เพลิงวารี & คชสีห์ ฿ Babylonia
<<
ตุลาคม 2552
 123
45678910
11121314151617
18192021222324
25262728293031
 
27 ตุลาคม 2552
 
 

เราสามคน...หนทางเดียว20(ตอบใจ)

นลินตื่นขึ้นแล้วฝืนกินอาหารกับยา โดนมีผู้คุมกำกับจนเรียบร้อย เธอก็ถามถึงลูกทั้งสองคนทันที “ลูกละคะ”

“ทานแล้วล่ะ พี่จัดการแล้ว” ขันธ์ลูบผมเธออย่างเอ็นดู น้อยครั้งที่เธอจะแสดงความอ่อนแอให้เขาเห็น

นลินถอนหายใจยาวแล้วพยายามจับดูว่าตัวเองมีไข้อีกหรือเปล่า แต่เขาก็แย่งจับดู ก่อนบอกให้เธอนอนพัก “ขอบคุณค่ะ”

เธอเหนื่อยทั้งกายและใจจึงต้องทำตามที่เขาบอก แล้วเอนลงนอนหลับอีกครั้ง จากนั้นก็ถูกเขาจูบที่หน้าผากก่อนปล่อยให้คนป่วยได้นอนพัก

เธอไม่รู้ว่าหลับไปนานแค่ไหน รู้แต่ว่าพลิกตัวหันไปทางประตูแล้วเห็นเขาเปิดประตูเข้ามาดู “เที่ยงแล้วเหรอคะ”

“เปล่าจ๊ะ พี่แวะมาดูลินน่ะ” เขาไม่ใช่ขันธ์แต่เป็นเขตต์ เข้ามาลูบเรือนผมเธออย่างอ่อนโยน

“โธ่ พี่ขันธ์ก็ ดูลูกๆ เถอะค่ะ ลินไม่เป็นไร เดี๋ยวไข้ก็ลด” นลินบอกเขา ขณะทำตาปรือจึงไม่รู้ว่าใครเป็นใคร

“ขันธ์ดูลูกอยู่ พี่ก็เลยแอบเข้ามาดูลินน่ะ” เขตต์เจ็บลึกๆ เมื่อนึกถึงเหตุการณ์เมื่อคืน และกลายเป็นเธอที่มีแต่คู่แฝดเขาในชีวิต

นลินตกใจแตกตื่นแล้วพยายามถอยห่างเมื่อเขาปีนขึ้นเตียงมาแล้วทำท่าจะจูบเธอ “ออกไปค่ะ อย่าทำแบบนี้อีก”

“โธ่ ลิน พี่เป็นห่วงลินนะ” เขตต์บอก และใจหายเมื่อเธอพยายามถอยห่าง

“เกลียดลินเถอะ ลินก็แค่ผู้หญิงรักสนุก พี่อย่ายุ่งกับลินอีก” นลินบอกเขา และแทบจะอ้อนวอนเขา

“ไม่ คือพี่ขอโทษที่ทำอะไรงี่เง่าลงไป พี่จะอธิบายกับทุกคนเองว่าลินไม่ใช่ผู้หญิงแบบนั้น พี่หึงจนหน้ามืดตามัวไป พี่เสียใจแล้วก็จะแก้ไข” เขตต์พยายามอธิบาย

นลินไม่ฟังก่อนทิ้งน้ำหนักลงแล้วหันหลังให้เขาอย่างเบื่อหน่าย เธอไม่จำเป็นต้องโน้มน้าวให้เขาเชื่ออีกแล้ว เธอจะต้องไม่เกี่ยวข้องกับเขาอีก

หากยังไม่ทันได้หลับก็ถูกกอดจากด้านหลัง เธอก็พยายามปลดมือเขาออก “ออกไปค่ะ อย่าทำแบบนี้”

“ลินให้อภัยพี่นะ” เขตต์พยายามขอร้องอ้อนวอนอีกครั้ง

“ถามหน่อย พี่จะเข้ามาป่วนชีวิตลินอีกนานแค่ไหน ให้ลินอยู่อย่างสงบไม่ได้หรือยังไง ให้ทุกคนเกลียดลินซะยังดีกว่า อย่าพยายามทำอะไรมากไปกว่านี้เลยนะ ขอร้อง ลินว่าพี่ทำมากพอแล้ว” นลินปลดมือเขาออก

เขตต์ค่อยๆ ออกไปจากห้องอย่างผิดหวัง ก่อนฟังเธอพูดประโยคสุดท้าย...

“ปล่อยลินไปสักทีเถอะ”

****************************************************


ไมค์ช่วยเพื่อนย้ายคู่แฝดน้อยมาที่ห้องนั่งเล่น เพราะไม่อยากให้ไปรบกวนแม่ที่กำลังพักผ่อน แล้วก็นั่งมองพร้อมคุยกับเพื่อนไปด้วย แต่ความสงบอยู่ได้ไม่นานนัก เมื่อเพื่อนที่เหลือเดินเข้ามาถาม

“เดี๋ยวไปตีเทนนิสกันนะ” พีทีบอกกับเพื่อนอีกสองคนที่เอาแต่ดูแลทารก

“ไปเถอะว่ะ ว่าจะอยู่ดูลูกหน่อย ลินไม่ค่อยสบายน่ะ” ขันธ์บอกเพื่อนขณะแกะส้มเป็นชิ้นเล็กๆ ให้ลูกๆ

“อะไรวะ มาเที่ยวนะ เมื่อวานก็ยังดีๆ นี่นา อะไรจะป่วยปุบปับแบบนี้” พีทีพูดอย่างหงุดหงิด

“พูดให้มันดีๆ หน่อย ใครอยากจะป่วยล่ะ” ขันธ์พยายามข่มใจให้เย็นไว้

เขารับปากเธอว่าจะไม่ก่อเรื่อง แต่ถ้าถูกหาเรื่องบ่อยๆ เขาก็ไม่แน่ใจว่าจะทำได้อย่างที่รับปากไว้ไหม เพราะถ้ามันหมายถึงการที่เขาไม่สามารถปกป้องเธอได้ เขาก็ไม่รู้จะทำไปทำไม

“จะไปรู้เหรอ นึกว่าอยากเรียกร้องความสนใจ” พีทียักไหล่แบบไม่ชอบใจนัก

ขันธ์โกรธมากขึ้นแล้วดึงคอเสื้อเพื่อนก่อนตะคอก “พูดบ้าอะไรวะ อย่าพูดถ้าแกไม่รู้จักเธอดีพอ อย่าทำให้ความอดทนฉันต่ำไปเรื่อยๆ”

พีทีแกะมือเพื่อนแล้วมองอย่างโกรธๆ “เห็นไหม แค่นี้หล่อนก็ทำให้เพื่อนทะเลาะกันได้แล้ว ความร้ายกาจภายใต้ท่าทางซื่อๆ โง่ๆ”

