สู้เพื่อลูก-ใครจะคิดว่าเด็กหญิงตัวน้อยจะเปลี่ยนแปลงชีวิตแม่ทุกสิ่ง....
Group Blog
 
All blogs
 

สอนลูกเข้าครัวกันเถอะ แกงจืดตำลึงหวาน(อ่อมแซบ)ผักรวม

ที่สวนหลังบ้านไม่ได้ทำแปลงผักแล้วเนื่องจากหลังแม่มันไม่ดีค่ะ ขุดดินไม่ค่อยได้ แถมมีหอยทากคอยมากัดกินจนผักไม่ค่อยออกเลยงดๆไป แต่ยังมีผักที่รักษาไว้คือตะไคร้ อัญชัญ ชะพลู  กล้วย 

ลงมะรุมไว้กินยอดและเพิ่งลงแคแดงไว้ค่ะ หวังว่าจะได้กิน ก่อนหน้านี้ลงไว้หน้าบ้านตาไม่รู้ฟันทิ้งไปค่ะ เสียดายมาก 

ที่เด่นๆคือต้นตำลึงหวาน  หรือ ต้นเบญจรงค์ห้าสี/ต้นบุษบาริมทาง ต้นแอ่มแซบ  /ต้นบาหยา  หรือ JUSTICIA  GANGETICA อยู่ในวงศ์ ACANTHACEAE  
มีสรรพคุณ บำรุงเลือด บำรุงกำลัง บำรุงสายตา
ส่วนที่กินได้ แทบจะทุกส่วน ไม่ว่าจะเป็น ก้าน ดอก ใบ หรือยอดอ่อน 
 กินได้ทั้งสุกและดิบ     เช่นผัดไฟแดง แกงจืด แกงอ่อม ชุปแป้งทอด ลวก-กินสดจิ้มน้ำพริก  
   รสชาดจะหวานตามธรรมชาติ   ใช้ประกอบอาหารได้คล้ายๆผักตำลึง   มีหลายคนนำไปทำน้ำคลอโรฟิลดื่ม
ตัดแล้วก็แตกยอดเลี้ยงง่ายมาก 

หลังจากได้พากะบูนดูภัตคารบ้านทุ่งตอนตำลึงหวานของพี่สตางค์  รายการนี้แม่มันชอบเป็นพิเศษค่ะ 


แม่มันก็เลยเสนอกะบูนว่า ทำกันมั่งไหมลูก  ถ่ายคลิปด้วยเลยนะ แม่จะได้หัดตัดต่อ
กะบูนโอเคงั้นเรามาเริ่มกันเลยค่ะ ไปเก็บผักกัน
บ้านเรามีตำลึงหวานทั้งดอกขาวและดอกม่วงค่ะ


ได้ยอดอ่อนๆพอสมควรเลย 


ให้กะบูนเอามาล้างทำความสะอาดให้ดี  ถึงไม่มียาฆ่าแมลง แต่ก็ไม่ละเลยเรื่องความสะอาดนะคะ

ได้มา1ตระกร้าพอให้กะบูนกิน2มื้อ


เตรียมส่วนผสมค่ะ บ้านเราจะชอบแกงจืดแบบใส่เห็ดมากๆ  จะได้ดีต่อสุขภาพ

แกงจืดตำลึงหวาน(อ่อมแซบ)ผักรวม
  ส่วนผสม ตำลึงหวาน เห็ดรวม + ฟักทอง + ต้นหอม+ผักชี + สาหร่าย +หมูบด +ซุปก้อน + น้ำมันหอย +ซีอิ้วขาว 



จัดเตรียมของให้พร้อมก่อนจะลงมื้อแกง


มีคนคอยให้กำลังใจ น้องปั้นเหน่งค่ะ 

แกงจะเสร็จแล้ว


เราทำคลิปไว้ด้วยค่ะ เชิญชมได้เลยค่ะ 






เสร็จแล้วค่ะ อร่อยกินง่ายๆ ผักเยอะๆดีต่อสุขภาพ



ขอบคุณที่มาอ่านนะคะ 




 

Create Date : 25 ตุลาคม 2558    
Last Update : 26 ตุลาคม 2558 10:13:07 น.
Counter : 7722 Pageviews.  

