ์พูดเอาใจ อย่างน้อยตอนนี้เขาก็เชื่อว่าเธอใจเย็นลงบ้างแล้วกับบรรยากาศดีๆ ของบ้านพักในภูเก็ต

“ขอบคุณค่ะ แต่มันจะไม่มากเกินไปเหรอคะ ยังไงพี่ก็เป็นเจ้าของบ้านนะคะ” นลินชักเกรงใจที่เขายกห้องที่ดีที่สุดให้เธอ

“อืม ถ้าลินเกรงใจละก็ ให้พี่ค้างห้องนี้ด้วยก็แล้วกัน” ขันธ์พูดทีเล่นทีจริง แต่โดนมองด้วยสายตาดุ

“ฝันไปเถอะค่ะ แล้วนี่ไม่ต้องไปทำงานเหรอคะ ไหนว่ามาทำงานไง” นลินส่ายหน้าก่อนเอากระเป๋าไปวางไว้ใกล้ตู้เสื้อผ้าแต่ยังไม่คิดจะทำอะไรทั้งนั้น

เธอเดินไปนอกระเบียงที่ยื่นออกไปยังหาดทราย ก่อนเขาออกมายืนเป็นเพื่อน มองเธอกำลังชื่นชมธรรมชาติ เขาไม่รู้ว่าเขตต์น้องชายเขาเห็นอะไรในตัวเธอ แต่ตอนนี้เขาคิดว่าเข้าใจความรู้สึกของน้องชายเขา

“มองหน้าลินทำไมคะ ไปทำงานสิคะ” นลินหันไปมองทางอื่นและไม่ค่อยชินที่มีคนมองเธอแบบนี้เท่าไร

“ก็อยากมองนะ เรื่องงานไว้เย็นนี้ก็ได้ เพราะมีนัดทานข้าวกับลูกค้าน่ะ ลินก็ต้องไปด้วยนะ ลินมากับพี่ยังไงงี้ พี่ก็ไม่มีสาวๆ ไปด้วย เพราะงั้นรับผิดชอบซะ” ขันธ์พูดมัดมือชกแบบไม่ให้ปฏิเสธได้เลย

“อะไรเนี่ย ลินเกี่ยวอะไรด้วย พี่ชวนลินมาเองนะ ถ้าพี่จะชวนสาวๆ มาด้วย ลินก็ไม่ว่าหรอกค่ะ เพราะลินถือว่าลินเป็นตัวแถมมาด้วย” นลินพูดอย่างไม่ใส่ใจนัก ก่อนเดินกลับเข้ามาในห้อง

ขันธ์ได้ยินคำพูดนี้ของเธอแล้วต้องสะอึก แล้วรู้สึกว่าน้องชายเขาทำให้เธอคิดว่าเธอเป็นเพียง ‘ตัวแถม’ และเขาเข้าใจความรู้สึกของหญิงสาวธรรมดาที่อยากเป็นคนพิเศษของใครสักคน คงไม่มีใครในโลกอยากเป็น ‘ตัวแถม’ ของใคร

“ลินไม่ได้เป็นตัวแถมหรอกนะ ลินเป็นตัวจริงได้ ถ้าลินเปิดใจให้คนอื่นบ้าง” ขันธ์พยายามปลอบให้เธออารมณ์ดีขึ้นแต่เขาต้องผิดคาดเมื่อนลินหันกลับมามองเขาด้วยสีหน้าประหลาดใจ ราวกับเธอไม่คิดในแบบเดียวกับเขา

“เป็นตัวจริง? ลินไม่อยากเป็นตัวจริงหรอกค่ะ บอกตามตรง ลินยังไม่เคยเจอผู้ชายคนไหนที่ใช่สำหรับลิน บางครั้งลินยังคิดเลยว่าเรื่องพี่เขตต์เป็นความผิดพลาดของลินเหมือนครั้งก่อน แค่แปลกใจที่ลินทำผิดซ้ำๆ ก็เท่านั้นเองค่ะ หลังจากนี้ไป ลินจะแก้ไขให้มันถูกต้องซะที” นลินอธิบายยืดยาวเพื่อให้เขาเข้าใจ

เธออาจอารมณ์เปลี่ยนแปลงง่ายแต่ก็ไม่โทษคนอื่นมากเท่าตัวเอง เพราะรู้ว่าชีวิตของเธอ ถึงใครจะบังคับยังไง ถ้าเธอไม่ลงมือทำเองก็คงไม่มีใครสามารถบังคับได้

“บางทีมันอาจไม่ใช่ความผิดพลาดก็ได้นะลิน แต่อาจเป็นหนทางสู่ชีวิตใหม่ๆ ก็ได้นะ พี่รู้สึกเหมือนลินมีชีวิตชีวามากขึ้นหลังจากเมื่อเช้า” ขันธ์รู้สึกแบบนั้นจริงๆ ดูเหมือนเธอเพิ่งตื่นจากอาการเฉื่อยๆ และกำลังจะใช้ชีวิตแบบที่ควรทำมาตลอด

“คงเพราะภาระหมดไปแล้วมั๊งคะ ลินชักง่วงแล้วสิคะ พี่ขันธ์จะว่าอะไรไหม ถ้าลินจะงีบสักหน่อยค่ะ” นลินเห็นว่าบ่ายกว่าๆ แล้วยังมีเวลาพักก่อนออกไปทานข้าวกับลูกค้าของเขา

