Group Blog
 
<<
มิถุนายน 2552
 
23 มิถุนายน 2552
 
All Blogs
 

เริ่มต้นที่คำถาม ... แล้วคำตอบจะปรากฏ

เริ่มต้นที่คำถาม แล้วคำตอบจะปรากฏ,การพัฒนาตนเอง

เพราะไม่รู้จักตั้งคำถามให้กับชีวิต เราจึงต้องตกเป็นทาสทางความคิดฝ่ายลบของตนเอง และผู้อื่นอยู่ร่ำไป
ตกเป็นทาสการถูกครอบงำ ทางจิตวิญญาณที่ซ่อนอยู่ในตัวเรา
ทำให้จิตเดิมแท้ที่ควรจะไดรู้แจ้งเห็นจริงในชีวิตเลือนหายไป

การใช้ชีวิตของคนเรานั้น ย่อมมีวิถีทางแห่งการสร้างสุข และแสวงหาคำตอบให้กับตัวเองไม่เหมือนกัน
ทุกคำตอบที่เกิดขึ้นในใจ ล้วนมีที่มาในความเข้าใจของแต่ละคน
จะมีการกะเกณฑ์ความรู้สึกนึกคิดของแต่ละคน ให้อยู่ในกรอบเดียวกันย่อมเป็นไปได้ยาก ถึงจะบังคับได้
ก็คงเพียงแค่ควบคุมทางกายเท่านั้น แต่ความรู้สึกในใจก็ยังถวิลหาสิ่งที่เป็นความฝันของตัวเองอยู่ดี

แต่เมื่อเราพิจารณาสิ่งที่เกิดขึ้นกับผู้คนในโลกใบนี้ กลับเห็นว่าไม่ว่ากี่ยุคสมัยผ่านมา
ทุกคำตอบที่เราเดินตามกันมาหลายชั่วอายุคน
กลับปรากฏว่า ไม่มีคำตอบใดที่ทำให้หายสงสัยในเรื่องการเกิดสักที

ยิ่งแสวงหาคำตอบให้ชีวิตก็ยิ่งว้าวุ่น และสับสนเข้าไปทุกขณะ
เสมือนว่าคำตอบที่ได้รับมานั้นเป็นคำโกหกจากรุ่นสู่รุ่นไม่รู้จบ
จึงทำให้เราวนเวียนอยู่ในวังวนของความทุกข์ และปัญหาอยู่ร่ำไป

ทำให้ชีวิตที่เป็นอยู่นี้เหมือนกับว่ามีความสุข แต่เป็นความสุขที่ห่อหุ้มด้วยความหลอกลวงตัวเองไปวันๆ
เพราะเมื่อเราหันกลับไปมองอดีตที่เป็นคำถามในชีวิต และคำตอบที่ปรากฏในปัจจุบัน
จะเห็นได้ว่าเป็นคำตอบเดิมๆ ที่เหมือนกับว่าเราถูกกรอกข้อมูลไว้ว่า
"ชีวิตต้องเป็นอย่างนี้เท่านั้น จึงชื่อว่าประสบความสำเร็จและมีความสุข"

เกิดมาต้องมีหน้าตาดี และเป็นลูกคนรวย ต้องเรียนหนังสือในสถาบันที่มีชื่อเสียง
ต้องมีงานทำที่ดี และมีรายได้สูง ต้องมีคู่ครองที่คู่ควรแก่เกียรติยศของตัวเอง
ต้องมีรถ มีบ้าน และสมบัติพัสถานที่เชิดหน้าชูตา ต้องมีลูกเป็นโซ่ทองคล้องใจให้ครอบครัวสมบูรณ์แบบ
ต้องมีเกียรติยศชื่อเสียง และอำนาจในการดูแลชีวิตของตน และคนรอบข้างให้มีความสุข และปลอดภัย ฯลฯ

