เราสามคน...หนทางเดียว22(เด็กๆ)
เจ้าธารกำลังตั้งใจเดินและพยายามปีนรั้วคอกเด็กอย่างตื่นตาตื่นใจ พร้อมคู่แฝดวัยขวบสองเดือนที่สนใจหลายอย่าง พอไม่ได้ขัดใจก็ร้องโวยวายตามๆ กันไปจะเอาอะไรอีกล่ะ ปีนทำไม พ่อเดินเข้ามาอุ้มลูกชายที่กำลังพยายามปีนรั้วคอกเด็ก แม้จะไม่ได้รับความยินยอมเท่าไรเมื่อได้ยินเสียงพ่อ เจ้าธรรม์ที่กำลังปีนอีกด้านก็เดินมาทางพ่อ ก่อนเรียกพ่อ ดาดา แล้วอ้าแขนสองข้างเพื่อให้อุ้มด้วยอีกคนมานี่ พ่ออยู่ทางนี้ต่างหาก พ่ออีกคนก็เดินเข้ามาเรียกเขาธรรม์ก็หันไปมองตามเสียงแล้วงง แต่ก็เรียก ดาดา แล้วอ้าแขนสองข้างหันไปทางนั้นพ่ออยู่ทางนี้ต่างหาก เขตต์เรียกลูกให้หันมามองเขาที่กำลังอุ้มธารอยู่ธรรม์ก็หันไปมองแล้วเดินไปหา ก่อนถูกพ่ออีกคนเรียก อ้าว จะไปไหน พ่ออยู่ทางนี้ทีนี้เจ้าธรรม์นั่งแล้วหันมองสองทาง อย่างงุนงง ก่อนมองไปตามเสียงประตู มามานลินมองพ่อสองคนแกล้งลูกอีกแล้ว จึงส่ายหน้า ก่อนมองขันธ์เดินเข้าไปอุ้มลูก พวกพี่นี่แกล้งลูกอีกแล้ว ลูกยิ่งงงๆ อยู่ก็ลูกมันน่ารักนี่ ขันธ์หอมแก้มธรรม์ที่มองพ่ออีกคนที่อีกฝั่งของเก้าอี้ยาวแบบสงสัยเดี๋ยวลูกก็ยิ่งสับสนหรอกค่ะ นลินบอกก่อนมองลูกสองคนมองหน้าพ่อที่อุ้ม กับพ่อที่กำลังนั่งฝั่งตรงข้ามสลับไปมา แล้วสักพัก พ่อสองคนก็สลับกันยกมือขึ้นลูบผมลูกที่อยู่กับคู่แฝดตนเฮ้อ พอค่ะ ไว้ลูกโตกว่านี้ค่อยว่ากันอีกที นลินรีบบอกให้พ่อๆ หยุดแกล้งลูกแหม ลูกไม่สับสนหรอก ดูสิ ลูกก็มีคู่แฝดเหมือนกัน ใช่ไหมเขตต์ ขันธ์หัวเราะเบาๆ กับคู่แฝดเขานั่นสิ ไม่เห็นเป็นไรเลย มีพ่อสองคนดีออก จะได้ไม่ต้องแย่งกันไง ไว้โตขึ้นก็ค่อยแย่งแม่กัน ทีนี้คงสนุก แย่งแม่ทีเดียวสี่คนเลย เขตต์พูดแล้วก็ยิ่งหัวเราะกับขันธ์ ดูเหมือนคนลำบากจะเป็นนลินบ้าจังพวกพี่เนี่ย ลูกไม่ค่อยได้ส่องกระจกก็จำไม่ได้หรอกค่ะว่าหน้าเหมือนกัน เด็กลืมเร็วจะตายไป ปล่อยให้ไปเดินในคอกเถอะค่ะ นลินเห็นลูกจ้องพ่อสองคนสลับไปมาไม่วางตา ก็ต้องบอกให้พวกเขาหยุดแกล้งลูกสักทีงั้นต้องทำให้ชิน ขันธ์กับเขตต์ก็พาลูกไปยืนหน้ากระจกบานใหญ่ แล้วชี้ให้มองทีนี้เจอคู่เหมือนเยอะไปอีก เจอพ่อสี่คน เจอพี่น้องที่หน้าตาเหมือนกันถึงสี่คน เจ้าแฝดน้อยก็ร้องไห้จ้า เพราะตกใจทำให้พ่อทั้งสองต้องรีบปลอบ สมน้ำหน้า ดูสิ ทำลูกร้องไห้เลย เพราะงั้นก็ปลอบให้เงียบเอาเองนะคะ นลินปล่อยให้พ่อๆ รับมือ ส่วนเธอก็ลงไปเตรียมอาหารสำหรับเด็กๆ ในห้องครัวแทน โดยไม่รอให้พี่เลี้ยงซึ่งพักอยู่ยกขึ้นมาให้โอ๋ๆๆ พ่อขอโทษลูก ขันธ์ต้องพาลูกไปให้ห่างจากกระจก และคู่แฝดของเขากับคู่แฝดของลูก เพราะยิ่งใกล้กันก็ยิ่งร้องไห้ใหญ่แล้วเกาะพ่อแน่นเขตต์ก็เช่นกัน พาลูกถอยออกไปปลอบให้ห่าง โอ๋ๆๆ เงียบนะครับ ไม่มีอะไรแล้วครับ พ่ออยู่นี่แล้วพ่อสองคนก็เลยหัวปั่นแทน ขณะที่เด็กๆ ทั้งสองก็ค่อยๆ หยุดร้องแล้วกอดคอพ่อแน่น โดยไม่ได้เห็นพ่อสองคนที่หันมาสบตากันหน้าเจื่อนจากนั้นก็พยักพเยิดให้ออกไปทีละคน ก่อนที่ลูกๆ จะสับสนมากไปกว่านี้ ถ้าเป็นเด็กเล็กมาก ทั้งสองก็คงไม่สับสนเท่าไร