ขันธ์ไม่รอช้าชกหน้าเพื่อน และไม่ฟังเสียงลูกที่ร้องไห้จ้าด้วยความตกใจ “ไอ้ลูกหมา ฉันบอกแล้วใช่ไหมว่าอย่าพูดถ้าแกไม่รู้จักลินดีพอ”

เสียงเด็กร้องทำให้ใครหลายคนเดินเข้ามาในห้อง แม้แต่เขตต์ และเมื่อเห็นเพื่อนกำลังปลอบหลานๆ ของเขา เขาก็เดินเข้าไปหา แต่ถูกคู่แฝดผลักอกให้ถอย

“อย่าแตะต้องลูกฉัน” ขันธ์พูดเป็นภาษาไทย แล้วสั่งให้ถอย ก่อนพูดเป็นภาษาสากล “ไม่คิดเลยว่านายจะสารเลวขนาดนี้ เป็นไง...สนุกไหมที่ได้ทำลายชื่อเสียงของลิน เพียงเพราะผู้หญิงคนหนึ่งไม่โง่พอที่จะจดทะเบียนสมรสกับนาย นายถึงกับทำแบบนี้ได้เลยเชียวเหรอ ได้...ถ้าให้เลือก ฉันจะเลือกลิน เพราะลินยังดีกว่าพวกนายหลายร้อยเท่า อ๋อ ไม่สิ เพราะพวกนายมันสูงส่งเกินกว่าจะคบกับพวกฉัน”

“เฮ้ย พอเถอะ อย่ามีเรื่องกันเลย” ไมค์พยายามห้าม เพราะเด็กๆ ดูจะไม่ยอมเงียบแล้วพยายามตะกายหาแม่

“ทำไมนายไม่บอกความจริงไปล่ะว่า ที่ชีวิตลินต้องสับสนมันเพราะใคร เพราะความไม่รู้จักพอของนาย แล้วก็ความเลวของฉันที่อยากได้เธอ” ขันธ์ผลักไหล่คู่แฝดที่พยายามเข้าใกล้ลูกเขา

“ฉันขอโทษ” เขตต์พยายามบอกขอโทษ

“ไร้สาระน่า คุณไม่ได้ทำอะไรผิด” แอบบี้พยายามเข้าข้างคนรัก

“งั้นเหรอ เธอก็คงไม่ผิดที่คิดแกล้งแม่กระทบลูก เด็กตัวเล็กๆ แต่เธอก็จงใจสาดน้ำส้มใส่แม่เขา แล้วไม่รู้จักดูเลยว่าอะไรจะเป็นยังไง รู้อะไรไหม พวกนายมันเหมาะสมกันแล้วล่ะ” ขันธ์พูดก่อนหันไปมองเจ้าของเสียงประตูที่เปิดออกมา

สีหน้าอ่อนล้าของนลินชัดเจน และเธอไม่สนใจใครในห้องอีก นอกจากลูกน้อยที่หันมาทางเธอทั้งสองคน คนที่อยู่ในอ้อมแขนของไมค์ก็พยายามจะไปหาเธอ ส่วนคนที่อยู่ในคอกเด็กก็พยายามยืนและเกาะให้นานที่สุด

“ไปนอนเถอะ ลิน เดี๋ยวพี่ดูแลลูกเอง” ขันธ์หันไปพูดกับเธอ แต่ดูเหมือนเธอจะไม่สนใจเท่าไรนัก

นลินเดินไปหาลูกคนที่อยู่ในคอกเด็กก่อน แล้วอุ้มเขาออกจากที่นั่น แม้จะเซเล็กน้อยแต่เธอก็พยายามยืนอยู่ได้ แล้วเดินไปใกล้ไมค์ ก่อนจะยกมือขึ้นจับมือลูกอีกคน จนเด็กทั้งสองคนหยุดร้องแล้วซบไหล่แม่

“ทีหลังถ้าจะขึ้นเสียง อย่าทำต่อหน้าเด็กๆ นะคะ เพราะมันจะทำให้พี่ยิ่งหงุดหงิดขึ้น อืม ไมค์พาเนธานเข้าไปในห้องหน่อยสิคะ” นลินบอก ก่อนพาลูกอีกคนไปวางไว้บนเตียงในห้องตามหลังไมค์ โดยไม่สนใจว่าใครจะอยู่ในห้องหรือไม่ก็ตาม

แล้วเธอก็กลับมาเพื่อเอาคอกเด็กกลับเข้าไปในห้อง แต่ขันธ์ยืนขวางไว้ ปล่อยให้เธอซบอกเขา แล้วโอบกอดเธอไว้หลวมๆ “กลับไปนอนเถอะ เดี๋ยวพี่จัดการเอง แล้วพอตื่น เราจะกลับบ้านกัน”

“ถึงลินไม่ตื่นก็ปลุกได้ค่ะ อยากกลับไปนอนเหมือนกันค่ะ” นลินพยักหน้ากับอกเขา แล้วหันหลังกลับเข้าห้องไป

“เดี๋ยวสิ” เขตต์พยายามอธิบาย

“พอ แล้วอยู่ให้ห่างจากลินเอาไว้ คนอย่างนายมันอ่อนแอเกินกว่าจะดูแลใครได้” ขันธ์ผลักน้องชายให้ถอย แล้วก็ถือคอกเด็กเข้าไปในห้อง

ไมค์เดินออกมาช่วยเพื่อนก่อนส่ายหน้ากับสิ่งที่เพื่อนทำ “ดีนส์ คราวนี้นายทำเกินไป”

“ฉันเสียใจ แต่...ฉันเปลี่ยนแปลงได้ ขอโอกาสให้ฉันหน่อยเถอะ” เขตต์พยายามขอร้อง

“นี่มันอะไรกัน ทำไมคุณต้องขอโอกาสด้วย” แอบบี้ถามขึ้นอย่างสงสัย แล้วคาดคั้นเขา

“ขอทำไมในเมื่อนายทำลายมันครั้งแล้วครั้งเล่า นายทำให้พวกเราเจ็บปวดมามากพอแล้ว” ขันธ์บอกอย่างเย็นชาก่อนเดินเข้าห้องไป

เขตต์ได้แต่นิ่งงันแล้วไม่ตอบใครทั้งสิ้น คู่แฝดเขาพูดถูกแต่เขายังมีหวังอยู่ใช่ไหม ถึงเธอบอกให้ลืมแต่เมื่อคืนเธอยังรักเขาอยู่ใช่ไหม...

