Group Blog
All Blog
|
การทดลองใช้โปรแกรม (Intermittent fasting) IF เดือนที่ 1 วันที่ 13 วันที่ 13 (27 มิ.ย.60) อาหารมื้อที่ 1 ก่อนถึงเวลาอาหาร ดื่มกาแฟดำ ไม่ใส่อะไรกับน้ำชาและน้ำเปล่า 12.00 : วิตามินต่าง ๆ ก่อนอาหาร 30 นาที 12.30 : เวย์ 1 สกู๊ป + เค้กทุเรียน 1 ชิ้นเล็ก + แก้วมังกร อาหารมื้อที่ 2 ก่อนออกกำลังกาย 13.30 : ข้าวราดแกงกับผัดผัก 1 จาน + สัปปะรด อาหารมื้อที่ 3 : หลังออกกำลังกาย 19.00 น. : น้ำมะพร้าว1ลูก + แอปเปิล+แก้วมังกร ความรู้สึก วันที่ 13 วันนี้ลองเปลี่ยนการกินใหม่ค่ะ เป็นมื้อแรกกินเวย์ 1 สกู๊ปกับผลไม้และขนม (จริงๆยังไม่ควรกินแบบนี้แต่ขนมเนี่ย อดใจมาตั้งแต่ช่วงอดแล้วค่ะ เรียกว่าขอเก็บเอามากินในช่วงที่กินได้ค่ะ) เมื่อวานตอนเย็น กินช่วงติดกันไปหน่อยย่อยไม่ทัน ช่วงไปออกกำลังกายแน่นมาก ๆ เลยไม่สบายตัว ต้องดูกันต่อไปค่ะว่าจะเป็นไง วันนี้มีแผนจะฝึกกล้ามหัวไหล่ ด้วย Kettelbell เหนื่อยมากเลยเล่นปวดหัวไหล่เลยทีเดียว ตอนเย็นไม่หิวมากเท่าไหร่ ก็เลยกินแค่ผลไม้เบา ๆ แต่เกินเวลาไปครึ่งชั่วโมงค่ะแสดงว่ายังจัดตารางไม่ลงตัว
คีโตเจนิส มันมาตั้งชื่อใหม่ซะเริ่ดหรูทำเอาคนแก่แบบเรา งง...555 จิงๆแล้วมันคือ การกินแบบ low carb high fat ..ถูกไหมคะ แต่...จะบอกว่า การไดเอทแบบไหนก็ตาม ส่วนมากเค้า คิดค้นมาเพื่อ "รักษาโรค" หรือมาช่วยแก้ปัญหาของคนที่มี ปัญหา...
การที่เรา ผลักตัวเองให้เข้าสู่สภาวะ Ketone เรามองว่ามันไม่ใช่ "เรื่องดี" สำหรับคน "ปกติ" หรอกค่ะ เพราะร่างกาย ช๊อค เพราะเราให้มันอด... คาร์บอ่ะสำคัญมากจริงๆนะคะ มันมี คาร์บที่สำคัญ กับคาร์บที่ไร้สาระ ให้ผลเสียแก่ร่างกาย คาร์บที่สำคัญคือ คาร์บที่มี กากใยสูง ผักผลไม้ที่ไม่มีรสหวาน เพราะคาร์บให้ "พลังงานกับ ร่างกาย" อันแรกเลย "สมอง" ต้องการคาร์บค่ะ และ อาหารของสมองอีกอันคือ Omega 3 สองอันนี้ร่างกายขาดไม่ได้ แต่เราไปอ่านแล้ว คีโตเจนิค เค้าบอกว่าให้ กินคาร์บไม่เกิน 50กรัมต่อวัน ซึ่ง....หากมาดูสภาพตัวเรา เราไม่ใช่คนที่จะมาลดน้ำหนักด้วยวิธีนี้อ่ะค่ะ เราคิดว่า คีโตเจนิค มันน่าจะเหมาะกับ คนที่มีน้ำหนักเยอะมากๆ นอนแบอยู่กะเตียงขยับร่างกายลำบาก คนแบบนี้ไม่ต้องการพลังงานเยอะ เพราะไม่ขยับตัวยากอยู่แล้ว จึงจำเป็นที่จะต้อง "ใช้วิธีลดคาร์บลง และพยายามผลักให้ ร่างกายหันไปหาพลังงานจาก Fat ที่สะสมอยู่ในตัว" นั่นเองค่ะ คือถ้าเข้าใจว่า ทำไม...มันถึงมีวิธีไดเอทแปลกๆแบบนี้ และเค้านำมาใช้กับ คนไข้ประเภทไหน แล้ว เราถึงจะรู้ว่า.. มันเหมาะกับเราไหมอ่ะค่ะ โดย: Max Bulliboo
  วันที่: 28 มิถุนายน 2560 เวลา:16:32:56 น.อีกอัน...ที่อยากให้ พิจารณาก็คือ... เมื่อคุณใช้วิธี คีโตเจนิคแล้ว...น้ำหนักลดแล้ว แล้ว...ไงต่อ?