แต่เพราะยังโตไม่พอที่จะเข้าใจและรู้เรื่อง จึงต้องตื่นกลัวเป็นธรรมดาแล้วก็มาดักรอแม่ของลูกที่หน้าห้อง ขณะที่นลินเดินกลับมาพร้อมถาดอาหาร หลังจากบอกให้พี่เลี้ยงมาดูลูกๆ ก่อน ด้วยคาดว่าพ่อทั้งสองคงป่วนไปแล้วยิ้มอารมณ์ดีเชียวนะ ขันธ์แซวเธอที่เห็นเธออมยิ้มมาแต่ไกลก็สะใจนี่คะ เห็นผู้ใหญ่ถูกเด็กเอาซะอยู่หมัดเลย นลินยังคงรอยิ้มเอาไว้อย่างชัดเจนแล้วนี่เมื่อไรลูกจะชินสักทีล่ะ เขตต์ออกจะกังวลกลัวลูกไม่ให้เข้าใกล้คิดมากจัง ถ้าไม่แกล้งเขา เขาก็ไม่ตกใจกลัวหรอกค่ะ ไปเถอะ หนีออกมาแบบนี้เดี๋ยวพอดีก็ไม่ชิน นลินรีบบอกให้คนรักทั้งสองเข้าไปในห้องเขตต์จึงรับถาดอาหารมาถือไว้ แล้วเดินนำเธอเข้าไป ก่อนมองเธอนั่งลงข้างๆ ลูก แล้วอุ้มไว้คนละข้าง จากนั้นก็บอกให้พ่อทั้งสองนั่งลงตรงหน้าลูกๆนี่คือพ่อของหนูทั้งสองคนนะ มีสองคนเหมือนหนูเลย นลินค่อยๆ อธิบายให้ลูกฟัง แต่จ้าตัวเล็กยังสับสน เพราะถูกแกล้งมาแล้วหลายครั้ง พี่สองคนจับมือลูกคนละข้างสิคะ หมายถึงทีละคนค่ะนลินปล่อยธารลงนั่งอมนิ้วกับพื้นเบาะ ก่อนอุ้มธรรม์มาคลายความฉงนคนแรก แต่ธารก็ไม่อยู่เฉยๆ คลานกึ่งเดินมาจับขาของพ่อคนละข้าง แล้วตีเบาๆ ก่อนมองหน้าทั้งสองคนอีกครั้งให้แน่ใจว่าคนละคนกันดาดา ธรรม์ที่กำลังแกว่งมือเล่นก็ชี้ไปทางพ่อคนนึงแล้วเรียก ก่อนหันไปมองพ่ออีกคนแล้วเอียงคอสงสัยปาปาจ๊ะ นลินบอกให้ลูกเรียกเขตต์แบบนั้นปาปา ธรรม์ชี้เขตต์แล้วเรียก ก่อนหันมาชี้แม่แล้วเรียก มามาทำให้พ่อแม่ทั้งสามหัวเราะ ก่อนขันธ์ดึงเจ้าตัวเล็กมาอุ้ม เก่งมากลูก เก่งที่สุด น่ารักที่สุดเลยลูกพ่อโอ๋หนูก็เก่งลูก แต่ทำไมธารถึงไม่ค่อยพูดเลยล่ะ เขตต์อุ้มธารที่พยายามปีนมานั่งตักเขาขึ้นมาหอมแก้มก็เขาไม่ชอบพูดนี่คะ แต่เขาพูดได้นะ ดูนี่ค่ะ ธารลูก เรียกมามาหน่อยลูก นลินแหย่ลูกสักพัก เจ้าธารก็เรียกตามนั้น ก่อนทำตามที่บอกให้เรียกพ่อทั้งสองแตกต่างกันเฮ้อ แล้วนี่พรุ่งนี้ต้องอธิบายใหม่ไหมเนี่ย ขันธ์ถามขึ้นอย่างสงสัยก็จนกว่าจะจำได้นั่นแหละค่ะ เด็กลืมง่ายจะตาย คิดแล้วก็อยากเป็นเด็กอีก เผื่อจะลืมอะไรได้ง่ายๆ บ้าง นลินเปรยๆ ออกมาอย่างไม่จริงจังนักขันธ์ที่นั่งใกล้กว่าก็เอื้อมมืออีกข้างที่ว่างอยู่โอบเอวเธอเบาๆ เอาน่า โตแล้วก็โตเลย เดี๋ยวลินเป็นเด็ก พวกพี่ก็โดนข้อหาพรากผู้เยาว์น่ะสิ จริงไหม เขตต์เขตต์มองความสนิทสนมของนลินกับคู่แฝดอยู่อย่างเงียบๆ เขาต้องคอยบอกตัวเองเสมอว่าให้ใจกว้างและใจเย็นขึ้น ช่วยไม่ได้ที่เขาเป็นคนทำให้ทุกอย่างเป็นแบบนี้ขันธ์ดูจะเข้าใจไม่แตกต่างจากนลิน จึงตบไหล่คู่แฝดเบาๆ ก่อนส่ายหน้าไม่ให้คิดมาก เพราะไม่อยากให้วันหยุดนี้เป็นวันที่น่าเสียดายอืม เดี๋ยวเราไปนั่งในสวนกันดีไหมคะ อากาศดีแล้วก็อบอุ่นด้วย ถือโอกาสปิ๊กนิคกันในบ้านตามประสาครอบครัวไงคะ นลินรีบชวนเผื่อบรรยากาศยังดีขึ้นดีเลย บ้านเราสวนออกกว้าง แถมเขตต์ยังออกแบบมาเสียดิบดี ขันธ์เห็นด้วยทันที ก่อนมองนลินป้อนอาหารให้กับลูกๆ ที่อยู่บนตักพวกเขา