“ดีเหมือนกัน ปลุกพี่ด้วยนะ ยังไงบ่ายนี้ก็ไม่มีอะไรทำอยู่แล้วนี่” ขันธ์ถือโอกาสล้มลงนอนบนเตียงของเธอเลย

“อะไรเนี่ย พี่นอนตรงนี้ไม่ได้นะ แล้วลินจะนอนตรงไหนล่ะ” นลินพยายามงัดเขาขึ้นจากเตียงเธอ

ขันธ์ยิ้มแล้วยังไม่ตอบในทันทีก่อนตบที่ข้างๆ ยังว่างของเขา “ตรงนี้ไง ที่ว่างเยอะแยะ เตียงใหญ่จะตาย”

“เป็นงั้นไป” นลินส่ายหน้าก่อนเดินไปล็อกประตูระเบียงแล้วปิดม่าน

จากนั้นก็เดินไปเปลี่ยนเสื้อผ้าสบายๆ แล้วมองเขา เธอคิดว่าน่าจะไว้ใจเขาได้เพราะหลายวันที่ได้อยู่กับเขาตามลำพังหากเขาก็ไม่เคยทำอะไรเธอเลย เธอทรุดลงนอนบนเตียงก่อนหลับไป

**********************************


อาหารเย็นผ่านไปด้วยดีจนกระทั่งลูกค้าทั้งสองคนชวนขันธ์ไปเที่ยวต่อ ท่าทางเขากับลูกค้ากลุ่มนี้รู้จักกันเป็นอย่างดี นลินจึงได้แต่ฟังพวกเขาคุยกันเป็นภาษาอังกฤษอย่างเงียบๆ ขณะที่เธอดื่มพอเป็นพิธีก่อนตามพวกเขาย้ายไปเที่ยวคลับแห่งหนึ่ง ซึ่งเธอต้องตามไปด้วย

“เป็นไงบ้างล่ะ ลิน ไหวไหม” ขันธ์เห็นเธอดื่มเริ่มเมาแล้ว เขาหันไปคุยกับลูกค้าและตกลงแยกย้ายกันกลับ และพอถึงบ้าน เขาก็พยุงพาเธอกลับห้องนอน “ตื่นก่อนได้ไหม แม่คุณ”

“ลินง่วงนี่คะ” นลินไม่สนใจอีกแล้ว เธอล้มลงนอนทันทีที่เขาวางเธอลง

ขันธ์มองเธออีกพักหนึ่ง เขาบอกไม่ถูกเหมือนกันว่าจะมองเธออีกนานแค่ไหน บางอย่างที่ขัดกันกำลังต่อสู้กันอย่างหนัก เขาส่ายหน้าแล้วเดินไปที่ครัว หยิบเครื่องดื่มออกมาดื่มก่อนเดินผ่านหน้าห้องเธออีกครั้ง เขามองผ่านช่องประตูที่ปิดไม่สนิทก่อนห้ามใจตัวเองไม่อยู่แล้วเดินเข้าไปในห้อง

เขาหยุดมองเธออีกครั้งก่อนเดินออกไปที่ระเบียง มองแสงจันทร์วันเพ็ญแล้วถอนหายใจ เขาวางแก้วเหล้าไว้ในที่ขอบระเบียงแล้วเดินกลับเข้าไปด้านใน เห็นเธอกำลังหลับสบาย เขาทอดถอนหายใจก่อนนั่งลงที่ข้างเตียงโน้มเข้าไปใกล้ๆ แล้วจูบเรือนผมเธอเบาๆ

นลินปัดเขาอย่างไม่ตั้งใจแล้วหันหลังไปอีกข้างก่อนบอก “ไม่เอาค่ะ พี่เขตต์ ลินง่วง”

ขันธ์ได้ยินก็นึกหงุดหงิดที่เธอคิดว่าเขาเป็นน้องชาย ฤทธิ์แอลกอฮอล์ทำให้อารมณ์ความคิดเขาสับสน เขาสวมกอดเธอแน่น ก่อนสูดดมกลิ่นหอมจากซอกคอเธอ เนื้อนวลอ่อนนุ่มใต้ร่มผ้าทำให้เขารู้สึกอ่อนไหวและยิ่งเธอพยายามปัดป้องตัวเองจากเขาก็ยิ่งทำให้เขาปรารถนาในตัวเธอมากขึ้น

“อย่าค่ะ พี่เขตต์” นลินยังเข้าใจผิดคิดว่าเขาเป็นเขตต์ ก่อนนึกทบทวนแล้วได้สติเมื่อเขารุกล้ำเข้าสู่ผิวเนื้อของเธอ “พี่ขันธ์ปล่อยลินนะ”

ขันธ์ไม่พูดมากแต่ก็ไม่ยอมทำตาม เขาเลื่อนมือไปปลดเสื้อผ้าของเธอออกอย่างชำนาญ แม้เธอจะพยายามขัดขืนเขาอยู่ตลอดแต่เขาก็ไม่สนใจ เวลานี้เขาต้องการเธอเท่านั้น