ไปเที่ยวตลาดน้ำท่าคาและทริปครอบครัวดีๆจากแม่กลองแค้มป์ แถมด้วยสวนน้ำไข่มุกอัมพวา

  10 - 11 ตค.58 ที่ผ่านมาได้นัดกับเพื่อนๆไปเที่ยวแบบครอบครัวที่ตลาดน้ำท่าคา จังหวัดสมุทรสงคราม  พิเศษที่เราโดยจองทริปของแม่กลองแค้มป์ไว้  เราสามารถเลือกกิจกรรมได้ว่าจะเป็นแบบเที่ยววันเดียวหรือค้างคืน

เราเลือกกิจกรรมแบบ 1 วัน 1 คืน
คือ ทำขนมไทย ล่องเรือพาย และปั่นจักรยานเที่ยวชุมชนค่ะ
ราคารวมที่พักอาหารเย็นอาหารเช้าคนละ800บาท




เราเดินทางจากบ้านไปถึงตลาดน้ำท่าคาแบบสบายๆ วันที่ไปเป็นเทศกาลกระยาสารทพอดีค่ะ มีงานออกร้านของแต่ละหมู่ด้วย








ชอบภาพนี้ค่ะ  น่ารักดี


เดินเล่นรอเพื่อนๆที่มาจากกรุงเทพก่อนค่ะ 
ตลาดน้ำท่าคาจะเน้นของในชุมชน ทั้งของกิน ผลไม้ ผัก ของแห้ง เป็นคนในชุมชนจริงๆค่ะ  ท






ได้เวลาแล้วค่ะ เข้าที่พักของเราวันนี้เนื่องจากแม่กลองแค้มป์มีแขก เราเลยพักที่ นิทานคำกลอนโฮมสเตย์ ที่อยู่ติดกับตลาดพอดีค่ะ 



พอเข้าทริป ทำความเข้าใจนัดแนะกิจกรรมกันแล้วเราก็เริ่มที่กิจกรรมแรก 

1. ล่องเรือพาย
ชมสวนผลไม้และบรรยากาศคลองใช้เวลาประมาณ 1 ชม.กว่าๆค่ะ 
บรรยากาศสบายๆร่มรื่นดี 















2. ทำขนมไทย
ขนมที่จะทำคือขนมถั่วแปบ และขนมต้มสีธรรมชาติ 
โดยคุณยายที่เป็นแม่ค้าขนมมาสอนเองเลยค่ะ 

ขนมทั้ง2อย่างใช้วัตถุดิบเดียวกันคือแป้งข้าวเหนียว 
สีที่ใช้มี3สีคือ
สีฟ้าจากดอกอัญชัน
สีม่วงจากเผือก 
สีเหลืองจากฟักทอง 
คุณยายเตรียมปั้นมะพร้าวกวนน้ำตาลปี๊บปั้นรอทำไส้ขนมต้มไว้แล้ว
มีมะพร้าวขูดนึ่งใส่เกลือและถั่วทองนึ่งใส่เกลือรอพร้อม 



เด็กๆเริ่มบรรเลงการนวดแป้ง ชอบมากก






ปั้นขนมต้มก่อนนะคะ สนุกสนาน  ปั้นเสร็จเอาลงต้มเลย  พอลอยแล้วถึงเอามาคลุกกับมะพร้าวค่ะ 




ส่วนถั่วแปบง่ายกว่านั้นค่ะ ปั้นแป้งต้มแล้วมาคลุกถั่วก่อน และคลุกมะพร้าว เสร็จแล้วค่ะ 



เป็นที่น่าเสียดายว่าเด็กๆชอบทำก็จริงแต่ไม่กินขนมไทย 
มีกะบูนคนเดียวที่กินเพราะแม่สอนให้กิน 
.....................

เสร็จแล้วเราพักผ่อนกันตามอัธยาศัยเพื่อรอกิจกรรมต่อไปค่ะ

3. ปั่นจักรยานในชุมชน 
ตอนแรกจะปั่นตอนเช้าแต่รถมามากเพราะมีงานกระยาสารท เลยเลื่อนเป็นตอนเย็นค่ะ ตลาดน้ำท่าคาพอช่วงบ่ายคล้อยก็จะสงบแล้ว เราสามารถปั่นได้ปลอดภัย 

ระหว่างปั่นก็จะมีจุดให้แวะชมด้วยค่ะ 



จุดแรกที่เราแวะคือ เตาน้ำตาลมะพร้าว  อุดหนุนกันไปคนละกิโล 
เตานี้ปนน้ำตาลทรายน้อยค่ะ แต่เอาแบบไม่ปนเลย เขาบอกว่าไม่มีค่ะ ทุกเตาใส่น้ำตาลทรายหมดจะมากหรือน้อยเท่านั้นเอง 