แต่ก็ยังต้องเอาของเล่นเข้าล่ออยู่ดีเมื่อทานเสร็จแล้วก็ถึงเวลาที่พ่อแม่จะได้พักผ่อนบ้าน นลินปล่อยให้คนอื่นๆ เดินนำ ก่อนเดินเข้ามากอดแขนเขตต์แล้วซบพิง อย่าคิดมากนะคะเขตต์มองเธอแล้วยิ้มออก เพราะเขาทำใจอยู่แล้วว่าจะต้องเจออะไร พี่เข้าใจ ขันธ์ก็คงรู้สึกแบบเดียวกับพี่เวลาที่พี่อยู่กับลินแบบนี้นลินมองตามท่าทางที่เขาสื่อ เห็นขันธ์มองมาเช่นกันก็ยิ้มขำ แหม ก็นะ จะให้ทำไงได้ ลินเนี่ยเนื้อหอมจริงๆ ทั้งเด็กเล็ก เด็กโข่งอยากให้ลินเอาใจทั้งนั้นเขตต์มองเธอโน้มไปหอมแก้มลูกที่เขากำลังอุ้มอย่างเอ็นดู ก่อนก้มลงแล้วหันแก้มให้เธอบ้าง หอมเด็กโข่งมั่งสิแก้มไม่หอมเหมือนเด็กเล็กก็ไม่รู้จะหอมทำไมสิคะ นลินแกล้งเล่นแง่แล้วเดินเร็วขึ้นและก็รู้ว่าเขาจะต้องเดินตามมาจนทัน เธอจึงหันไปหอมแก้มเขาเบาๆ แล้วรีบเดินไปหอมแก้มจนครบทั้งสี่คน เด็กเต็มบ้าน เด็กเล็ก เด็กโข่งขันธ์มองเธอชี้ลูกๆกับเขตต์ พอเธอชี้มาที่เขา เขาก็งับนิ้วเธอไว้ เพราะมือสองข้างอุ้มลูกอยู่ นี่ก็เด็กเจ้าเล่ห์ชิ มาว่าลิน นลินแกล้งทำหน้างอแบบงอนๆ แต่ก็น่ารักได้ในแบบของเธอเธอมีหลากหลายสีหน้า เพียงเพราะความสับสนวุ่นวายทำให้เธอลืมไปว่าเธอเคยทำตัวน่ารักแค่ไหน และหลายครั้งที่เธอเกรงว่ายิ่งทำไปมากเท่าไร ก็ยิ่งรักมากเท่านั้นนี่คือบทเรียนราคาแพงที่เธอได้จากรักครั้งเก่าก่อนเจอเขตต์...*******************************************สายลมที่โบกพัด เจ้าเด็กน้อยก็เดินเล่นและนั่งเล่นอยู่บนเสื่อ โดยมีพี่เลี้ยงมองอยู่ห่างๆ ขณะที่พ่อแม่ต่างก็ล้มลงนอนพักกายและใจจากชีวิตผู้ใหญ่ที่แสนวุ่นวายนลินนอนพักอยู่ตรงกลางระหว่างคู่แฝดตัวโต และกำลังมองกิ่งไม้ใหญ่กำลังโยกไปมาตามกระแสลมอ่อน ก่อนหันไปมองเขาที่กำลังพลิกตัวหันมาทางเธอลินมองอะไรอยู่ เขตต์ถามขึ้นเมื่อเห็นเธอมองตรงไปที่ต้นไม้ก็มองไปเรื่อยๆ แหละค่ะ นลินตอบก่อนลุกขึ้นนั่งแล้วหันไปมองลูกๆ ที่กำลังเดินเล่นด้วยกันสองเดือนแล้วที่นลินไม่ยอมให้ใครเข้าใกล้เธอแบบชิดใกล้เพียงลำพัง เธอยังคิดไม่ตกและยอมรับในสถานะที่เป็นไม่ได้ ซึ่งดูเหมือนว่าแฝดหนุ่มทั้งสองจะปล่อยให้เธอได้ทำใจกับสิ่งที่เกิดขึ้นการจะเปลี่ยนความคิดที่ฝังรากหยั่งลึกมาของแต่ละคนนั้นไม่ใช่เรื่องยาก พวกเขาเป็นผู้ชายทำใจได้เร็วกว่า อีกทั้งยังเติมโตในสังคมที่เปิดกว้างกว่าขันธ์มองเธอนั่งพิงต้นไม้ ในสายตามีแต่ลูกๆ ก็พอเข้าใจ บางอย่างที่เก็บกดในความคิดเธอแสดงออกชัดเจน เขาจึงเอื้อมมือไปวางที่มือเธอ ก่อนพูดขึ้น คิดมากอีกหรือเปล่าเนี่ยเธอถอนหายใจช้าๆ ก่อนยอมรับออกมาตามตรง ก็ต้องคิดบ้างค่ะ ถึงจะพยายามไม่คิด แต่เรื่องแบบนี้มันหยุดคิดยาก การจะเปลี่ยนสิ่งที่ตัวเราเองเชื่อมาตลอดมันไม่ใช่เรื่องง่ายเลยพี่เข้าใจ แต่ก็อยากปลอบให้ลินอย่าคิดมาก พี่ไม่อยากให้ลินเครียด เพราะทุกครั้งที่เครียดลินจะไม่สบายได้ง่ายๆ เขตต์สังเกตเห็นสิ่งที่เขามองข้ามมาตลอด เขาเรียนรู้จะใส่ใจเธอมากขึ้นเช่นเดิมกับตอนแรกเริ่มความรักถ้าเกิดขึ้นแล้วไม่มีวันเก่า...