วันที่ 9 (23 มิ.ย.60) อาหารมื้อที่ 1
ก่อนถึงเวลาอาหาร ดื่มกาแฟดำ ไม่ใส่อะไรกับน้ำชาและน้ำเปล่า
12.00 : ข้าวหน้าเป็ด 1 จาน+ คัพเค้กหน้าแยม 1 ชิ้น +สับปะรด 20 บาท
อาหารมื้อที่ 2 ก่อนออกกำลังกาย
15.00 : เวย์ 1 สกู๊ป + ขนมเค้กกล้วยทำเอง 2 ชิ้น
อาหารมื้อที่ 3 : หลังออกกำลังกาย
19.00 น. : สเต็กหมู1 จาน + ขนมจีบ 10 ลูก + น้ำเต้าหู้ 1 ถุง + ขนมกล้วยฉาบ 1/2 ถุง
ความรู้สึก
วันที่ 9 วันนี้ว่าจะปรับเวลาเป็นเที่ยงค่ะเดี๋ยวค่อย ๆ ร่นเวลาไปเรื่อยดูให้เหมาะสม กินบ่าย กินได้น้อยค่ะแล้วรู้สึกจุกเนื่องจากไปออกกำลังกายประมาณ 4 โมง หรือ 5 โมง ยังรู้สึกแน่นมาก หรือว่าเพราะกินทีเดียวเยอะก็ไม่รู้เดี๋ยวดูค่ะแต่ที่แน่ ๆ คือ กินแป้งตอนเย็นค่ะ ตดตลอดเลย เมื่อวานกินทั้งซูซิ กับไส้กรอกอีสานท้องอืดค่ะ สงสัยต้องปรับเป็นกินพวกสลัดหรือไม่ก็พวกปลานึ่งค่ะ รู้สึกว่า ในช่วงเวลา 8 ชม.ที่กินได้น่ะกินไม่ถึงค่ะ กินแค่ประมาณ 5 ชม.เองอาจจะอดได้สัก 19 ชม.ก็จะเป็นการทำ IF แบบ F-5ไปซึ่งก็คงไม่เป็นไร แต่จะตั้งไว้ว่าอดให้ได้อย่างน้อย 16 ชม ก่อนในเดือนนี้ ดูผลค่อยว่ากันค่ะ คิดว่าต้องใช้เวลานานพอสมควรในการปรับตัวค่ะคงดูกันเป็นเดือนอาหารการกินก็ยังไม่ลงตัวค่ะ ไม่รู้จะกินอะไรดี มีอาการเบื่อไม่อยากกินด้วยค่ะ
ผู้ติดตามบล็อก : 31 คน [
พี่ปลาลอง ผลัก "พวกขนมอบ" เอาไว้ทานตอนช่วงวันเกิดดีไหมคะ ? 555 ล้อเล่นๆ ฮ่าๆๆๆๆ ช่วงแรกๆจะยากหน่อยเพราะ เรากำลังต่อสู้กับ "ตัวของเราเอง" เวลาที่จู่ๆ "มาตั้งกฏ อดโน่น ห้ามนี่" สภาพจิตใจเราจะแอบ ต่อต้านอยู่ลึกๆค่ะ เหมือนๆกับว่า เรามี "สองร่าง" ไงงั้น ... ขนมอบทุกอย่างเราทานนะ แต่เราทานแบบ โฮก จัดหนักๆในวันเดียว...จากนั้น เราเขี่ยมันออกไปเลย สองวีค หรือ สามวีค ...นานๆทานที ไม่มีผลค่ะ แต่ไอ้ที่มีผลคือ ...หย่อนเข้าปากทุกวันๆทีละนิดๆ...อันนี้เรื่องจริงค่ะพี่
ไหนๆลงทุน ตั้งใจทำ fasting แล้ว ...ลองทำแบบ เล็งเห็นผลดูนะคะ อย่าทำแบบ "เสียเวลา" หรือ ทำเพื่อล้มเหลวเลยนะคะ ตั้งใจนิดนึง...การทำ fasting ไม่ได้หมายความว่า ให้อดอยากทุกอย่างที่เราชอบ เพียงแค่ เรา...เลื่อน....เอาสิ่งที่เราชอบนั้น เอาเก็บไว้ทานในช่วงที่ร่างกายเรามีพื้นที่เหลือ(น้ำหนักลดลงแล้ว) ตะหาก!
พยายามหากิจกรรมอื่นทำ..ที่ไม่อยู่ในครัว! และไม่เกี่ยวกับของกิน...อันนี้สำคัญมากนะคะ ของเรา เราหาหนังสืออ่าน เราไปฟิตเนส เราเริ่มหันไปหางานอดิเรกอื่นเช่น ปลูกต้นไม้ หรือหัดถักโครเช ถักตุ๊กตาน่ารักๆ มันช่วยได้มากจริงๆค่ะ .... อยู่ห่างๆอาหาร และของกินไว้ก่อนช่วงที่ทำ fasting อ่ะค่ะ
* อันสุดท้าย * การที่เราทำ fasting มา อดอาหารมาหลายๆชั่วโมง มันไม่ได้หมายความว่า " การ fasting นั้นคือ ใบอนุญาตให้ ทานทุกอย่างเต็มที่แบบ อาหารแคลอรี่สูงๆน้ำตาลท่วมๆ single carb ได้แบบเต็มเหนี่ยว" นะคะพี่ ... เราทำ fasting เพราะเราต้องการให้ ร่างกายได้ "พัก" และให้ร่างกายได้หันไป จกเอาพลังงานมาจาก ไขมันที่อยู่ในร่างกายเอามาใช้ แต่หาก...เรา...พยายามเพิ่มเติมไขมันเข้าไป single carb น้ำตาล ของหวาน ขนมทุกอย่างที่มีรสหวาน มันคือน้ำตาล ร่างกายเราสามารถรับน้ำตาลได้ "จำกัด" และเมื่อร่างกายมันรับไม่ได้แล้ว มันก็จะจัดเก็บ น้ำตาลพวกนี้ไว้เป็นรูปแบบของไขมันค่ะ...อธิบายมาถึงตรงนี้ พี่ปลาพอนึกภาพออกไหมคะ ว่า ...ทำไม เมื่อถึงเวลาทาน เราถึงจำเป็นต้องเลือกทาน..อยู่ห่างๆ คาร์บ แป้ง น้ำตาลให้มากๆ ไม่งั้น fasting ทำไปให้ตายก็ไม่ได้ผลค่ะ