คำตอบเหล่านี้เหมือนกับว่า ทุกคนที่เกิดมาต้องเดินบนถนนเส้นนี้เท่านั้น
ถ้าเดินเส้นทางอื่นถือว่าไม่ใช่ความสำเร็จที่ชาวโลกวาดหวังไว้

แต่ผู้เขียนกลับมีความเห็นว่า ทั้งๆ ที่เราพยายามเดินตามเส้นทางที่มีมาแต่ครั้งบรรพกาล
แต่ความสุขของคนเราก็มิได้เพิ่มขึ้นมากกว่าเดิมแต่อย่างใด
คำตอบที่เราเข้าใจว่าเป็น "ความสุข" และ "ความสำเร็จ" ในชีวิตนั้น
กลับต้องลงทุนลงแรงในการแสวงหาเพิ่มมากขึ้น

สิ่งที่ตามมาก็คือ ถูกความเห็นแก่ตัวเข้ามาครอบงำตัวตนเสียจนหมดสิ้น
ทำให้ชีวิตพลาดจากเส้นทางเดิมแท้ อันเป็นความงดงามอย่างน่าเสียดาย
พลาดจากความเป็นชีวิตเดิมแท้ที่บริสุทธิ์
พลาดจากความสุขที่ไม่ต้องลงทุนด้วยการเห็นแก่ตัว
พลาดจากความสำเร็จอันนำมาซึ่งความดีงาม และมิตรภาพที่พึงมีต่อผู้คนรอบข้าง
พลาดจากความดับทุกข์ในใจที่ควรจะประสบในชีวิตนี้
เพราะไม่รู้จักตั้งคำถามให้กับชีวิต เราจึงต้องตกเป็นทาสทางความคิดฝ่ายลบของตนเอง และผู้อื่นอยู่ร่ำไป
ตกเป็นทาสการถูกครอบงำทางจิตวิญญาณที่ซ่อนอยู่ในตัวเรา
ทำให้จิตเดิมแท้ที่ควรจะได้รู้แจ้งเห็นจริงในชีวิตเลือนหายไป

"ชีวิตที่ดีงามเริ่มต้นที่คำถามที่แท้จริง" จึงเป็นเรื่องที่ต้องพิจารณาด้วยตัวของเราเอง
เพราะหากมีคำถามที่ชัดเจนในตัวเอง ชัดเจนทั้งทางความคิดและการกระทำ
ทางออกที่มีอยู่ซึ่งอาจไม่เหมือนใคร แต่เป็นทางออกของความสุขที่แท้จริง
ย่อมมีโอกาสเปิดเผยความจริงอีกด้านหนึ่งให้ปรากฏได้
เป็นความจริงที่ไม่อิงความสุข และความสำเร็จจากสิ่งอื่นใด

ในความรู้สึกส่วนตัวเกี่ยวกับคำถามเรื่องชีวิต ผู้เขียนประทับใจในคำถามของ "พระพุทธเจ้า"
ผู้เป็นจอมตรัยแห่งพระพุทธศาสนา เพราะหากเราศึกษาชีวิตของพระองค์
จะเห็นได้ว่า ถ้าเปรียบเทียบความร่ำรวยในด้านทรัพย์สมบัติ และเกียรติอำนาจ
พระองค์ไม่ได้ด้อยกว่าใครอื่นในโลก แต่พระองค์ยิ่งใหญ่เกินกว่าที่คนอย่างเราจะประสบได้ในชีวิตนี้

แต่น่าแปลกใจก็คือพระองค์กลับมองว่า ชีวิตที่เกิดมาท่ามกลางความเกิด แก่ เจ็บ และตายเหล่านี้
เป็นสิ่งที่นำมาซึ่งความทุกข์ ทำให้คนเราจมอยู่กับวังวนแห่งความทรมานมิรู้จบ
ถึงจะแสวงหาทางออกให้หลุดพ้นตามวิธีของชาวโลกอย่างไร
ก็ยังชื่อว่าเป็นไปเพื่อการเวียนวนอยู่ในวิถีเดิมอยู่ดี