แต่เกิดแล้วหรือยังและลืมไปแล้วหรือยังว่ายังรักกันอยู่ ซึ่งเป็นสิ่งที่ต้องถามตัวเองและพยายามตอบตัวเองให้ได้ ก่อนจะบอกตัวเองว่ารักใครสักคนขันธ์มองเธออย่างเงียบๆ ก่อนทิ้งตัวลงนอนมองท้องฟ้า เขาได้เรียนรู้หลายอย่างจากความรักครั้งนี้ ความรักทำให้เราเห็นแก่ตัวได้ ขณะเดียวกันก็ทำให้เราใจกว้างเพื่อคนที่เรารักได้เหมือนกันเขตต์ยังคงมองนลินอยู่เช่นเดิม เมื่อก่อนเขาเฝ้าถามตัวเอง เพราะอะไรจึงไม่สามารถตัดใจจากผู้หญิงคนนี้ได้ คำตอบนั้นมีร้อยแปด แต่ไม่เคยทำให้ความรักจืดจาง คงเพราะเขายังไม่เจอคำตอบที่ถูกต้อง หรือเขาอาจไม่ต้องการคำตอบที่ถูกต้องก็เป็นได้นลินคิดอยู่พักหนึ่ง ก่อนนึกสนุกลุกไปเล่นไล่จับกับลูกๆ หยอกให้ลูกวิ่งเข้าหา แล้วถอยบ้างหลบบ้าง ปล่อยให้จับได้บ้าง เจ้าตัวเล็กก็เดินเตาะแตะเข้าหาแม่อย่างสนุกสนานเขตต์มองอย่างเพลิดเพลินก่อนหันไปมองคู่แฝดที่มองเธออย่างหลงใหล ถามจริงๆ เถอะ ทำไมนายถึงปล่อยให้ฉันกลับมาอีก ทั้งที่เคยไล่ฉันขันธ์ละสายตาแล้วหันมามองคู่แฝดเขาก่อนตอบ ฉันมีความสุขที่ได้อยู่กับคนที่ฉันรัก แล้วทำไมลินจะอยู่กับคนที่ลินรักไม่ได้ แล้วบังเอิญคนคนนั้นเป็นนาย ฉันพอทำใจได้ แต่ถ้าเป็นคนอื่นฉันไม่คิดว่าทำใจได้หรอก ลินรักนายและลินก็รักฉัน และฉันก็รักนายใช่ฉันรักลิน เขตต์มองเธอเล่นกับลูกๆ ก่อนถอนหายใจ แต่ฉันกลัวลินคิดมากฉันรู้ว่าลินต้องคิดมาก แต่ฉันก็รู้ว่าเราสามารถทำให้ลินคุ้นเคยและยอมรับได้ ลินจะสบายใจกว่าถ้าไม่มีเราคนใดคนหนึ่งสร้างปัญหาให้กับเธอ ถ้าปัญหามาจากภายนอก ลินพร้อมจะสู้ได้อย่างเต็มที่ แต่สังเกตสิว่า พอฉันหรือนายสร้างปัญหา ลินกดดันและเครียดมาก นั่นเพราะลินรักพวกเรามากยังไงล่ะ เพราะงั้นอย่าสร้างปัญหาให้ลินอีก ขันธ์อธิบายพร้อมเตือนฉันต้องยอมรับว่ามันกล้ำกลืนจริงๆ กับสภาพนี้ แต่ฟังนายพูดแล้วก็ไม่อยากจะเชื่อเลยว่า นายจะเปลี่ยนไปมากอย่างนี้ ถ้าเป็นเมื่อก่อนนายคงยักไหล่แล้วก็บอกฉันว่า สนุกกับมันแล้วอย่าไปสนใจมัน เขตต์พูดแล้วก็หัวเราะใครไม่เคยรักก็พูดได้หมดแหละ พอรักไปแล้วอะไรก็ยอม พอหมดความอดทนก็หมดรัก มันเป็นวัฏจักรที่เราจะปฏิเสธไม่ได้ แต่ถ้ารักแล้วใครจะสนล่ะ ที่แน่ใจก็คือ ฉันจะไม่มีวันหมดรักลิน ขันธ์ยังคงสายตาไปที่เธอกับลูกนลินล้มลงให้ลูกล้มทับ กอดกันบนพื้นหญ้า หอมแก้มและจูบกันอย่างแสนรัก เจ้าตัวเล็กเดินไม่คล่องนักแต่ก็พยายามเดินกันทุกวันจนต้องคอยดูไว้ตลอดเวลาการที่ได้อยู่กับคนที่เรารักทำให้เรามีความสุขแบบนี้นี่เอง ฉันไม่น่าโง่ตั้งนาน ฉันเข้าใจแล้วว่าทำไมนายจึงยอมแลกทุกอย่าง เพื่อให้ได้อยู่กับพวกเขา ฉันรู้ว่าไม่ใช่แต่ลินที่ทำให้นายเปลี่ยนไป แต่ลูกๆ ด้วยสินะ เขตต์ถามขึ้นและมั่นใจว่าเข้าใจไม่ผิดสิ่งมีชีวิตเล็กๆ ที่เราต้องตระหนักและรับผิดชอบให้มาก พวกเขาบริสุทธิ์และเติบโตขึ้นมาทีละนิด รู้อะไรไหม โชคดีที่ครอบครัวเขาไม่ออกงานบ่อยอย่างครอบครัวอื่น เราอยู่กันอย่างเงียบๆ มานาน นี่ก็คือข้อดี เมื่อเราทำงาน เราเต็มที่กับงาน เมื่อเราอยู่บ้าน เราเต็มที่กับบ้าน พ่อแม่เราช่างดีจริงๆ ที่พวกเขาแบ่งเวลาให้พวกเราได้ในเวลาที่ต้องต่อสู้กับธุรกิจ ขันธ์พูดเรื่องที่ไม่เคยพูดกับน้องชาย เหมือนระยะห่างที่เคยมีต่อกันขยับเข้าใกล้มากขึ้นไม่ใช่คู่แฝดทุกคู่จะมีความใกล้ชิดกัน...