นี่คือ ...สิ่งที่ ต้อง "คิด" ให้ยาวๆ เพราะเราปล่อยให้ร่างกายอด...และให้พวกมันหันไปหากินกับ Fat ในร่างกาย พอเราได้น้ำหนักตัวที่ต้องการ เราก็เผลอกิน ปกติ.... ร่างกายพอมันได้อาหารปกติ ..จะบอกว่า สิ่งแรกที่มันจะทำเลยก็คือ มันจะ "ขยันสะสมไขมันเข้าสู่ร่างกายกันแบบสุดโต่ง" เพราะมันรู้ว่า "ไขมันคือ แหล่งพลังงานสุดท้ายที่พวกมันมี" มันกลัวมากที่จะสูญเสียไปอีก.... คือต้องเข้าใจ "การทำงานของร่างกายเราด้วยน่ะค่ะ" ผลคือ คุณก็จะกลับมามี fat มากกกกกกกก อย่างเยอะ เคยเห็นคนที่เค้าเรียกว่า skinny fat ไหมคะ? รูปร่างไม่อ้วน แต่ อวัยวะภายในมี Fat สะสมอย่างเยอะมากจนน่ากลัว.... Kate Moss นางแบบดังคือตัวอย่าง และอีกหลายคน Fat มันเป็นสิ่งที่ คนอายุกลางคนต้องระวัง เพราะ...หากเรามีความรู้เรื่อง อาหารไม่พอ เผลอไปกิน bad fat ...ไขมันพวกนี้มันก็จะไปอุดตันในหลอดเลือด และ...จะเจอปัญหาเยอะแยะมากมาย..ค่ะ โดย: Max Bulliboo
วันที่: 28 มิถุนายน 2560 เวลา:16:38:02 น.ตัวเราเอง ทุกวันนี้ ทานคาร์บที่มี กากใย เพราะอยากให้ ลำไส้ สะอาดและ แอคทีฟ ... เราดื่มน้ำ 2.5ลิตรต่อวัน เราทานผักผลไม้วันละ สองอุ้งมือ...เราทานอะโวคาโด อาทิตย์ละ ผล และ Omega 3 วันละเม็ด เราไม่ทานของหวาน เราดื่มโปรตีนเชค 60กรัม ผสมน้ำเปล่า ใส่ผลไม้แบบกล้วยหอม แอปเปิ้ล ปั่นรวมกัน ทานก่อน และหลังออกกำลังกาย เราทานปลาอาทิตย์ละสองหน ทานเนื้อ ไก่ หมู บ้างวันไหนทานหนัก วันต่อมาต้อง เบา...คือมันต้อง balance หาจุด balance ให้เจออ่ะค่ะ และ สิ่งสำคัญสุด "ต้องมีความสุขในอาหารที่กินเข้าไปด้วย" และ "ควรกินในสิ่งที่ร่างกายต้องการ ไม่ใช่กินในสิ่งที่ทำให้ร่างกายต้องทำงานหนักกว่าเดิม ไรแบบนี้" ของพวกนี้ต้องใช้เวลาค่ะ
โดย: Max Bulliboo
วันที่: 28 มิถุนายน 2560 เวลา:16:43:40 น.ชาเขียว เราพยายามดื่มวันละแก้ว (แต่บางวันก็ ลืม...ซะงั้น 555)