“อธิบายมาว่ามันเกิดอะไรขึ้นกันแน่” แดนถามขึ้นเมื่อทุกอย่างสับสนเกินไป

ไมค์จึงพยักหน้าให้เพื่อนตามออกไปนอกห้อง แล้วอธิบายทุกสิ่ง โดยไม่ขอบอกอะไรกับพวกผู้หญิง เขาคิดว่ามันควรจะรู้เพียงคนสนิทกันเท่านั้น ยิ่งเรื่องที่ไม่ควรเกิดขึ้นกับผู้หญิงคนไหนแบบนี้

ขณะที่แอบบี้พยายามหาคำตอบจากเขา ก่อนเขามองหน้าเธออย่างเบื่อหน่าย แล้วเดินหนีเมื่อความรำคาญพุ่งสูงขึ้น เขาต้องการทบทวนว่าจะมีทางไหนให้เขาอยู่ในสมการชีวิตของเธอ

****************************************************


เสียงรถดังขึ้นเมื่อขันธ์เก็บข้าวของใส่รถจนหมด พอกันทีกับเรื่องบ้าๆ เขากับเธอไม่จำเป็นต้องทนกับมันอีก แม้เกิดคำถามอยู่เช่นกัน...ทำไมคู่แฝดเขาอยู่ๆ ก็กลับมาขอโอกาสจากเขากับเธอ...แต่ยังไม่ถึงเวลา

เขาเดินเข้าไปโอบกอดเธอบนเตียงแล้วหอมแก้ม แต่สิ่งที่สัมผัสได้คือ...เธอกำลังนอนร้องไห้อย่างไร้เหตุผล เขาจึงถามเพื่อคลายความสงสัยที่เขามี “มีอะไรระหว่างลินกับเขตต์หรือเปล่า”

นลินหันไปมองเขาแล้วก็พยายามซับน้ำตา ก่อนหลบตาอย่างรู้สึกผิด “ไว้เราถึงบ้าน ลินค่อยบอกได้ไหมคะ”

“ได้สิ อย่าร้องไห้ไปเลยนะ เดี๋ยวเด็กๆ ก็ร้องไห้ตามหรอก แล้วพี่ก็จะหงุดหงิดทำให้ลินรำคาญอีก” เขาพูดอย่างอ่อนโยนตอนช่วยเธอพยุงตัวเองขึ้น

“ลินไม่รำคาญพี่หรอกค่ะ แต่ไม่อยากให้พี่หงุดหงิดกับเสียงลูกๆ เวลาร้องมากกว่าค่ะ” นลินตอบขณะขยับขึ้นนั่งในอ้อมกอดเขา

อ้อมกอดที่แสนอบอุ่น ซึ่งเธออาจสูญเสียไปเมื่อบอกความจริงที่เกิดขึ้น แต่ไม่เป็นไร เพราะอย่างน้อยเธอก็ไม่ได้โกหกเขา และไม่ต้องทรมานกับความจริงที่แอบซ่อนในใจ

ขันธ์ปล่อยให้เธอซบพิงแล้วก็รู้ว่าต้องมีอะไรสักอย่าง หากเขาต้องใจเย็นและให้เวลาเธอบ้าง “เอาเถอะ กลับกัน คงถึงเย็นๆ พอดี”

นลินรับคำก่อนลุกขึ้นอุ้มลูกใส่ที่นั่งเด็ก แล้วเดินไปเปลี่ยนเสื้อผ้า ก่อนเดินตามเขาที่กำลังยกที่นั่งเด็กใส่รถ แต่กลับถูกเขตต์เข้ามาดึงแขนเอาไว้

“ให้โอกาสพี่อีกสักครั้งนะ เราจะอยู่ด้วยกันก็ได้ ลินไม่ต้องทิ้งใครสักคนเลยนะ พี่ไม่ดีแต่พี่จะปรับปรุงตัวเอง” เขตต์พยายามอธิบายและขอโอกาส แต่คงยากเมื่อคู่แฝดเขาเข้ามาปกป้องเธอ

“ฉันบอกให้พอไง นายทิ้งโอกาสนี้ไปเองแล้วจะมาร้องขอหาอะไร” ขันธ์ดึงเธอกลับก่อนพาเธอขึ้นรถแล้วปิดประตู จากนั้นก็หันมาเผชิญหน้ากับคู่แฝด “ฉันรักนายแต่ดูเหมือนไม่ว่าจะรักนายเท่าไร มันก็ไม่เคยพอ เหมือนกับที่ลินรักนายแต่ลินก็ไม่เคยดีพอนั่นแหละ ดูแลตัวเองให้ดีแล้วกัน”

ขันธ์ล็อครถด้านนั้น จากนั้นเขาก็กลับไปขึ้นรถแล้วขับออกไป โดยไม่ได้มองเพื่อนสักคน ถ้าเขาจะต้องสูญเสียเพื่อนไป เพียงเพราะแม่ของลูกเขาที่ไม่มีความผิดแล้วนะก็...คงไม่ผิดใช่ไหม

“ทำไมนายต้องเข้าไปยุ่งกับแพทริกด้วย นายควรจะปล่อยพวกเขาไปซะ อดีตจะยังไงก็ช่าง แต่ปัจจุบันนายควรตัดใจซะ เชื่อพวกเราเถอะ” พีทีพยายามกล่อมเพื่อนให้ใจเย็น

“อย่ามายุ่งกับฉัน” เขตต์เดินกลับเข้าบ้านแล้วเก็บตัวเงียบ

ไมค์แตะไหล่เพื่อนคนอื่นๆ แล้วได้แต่บอกให้ใจเย็น เรื่องนี้มันยุ่งยากเกินกว่าที่พวกเขาจะเข้าไปข้องเกี่ยว และเป็นเรื่องของคนสามคนตัดสินใจกันเอง

****************************************************


นลินกำมือแน่นเมื่อถึงบ้าน เธอมองเขาอุ้มลูกเล่นแล้วพูดคุยกันราวกับสื่อสารกันรู้เรื่องอย่างลำบากใจ สุขภาพเธอดีขึ้น แต่กำลังรวบรวมความกล้าที่จะบอกเขา

ขันธ์หันมองมาเธอบ่อยครั้ง ต้องมีอะไรเกิดขึ้นมากกว่าที่เขาคิดไว้ หากเขาต้องถามใจตัวเองว่าพร้อมที่จะรับรู้หรือไม่ แต่แล้วเขาก็ตัดสินใจวางลูกลง ก่อนเดินเข้ามาหาเธอ “ไปห้องทำงานกัน มีอะไรที่ลินอยากจะพูดก็พูด พี่ไม่อยากให้ลินอึดอัด”

นลินปล่อยให้เขาจูงมือไปยังห้องทำงานและเมื่อประตูปิดลง เธอก็เดินไปซบอกเขา แล้วกล่าวคำที่เธออยากจะบอกมาตลอด “ลินขอโทษค่ะ”

ขันธ์กอดเธอเอาไว้หลวมๆ แล้วพอคาดเดาได้แล้วว่าต้องมีอะไรจริงๆ “ไม่เป็นไร บอกมาเถอะ”

“ลินทำผิดกับพี่ ลินรู้ว่าไม่ควรแต่ลินต้องบอก มันดีกว่าที่เราจะมาทนอึดอัดต่อกัน” นลินพยายามหาคำพูดมาสารภาพเขา