แต่อย่างน้อยก็มีสายสัมพันธ์ที่แตกต่างออกไปรู้ไหมการอยู่ด้วยกันก็ดีเหมือนกันนะ มันทำให้เราลดกำแพงลง แล้วยอมรับอีกคนมากขึ้น ว่าแต่ลินดูจะเกร็งๆ อยู่นะ นายว่าไหม เขตต์ถามขึ้นและทำให้คู่แฝดเขาหัวเราะระแวงน่ะสิ กลัวว่าจะยอมเผลอใจให้...ไม่ฉันหรือนายไง ฮ่าๆ ผู้หญิงคนนี้คิดลึกนะเนี่ย ขันธ์คิดอย่างขำๆเขตต์ทำหน้าเซ็งกับความคิดคู่แฝดแม้จะยอมรับ ผู้หญิงจะคิดมากเรื่องนี้ก็ไม่แปลก ให้เวลาเขาหน่อยเถอะก็ให้ไง ถึงไม่พยายามทำอะไรไง อดทนเข้าไว้ ใจเย็นๆ จะสนุกกว่านะ ขันธ์พูดแล้วก็หัวเราะนายนี่มันจริงๆ เลย เปลี่ยนไปมากนะ เปลี่ยนไปแล้วจริงๆ เขตต์ส่ายหน้ากับคู่แฝดเขา ขณะที่เขาก็มองเธอแบบเดียวกันไม่เปลี่ยนก็คงไม่ได้ ใครให้มีเมียคนเดียวกับนาย แต่รู้อะไรไหม การที่เรามีเมียคนเดียวก็มีข้อดีนะ ช่วยกันดูแลลูกเมีย ได้แบ่งปันความสุขให้กันและกัน อย่างน้อยก็ไม่ต้องห่วง เพราะมีใครคนใดคนหนึ่งคอยดูแลเธอกับลูกเสมอ ขันธ์นึกถึงแต่ข้อดีของการอยู่ร่วมกัน เพราะคงเปลี่ยนความจริงข้อนี้ยากฉันจะดูแลพวกเราให้ดีที่สุด ไม่ต้องห่วงฉันจะไม่พยายามก่อเรื่อง เฮ้อ แต่นายว่าเราจะทำสำเร็จไหม คือพ่อแม่ของเราจะยอมรับได้เหรอ ถ้าไม่ ลินก็คงคิดมากอยู่ดี เขตต์ยังกังวลใจอยู่มาก เพราะสิ่งที่เขาเคยทำนั้นทำร้ายเธอมากเหลือเกินเรื่องนี้เราก็ปล่อยไปก่อนนะ พ่อแม่เราน่ะรู้เรื่องได้ แต่พ่อแม่ลิน เราคงบอกอะไรมากไม่ได้หรอก ขันธ์คิดเรื่องนี้หลายรอบอย่างหนักใจนายควรจะเป็นคนที่ได้จดทะเบียนสมรสกับลินนะ เพราะยังไงก็จะทำให้พ่อแม่ลินเข้าใจได้ง่ายกว่า ทำหน้าแปลกใจทำไม ฉันพูดจริงๆ ฉันยอมรับได้นะ เพราะมันไม่สำคัญหรอก มันอยู่ที่การปฏิบัติต่างหากล่ะ เขตต์ยอมรับแต่โดยดี หากเขาดื้อรั้นก็รังแต่จะทำให้เขาต้องห่างเหินจากเธอขันธ์มองคู่แฝดอยู่พักหนึ่ง ก่อนยอมรับความจริง นายก็เปลี่ยนไปมากเหมือนกัน ถ้าเป็นเมื่อก่อนอะไรก็ต้องได้เอาเป็นว่าฉันโตขึ้น เห็นลินเลี้ยงลูกๆ แล้วรู้สึกว่าลินต้องการการดูแลมากๆ และลูกๆ ก็ต้องการให้เราคอยช่วยดูแล เขตต์ยังคงสายตาที่เธอกับลูกๆ ก่อนลุกขึ้น เมื่อเธออุ้มเจ้าตัวเล็กทั้งสองคนเดินมา พี่ช่วยดีกว่าต่อให้เหนื่อยสักแค่ไหน ถ้ายังมีหัวใจไว้รักใครสักคน กลับทำให้ร่างกายและจิตใจเข้มแข็งได้ แต่เมื่อไรหมดสิ้นความหวังกับหัวใจที่ว่างเปล่า ต่อให้ไม่ได้ทำอะไร กลับรู้สึกว่าทุกสิ่งทุกอย่างทำให้เหนื่อยเหลือเกินขันธ์นั่งมองทุกอย่างก่อนเธอวางเจ้าตัวเล็กใส่เขา อะไรเนี่ยลูกพี่สิ จะโดดลงไปเล่นน้ำ ลินก็เลยต้องจับมาให้พ่อทั้งสองอบรม ซนจริงๆ เดินได้หน่อยเดียวนะเนี่ย นลินหอบหายใจก่อนนั่งลงบนเสื่อแล้วทำไมต้องอุ้มพร้อมกันทั้งสองคนหนักจะตาย เขตต์เป็นห่วงเธอมากกว่าไม่เป็นไรค่ะ ลินแข็งแรงดีแล้ว นลินยิ้มตาหยี หากถามว่าทำไมเธออารมณ์ดีได้แบบนี้ คงเพราะสบายใจที่ได้เห็นพวกเขา...