สรุปคือ ไม่่มีใครชอบหรอกค่ะ ที่จะมาโดนบังคับ ชี้นิ้วให้ กินนี่ เลิกกินนั่น ไรแบบนี้.... เราเลยใช้วิธี "ไม่เลิกกินอะไรทั้งสิ้น" และ หันมา "ลด" และ "เพิ่ม" แทน.... มันทำให้เรารู้สึกดีกว่าจะมาคิดว่า เห้ย ต้องเลิกกินอันนี้นะเดี๊ยวอ้วน ไรแบบนี้ กินโลด แต่ ก่อนกินต้อง คิด และยอมรับ ผลที่จะตามมาด้วย อ่ะค่ะ โดย: Max Bulliboo
วันที่: 28 มิถุนายน 2560 เวลา:16:45:55 น.ขอบคุณค่ะน้องแม็ก ได้รับความรู้ความเข้าใจเยอะเลยค่ะ พี่ก็ว่ามันเป็นสูตรที่แปลกนะคะ เห็นอาหารที่เค้ากินไม่น่าจะดีต่อสุขภาพนะ แต่แพร่หลายกันมากเลยนะคะ
โดย: ก่อนถึง_วัยชรา
วันที่: 29 มิถุนายน 2560 เวลา:14:18:00 น.จริงๆแล้วมันไม่ได้ แย่อะไระนะคะพี่ ...หาก "กินเป็น" ต้องขีดเส้นใต้ว่า "กินเป็น" ด้วยนะคะ มันเป็นทฤษฏีเดียวกันกับ eat fat lose fat หรือ low carb high fat อ่ะค่ะ
ยกตัวอย่างให้อ่านคือ Fat ที่คนพวกนี้กินเข้าไปคือ good fat ... เช่น Olive oil , canola oil, nut oils, avocado, raw nuts, nut butters, coconut oil, cheese, whole milk cream, seeds Greek Yogurt, Kefir, skyr, cottage cheese etc. หากพี่สังเกต..ก็จะเห็นว่า จุดประสงค์คือ Low Carbs เค้าจะกินคาร์บ กันน้อยมากๆ ซึ่ง... ทุกคนรู้ว่า หากเราลดคาร์บ เช่นน้ำตาล หรือทุกอย่างที่มีรสหวาน และ ลดอาหารแป้ง ลงไป.... น้ำหนักตัวเราจะ ลดทันที!!!! อย่างน้อยๆก็ 20% เพราะคาร์บพวกนี้ มันเป็นพลังงานที่ "ร่างการมีขีดจำกัดในการรับเข้า" แต่เมื่อเราเจ้าของร่างกาย ดันยัดเข้าปากไปซะเยอะ...ร่างกายมันไม่มีทางเลือก "อินซูลิน"จากตับอ่อน ก็จะนำพลังงานจากคาร์บน้ำตาลที่เหลือ ไปเก็บในรูปแบบของ ไขมัน..โดยจะเริ่มตรง "หน้าท้อง" ก่อน...เพราะบริเวณนี้จะ ใกล้กับ ตับอ่อนที่สุด(โรงงานผลิตอินซูลินอ่ะค่ะ คุณตับอ่อนเนี่ย) ... โดย: Max Bulliboo
วันที่: 2 กรกฎาคม 2560 เวลา:17:03:58 น.ชีวิตและสภาพแวดล้อมของ คนเราแต่ละคนต่างกัน การหาอาหารมากิน ในแต่ละมื้อก็ต้องขึ้นอยู่กับ "สภาพแวดล้อม" ใครจะมีปัญญาไปเดินหาซื้อ cottage cheese หรือ อะโวคาโดกินได้ทุกวันล่ะค่ะ แสนจะแพรง...ถูกป่ะ...?