“พี่ขันธ์อย่าทำลินเลยนะ ปล่อยลิน” นลินพยายามสู้เพื่อปกป้องตัวเองจากเขา แต่รูปร่างเขาสูงใหญ่และกำลังทาบทับร่างของเธอเอาไว้อย่างหนักหน่วง เธอพยายามถอยหนีหากขันธ์รู้ว่าต้องดึงรั้งร่างเธอเอาไว้อย่างไร

“พี่ต้องการลินนะ” ขันธ์กระซิบที่ข้างหูเธอ

หากเขาไม่ยอมปล่อยเธอไปง่ายๆ ความปรารถนารุนแรงที่เขาต้องการเธอทำให้เขาลืมความถูกต้อง...ลืมทุกอย่าง แม้ว่าเธอจะเคยเป็นผู้หญิงของน้องชายเขาก็ตาม

นลินแข็งขืนอยู่ได้พักหนึ่งก็รู้ว่าไม่เป็นผลเมื่อเขาไม่ฟังคำพูดเธอและปิดริมฝีปากเธอด้วยริมฝีปากเขา แม้มือเธอพยายามผลักเขาแต่เขากลับกอดร่างเธอแน่นจนมือของเธอไม่อาจผลักเขาไปให้ไกลได้ เธอจะเอาแรงที่ไหนไปสู้ชายหนุ่มร่างสูงและออกกำลังทุกวัน

เขารุกเข้าสู่ร่างกายเธอทำให้เธอรู้สึกเจ็บปวดอีกครั้ง เธอไม่ควรไว้ใจเขามากเหมือนที่ไม่ควรไว้ใจน้องชายเขาเลยสักนิด เขาใช้กำลังบังคับให้เธอปล่อยให้เขาทำร้ายเธอเหมือนที่น้องชายเขาทำ น้ำตานลินไหลอาบแก้มเมื่อเธอไม่อาจปฏิเสธได้ว่าเธอคือคนที่ปล่อยให้เขาเข้ามากระทำกับเธอ...

**********************************


เมื่อเช้าตรู่เสียงโทรศัพท์ดังขึ้น ขันธ์ตื่นขึ้นทั้งที่ยังมีนลินอยู่ในอ้อมกอด เขาหอมแก้มเธอก่อนลุกขึ้นไปหยิบโทรศัพท์เพื่อคุยกับเลขาฯ เขาหยิบเสื้อคลุมมาสวมทับร่างกายเอาไว้และไม่ทันได้สังเกตว่าหญิงสาวข้างกายตื่นแล้ว

นลินตื่นขึ้นนานแล้ว เพียงเธอยังคิดไม่ออกว่าควรทำยังไงกับเรื่องที่เกิดขึ้นดี ทุกอย่างยากแก่การควบคุมแล้วเธอกำลังทำอะไรให้กับชีวิตกันแน่ แล้วนี่เป็นชีวิตแบบไหนกัน แต่ที่เธอแน่ใจ...เธอไม่เคยคิดอยากมีแผนชีวิตแบบนี้ และอยากเป็นผู้หญิงธรรมดาที่มีชีวิตราบเรียบ

นลินแกล้งหลับต่อไปแม้เขาจะอาบน้ำแต่งตัวและเข้ามาจูบเรือนผมเธออย่างทะนุถนอม เสียงกระซิบบอกรักที่ข้างหูยังคงชัดเจน แต่นลินไม่เชื่อคำพูดของผู้ชายคนไหนอีกแล้วโดยเฉพาะคู่แฝดคู่นี้ หากแปลกที่เธอนึกเกลียดพวกเขาไม่ลง เพราะคนที่เธอนึกเกลียดที่สุดตอนนี้คือ...ตัวเธอเอง

เมื่อเขาออกไปจากบ้าน เธอจึงลุกขึ้นมามองนาฬิกาในห้อง เธอยกโทรศัพท์ขึ้นโทรหาสายการบินเพื่อดูว่ามีสายการบินไหนที่สามารถพาเธอไปจากที่นี่ได้เร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ เมื่อเธอจองที่นั่งได้แล้วก็ลุกขึ้นอาบน้ำชำระล้างร่างกาย เธอรู้ว่าถึงแม้ร่างกายเธอจะสะอาดแต่หัวใจเธอกลับไม่รู้สึกว่าจะสะอาดสักเล็กน้อย

เธอมองรอยช้ำบนผิวขาว มีร่องรอยของเขาอยู่ทั่วร่างกายเธอไปหมด ขันธ์ไม่ถนอมเธอเลยแม้แต่น้อย เขาตักตวงความสุขจากเธอให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ เขาไม่คิดถึงใจเธอเลยสักนิด และนั่นทำให้เธอตัดสินใจเด็ดขาด

เธอหยิบกระเป๋าแล้วเดินออกไปจากบ้านหลังนี้ และทันทีที่ถึงกรุงเทพฯ เธอก็ตรงไปเก็บข้าวของทั้งหมดของเธอกลับคอนโดฯ โดยเร็วที่สุด ก่อนเก็บข้าวของที่จำเป็นแล้วเดินทางไปต่างจังหวัดยังสถานที่จัดงานแต่งงานของเพื่อนทันที