พวกเขาทั้งสี่คนที่ต่างวัยแต่เข้ากันได้ดีเปล่า เขตต์กลัวว่าลินจะทำลูกตกต่างหากล่ะ ใครเขาห่วงลินกัน ขันธ์หัวเราะที่ทำให้เธอหันมาค้อนได้ ก่อนหอมแก้มเจ้าตัวซนใกล้มือเบาๆ จะไปไหน แม่กลัวจะตกน้ำจะแย่อยู่แล้วซนเหมือนพ่อเลย ลินหันไปว่าเขามากกว่าว่าลูก เพราะเธอเอ็นดูลูกมากกว่าเอ็นดูพ่อลินว่านายอีกแหนะ เขตต์ ขันธ์โบ้ยไปให้คู่แฝดเขาเขตต์หัวเราะเบาๆ และตำหนิอย่างไม่จริงจังนัก นายนี่เหลือเกิน ยั่วโมโหลินวันละร้อยรอบก็ลินน่ารักนี่ ขันธ์ดึงมือลินมาหอมบ้า ลินบ่นอย่างเขินๆ ก่อนถูกเขตต์โน้มมาหอมแก้มแล้วต้องหลบ เมื่อลินอายแล้วยกมือขึ้นจะตีเขา พี่สองคนนี่ อายคนอื่นมั่งคิดมาก คนในบ้านนี้ก็รู้เรื่องพวกเราหมดแหละ แต่ไม่ต้องห่วง จะไม่มีใครเอาไปพูดให้ลินเสียหายหรอก ถ้ามันเกิดขึ้น พี่จะจัดการขั้นเด็ดขาดเลยจริงๆ ขันธ์ให้ความมั่นใจกับเธอ พร้อมสายตาแวววับเขาพร้อมที่จะปกป้องครอบครัวของเขา ไม่ว่าจะต้องทำอะไรลงไปก็ตามใช่ พวกพี่จะทำทุกอย่างเพื่อให้เราอยู่ร่วมกันได้โดยที่ไม่มีใครเข้ามาวุ่นวาย ลินก็อย่าคิดมากนะ เขตต์จูบเรือนผมเธอเบาๆ อย่างทะนุถนอม แต่เจ้าตัวเล็กกลับจ้องเขม็ง เขาจึงก้มลงหอมแก้มเจ้าตัวเล็กอีกคน แหมน่าจะบอกดีๆ พ่อจะหอมแก้มทั้งสามคนก็หัวเราะกับความขี้อ้อนของเจ้าตัวเล็ก พอคนหนึ่งได้หอม อีกคนก็ตะกายร่างพ่อที่กำลังกึ่งนอนกึ่งนั่งอยู่ ก่อนจะกอดพ่อตัวโตแล้วโยกเล่นซนจริงๆ เจ้าธรรม์เนี่ย ขันธ์จึงหอมลูกเบาๆ แต่เจ้าตัวเล็กขัดขืนแล้วก็ยังโยกเข่าอย่างสนุกสนาน ก่อนหัวเราะเมื่อพ่อลุกขึ้นมาไล่จับ อย่าหนีนะเสียงหัวเราะของเจ้าตัวเล็กดังขึ้น เมื่อได้เล่นหลบไปหลบมากับพ่อ ซึ่งปล่อยให้ลูกเข้าใจว่าหลบได้ไวและพ้น ทำให้นลินกับเขตต์ได้แต่ยิ้มเอ็นดูเจ้าตัวเล็ก ขณะที่ธารกลับชอบนั่งตักพ่อแล้วหันรีหันขวางหาของกินมากกว่าหิวแล้วเหรอเจ้าตัวเล็ก วิ่งเล่นนิดเดียวก็หิวแล้วเหรอครับ มามะ พ่อจะป้อนขนมนะ เขตต์คว้าตะกร้า ก่อนหยิบผลไม้ปอกแล้วออกมาป้อนลูกชายบนตักนลินได้แต่มองทุกอย่างที่เกิดขึ้น ความสุขเล็กๆ ที่ได้เห็นครอบครัวมีความสุข ช่างทำให้เธอปลาบปลื้มมากขึ้น มันคุ้มค่าที่ได้เห็นพวกเขาอยู่ด้วยกันในเวลานี้บางครั้งอนาคตก็ให้เป็นเรื่องของอนาคตเถอะ...ตอนนี้ขอเพียงตักตวงความสุขเล็กๆ จากช่วงเวลานี้ก็เพียงพอคนเรามักคิดถึงแต่สิ่งที่ยังมาไม่ถึง...โดยมองข้ามสิ่งที่มีอยู่ หากตอนนี้นลินขอรักษาสิ่งที่มีอยู่เพื่อความสุขในปัจจุบันดีกว่าความสงสัยที่ไม่รู้ว่าเมื่อไรจะเจอคำตอบถ้าเด็กๆ จะเติบโตโดยมีพ่อถึงสองคน ที่ทั้งรักและดูแลพวกเขาอย่างดีเยี่ยม เธอไม่คิดว่าควรจะมีปัญหาอะไรให้กังวลอีก และเชื่อแน่ว่าพวกเธอสามารถสอนลูกให้เข้าใจทุกสิ่งได้ในเมื่อพวกเขาเป็นลูกของพวกเธอ...