“คืนนั้นลินมีอะไรกับเขตต์ใช่ไหม ถ้าใช่ก็ช่างมันเถอะ มันไม่สำคัญหรอก เชื่อพี่ ถ้าถามว่าทำไมพี่ถึงทำใจได้ ก็พี่เตรียมใจให้มีที่ว่างพอสำหรับเราสามคนอยู่แล้วนี่” ขันธ์เค้นคำพูดออกมาอย่างยากเย็น พอเอาเข้าจริงๆ เขาก็รู้ว่ามันยากจะทำใจได้ แต่เขาก็ต้องทำ

“ลินน่ารังเกียจ ลินปล่อยใจไปกับเขา ซึ่งไม่ยุติธรรมกับพี่ รู้ว่ามันไม่ควรแต่ลินก็ทำ ลินไม่สามารถลืมเขาได้ แล้วก็อยู่กับพี่แบบนี้ไม่ได้ มันผิด” นลินร้องไห้ออกมาแล้วพยายามถอยให้ห่างจากเขา

“งั้นก็ชดเชยให้พี่ด้วยการอยู่กับพี่สิ คอยดูแลพี่ ให้กำลังใจพี่ อยู่กับพี่ อย่าให้พี่ต้องคอยกังวลว่าลินกับลูกจะอยู่ที่ไหนยังไง อย่าไปจากพี่” ขันธ์เดินเข้ามาโอบกอดเธอเอาไว้

“แต่ลินทำผิดกับพี่นะ พี่อย่าทำอย่างนี้ได้ไหม พี่อย่าดีกับลินได้ไหม” นลินพยายามปัดอ้อมแขนของเขาอย่างดื้อรั้น

บางครั้งการได้รับความรักอาจจะหนักเกินไปสำหรับผู้หญิงธรรมดาคนหนึ่ง เธออยากเป็นผู้หญิงที่โหยหารักบ้างบางครั้งแต่ยังคงมีอิสระอยู่เสมอ

“ยังไงล่ะลิน ผิดด้วยเหรอ ถ้าพี่จะดีกับคนที่พี่รักน่ะ” ขันธ์เริ่มหงุดหงิดที่เธอปฏิเสธเขา

“มันยิ่งทำให้ลินรู้สึกผิดมากขึ้น” นลินถอยไปนั่งที่เก้าอี้ยาวภายในห้อง แล้วบอกตัวเองไม่ถูกว่าควรจะรู้สึกอย่างไรกับตัวเองในเวลานี้

“ฟังนะ หยุดคิดเกี่ยวกับมันแล้วอยู่กับพี่ ถือซะว่าลินไม่ได้นอกใจพี่ ให้ทุกอย่างอยู่ที่เรา ถ้าพี่ไม่คิดอะไรมากและยอมรับมันได้ ลินก็ไม่ผิด สนใจทำไมว่าใครในสังคมจะรู้เรื่องหรือคิดยังไงกับมัน ถ้าเรามีความสุขและคนที่เรารักไม่ทุกข์กับมัน ก็ให้มันจบแค่นั้น ให้มันเป็นอดีตไปซะ แล้วเราก็เดินหน้าใช้ชีวิตของเราต่อไป จะสำคัญอะไรกับคนอื่นคิดยังไง แค่พี่ แค่ลินคิดยังไงก็พอ” ขันธ์อธิบายยืดยาวแบบที่เขาไม่ต้องทำกับใครมาก่อน

“พี่จะบอกว่ารับที่ลินนอนกับพี่เขตต์เหรอ” นลินมองเขาเพื่อสำรวจ ทั้งแปลกใจทั้งประหลาดใจ

“เรื่องนี้มันไม่สามารถตัดสินได้หรอก ยังไงซะ ตอนนี้ลินก็ยังไม่ได้เป็นภรรยาของใคร ไม่ว่าจะตามกฎหมายหรือไม่ก็ตาม อย่างน้อยใจลินก็ยังไม่ได้เป็น ดังนั้นลินอย่าคิดมากสิ พี่ไม่สนใจก็พอแล้วนี่” ขันธ์อธิบายแล้วเดินเข้าไปกอดเธอ “ลินรักพี่ไหม”

นลินนิ่งเงียบไปพักหนึ่งเมื่อเขาเปลี่ยนเรื่องก่อนถอนหายใจยาว “รักสิคะ เพราะรักนี่แหละมันถึงไม่ถูกไง”

“ไม่มีอะไรถูกเสมอหรือผิดเสมอในความรักหรอกนะ ไม่รู้สิถ้าลินรับได้เราจะอยู่กันแบบนี้หรืออยู่กันแบบสามคน พี่ก็ไม่ถือ ขอให้ลินมีความสุข พี่จะต้องมีความสุขให้ได้ รู้อะไรไหม...ความรักสอนให้พี่ไม่รู้จักเห็นแก่ตัว สมัยก่อนผู้ชายมีเล็กมีน้อยได้เยอะแยะ สมัยนี้ก็อีก มันธรรมดามาก แต่ทำไมต้องจำกัดว่าตัวเป็นผู้หญิงด้วยล่ะ” ขันธ์ตอบ ก่อนครุ่นคิด

“พูดบ้าๆ ผู้หญิงมีอะไรหลายอย่างไม่เหมือนผู้ชายนะคะ” นลินพยายามบอกเขา

“ก็รู้ไง แต่เอาเป็นว่าแค่เขตต์คนเดียวที่พี่จะยอม กับคนอื่นไม่ได้ ไม่งั้นล่ะน่าดู” ขันธ์กอดเธอให้แน่นขึ้นแล้วหอมแก้มเธอเบาๆ ก่อนบอก “ดีใจที่ลินซื่อตรงกับพี่ แต่อย่าเก็บไปเครียดได้ไหม จริงๆ พี่ก็เห็นว่ามันสำคัญ แต่สิ่งสำคัญที่สุดก็คือลินยังอยู่กับพี่”

“แค่พี่สองคน ลินก็สับสนจะแย่อยู่แล้วค่ะ ไม่เอาล่ะค่ะ สองคนก็วุ่นวาย แต่ตอนนี้มีคนเดียวก็พอแล้ว อย่าให้ต้องสับสนไปมากกว่านี้เลยนะคะ” นลินครุ่นคิดขณะอยู่ในอ้อมแขนเขา

เธอจะต้องเริ่มต้นใหม่อีกครั้ง...เพียงแต่ไม่รู้ว่าจะต้องเริ่มต้นใหม่อีกสักกี่ครั้ง

“เรื่องนั้นเป็นเรื่องของอนาคต ตอนนี้เราก็ได้แต่คิดถึงชีวิตวันนี้ก็พอ ส่วนเรื่องเขตต์ก็อย่าไปสนใจมันมาก ปล่อยมันบ้าต่อไป มีสติเมื่อไรค่อยว่ากัน” ขันธ์ถอนหายใจยาว ต้องยอมรับว่าชีวิตเขามีเขตต์เป็นภาระหนักมานาน