ปอยเดินออกมาต้อนรับเพื่อนเห็นเพื่อนมีสายตาเหม่อลอยก็สงสัย แต่ก็เย็นมากแล้วจึงไม่ได้ซักถามอะไรเป็นพิเศษ “มาก็ดีแล้วล่ะ จะได้มาช่วยงานไง แล้วนี่แกจะพักที่นี่ไหม”

“ไม่ล่ะ ฉันอยากไปนอนโรงแรมน่ะ แวะมาบอกแกก่อนนะ” นลินตอบก่อนบอกเบอร์ห้องและหมายเลขโทรศัพท์ใหม่ของเธอ “โทรหาเราเบอร์นี้นะ ขอกลับโรงแรมก่อนแล้วกัน”

“เป็นอะไรหรือเปล่า ลิน” พลถามเพื่อนสนิทว่าที่เจ้าสาวของเขา

“ไม่เป็นอะไรหรอก เหนื่อยน่ะ ค่ำมืดแล้วด้วยอยากนอน” นลินตอบกลบเกลื่อนก่อนเข้าไปไหว้ลาผู้ใหญ่ของเพื่อนแล้วบอกลาเพื่อน “เราไปก่อนนะ พรุ่งนี้จะมาหาแต่เช้า”

“เดินทางดีๆ นะ” ปอยพยักหน้าก่อนดึงเพื่อนเข้ามากอด เธอไม่กล้าถามเรื่องเขตต์และพอดูออกว่าทั้งสองต้องมีอะไรกันแน่นอน

นลินเดินออกจากบ้านเพื่อนรักอย่างเลื่อนลอย ขณะที่พลมองตามเธอไปแล้วหันมาถามว่าที่เจ้าสาวของเขา “ลินเขาเป็นอะไรหรือปล่านะ ปอย”

“คงมีเรื่องกับพี่เขตต์ละมั๊ง แต่ปอยไม่อยากถามหรอก คราวนี้คงหนักใจมากน่ะ ต้องปล่อยให้ลินเขาใจเย็นกว่านี้ก่อน ไม่งั้นเขาจะเตลิดไปได้ เขาไม่ค่อยชอบให้ใครมาคาดคั้นเขาตั้งแต่แรกน่ะ แต่ปอยเป็นห่วงจัง” ปอยหนักใจแต่ก็เป็นห่วงเพื่อน ถึงแม้เธอจะชอบทำตัวเจ้ากี้เจ้าการกับเพื่อน แต่ก็รู้ว่าเมื่อไรควรทำ...เมื่อไรไม่ควรทำ

พลได้แต่พยักหน้า เขายอมรับว่านลินเป็นผู้หญิงที่เข้าใจยากมากคนหนึ่ง เท่าที่แฟนเขาเล่าให้ฟังก็พอรู้ว่าผู้ชายที่เข้ามายุ่งกับเธอต้องถอยห่างทุกครั้งเพราะนลินมักไม่เป็นไปอย่างที่คิด แม้เจ้าตัวบอกว่าอยากเป็นผู้หญิงธรรมดา แต่เอาเข้าจริงๆ นลินเป็นคนพิเศษและมีมุมมองชีวิตที่แตกต่างจากผู้หญิงธรรมดาอยู่มาก

**********************************


และแล้วขันธ์ก็ต้องได้รับบทเรียนไม่ต่างจากน้องชายเขา เมื่อนลินหายไปจากบ้านพัก เขาพยายามติดต่อเธอแต่เธอไม่เปิดเครื่อง และเมื่อเขากลับมาบ้านก็เห็นเธอขนข้าวของออกไปจนหมด เขารีบตามเธอไปยังคอนโดฯ ก็รู้ว่าเธอไม่ได้อยู่ที่นั่น เขาจนมุมและไม่รู้ว่าเธอไปไหน จึงโทรหาน้องชายเขา

“ดีนส์ นายมีเบอร์โทรติดต่อของลินบ้างไหม” เขาเข้าประเด็นโดยไม่สนใจว่าน้องชายเขาจะรู้สึกยังไง

“หมายความว่าไง ไหนนายบอกว่านายจะพยายามไม่ให้ลินหนีไปไง” เขตต์รีบออกมาจากห้องที่มีฟรานซิสอยู่เมื่อพี่ชายเขาถามแบบนี้

“ก็พยายามแต่ตอนนี้ลินหายไปแล้ว ไปหาที่คอนโดฯ ก็ไม่มี ตอนนี้ไม่รู้ว่าจะหาที่ไหนแล้ว” ขันธ์ไม่บอกน้องชายเรื่องที่เขาล่วงเกินนลิน

“อะไรวะ โอ๊ย จะบ้าตาย มีแต่เบอร์โทรพ่อแม่ลินน่ะ แต่ว่าไม่รู้ว่าจะเอาไงดี” เขตต์กดหาเบอร์พ่อแม่นลินก่อนบอกกับพี่ชายเขา “นายพูดอะไรอีกหรือเปล่าเนี่ย ไหนว่าลินใจเย็นมากขึ้นแล้วไง”