คาดว่าคงไม่ยากถ้าจะชี้ให้เขาเห็นว่าความแตกต่างนั้นไม่ใช่สิ่งผิดปกติเลย*******************************************นลินมองห้องนอนที่ตอนนี้กลายเป็นที่นอนสำหรับคนสามคน สองเดือนที่ผ่านมาอาจเริ่มต้นด้วยการนอนไม่หลับ ก่อนหลับสบายเมื่อได้ยินเสียงขยับจากคนใดคนหนึ่งจะจ้องพี่อีกนานไหมเนี่ย เขตต์ไปไหนแล้ว ขันธ์ขยับวางหนังสือที่เขาอ่านค้างก่อนพักสายตา แล้วก็ยิ้มออกเมื่อเห็นเธอยืนมองเขา มานี่มา ง่วงแล้วก็นอนนลินยังไม่ขยับ และยังคงมองเขาอยู่ทำให้เขาเริ่มงงอะไรน่ะ ลิน พี่ทำอะไรผิดปกติหรือเปล่า ขันธ์ขยับนั่งแล้วยกมือขึ้นลูบหน้าเปล่าค่ะ ลินอยากแน่ใจว่าเราอยู่กันได้จริงๆ ลินอยากแน่ใจว่าเราตัดสินใจไม่ผิดพลาด นลินบอกก่อนขึ้นไปบนเตียง แล้วดึงหมอนมากอดเอาไว้แล้วนอนคว่ำทำไมจะไม่ได้ล่ะที่รัก ขันธ์พลิกตัวนอนคว่ำ แล้วกอดเธอเอาไว้ ก่อนซบพิงศีรษะเข้าหากันเสียงเปิดประตูเขามาพร้อมอาการชะงัก ทำให้อีกสองคนต้องหันไปมองไม่เอาน่า อย่าทำหน้าแบบนั้น มาดิ ขันธ์เรียกคู่แฝดและพยายามละเลยท่าทางของคู่แฝดเปล่าหรอก แค่ยังไม่คุ้น เดี๋ยวก็คงคุ้นแหละ เขตต์ขยับมานอนอีกข้างแล้วนอนคว่ำแบบเดียวกัน ก่อนวางคอลงบนหมอน ก่อนหันไปหอมแก้มเธอเบาๆ หอมจังนายช่วยหวานกับลินให้มันน้อยๆ หน่อยได้ไหม ขันธ์แกล้งออกแรงผลักนลินให้ไปผลักน้องชายเขาพวกพี่แหละพอเลย เลิกแหย่ลินสักทีสิ นลินยกมือขึ้นผลักทั้งสองคนออกไปให้ห่าง แล้วพลิกตัวขึ้นนอนมองเพดานแทนก็รักนี่ถึงได้แหย่ ขันธ์ขยับตะแคงแล้วมองเธอ ก่อนมองคู่แฝดแล้วเอื้อมมือไปกอดเธอคนละข้างพร้อมกัน จากนั้นก็ชวนกันหลับแบบไร้คำพูดนลินวางมือลงบนมือพวกเขา ก่อนหลับตานอน ถ้าจะเป็นคนไร้สติ เธอก็ขอเป็นในเวลาแบบนี้ อย่างน้อยเธอก็ยังเก็บเกี่ยวความสุขยามอยู่ร่วมกันได้*******************************************เสียงร้องดังขึ้นจากลำโพงเล็กๆ ที่นลินวางไว้บนหัวเตียง จากหนึ่งก็เป็นสองเสียงทำให้ทั้งสามคนในห้องค่อยๆ ขยับตัว โดยนลินขยับเป็นคนแรกไม่ต้องหรอก เดี๋ยวพี่ไปดูเอง เขตต์พูดขึ้น ก่อนลูบผมเธอเบาๆ แต่ร้องสองคนเลยนะคะ นลินกำลังจะลุกขึ้น แต่เขาแตะห้ามไว้ไม่เป็นไรหรอก คงร้องเพราะตกใจน่ะ เดี๋ยวพี่ไปดูเอง นอนเถอะลิน เขตต์บอก ก่อนลูบผมเธอเบาๆ แล้วลุกขึ้นไปห้องเด็กๆ ที่อยู่ด้านข้างนลินจึงพลิกตัวเองไปทางขันธ์ แล้วกอดเขาเอาไว้หลวมๆ ขณะที่เขตต์เดินออกไปจากห้องแล้วปลอบลูกๆ จนหลับ แล้วก็เดินกลับมาที่ห้องเขามองเธอกอดคู่แฝดแล้วก็ถอนใจยาว แปลกแทนที่จะหึงหวงเหมือนเขากลับเฉยๆ แล้วมุ่งไปที่เธอมากกว่า คงเพราะความสุขที่ได้รับเมื่อทำใจให้เปิดกว้างได้การได้อยู่ลูกๆ ที่น่ารักกับผู้หญิงที่เขารัก...อะไรก็ไม่สำคัญอีกแล้วทุกสิ่งกลายเป็นภาพลวงตาเมื่อเทียบกับความจริงที่อยู่ตรงหน้าเขา...เขาขึ้นเตียงแล้วกอดเธอเอาไว้ โดยไม่สนใจว่าจะต้องอยู่ใกล้กับคู่แฝดเขาหรือไม่ เธอที่เขาต้องการกอดเอาไว้ ก่อนซบลงจูบเธอที่ซอกคอด้านหลัง ทำให้เธอขยับตัวเล็กน้อย แต่เมื่อเขตต์ดึงเธอไปกอด เธอก็ขยับตัวมากขึ้นอะไรกัน พี่เขตต์ นลินรู้ว่าเป็นใคร เพราะเธอยังหลับไม่สนิทเท่าไรนักแค่กอดหอมไม่ได้เชียวเหรอ เขตต์กระซิบเบาๆ ที่ข้างหูอย่างเกรงใจคู่แฝดที่นอนอยู่ จากนั้นก็ถอนหายใจใส่หูเธอ เพื่อผ่อนคลายตัวเองนอนเถอะค่ะ นลินไม่ปฏิเสธแล้วก็พยายามหลับในอ้อมกอดเขา