จุดต่อมาที่เราแวะคือกลุ่มจักรสาน 


สุดท้ายคือบ้านไม้ 100 ปีค่ะ ขออนุญาตเจ้าของบ้านเดินชมบริเวณบ้านค่ะ



บรรยากาศดีมาก 


หมดกิจกรรมนี้แล้วก็พาเด็กๆเข้าที่พัก อาบน้ำรอทานข้าวเย็นค่ะ 
กินที่ร้า่นค้าตรงตลาดค่ะ ง่ายๆแต่อร่อยทุกอย่าง 



4.ล่องเรือพายชมหิ่งห้อย
เส้นทางเดิมในตอนกลางวันแต่คนละบรรยากาศ
สวยกว่าอัมพวา สงบกว่า 
ขออย่างเดียวนักท่องเที่ยวเองก็อย่าส่งเสียงดัง
(กลุ่มอื่นตามหลังเราเสียงดังลั่นคลองเลยค่ะ)  ไม่ได้ถ่ายรูปมาเพราะกล้องไม่สามารถจริงๆค่ะ


หลับสบายไปเลยค่ะ 

เช้าแล้ว ตื่นมาใส่บาตรที่ท่าน้ำกัน 



กินข้าวเช้าที่โฮมสเตย์เสร็จเราก็แยกย้ายค่ะ  แต่บ้านเรายังไม่กลับ ไปต่อกันที่สวนน้ำไข่มุก ค่ายนรสิงห์ เลยตลาดอัมพวามาทางตลาน้ำบางนกแขวกค่ะ 



ค่าเข้าชมคนละ50บาท ใส่ชุดว่าน้ำมีโปรลดครึ่งราคา เหลือ150 บาท ให้กะบูนเล่นคนเดียวค่ะ เครื่องเล่นมีพอสมควร มีเจ้าหน้าที่ดูแลความปลอดภัย มีโซนเด็กเล็ก



มีห้องพักด้วย น่ามาลอง


ระหว่างรอก็หาของกิน ราคาไม่แพงมาเท่าไร ปกติค่ะ 


กะบูนสนุกมากเลยค่ะ 
สไลเดอร์มี3ระดับ กะบูนไม่กล้าเล่นระดับสูงสุดค่ะ (แต่ก็ปลอดภัยนะคะ มีเด็กเล่นหลายคนเลย 


จบทริปกลับบ้านแล้วค่ะ ขอบคุณที่มาอ่านนะคะ 





 

Create Date : 25 ตุลาคม 2558    
Last Update : 7 พฤศจิกายน 2558 9:30:13 น.
Counter : 10995 Pageviews.  

Agro tourism ล่องคลองมหาสวัสดิ์เที่ยวชุมชนเกษตร

วันปิยมหาราชปีนี้ได้วันหยุดยาวติดกัน 3 วัน แต่เราไม่ได้มีแผนจะไปไหนไกลๆกันเพราะไม่ได้จองไว้ ไม่มีงบนั่นเองค่ะ ....  

ตอนแรกจะนัดเพื่อนเข้าไปเที่ยวกรุงเทพ แต่ยกเลิก จึงเปิดหาสถานที่ใกล้ๆบ้าน(นครปฐม)ซึ่งก็ไปกันมาหลายที่แล้ว อยากไปที่ใหม่ๆบ้าง 
ให้สมาชิกในบ้านเลือกระหว่างไปเที่ยวบ้านแพ้ว (วัดหลักสี่กับศูนย์เรียนรู้ปิยชนก) กับล่องเรือคลองมหาสวัสดิ์  
สมาชิกโหวตล่องเรือคลองมหาสวัสดิ์  โอเคงั้นเราไปกัน 



เช้าทำอะไรเสร็จไม่รีบร้อน เดินทางจากอำเภอเมืองไปอำเภอนครชัยศรี เลี้ยวซ้ายเข้าตลาดท่านา  รถติดพอสมควรเลย คนมาเที่ยวเยอะมาก ข้ามสะพานแม่น้ำนครชัยศรี ตรงไปวัดสุวรรณาราม ตำบลศาลายา