“เออน่า นายก่อเรื่องแล้วทำไมไม่แก้เอง ให้ฉันแก้ให้อยู่ได้ แต่ตอนนี้ฉันไม่แก้ให้นายแล้ว แค่นี้นะ” ขันธ์กดตัดสายโดยไม่ฟังเขตต์เรียกชื่อเขา

เวลานี้ก็ค่ำมืดแล้ว ถึงเขาร้อนใจแค่ไหนแต่เขาก็ไม่กล้าโทรหาพ่อแม่เธอ เขากำลังหนักใจเพราะสิ่งที่ทำลงไป เขาไม่ควรทำแต่ก็ห้ามใจตัวเองไม่ได้ เขาทรุดลงนั่งที่เก้าอี้ยาวแล้วทุบมือที่แขนเก้าอี้ “บ้าเอ๊ย”

ตอนนี้เขาแทบคลั่ง เขาไม่คิดว่านลินจะหนีไป แต่เมื่อนึกถึงสิ่งที่เขาทำลงไปคงยากที่เธอจะให้อภัยเขาได้ “ไอ้โง่”

เขาเฝ้าด่าตัวที่ไม่รู้จักห้ามใจ เธอกำลังโกรธเรื่องน้องเขาแล้วยังมีเรื่องเขาอีก ตอนนี้เขานึกไม่ออกเลยว่าเธอหายไปไหน กำลังทำอะไรอยู่ เขาภาวนาให้เธอใจเย็นแล้วกลับมาที่คอนโดฯ ให้เขาได้มีโอกาสแก้ไขสิ่งที่ทำลงไป

**********************************


ในงานแต่งงานของเพื่อนรัก มีคนรู้จักและเป็นเพื่อนของนลินมาอยู่หลายคน นลินฝืนยิ้มให้กับคู่บ่าวสาวและเพื่อนๆ ทั้งที่ตัวเองก็เก็บความในใจเอาไว้แทบไม่อยู่ เรื่องร้ายเกิดขึ้นกับเธอมากเกินไป จนกระทั่งงานของเพื่อนผ่านไปด้วยดี

เธอจึงโทรกลับบ้านและรู้ว่าหนึ่งในคู่แฝดโทรหาพ่อเธอ เธอจึงบอกกับพ่อว่าใช้เบอร์เพื่อนโทรมาแล้วก็จะหาที่เขียนหนังสือสักพัก แล้วไม่ต้องเป็นห่วงเพราะเธอกำลังไปได้ดีมาก เธอฝืนทำเสียงร่าเริงและไม่ใช่เรื่องแปลกถ้าเธอจะไม่ติดต่อกลับบ้านเป็นเดือน เพราะเธอกำลังเก็บตัวเขียนหนังสือเล่มใหม่ทั้งที่เธอก็ไม่รู้จะเขียนอะไรลงไปอีกแล้ว

หัวใจกำลังสับสนวุ่นวาย นลินหางานเล็กๆ ทำเป็นพนักงานออฟฟิตเล็กๆ โดยเอาวุฒิปริญญาตรีแล้วเก็บวุฒิปริญญาโทที่เธอไม่ได้ไปรับปริญญาหากก็ได้รับใบรับรองมาไว้ที่คอนโดฯ

เดือนกว่าที่เธอทำงานที่นั่นก็นับว่าทำให้เธอผ่านชีวิตไปได้โดยไม่มีใครเข้ามายุ่งวุ่นวายกับเธอ จนกระทั่งนลินร่างกายอ่อนแอลงจนไปทำงานไม่ไหว เธอจึงตัดสินใจลาออก

“ขอบคุณนะคะที่ให้โอกาส ลินมาตลอด” นลินบอกลาเจ้านายที่ให้โอกาสเธอทำงานมาหลายวัน

“อืม ไม่เป็นไร พยายามต่อไปนะ” เจ้านายให้กำลังใจ

“ลินว่าจะกลับไปทำงานที่บ้านน่ะค่ะ ขอบคุณนะคะ” นลินเฝ้าบอกขอบคุณก่อนขอตัวลาจากที่นั่น ก่อนเธอเดินทางกลับบ้านที่เธอไม่ได้กลับมานาน

พอถึงบ้านเธอก็เป็นความเปลี่ยนแปลง บ้านหลังเล็กๆ ดูดีขึ้นเมื่อมีคนมาดูแล พ่อเธอเกษียณแล้วกลับมาอยู่บ้าน เธอเข้ามาบ้านแล้วทักทายพ่อแม่ ก่อนเก็บของเข้าห้อง

“พ่อคะ ของหมั้นของบ้านพี่เขตต์อยู่ไหนคะ ลินจะเอาไปคืนเขาค่ะ ลินถอนหมั้นกับพี่เขตต์แล้วนะคะ” นลินบอกพ่อง่ายๆ เหมือนกับตอนหมั้น

เกษมได้แต่พยักหน้าก่อนบอกลูกสาวว่าสิ่งของที่เธอต้องการอยู่ไหน เขาทันยุคสมัยพอที่จะเข้าใจความสัมพันธ์ฉาบฉวยของคนรุ่นใหม่ และคงดีกว่าถ้าปล่อยให้เป็นปัญหาคาราคาซังต่อไป ขณะที่ ระรินผู้เป็นแม่ก็คิดไม่แตกต่างจากสามี