“ไม่ค่ะ ถึงเขาจะมีสติ ก็ขอให้เขาหาหนทางชีวิตตัวเองให้เจอเถอะนะคะ อย่ากลับมาสร้างความวุ่นวายให้กับลินเลย ลินเลวพอแล้วอย่าให้ลินเลวเพิ่มอีกเลย” นลินบอกเขาแล้วบอกตัวเอง

ยามอยู่ใกล้เขา เธอคล้ายกับต้องมนต์บางอย่าง...ถ้าความรักที่มีให้กัน มันชักนำให้ไปในทางแห่งความเลวร้ายละก็ ขออย่าได้เกิดขึ้นกับเธออีกเลย

“เอาล่ะ เลิกบอกว่าตัวเองไม่ดีอย่างงั้นอย่างงี้ได้แล้ว รู้อะไรไหม ยังมีคนไม่ดีกว่านี้อีกเยอะแยะ ขอให้เรามีกันก็พอแล้วล่ะ” ขันธ์ลูบเรือนผมเธอเบาๆ เพื่อปลอบไม่ให้เธอคิดมาก

ยากที่จะตัดสินว่าดีร้ายหรือถูกผิด…

ยากที่จะบอกได้ว่าอะไรต้องทำ...อะไรต้องเลือก

โชคชะตากำลังเล่นตลกกับพวกเขา...

ความอ่อนแอกำลังโจมตีทั้งสามคน…

****************************************************


เมื่อนลินห้ามไม่ให้เขตต์เข้าบ้านตัวเอง เขาก็ต้องมาดักรอคู่แฝดที่ทำงาน ไม่ว่าจะต้องรอนานแค่ไหนเขาก็จะรอ แล้วเมื่อได้โอกาส เจ้าของสีหน้าลำบากใจชัดเจนก็ต้องต้อนรับเขา

“นายห้ามไม่ให้ฉันเข้าบ้านตัวเองเหรอ ทำได้ยังไง” เขตต์โวยวายคู่แฝดของเขาเอง

“เปล่า ลินต่างหาก แล้วพ่อแม่ก็เห็นด้วย ส่วนฉันเงียบ เพราะฉันเองก็ไม่มีสิทธิ” ขันธ์ตอบตามตรง

“อะไรนะ พ่อแม่ก็เห็นด้วยเหรอ บ้าชัดๆ” เขตต์สบถออกมาอย่างเหลืออด

“แล้วนายก็ออกไปได้แล้ว ฉันบอกได้เลยว่าฉันไม่เกี่ยว งานนี้ลินกับพ่อแม่คุยกันเอง” ขันธ์ตอบก่อนลุกขึ้นเก็บของเตรียมกลับบ้าน

“นายก็น่าจะคุยกับลินได้” เขตต์พูดขึ้นอย่างมีหวัง

“ถ้าครั้งนี้ฉันเข้าไปยุ่ง รับรองเลยว่า แม้แต่ฉันก็ไม่ได้อยู่ใกล้ลิน นายควรจะไปคุยกับพ่อแม่ไม่ใช่ฉัน เพราะตอนนี้พ่อแม่ต่างก็เห็นชอบกับลินทุกอย่าง แล้วอย่ามาโทษฉัน เพราะฉันไม่เกี่ยวกับเรื่องนี้จริงๆ เท่าที่ฟังจากแม่ พ่อเป็นคนจัดการทุกอย่างเอง” ขันธ์อธิบายยืดยาว เพื่อแลกความความสงบของเขา

“ฉันอยากกลับไปอยู่กับลิน กับนาย แล้วก็กับหลานๆ ถ้านายไม่ว่าอะไร คือฉันใจร้อนไปหน่อย ฉันจะทำตัวให้ดีขึ้น” เขตต์พยายามขอความเห็นใจ

“นายขอฉันก็ไม่มีประโยชน์หรอก เพราะฉันไม่สามารถควบคุมเรื่องของลินได้อีก และฉันก็ไม่คิดว่านายพร้อมจะอยู่ในครอบครัวฉัน เพราะงั้นนายหาครอบครัวของนายเองเถอะ” ขันธ์พูดอย่างเย็นชา เพราะสิ่งที่คู่แฝดเขาทำก็ยากที่จะยอมรับได้

“ลินยังมีเยื่อใยกับฉัน ฉันรู้” เขตต์พยายามบอกถึงสิ่งที่เขารู้ว่าจริง

“แล้วไง ฉันรู้เรื่องที่เกิดขึ้นคืนนั้น ลินบอกฉันแล้ว รู้อะไรไหม มันไม่ทำให้อะไรแตกต่างไปจากเดิมหรอก ชีวิตฉันจะมีลินต่อไป เพราะฉันรักลิน และฉันก็เห็นแก่ตัวเกินกว่าจะปล่อยให้ลินอยู่กับนายแล้วถูกนายทำร้ายจิตใจซ้ำๆ พอเถอะ เลิกพูดเรื่องนี้เสียเถอะ ให้มันจบ” ขันธ์บอกปัด

“ฉันจะพิสูจน์ให้เห็นว่าฉันสามารถอยู่ได้ ได้โปรดให้โอกาสฉันอีกครั้งนะ” เขตต์พยายามอ้อนวอนขอโอกาสที่เขาเคยทิ้งไปแล้วอย่างอดทน

“แน่ใจนะว่าคราวนี้นายจะไม่ทำให้ฉันถูกลินทิ้งอีกคน ฉันว่านายไปจัดการเคลียร์ทุกอย่างให้เรียบร้อยก่อนดีกว่าไหม ฉันไม่อยากมีปัญหา” ขันธ์บอกอย่างลังเล ถึงจะเคยยื่นคำขาด แต่ยังไงนี่ก็คือคู่แฝดเขา

“ฉันจะจัดการทุกอย่างให้เรียบร้อย ฉันเลิกกับแอบบี้แล้ว แล้วก็จะขนของกลับมาอยู่บ้านด้วย มาอยู่กับลูกๆ แล้วก็จะกลับมาช่วยงานที่โรงแรมด้วย แต่เรียนฉันก็ยังเรียนต่อไปนะ แบบนี้ดูดีขึ้นหรือยัง” เขตต์บอกอย่างมั่นใจ

“เอาไว้มันเป็นไปได้ก่อนเถอะ แล้วค่อยมาคุย” ขันธ์ส่ายหน้าอย่างไม่เชื่อนัก

เขตต์มองคู่แฝดอย่างสำรวจ ก่อนถามขึ้นมา “นายยังแน่ใจไหมว่าเราสามารถอยู่ด้วยกันได้น่ะ คือนายไม่อึดอัดใช่ไหม คือฉันว่ามันน่าอึดอัด แต่ถ้ามันไม่ทำให้ใครต้องเสียอะไรไป ก็ต้องลองดู”