ในวัดสุวรรณาราม มีรถนักท่องเที่ยวอยู่บ้าง ร้านขายของ2ร้าน ดูไม่ใช่ที่ท่องเที่ยวอ่ะ 
เราเดินไปที่ศูนย์บริการนักท่องเที่ยวซึ่งเป็นร้านก๋วยเตี๋ยวและกาแฟโบราณด้วย  มีลุงกับป้าคอยต้อรับและจัดคิวเรือ 



สมาชิกเริ่มหิวข้าวกลางวันเราเลยสั่งก๋วยเตี๋ยวมากินก่อน ส่วนกาแฟวันนี้ลุงงดค่ะ เจอออร์เดอร์ใหญ่ไปตอนเช้า 

เราสั่งก๋วยเตี๋ยวแล้วก็ไปเลี้ยงปลารอที่ท่าน้ำสำหรับลงเรือ



ปลาสวายตัวใหญ่มาก แต่ไม่เบียดเสียดเยียดยัดกันมาก 
ถัดไปคือห้องแถวเก่าซึ่งเป็นร้านของชำและน้ำแข็งไส 


ร้านดูไม่เฟคนักท่องเที่ยวมาก เป็นแบบโชห่วยของแท้ค่ะ  ถัดไปเป็นห้องแถว นึกถึงเรื่องอยู่กับก๋งเลย   บรรยากาศสงบสุขดีจัง


ก๋วยเตี๋ยว+ น้ำแข็งไสมาแล้วค่ะ 
สั่งเส้นเล็กน้ำ - แห้ง - ต้มยำ ครบเซ็ท 






ชามละ 20บาทเอง   รสชาติดีค่ะ แต่เส้นยุ่ยไปนิด ไม่ว่ากันค่ะ 
เรือมาแล้ว เราไปกันเลย  

วันนี้เราได้ไปเรือลุงอู๋  ซึ่งพอจบทริปแล้ว เราลงความเห็นว่าโชคดีมากๆ เพราะลุงอู๋ดูแลดีมากและเป็นคนพื้นถิ่นจริงๆ  ถามอะไรแกตอบได้หมดค่ะ อีกอย่างคือ ลุงมีจิตสาธารณะ ใจเย็นมากๆด้วยค่ะ 
เราจะไปกัน 4 จุดคือ 

1. กลุ่มแม่บ้านโอทอป 
2. นาบัว 
3. สวนผลไม้
4. สวนกล้วยไม้

ไปกันเลย 


เรือที่ผ่านไปมามีเป็นเรือนักท่องเที่ยวเหมือนกัน  บรรยากาศชิลล์ๆ ไม่จอกแจกจอแจ  
ลุงอู่เล่าว่าเมื่อก่อนคนมาเยอะเรือเป็น20ลำ ตอนนี้คนน้อยลงเหลือเพียง 10 กว่าลำเท่านั้น  คนหนุ่มสาวก็หนีไปหางานประจำทำกันมากกว่า....

มาดูบรรยากาศกันต่อดีกว่าค่ะ 






ผ่านบ้านที่ทำน้ำฟักข้าวขายด้วยค่ะ ลูกสวยๆห้อยโตงเตง 





มีบ้านที่ทำแพผักบุ้งแม่น้ำ (แบบที่ใส่เย็นตาโฟ) หลายบ้านเลยค่ะ



คนพื้นที่เดิมๆ จะมีบ้านติดน้ำ มีศาลาริมน้ำกันหมดเลยค่ะ บ้านนี้กำลังรวบรวมผักบุ้งเพื่อส่งกันเลยค่ะ 


จุดที่ 1 กลุ่มแม่บ้านโอทอป
อยู่ตรงบ้านศาลาดินนะคะ
เลือกที่นี่เพราะอยากกินขนมอ่ะ 
ข้างตังไร้ซ์เบอร๊่ที่นี่ดังมากค่ะ และมีผลิตภัณฑ์แปรรูของในพื้นที่ไม่ใช่ว่าเอาของที่อื่นมาลงๆๆให้มันดูเยอะไปหมด
ขึ้นจากท่าน้ำไปเจอจุดให้ชิม ลองกันเลยค่ะ   ข้างตังจะมีทั้งหน้างาและหมูหยอง เค้าให้ทาน้ำและราดหน้ากันเองสนุกสนาน 



มาดูของอื่นๆกันนะคะ 






ราคาของไม่แพงมาก ไม่โหล  
นำเสนอบานานุ่มเป็นการส่วนตัว กล้วยหอมกวนคิดว่าธรรมดา แต่นุ่มนวลอร่อยมากกกกกก ซื้อมาฝากเพื่อนแต่กินเองหมดเลย 