“พรุ่งนี้ค่อยไปก็ได้ลูก วันนี้พักผ่อนก่อนเดินทางมาเหนื่อยๆ สีหน้าลูกไม่ค่อยดีเท่าไร ไปหาหมอมาบ้างหรือเปล่า” ระรินถามลูกสาวคนเดียวอย่างสงสัย

“โรคเดิมๆ แหละแม่ แพ้อากาศแหละ แต่ช่วงนี้หนักหน่อย ลินไม่เป็นอะไรหรอกจ๊ะ เดี๋ยวก็คงหายมั๊ง” นลินตอบเป็นเรื่องปกติ ก่อนเดินไปหยิบมะม่วงดองที่มีติดบ้านไว้มาทาน แล้วเข้าห้องไปก่อนออนไลน์เข้าไปคุยกับเพื่อนๆ ที่ไม่ได้ออนมานาน

ข้อความเด้งขึ้นมาเป็นสิบๆ ทำให้นลินขมวดคิ้ว เธอเห็นชื่อก็รู้ว่าเป็นเขตต์กับขันธ์ที่ผลัดกันทิ้งข้อความเอาไว้ และนึกขอบคุณพ่อที่ไม่ให้เบอร์ติดต่อใหม่ของเธอกับเขาไป

ความห่วงใยเป็นชุดถ่ายทอดมาเป็นตัวอักษร แต่นลินเฉยชาเกินกว่าจะอ่านมัน เธอกดปิดทันทีและไม่นึกห่วงว่าเขาจะชวนคุยเพราะเธอกดบล็อคเขาทั้งสองคนเอาไว้ แต่ก็มีเพื่อนเขาทั้งสองทักมา

“หายไปไหนมา ลิน คิดถึงนะ” ไมค์พิมพ์ข้อความทันทีที่เธอออนไลน์

“ทำงานน่ะ งานยุ่งไม่มีเวลาออนเลย” นลินตอบไปตามปกติ

“ดีนส์กับแพทริกซ์ถามผมว่าคุณออนไหม เกิดอะไรขึ้นหรือเปล่า” ไมค์เข้าเรื่อง เพราะสงสัยเหมือนกันว่าเกิดอะไรขึ้นกับเพื่อนและญาติห่างๆ คนนี้

“ไม่นี่ ก็ปกตินะ” นลินตอบสั้น ก่อนสลัดความทรงจำแย่ๆ ทิ้งไป แล้วพิมพ์บอกลา “แค่นี้นะ ไว้คุยกันใหม่”

ไมค์ยังไม่ทันได้ตอบ นลินก็ออฟไลน์ไปแล้ว เขาขมวดคิ้วก่อนโทรศัพท์หาเพื่อนเพื่อถาม “แพทริกซ์ เมื่อกี้ลินออนไลน์นะ”

“อะไรนะ ดีนส์รู้เรื่องนี้ไหม” ขันธ์ถามขึ้นทันที เพราะเดือนกว่ามานี่น้องเขาก็พยายามตามหาเธออยู่เหมือนกัน ดูเหมือนต่างฝ่ายต่างก็เครียดเพราะอยู่ๆ เธอก็หายหน้าไปเป็นเดือน

“ยัง โทรไปไม่ติดก็โทรหานายเนี่ย มีอะไรแน่ ลินเขาไม่อยากคุยเรื่องพวกนาย พอพูดถึงก็ออฟไลน์ไปเลย” ไมค์พยายามคาดคั้นเพื่อนมาหลายวันแต่ก็ไม่มีคำตอบ ดูเหมือนนลินจะทำให้ฝาแฝดคู่นี้ทะเลาะกัน

“มีอะไรนิดหน่อยน่ะ ขอบใจนะ ไมค์ ว่าแต่ลินพูดไงบ้าง” ขันธ์อยากรู้ข่าวคราวเธอเหมือนกัน เพราะเขาพยายามถามพ่อแม่เธอแต่ก็ไม่ได้คำตอบ รู้แต่ว่าเธอไม่ค่อยติดต่อใครแล้วก็ไม่ได้กลับคอนโดฯ เลย แต่ก็ยังส่งเงินมาจ่ายค่าใช้จ่ายอยู่เสมอ

“คุยกันไม่ถึงห้าประโยคเขาก็ออฟไลน์ไปแล้วล่ะ โทษที” ไมค์บอกเพื่อนและขอโทษที่ช่วยอะไรไม่ได้

“ไม่เป็นไร อย่างน้อยก็ยังรู้ว่าเขาอยู่ไหน อย่าเพิ่งบอกดีนส์ได้ไหม” ขันธ์ขอร้องเพื่อนเขาไม่อยากให้น้องชายรู้เรื่องเธอ เพราะเขาอยากแก้ไขเรื่องของเขาก่อน

“ได้ แต่นายต้องบอกก่อนว่ามันเรื่องอะไรกัน ถ้าไม่งั้นฉันจะบอกดีนส์” ไมค์ใช้วิธีนี้ขู่เพื่อนและได้ผล

ขันธ์เล่าเรื่องที่นลินเป็นคู่หมั้นน้องชายเขาแต่ถอนหมั้นไปแล้ว “นายคงรู้ว่าตอนนี้ดีนส์คบกับเพื่อนนายอยู่นะ คงไม่อยากให้เขามีปัญหากันใช่ไหม”