“นายไม่ต้องมาบอกฉันหรอก เพราะฉันเป็นคนคิดมันขึ้นมา นายถามตัวเองดีกว่า ว่าพร้อมจะเสียสละแล้วหรือยัง ถ้ายังก็อย่า การมีครอบครัวต้องใช้ความรับผิดชอบสูงนะ มันไม่ใช่แค่อยากอยู่ก็อยู่ ไม่อยากอยู่ก็ไป” ขันธ์อธิบายอย่างใจเย็น

“ต้องให้เวลาฉันปรับตัวบ้างสิ คือว่ามันแปลกนะ มันไม่เหมือนกับครอบครัวทั่วไป” เขตต์พยายามอธิบายเช่นกัน

“งั้นนายก็ยังไม่พร้อม ครอบครัวนี้ใหญ่นะ มันไม่ใช่แค่คนสองคน แต่นี่ถ้ารวมนายด้วยตั้งห้าชีวิต คิดให้ดี เพราะนายต้องเสียสละอะไรหลายอย่างมาก นายว่านายพร้อมแล้วเหรอ” ขันธ์ถามย้ำอีกครั้ง

“ฉันบอกแล้วไงว่าต้องให้เวลาฉันพิสูจน์” เขตต์ย้ำทุกคำอย่างมั่นใจ ก่อนถอนหายใจยาว “ฉันรักลินจริงๆ นะ ฉันว่าฉันเปลี่ยนได้ ฉันอยากอยู่กับลิน บางทีฉันก็สงสัยเหมือนกันว่าทำไม แต่ทำยังไงก็ลืมลินไม่ได้”

“มันคงเป็นกรรม ที่ฉันเต็มใจจะรับผิดชอบนะ มันเป็นความรู้สึกที่ฉันเองก็ต้องยอมรับ เป็นครั้งแรกที่ฉันไม่พยายามเอาชนะโชคชะตา แต่รู้ว่าเธอมีความดีมากกว่าที่ฉันคิดนัก นายไปตรองให้ดีดีกว่าว่าต้องการเธอจริงๆ ทั้งที่นายมีทุกอย่างที่สามารถหาผู้หญิงในแบบที่ต้องการได้เสมอ” ขันธ์ต้องพูดให้คู่แฝดคิดให้มาก

เพียงแค่นี้ก็ทำให้นลินต้องสับสนวุ่นวายใจมากพอแล้ว เธอไม่พร้อมจะมีภาระทุกรูปแบบ ด้วยเธอมีลูกที่ต้องดูแล ถ้าจะกลับมา คู่แฝดเขาต้องไม่ทำตัวเป็นภาระของเธอ

เขตต์พยักหน้าช้าๆ มันง่ายที่จะมองว่าคู่แฝดเขาต้องการครองครองเธอไว้เพียงคนเดียว และมันดีกว่าถ้าเขาจะใช้สติคิดได้เองว่าที่ผ่านมานลินต้องเจออะไรบ้าง

เธอดีมากขนาดที่ทำให้เขากับคู่แฝดตัดใจไม่ลงเชียวเหรอ...

ยามเมื่ออยู่ด้วยกัน...นลินไม่เคยละเลย คล้ายดังเธอรับผิดชอบต่อเขา ชอบอะไรเธอก็รู้หมด แม้บางทีเธอจะสนใจแต่คอมพิวเตอร์กับเรื่องราวที่เธอพยายามแต่งให้ดี หากที่เหลือ เธอก็ทุ่มเทให้เขาจนหมด

มันไม่เพียงพอหรือ...

เธอไม่เคยเรียกร้องเงินทอง ไม่เคยเรียกร้องความสนใจ เธอเพียงรอคอยอยู่อย่างเงียบๆ และพยายามทำให้ชีวิตเธอมีความสุขด้วยตัวเอง

เธอผิดเหรอ...

เขาต่างหากที่ต้องถามตัวเองว่าต้องการอะไรกันแน่...

เขาต้องการผู้หญิงที่อยู่ได้โดยไม่พึ่งพาเขาหรือเปล่า...

ผู้หญิงที่คอยดูแลเขา...คอยอยู่เคียงข้างเขา

ทั้งหมดคือคำถามที่เขตต์ต้องพยายามตอบให้ได้...

****************************************************


คิ้วสองข้างขมวดเข้าหากันอย่างเห็นได้ชัด เมื่อสวนอีกด้านของบ้านกลายเป็นสถานที่ปรับปรุง และห้ามไม่ให้เธอเข้าใกล้ นลินจึงต้องถามเจ้าบ้านคนเดียวที่ยังอยู่ในบ้าน

“พี่ขันธ์คะ ทำไมต้องปิดกันด้วย ลินเข้าไม่ได้เลยเหรอคะ” เธอถามเขาทันทีที่มีโอกาส

“พี่ไม่อยากให้ลินเจอฝุ่นน่ะ นานๆ ก็ปรับปรุงสวนบ้าง คงไม่เป็นไรหรอกจ๊ะ” ขันธ์ตอบแล้วรวบเธอมากอดบนตักเขา

“แล้วม่านละคะ ต้องปิดไว้ด้วยเหรอ” นลินเห็นม่านถูกดึงปิดในทางด้านที่ปรับปรุง

“อ๋อ ลินจะได้แปลกใจไง พี่อยากให้เห็นตอนเสร็จแล้วล่ะ” ขันธ์วางคางบนไหล่เธอเพื่อกลบเกลื่อน

“เหรอคะ ถ้าไม่สวยละก็จะหัวเราะให้ฟันหักเลย” นลินขยับหันไปมองเขา แต่กลับถูกเขาหอมซอกคอแทน “ไม่เอาค่ะ นี่มันไม่ใช่ห้องส่วนตัวนะคะ”

“ไม่เห็นเป็นไรเลย ใครเห็นก็จะได้รู้ไงว่าเรารักกันแค่ไหน” ขันธ์ตอบก่อนพยายามจูบเธออย่างไม่จริงจังนัก ขณะที่เธอก็ปัดป้องไม่ยอมง่ายๆ

“พี่ขันธ์น่ะ ลินไปดูลูกดีกว่า วันนี้ไม่มีออกงานเหรอคะ” นลินถามเพื่อเปลี่ยนเรื่อง

“ไม่มีนี่ จะมีอะไรหนักหนา” ขันธ์ยังคงกอดร่างบางของเธอเอาไว้ ก่อนจะบ่นๆ ขึ้นมาอีก “เฮ้อ ทำไมผอมอย่างงี้เนี่ย กอดยังไงถึงจะแน่นนล่ะเนี่ย”

นลินหัวเราะกับคำพูดของเขา “กลับไปอ้วนก็ยังไหวนะคะ”

“แต่ลินก็สุขภาพไม่แข็งแรงน่ะสิ” ขันธ์เห็นว่าช่วงนี้เธอดูสบายดีขึ้น ไม่ค่อยป่วย “ช่างเถอะ พี่ไม่อยากให้ลินเครียดด้วยแหละ จริงๆ แล้วยังไงก็ได้เหมือนกัน”