ที่นี่มีคนมาดูงานเยอะมีแปลงข้าวสาธิตไว้ให้เด็กๆดูด้วย 



ข้างหน้าศูนย์เป็นร้านก๋วยเตี๋ยวริมน้ำ  และมีร้านกาแฟ เป็นจุดพักของนักปั่นจักรยาน





เราไปต่อกันเลยดีกว่าค่ะ


จุดที่ 2 นาบัว
อยู่แยกจากคลองใหญ่ เข้าซอยไปค่ะ 



น้ำใสกว่าข้างนอก คลองใหญ่ที่น้ำดูดำๆเพราะช่วงนี้ของปี จะมีน้ำเสียจากนาข้าวสูบออกมาปล่อยในคลองค่ะ 
ในอนาคตเขาจะปิดประตูน้ำ  ในคลองจะไม่มีการไหลเวียนของน้ำอาจจะแย่ลงก็ได้ เอาใจช่วยให้มีทางออกที่ดี 
เห็นขอบถนนสูงๆลุงอู๋เล่าให้ฟังว่าตอนน้ำท่วมใหญ่ เรือต้องขึ้นไปแล่นบนถนนเลยค่ะ 


มาถึงแล้วค่ะ บ้านที่ทำนาบัว 



กำลังจะเดินไปที่นา กะบูนกริ๊ดกร๊าดอะไร 


เจอเจ้าถิ่นค่ะ  น้องปอม2ตัวมารับแขก น่ากลัวมากกกก



ทางไปนาบัวจะมีพืชผสมผสานหลายอย่างเลย น่าอยู่มากๆ 


มาถึงนาบัวมีศาลานั่งเล่น และศาลาใหญ่ไว้ให้นักท่องเที่ยวไปลงเรือน่านอนเล่นมากก 


วันนี้บรรยากาศโดยรวมดีไม่ร้อน บัวที่นี่เป็นบัวหลวงแดงค่ะ
ลุงอู่เล่าว่าราคาดีกว่าบัวหลวงขาวเพราะส่งออกนอกได้ด้วย 
หน้าหนาวจะมีน้อยกว่าหน้าร้อน  ถ้าจะเด็ด ตอนนี้เลยแพงหน่อยดอกละ 4 บาท ก็ดีนะคะ คิดตังค์ด้วย คนจะได้ไม่เด็ดมั่วซั่ว 




เรือสแตนเลสมี2 ลำ การท่องเที่ยวให้มาค่ะ ต้องรอกลุ่มอื่นก่อนนะคะ
ระหว่างรอจะให้อาหารปลาหรือชมบัวไปก่อนก็ได้ 



พอถึงคิวก็ลงกันเลยค่ะ แดดเริ่มออก ลืมเอาหมวกมา ลุงอู่ใจดีเอาร่มมาให้ด้วย

คนขับเรือที่พามาจะเป็นคนพายให้เราและมีพายอีกอันให้เราลองหัดพายค่ะ 


ยายเด็ดดอกบัวงามๆไป6ดอกจะเอาไปไหว้พระเย็นนี้ 
กะบูนอยากได้ใบบัว ลุงอู๋ใจดีเด็ดให้แถมเอาใบพันก้านให้ด้วย กันเจ็บมือ  ใจดีจัง 


น่าเอาไปทำข้าวห่อใบบัวแต่ ลุงอู่ไม่แนะนำโดยบอกว่า มีการฉีดยาฆ่าเพลี้ยไฟอาทิตย์ละครั้ง ถึงไม่อันตรายมากก็อย่าเสี่ยงดีกว่า 
เราก็คิดว่ายายังไม่เยอะมากดูจากธรรมชาติที่นี่พวกแมลงยังอยู่ดี มีฝูงแมลงปอวนเวียนอยู่ใกล้ๆ   นกกาน้ำอีกฝูงอยู่ตรงคันนา ซึ่งมีการปลูกพืชผสมผสานเช่นกล้วย  ตะไคร้ 






เกือบครบรอบ ฝนมาค่ะ เลยรีบขึ้นไปพักกันที่บ้านเจ้าของนา เจอเต่าบินที่เขาเลี้ยงไว้ เชื่องมากๆ ลูบได้จับได้ไม่กัดค่ะ 