ไมค์นิ่งอึ้งที่รู้ความจริง ก่อนต่อว่าเพื่อนทั้งคู่ “ไม่อยากให้มีปัญหา ไม่ล่ะ คราวนี้ดีนส์ทำเกินไปจริงๆ ทำไมต้องทำแบบนี้กับลิน กับฟรานซิส เมื่อก่อนดีนส์ไม่เป็นแบบนี้นี่”

“อย่าไปว่าดีนส์เลย มันก็เป็นแบบนี้แหละ สงสารแต่ลิน ไม่ได้มีความผิดอะไรด้วยเลย ขอนายละนะ อย่าไปบอกดีนส์เรื่องลิน ได้ไหม” ขันธ์เห็นเพื่อนเข้าใจอย่างนั้นก็ตามน้ำไป เพราะเพื่อนก็เข้าใจถูกเพียงแต่ไม่หมด

“แน่นอนล่ะ คนดีๆ แบบลินไม่ควรเจออะไรแบบนี้” ไมค์รับคำก่อนตัดสาย

ขันธ์นิ่งงันหลังจากนั้น เขาไม่รู้ว่าควรทำยังไง แต่สุดท้ายเขาจึงโทรหาแม่ที่กำลังพักผ่อนกับพ่อเขาอยู่ที่บ้านในเมืองไทย เขาอาจจะต้องไปขอร้องให้พ่อแม่เธอช่วยอย่างจริงจัง “แม่ครับ ผมจะกลับบ้านนะครับ ผมจะไปขอให้พ่อแม่ลินช่วย คราวนี้ผมไม่ยอมให้ลินหายไปอีกแล้วนะครับ”

“อะไรนะลูก หนูลินไม่ได้หายไปนี่ เมื่อกี้ยังโทรมาหาแม่อยู่เลย บอกว่าพรุ่งนี้จะมาหาแม่ที่บ้าน มีอะไรเหรอลูก” ขวัญฤดีบอกลูกชายตามนี้

“อะไรนะครับ เมื่อไรนะครับ” ขันธ์ทวนคำด้วยความดีใจ เขามองนาฬิกาแล้วคิดว่าเขาคงกลับบ้านได้แน่นอน แต่เมื่อนึกได้ว่านัดกับลูกค้าคืนนี้ก็ต้องเปลี่ยนใจ ยังไงพรุ่งนี้เขาก็ได้เจอเธอแน่นอน

“พรุ่งนี้ไง ว่าแต่หนูลินหายไปไหน เกิดอะไรขึ้นกันแน่ บอกแม่มาเดี๋ยวนี้นะ” ขวัญฤดีรู้สึกไม่ชอบมาพากลกับคำพูดของลูกชาย ต้องมีอะไรเกิดขึ้นระหว่างลูกชายอีกคนที่หมั้นกับนลินแน่นอน

“เอ่อ แม่ครับคือว่า” ขันธ์เล่าเรื่องเขตต์กับฟรานซิสแต่ละเรื่องระหว่างเขากับนลินไว้

“อะไรนะ ทำไมเขตต์ทำตัวแบบนี้อีกแล้วล่ะ บ้าจริงถึงว่าโทรมาถามแม่ว่าได้ข่าวลินไหมแล้วก็หายไปเป็นเดือน นี่มันอะไรกันแน่เนี่ย แม่งงไปหมดแล้วนะ เฮ้อ ยังไงถ้าพรุ่งนี้ลูกจะมาก็อย่าให้หนูลินรู้นะ ไม่งั้นหนูลินคงไม่ยอมมาแน่” ขวัญฤดีคาดเดาอย่างมีประสบการณ์ ถึงลูกคนนี้จะไม่มีปัญหากับนลิน แต่เพราะหน้าตาที่เหมือนกันมากอาจทำให้นลินไม่อยากพบหน้าด้วยก็ได้

“ครับแม่ ผมจะรีบไปนะครับ คงถึงพรุ่งนี้เช้า ว่าแต่ลินจะไปหาแม่สักกี่โมงละครับ” ขันธ์ถามให้แน่ใจว่าเขาจะไปพบเธอถูกเวลา

“เห็นว่าช่วงเช้าจะไปโรงพยาบาลก่อน ได้ยินว่าไม่ค่อยสบายน่ะ แล้วบ่ายๆ ก็จะมาที่บ้านนะ” ขวัญฤดีบอกตามตรง

“ลินไม่สบายเหรอครับ” ขันธ์ตกใจที่รู้เรื่องนี้ เขานึกอยากดูแลเธอแทนน้องชายเขาหรืออีกที เขานึกอยากเก็บเธอเอาไว้คนเดียวแทนน้องชาย

“อืมจ๊ะ แค่นี้ก่อนนะ พ่อเรียกแม่แล้วล่ะ” ขวัญฤดีไม่รู้ว่าจริงๆ เกิดอะไรขึ้น แต่เธอเชื่อว่าต้องมีอะไรสักอย่างมากกว่าที่ลูกชายเล่าให้ฟัง