“อ๋อ งั้นก็กับใครก็ได้ใช่ไหมคะ” นลินแกล้งทำหน้างอ ออกอาการงอนอย่างไม่จริงจังนัก

“ก็ไม่รู้ล่ะ ต้องกับคนนี้แหละ แต่จะอวบ อ้วน ผอม ได้หมด” ขันธ์ไม่ยอมให้เธอแกล้งงอนง่ายๆ แล้วก็โน้มไปจูบเบาๆ อีก ก่อนปล่อยให้เธอลุกหนี “มีความสุขจริงๆ เลย”

“ชอบแกล้งลินอยู่เรื่อย” นลินย่นจมูกใส่เขา

“ก็น่าแกล้งนี่นา” ขันธ์ตอบแล้วยังคงรอยยิ้มที่มุมปาก

เมื่อเธอออกไปจากห้องทำงาน เขาก็มองกองงานที่เต็มโต๊ะแล้วถอนหายใจ ‘มันจะเยอะไปไหนเนี่ย’

****************************************************


หลังจากนั้นนลินก็ต้องขมวดคิ้วทุกครั้งเมื่อเห็นม่านใหญ่ที่ปิดอยู่ จนเธอตัดสินใจจะแง้มมันสักเล็กน้อย ก่อนถูกอาเธอร์พ่อบ้านใหญ่กระแอ้มเข้าให้ แล้วก็ถูกขันธ์หัวเราะเมื่อเห็นเธอกลายร่างเป็นเด็กซน

“สงสัยจะอยู่กับลูกมากไปแล้วมั้งเนี่ย ติดนิสัยอยากรู้อยากเห็นนะเนี่ย” ขันธ์ยิ้มขำ ก่อนมองลูกๆ ที่กำลังเล่นคลานไปทั่วห้อง บางทีก็ปีนเพื่อหัดเดิน ทำให้พี่เลี้ยงกับแม่ต้องคอยช่วยจับ

“แหม ก็มันอยากรู้นี่คะ” นลินตอบแบบคันหัวใจใคร่รู้ ก่อนทำหน้างอนแล้วเดินไปกอดลูกๆ ที่พยายามตะกายต่ออย่างมุ่งมั่น

“ปล่อยลูกเถอะ เขาก็อยากเป็นอิสระจากแม่เหมือนกันแหละน่า” ขันธ์พูดขึ้นด้วยรอยยิ้มเอ็นดู และเมื่อเธอปล่อยลูก เขาก็รวบเธอมากอดไว้ ก่อนยื่นบัตรเครดิตให้ “ออกไปช็อปปิ้งมั่งสิ จะติดลูกเกินไปแล้วนะ”

“ก็แหม ลินไม่มีอะไรที่สนใจเท่าลูกนี่คะ ลูกคือทุกอย่างที่ทำให้ลินยังมีชีวิตอยู่ต่อไป” นลินพูดขึ้นแล้วไม่กล้าสบตาเขา

“น้อยใจจัง” ขันธ์แกล้งก้มหน้าลงอย่างน้อยใจ

นลินรีบหันไปกอดเขาแล้วซุกหน้าเข้าที่ไหล่เขา ก่อนปลอบ “ก็ลูกสำคัญที่สุดนี่คะ แหม คนเป็นพ่อเป็นแม่ ก็ต้องให้ความสำคัญกับลูกๆ สิคะ แต่ลินก็รักพี่นะคะ”

“ฮ่าๆ ชื่นใจจัง สบายใจมากด้วย” ขันธ์พูดอย่างอารมณ์ดี แล้วก็ต้องรวบแขนที่รักเป็นพัลวัน เพื่อป้องกันฝ่ามือพิฆาต แล้วเขาก็วางคางไว้ที่ไหล่เธออีกที “พี่ก็รักลินกับลูกๆ นะ”

เจ้าธารกับเจ้าธรรม์หันมามองเจ้าของเสียงหัวเราะแล้วทำหน้าฉงน ก่อนหันไปเล่นกันต่อ จากนั้นซักพักก็ค่อยๆ เอนตัวลงบนเบาะแล้วหลับ

“นั่นไง กินอิ่ม เล่นหน่อยก็หลับละ ใครเอายานอนหลับให้กินหรือเปล่าเนี่ย” ขันธ์ชี้ให้ดูลูกๆ หลับ

“ก็นะคะ เด็กนี่คะ แต่หลับเดี๋ยวเดียวก็ตื่นล่ะค่ะ ดีที่หลับพร้อมกันได้ ปกติไม่หลับพร้อมกันหรอกค่ะ สงสัยวันนี้หัดเดินด้วยกันก็เลยเหนื่อย” นลินยิ้มแล้วมองลูกอย่างเอ็นดู

“งั้นลินก็มีเวลาแล้วล่ะ ไปแต่งตัวเลย เดี๋ยวออกไปข้างนอกด้วยกัน ไปซื้อของกันเถอะ อาทิตย์หน้าวันเกิดลูกแล้วนะ” ขันธ์หอมแก้มเธอเบาๆ ก่อนช่วยเธอพยุงตัวลุกขึ้น แล้วอดมันเขี้ยวไม่ได้ จึงตบสะโพกเธอเบาๆ เป็นการหยอกล้อ

“พี่ขันธ์บ้า” นลินร้องขึ้น ก่อนนึกขึ้นได้ว่าเด็กๆ หลับอยู่จึงหันมาค้อนเขา “ไม่ต้องหรอกค่ะ พี่ไปก็เบื่อเปล่าๆ ลินรู้ว่าพี่ไม่ชอบ ปกติก็ให้เลขาซื้อให้ไม่ใช่เหรอคะ”

“มันก็ใช่ งั้นพี่ไปตัดผมหน่อยแล้วกัน” ขันธ์ต้องจนแต้ม เพราะเธอเล่นรู้ทันไปหมด

“เพิ่งตัดไปไม่ใช่เหรอคะ” นลินถามขึ้น เพราะนึกรู้กว่าเขาก็เพิ่งตัดมา

“พอล่ะ” ขันธ์ไม่พูดมากอีก อุ้มร่างเธอขึ้นแล้วพากลับไปยังห้องนอน “ถ้ารู้น้อยหน่อยก็ไม่มีใครว่าหรอกนะ เจ้าเด็กแก่แดด”

“บ้าน่ะ พี่ขันธ์ปล่อยลินนะคะ เดี๋ยวใครมาเห็นเข้า” นลินรีบบอกให้เขาปล่อยลงหลังจากออกจากห้องที่เด็กๆ กำลังพักผ่อน

“ไม่ปล่อย ดื้อแบบนี้ต้องขัดใจซะให้เข็ด” ขันธ์ขโมยหอมแก้มเธออีกครั้ง และยังดีที่เธอไม่ดิ้นรนจาอ้อมแขนเขาอีก

“ไปก็ได้ แค่บอกว่าพี่อยากให้ไป ลินก็ไปอยู่แล้วล่ะค่ะ” นลินโอบรอบคอเขาให้มั่นคงขึ้น