ด้วยเหตุนี้พระองค์จึงตั้ง "คำถามใหม่" ให้กับชีวิตของพระองค์เอง
เป็นคำถามที่ต้องการออกจากกรอบเดิมๆ ที่เคยมี
เพื่อการหลุดพ้นจากความเกิด แก่ เจ็บ ตายอย่างที่ผ่านมา และจากวังวนของความทุกข์ที่น่ากลัวเหล่านั้น
สุดท้ายพระองค์ จึงตัดสินพระทัยก้าวออกจากความเป็นพระราชาแห่งสมมุติแบบชาวโลก
เพื่อค้นหาความจริงและความหลุดพ้นให้กับตัวเอง จนสามารถค้นพบคำตอบของชีวิตที่ปรารถนา
และได้คำตอบที่เป็น "ความสุขอันยั่งยืน" กระทั่งได้รับการขนานนามว่า "พระพุทธเจ้า" ในเวลาต่อมา

บางคนอาจจะปฏิเสธในใจว่า "ฉันทำอย่างพระพุทธเจ้าไม่ได้หรอก"
แต่หากปรารถนาความสุขที่ไม่ต้องอาศัยทรัพย์ และเกียรติยศชื่อเสียงมาเติมเต็มให้ชีวิตนี้
เราก็ต้องรู้จักปฏิวัติชีวิตของตัวเองให้ได้ ต้องรู้จักแสวงหาจุดยืนที่ช่วยสร้างความเชื่อมั่นให้กับจิตใจ
ถึงแม้ว่าจะยากลำบากสักเพียงใดหรือมิอาจเทียบเท่าพระองค์ก็ตาม
แต่อย่างน้อยได้มีโอกาสเรียนรู้ตามรอยบาทของพระองค์บ้างก็ยังดี
เพราะถ้าเรายอมจมอยู่กับวิถีชีวิตแบบเดิมๆ โดยมีความทุกข์คอยตบหน้าให้น้ำตาริน หรือหมองเศร้า
เพราะสิ่งที่เราปรารถนาไม่รู้จบอยู่นั้น ก็ถือว่าเป็นสิทธิ์ของเรา

แต่ถ้ามีทางเลือก และมีโอกาสแสวงหาความสุขที่ดีกว่าให้ตัวเอง
ทำไมเราไม่ยอมที่จะ "ตั้งคำถามใหม่ให้กับชีวิตของตัวเองล่ะ"
แม้ในเบื้องต้นอาจจะยากลำบากในการหาคำตอบ หรือความเป็นบวกของความสุขให้เจอได้
แต่ครั้นเรารู้จักเรียนรู้ที่จะตอบคำถามที่ตั้งขึ้นมาใหม่ด้วยวิธีการใหม่ๆ ที่นำมาซึ่งความสุขอันแท้จริงได้แล้ว
ชีวิตที่ดำรงอยู่คงไม่ต้องหวังพึ่งวัตถุภายนอกมากจนเกินไป

เพราะความสุขที่แท้จริงมีอยู่ในตัวเราทุกคน
เว้นเสียแต่ว่าจะเปิดใจยอมรับที่จะค้นหา และตอบคำถามใหม่ที่ซ่อนอยู่ในใจเราหรือไม่ เท่านั้นเอง
เริ่มต้นที่การมีคำถามให้กับชีวิต แล้วคำตอบที่ค้างคาใจจะค่อยปรากฏชัดได้ในสักวัน

จากหนังสือ ทำใจเสียบ้าง แล้วทุกอย่างจะดีขึ้น
แต่งโดย: ชุติปัญโญ




 

Create Date : 23 มิถุนายน 2552
0 comments
Last Update : 23 มิถุนายน 2552 13:14:09 น.
Counter : 639 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


ทุกคนไม่ได้รู้ทุกสิ่ง
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 200 คน [?]




Friends' blogs
[Add ทุกคนไม่ได้รู้ทุกสิ่ง's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.