ขันธ์รับคำแล้วถอนใจยาวหลังจากที่แม่วางสาย นึกอยากไปหาเธอตอนนี้เธอก็กลัวว่าเธอจะโกรธเขาจนไม่ยอมให้เขาเข้าใกล้ เขาทุบโต๊ะระบายอารมณ์ ไม่คิดว่าคืนนั้นจะเป็นคืนสุดท้ายที่เขาจะมีโอกาสได้อยู่กับเธอ เขาเจ็บใจตัวเองที่ไม่มีสติพอ

**********************************


สายตาเหม่อลอยเสียจนไม่รู้ว่าจะควบคุมสติได้อีกไหม นลินเดินออกจากโรงพยาบาลมาที่รถโดยไม่รู้ว่าเดินมาได้อย่างไร จำได้คร่าวๆ ว่าพยาบาลเอายามาใส่มือเธอพร้อมเงินทอน ก่อนเธอเดินช้าๆ อย่างไร้จุดหมายแต่ก็มาถึงรถ เธอก้มลงกับพวงมาลัยแล้วร้องไห้

‘ยินดีด้วยค่ะ’

คำแสดงความยินดีที่เธอไม่อยากได้รับ มาพร้อมข่าวร้ายที่เธอไม่คิดว่าจะเกิดขึ้น เธอควรป่วยเพราะอาการภูมิแพ้ไม่ใช่เพราะเธอกำลังจะมีอีกหนึ่งชีวิตในร่างกายเธอ...ลูกของเธอกับผู้ชายที่ทำร้ายเธอ

ฝันร้ายคงไม่มีวันจางหายไปจากชีวิตเธอ เธอออกจากคลินิกแม่และเด็กที่ใกล้บ้านเธอที่สุด ตอนแรกเธอแค่จะมาตรวจโรคทั่วไป แต่กลับกลายเป็นว่าต้องมาตรวจครรภ์

วันนั้นมีเรื่องให้เธอคิดมากจนไม่ทันได้ระวังตัว...

นลินปาดน้ำตาแล้วตั้งสติ ยังไงลูกก็เป็นผู้บริสุทธิ์ เธอไม่คิดโทษชีวิตบริสุทธิ์แต่เธอต้องตั้งหลักให้ได้ แล้วก็เอาของหมั้นไปคืนเพื่อกำจัดสายสัมพันธ์ระหว่างเธอกับครอบครัวเนลสัน แล้วถือว่าลูกเป็นกรรมสิทธิ์ของเธอแต่เพียงผู้เดียว อย่างน้อยลูกก็ทำให้เธอมีจุดหมายในชีวิตต่อไป

**********************************

เรื่องนี้ไม่มีบู๊ล้างผลาญ ไม่มีตบตี(รึเปล่าหนอ)
มีแต่คนงี่เง่านิดๆ เจอกับคนประหลาดมากๆ ค่ะ
การต่อสู้ระหว่างความรู้สึกที่เกิดขึ้นอย่างน่าแปลก
กับคนสามคนที่พยายามจะอยู่กับอีกคนให้ได้
ขอบคุณที่ติดตามค่ะ

สุขสันต์วันเกิดให้กับทุกคนที่เกิดเดือนนี้นะคะ
เพราะเพลิงวารีก็เกิดเดือนนี้เช่นกันค่ะ
555+ ตัวเลขใกล้ 30 เข้าไปทุกทีแล้วค่ะ
พรุ่งนี้ (21) จะไปฉลองแล้วค่ะ
มีความสุขกับทุกสิ่งที่เข้ามานะคะ

คุณ CaspeR GhosT --- ลงได้ประมาณนี้ค่ะ ยังแต่งไม่จบเลยค่ะ

คุณ fiona --- ขอบคุณค่ะ อิอิ



Create Date : 20 สิงหาคม 2552
Last Update : 20 สิงหาคม 2552 21:27:00 น. 2 comments
Counter : 517 Pageviews.

 
Happy Birthday ค่ะ
ขอให้มีแต่ความสุขนะค่ะ


โดย: หมู IP: 203.144.151.13 วันที่: 21 สิงหาคม 2552 เวลา:8:46:28 น.  

 
ลงเยอะลงน้อยไม่ว่ากันค่ะ ขอแค่คุณเพลิงวารีลงก็เป็นพอ (เพราะได้อ่านเรื่องสนุกๆ) ยังไงก็ Happy Birthday นะคะ มีความสุขมากๆคะ (CaspeR GhosT ก็เกิดเดือนนี้เหมือนกัน 20 สิงหา บังเอิญใกล้กันเลย หุหุ)

ปล. ได้คู่กะคุณพี่ขันธ์จริงๆด้วย แต่อย่าบอกนะว่าจะมีหักมุมตอนจบอีก แต่ว่าคุณพี่ขันธ์ไม่น่าทำอย่างนั้นกะลินเลย แอบเคืองนะนิ


โดย: CaspeR GhosT IP: 123.243.8.121 วันที่: 21 สิงหาคม 2552 เวลา:11:28:56 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 
 

เพลิงวารี
Location :
นนทบุรี Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 3 คน [?]




ไหดองเหล็กไหล
New Comments
[Add เพลิงวารี's blog to your web]

 
pantip.com pantipmarket.com pantown.com
pantip.com pantipmarket.com pantown.com