“ก็นะ เดาใจลินไม่ถูกนี่นา แต่ลินสิ อย่างกับพยาธิในท้องพี่ รู้ไปหมดทุกเรื่อง” ขันธ์อุ้มเธออย่างอารมณ์ดี จนถึงห้องเขาก็ปล่อยเธอให้เดินเอง

“ลินเปล่าสักหน่อย พี่บอกลินเองต่างหาก” นลินบ่นอุบอิบ ก่อนเดินไปแต่งตัว

ขันธ์รู้ว่าเธอใส่ใจ ก็เพียงพอให้เขามีความสุขล้น ไม่ใช่เพราะเธอพยายามเอาชนะเขา แต่เป็นความใส่ใจที่เขาได้รับ ไม่ใช่ความจงใจหรือตั้งใจมากเกินไป ไม่เช่นนั้นปกตินลินคงบอกโน้นบ่นนี่ได้ตลอด...จนเขารำคาญ

แค่บางครั้งเท่านั้น ที่เธอจะพูดขัดอย่างตอนนี้ โดยปกติเธอมักเทความสนใจให้ลูกๆ และต่อมาก็เป็นเขา

คงดีถ้าจะมีใครสักคนคอยใส่ใจและห่วงใย...โดยที่ไม่ใช่คนสายเลือดเดียวกัน

คนสองคนที่แตกต่างสามารถอยู่ร่วมกันได้...แต่ถ้าจำเป็นต้องเป็นสาม ขันธ์ก็คิดว่าไม่ใช่เรื่องลำบากอะไรจนเกินไปนัก

****************************************************
^^" มาแล้วก็ต้องโกยอีกรอบ
กลัวถูกสอบสวนมากมาย
จริงๆ แล้วช่วงที่ผ่านมาและที่บอกว่าเครียด ก็เพราะว่าเขียนตอนที่ผ่านมาอยู่ค่ะ
กลัวใจคนอ่านแต่ก็อยากได้แบบนี้ค่ะ
เคยสงสัยว่าสถานการณ์จริงคนเราจะเป็นอย่างไร อะไรจะเกิดขึ้นแล้วจะเป็นไปได้ไหม
ลองตอบใจดูก็พอรู้ว่า ทุกอย่างเกิดขึ้นได้เสมอในเวลาที่อารมณ์เข้ามาแทนที่เหตุผลค่ะ
ขอบคุณที่ติดตามนะคะ

ป.ล. สำหรับผู้อ่านที่คิดว่ารับไม่ได้กับการอยู่แบบสามคน
ขอให้หยุดอ่านตั้งแต่ตอนนี้เลยนะคะ
เป็นห่วงค่ะ

คุณ mimny --- ^^"

คุณ fiona --- ยังไม่ใช่ตอนจบค่ะ มีอีก 5ตอน และตอนจบพิเศษอีก 3 แบบค่ะ

คุณ Olathe --- ขอบคุณค่ะ อัพให้ตามที่ขอนะคะ อิอิ




 

Create Date : 27 ตุลาคม 2552
3 comments
Last Update : 27 ตุลาคม 2552 19:38:40 น.
Counter : 554 Pageviews.

 

เหมือนลินจะรักเขตต์มากกว่านะ ยอมเขตต์ง่ายๆแต่กับขันธ์บ่ายเบี่ยงมากกว่าทั้งๆที่เขตต์ไม่ได้ทำตัวให้ควรรักเลยทำให้เสียใจมากกว่าสุขใจ ถ้ากลับกันเป็นเขตต์ที่อยู่กับลินแล้วคืนนั้นเป็นขันธ์ลินจะยอมมีความสัมพันธ์ด้วยมั้ย แต่อย่างไงก็คิดว่าสองพี่น้องนี่รักนลินแบบเห็นแก่ตัวนะ

ถึงจะไม่เห็นด้วยกับการอยู่แบบสามคนผัวเมียแต่รับได้ในการอ่านนิยาย เพียงแต่อดที่จะแสดงความเห็นส่วนตัวลงไปเพราะถ้าไม่คิดว่าเป็นนิยายแต่คิดว่าเป็นเรื่องจริงมันต้องมองหลายๆด้านมากกว่าจะคิดแค่เราสามคนมีความสุขไม่ได้ทำความเดือดร้อนให้ใคร อย่างแรกก็ต้องนึกถึงลูกว่าเค้าจะถูกหลอมหล่อให้รู้สึกว่าการอยู่กันสามคนผัวเมียเป็นเรื่องปกติธรรมดามากกว่าที่จะรู้สึกดีกับการรักเดียวใจเดียวหรือเปล่า แล้วคู่สามคนผัวเมียไม่ว่าจะเป็นสองสามีหนึ่งภรรยา หรือสองภรรยาหนึ่งสามี แน่ใจมากน้อยแค่ไหนว่าจะไม่เจ็บปวดถ้าคืนนั้นเรารู้ว่าสามีหรือภรรยาของเราต้องอยู่กับอีกคน ปากบอกยอมรับได้แต่ในส่วนลึกของหัวใจรับได้จริงๆหรือ คิดแบบนี้ถึงอยากให้นลินเลือกคนใดคนหนึ่งมากกว่าหรือไม่ก็ไม่เลือกทั้งคู่เลย แต่จะอย่างไงก็แล้วแต่ก็เคารพในการเขียนของนักเขียนว่าจะตัดสินใจให้นิยายจบแบบไหน แต่เวลาแสดงความคิดเห็นอาจจะไม่ถูกใจคุณเพลิงวารีนะคะ

 

โดย: mimny 27 ตุลาคม 2552 22:31:44 น.  

 

เป็นเรื่องการใช้ชีวิตคู่หรือคี่หว่า...สามคนผัวเมีย ซึ่งแหวกแนวจากสังคมไทยโดยปกติ เวลาอ่านก็ต้องพยายามคิดว่าที่เราอ่านอยู่มีอยู่จริงในสังคมอีกด้านหนึ่งที่ไม่เป็นที่ยอมรับมากนัก แต่ก็ยอมรับว่าคุณเพลิงวารีเก่งนะคะที่กล้าที่จะนำเสนอในแนวนี้ จะติดตามต่อไปนะคะ...

 

โดย: tuk_ora 28 ตุลาคม 2552 16:09:12 น.  

 

from this chapter i got a msg that may be the writer qurious .why when a man have another girl not very serious problem. ok that guy bad but if it girl it is so terrible bad.
however i not very serious againt because even it not very good teach but at least it better than other novel that told horrible things to be good and the people that do it is cool.
so sum i think anything can happen in the world

 

โดย: fiona IP: 131.170.90.4 29 ตุลาคม 2552 11:05:52 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

 

เพลิงวารี
Location :
นนทบุรี Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 3 คน [?]




ไหดองเหล็กไหล
New Comments
[Add เพลิงวารี's blog to your web]

 
pantip.com pantipmarket.com pantown.com
pantip.com pantipmarket.com pantown.com