แต่กลับได้ยินเสียงหัวเราะดังขึ้นพาลินไปห้องนายเถอะ ไป ก่อนจะลงแดงตายซะก่อน ขันธ์บอกแล้วพลิกตัวหันหลังให้อย่างขำขันหง่ะ ลินจะนอน นลินเข้าใจความหมายก็รีบประท้วงขอบใจ เขตต์บอกคู่แฝด ก่อนอุ้มเธอขึ้นจากเตียง ไปนอนห้องโน้นแล้วกันพี่เขตต์บ้า พี่ขันธ์บ้ากว่า นลินทุบเขาเบาๆ อย่างไม่จริงจังนักหากเขตต์ก็ไม่ยอมปล่อยง่ายๆ จึงพาเธอออกไปจากห้อง ขณะที่ขันธ์ปล่อยตัวเองให้หลับ โดยไม่ต้องกังวลใจ เขาทำใจมามากแล้ว จะเป็นไรไปถ้าจะต้องเจอเข้ากับสถานการณ์จริง*******************************************เสียงลูกๆ กลายเป็นเสียงปลุกที่ดีให้เขา เจ้าตัวเล็กตื่นเช้าทุกวัน ขันธ์ก็ทำธุระส่วนตัวจนเสร็จ เพราะรู้ว่าพี่เลี้ยงคงจัดการเด็กๆ เรียบร้อยแล้ว แม้เช้านี้เขาจะอยู่เพียงลำพัง แต่ก็ไม่ถึงกลับหงุดหงิดอะไรเขาแวะไปดูเจ้าตัวเล็กที่อีกห้อง ซึ่งกำลังถูกพี่เลี้ยงและสาวใช้ป้อนอาหารอยู่ เขาจึงอุ้มคนหนึ่งขึ้นมาแล้วถาม ไงลูก อร่อยเปล่าดาดา ธารเรียกพ่อที่กำลังอุ้มอยู่วันนี้คุยแสดงว่าอารมณ์สินะ แหมเมื่อคืนตื่นมาปลุกพ่อแม่ทำเนี่ย ขันธ์ตำหนิอย่างไม่จริงจังนัก ก่อนเช็ดแก้มลูกที่มีคราบอาหารเปื้อนอยู่ปาปา ธรรม์เข้ามาเกาะขาแล้วเรียกพ่ออีกคนขันธ์จึงปล่อยธารลง แล้วอุ้มเจ้าธรรม์แทน ไง เมื่อคืนทำฤทธิ์หรือเปล่า ฝีมือหนูแน่ๆ ธรรม์เอามือใส่ปากทำหน้าไม่รู้เรื่อง ยิ่งทำให้น่าเอ็นดูมากกว่าเดิม ก่อนหันไปหาคนป้อนอาหาร เพื่อกิน แล้วก็ถูกพ่อวางลง เมื่อเห็นว่าเจ้าตัวเล็กกินอย่างเพลิดเพลินขันธ์ส่ายหน้าก่อนหอมแก้มลูกคนละฟอด แล้วเดินออกไปจากห้อง เขาตรงไปยังห้องน้องชาย แล้วเคาะประตู หวังว่าน้องชายเขาคงไม่ลงแดงเสียจนยังไม่เสร็จธุระ แต่เมื่อไม่มีคนห้าม เขาก็เข้าไปในห้องมองเธอที่กำลังหลับสบายในอ้อมกอดน้องเขาถ้าเจ็บปวด ก็คงเจ็บปวดมานานแล้ว แต่เขานึกถึงความรู้สึกตอนแรก ที่เธอยังคงเป็นของน้องเขาแต่เพียงผู้เดียวมากกว่า เป็นความรู้สึกยากบรรยาย หากก็ไม่ถึงกับนึกหวงหรือขวางเขาลูบเรือนผมเธอเบาๆ ทำให้เธอรู้สึกตัวและลืมตามองเขาช้าๆ ก่อนบอกเธอ พี่ไปทำงานละนะพี่ขันธ์ นลินปรับสายตามองรอบๆ ก่อนนึกได้ลินนอนเถอะ เด็กๆ ทานแล้วล่ะ เขาก้มลงจูบเรือนผมเธอเบาๆ หากเธอกลับดึงมือเขาเอาไว้แล้วจูบมือเขาเบาๆ แทนคำพูดในสถานการณ์ที่ไม่รู้จะจัดการความรู้สึกอย่างไรดี แต่ก็ต้องปล่อยไป ในเมื่ออีกสองคนไม่มีปัญหา เธอก็ไม่รู้ว่าควรมีปัญหาอะไรเช่นกันเขตต์รู้สึกตัวบ้าง เขามองขันธ์กำลังจะเดินออกไปจากห้องแล้วบอก งานที่นายสั่งฉันทำให้เสร็จแล้วนะ เจอกันบ่ายๆ เลยเออ ขันธ์ตอบแล้วก็ขำน้องชาย ที่ดึงนลินเข้าไปกอดอีกรอบช่างมันเถอะ...อะไรก็ไม่สำคัญถ้าเรายังรักกัน*******************************************^^ มีผู้หวังดีทวงมา ก็เลยต้องหาทางมาโพสค่ะพอดีไม่สบายค่ะ เจ็บคอมาก ทำให้มีไข้ ก็เลยเพลียๆ นอนหลับไม่รู้เรื่องเลยค่ะขออนุญาตไม่ตอบเม้น เพราะสมองมันตื้อไปหมดเลยค่ะ ยังไม่ได้ทำอะไรกับชีวิตเลย หุหุขอบคุณที่ติดตามนะคะป.ล. ถ้าหายไปกับคอที่ติดเชื้อจุดธูปตามได้ค่ะ