เราว่านะ จุดประสงค์ใหญ่คือ ลดคาร์บลง และ ปล่อยให้ ร่างกายมันไปจกพลังงานจาก ไขมันแทน ตะนี้ อีกอันที่เค้าพยายามหา good fat กินกันเนี่ย ก็เพราะเค้ารู้ว่า good fat มันจะเข้าไป กวาดจับเอา bad fat ออกมาด้วยตัวของมันเอง...อันนี้คือเรื่องจริงค่ะพี่..แต่ fat is fat ในความคิดของเรานะคะ fat มี แคลอรี่ที่สูงปรี๊ด.... ประเทศไทยไม่ใช่ ประเทศที่มีอากาศหนาว ร่างกายคนไทยไม่ได้ต้องการ fat มากมายมหาศาลขนาดนั้น โดย: Max Bulliboo
วันที่: 2 กรกฎาคม 2560 เวลา:17:07:35 น.ในวัย 50 แบบเรา เรากลัวเรื่องคลอเรสเตอรอลมาก...เพราะปีที่แล้วมันแสดงผลในระดับสูง....จนหมอเอามือก่ายหน้าผาก ปีนี้เราทำให้มัน "ลดลงมาได้ในระดับที่ทำให้ หมอยิ้มออก" เราเลยต้องพยายามระวังเรื่อง ไขมันอุดตันในเส้นเลือดอ่ะค่ะ
Fat สำหรับเราแล้ว เราเลือกกิน good fat แต่...เรากินในระดับที่ "พอดีๆ" ไม่เว่อร์ ไม่กระโจนใส่ fat ทุกเวลา... ตอนนี้เราเน้น good โปรตีน เพราะเราต้องการสร้างรูปร่างใหม่ ต้องการเพิ่มกล้ามเนื้อ... อย่างที่บอก ใครทำแบบไหนแล้ว ได้ผล เราดีใจด้วย แต่ก่อนที่จะ "รีบทำๆตามคนอื่นนั้น" เราอาจจะต้อง หยุดคิด...ก่อนว่า มันเหมาะกับตัวเราไหม เหมาะกับสภาพแวดล้อมที่เราอยู่ในปัจจุบันไหมอ่ะค่ะพี่ ... แต่เราก็ไม่ได้บอกว่า มันไม่ดีนะคะ มันอาจจะดีกับคนบางคน และอาจจะแย่กับคนอีกหลายคน ก็เป็นได้อ่ะค่ะ โดย: Max Bulliboo
วันที่: 2 กรกฎาคม 2560 เวลา:17:12:23 น. |
ก่อนถึง_วัยชรา
 ฝากข้อความหลังไมค์ Rss Feed  Smember ผู้ติดตามบล็อก : 31 คน [?] มาสร้างร่างกายใหม่กันไหมคะ คงไม่สายเกินไปที่จะเริ่มน๊า ขอลองฮึดอีกสักรอบค่ะ เริ่มช้า ก็ยังดีกว่าไม่เริ่ม ใช่ไหมจ้ะ เป็นกำลังใจและช่วยเชียร์กันด้วยนะจ้ะ สู้สู้ Friends Blog
|
||||||||||||
sinota ซิโนต้า Ulthera สลายไขมัน เซลลูไลท์ ฝ้า กระ Derma Light เลเซอร์กำจัดขน กำจัดขนถาวร รูขุมขนกว้าง ทองคำ ไฮยาลูโรนิค Hyaluronic adenaa ลบรอยสักคิ้วด้วยเลเซอร์ ลบรอยสักคิ้ว Eyebrow Tattoo Removal เพ้นท์คิ้ว 3 มิติ
ให้ใจหายใจ สุขภาพ วิธีลดความอ้วน การดูแลสุขภาพ อาหารเพื่อสุขภาพ ออกกำลังกาย สุขภาพผู้หญิง สุขภาพผู้ชาย สุขภาพจิต โรคและการป้องกัน สมุนไพรไทย ขิง น้ำมันมะพร้าว ผู้หญิง ศัลยกรรม ความสวยความงาม แม่ตั้งครรภ์ สุขภาพแม่ตั้งครรภ์ พัฒนาการตั้งครรภ์ 40 สัปดาห์ อาหารสำหรับแม่ตั้งครรภ์ โรคขณะตั้งครรภ์ การคลอด หลังคลอด การออกกำลังกาย ทารกแรกเกิด สุขภาพทารกแรกเกิด ผิวทารกแรกเกิด การพัฒนาการของเด็กแรกเกิด การดูแลทารกแรกเกิด โรคและวัคซีนสำหรับเด็กแรกเกิด เลี้ยงลูกด้วยนมแม่ อาหารสำหรับทารก เด็กโต สุขภาพเด็ก ผิวเด็ก การพัฒนาการเด็ก การดูแลเด็ก โรคและวัคซีนเด็ก อาหารสำหรับเด็ก การเล่นและการเรียนรู้ ครอบครัว ชีวิตครอบครัว ปัญหาภายในครอบครัว ความเชื่อ คนโบราณ