ฝนเริ่มแรง  แต่ก็ยังสบายๆ 




มองไปรอบๆ มีกำตะไคร้ไว้ส่งขายด้วย คนขยันไม่มีวันจนค่ะ 


ช่วงรอกะบูนไม่เบื่อเพราะมีของเล่น  พยายามทำใบบัวเป็นร่มบ้าง  เอาใบบัวไปรองน้ำกลิ้งๆเล่นบ้างสนุกเขาล่ะ 




ฝนเริ่มซาแล้ว ไปต่อกันค่ะ ลุงอู๋เช็ดเรือซะเรี่ยมเลยเอาผ้าปิดของกันเปียกให้เราด้วย  บอกแล้วว่าดูแลดีมาก 



จุดที่ 3 สวนผลไม้
สวนนี้เป็นเกษตรกรดีเด่นค่ะ  แต่เจอวิกฤตน้ำท่วมใหญ่ ต้นไม้ล้มตายไปเยอะต้องปลูกใหม่ เพิ่งจะเก็บได้ไม่มากช่วงนี้เลยมีผลผลิตไม่ค่อยหลากหลาย ต้องใช้ผลไม้จากเครือข่ายมาเพิ่มบ้าง แต่ไม่มีย้อมแมวขายเอาของที่อื่นมาปนขายค่ะ ยกนิ้วให้ 



มีค่าขึ้นรถอีแต๋นเที่ยวละ80บาทค่ะ จัดไป  แต่รอคิวนิดนึง เขามีน้ำเย็นขนม+ผลไม้ต้อนรับค่ะ


ระหว่างรอเดินดูของกันหน่อย  
ที่นี่จะเด่นเรื่องการแปรรูปกล้วยหอมทอดเป็นรสต่างๆมีทั้งแบบธรรมชาติ เนย หรือที่เด็กๆชอบเช่นบาร์บีคิว  สาหร่าย  พิซซา ต้มยำ 


ผลไม้ตอนนี้ก็จะมีกล้วยเป็นส่วนมากค่ะ


ชมต้นไม้ ดอกไม้สวยๆ  อิจฉาคนมีสวนแบบนี้จัง 




รถมาแล้วคุณลุงบอกไม่ต้องพัก  ขึ้นรถมาเล้ยยย 
ไปกันเล้ยยย 



เข้าไปถนนในสวน คุณลุงเป็นแฟนพี่ดอม The Fast and the Furious หรือเปล่าคะ มันส์มาก



ผลไม้ที่ปลูกเน้นขนุน(เหลืองบางเตย) กับส้มโอ(ขาวน้ำผึ้ง)  มะม่วง  มีกล้วยและหมากแซมๆ มีทองหลางที่รอดน้ำท่วมหลายต้นเลย 







พอสักพักก็จะเจอนาข้าว เห็นคันนาสูงๆ ตอนน้ำท่วมใหญ่ไม่รอดนะคะ 





สดชื่นนนนนน


สนุกมากๆค่ะ แนะนำเลย 
เสร็จแล้วเราออกจากสวนผลไม้ไปต่อกันค่ะ


จุดที่ 4 สวนกล้วยไม้
ที่สุดท้ายของทริปแล้วค่ะ 
ตอนแรกลุงอู๋บอกว่าไม่แน่ใจว่าจะลงสวนได้ไหม เพราะฝนตกดินแฉะอาจจะเดินไม่ได้ ลองไปดูกันก่อนละกันนะ 

ขับเรือย้อนไปหน้าวัดเลยไปอีกหน่อย เกือบถึงศาลายาเลย เห็นแนวขาวๆที่ริมคลองไหมคะ


มันคือการประยุกต์ใช้ขวดน้ำเป็นทุ่น ที่เมื่อก่อนจะเป็นไม้ไผ่  เพื่อทำทุ่นกันสวะค่ะ 






ช่วงผ่านหน้าวัด เจอแพกอใหญ่ลอยมาลุงอู๋บอกว่าขอขับผ่านแพผักตบชวาเพื่อจะตัดออกไม่ให้ใหญ่เกิน
ผลก็คือมีเชือกในกอผักตบชวาทำให้พันใบเรือต้องเอามีดมาตัดออก
สวะนี่มีคนเก็บขึ้นมาตากแห้งขายให้คนที่ทำดินถุงเกษตร กิโลละ20บาทค่ะ 


เสร็จแล้วไปต่อค่ะ คนธรรมดาที่ใช้เรือยังพอมีนะคะ 




มาถึงสวนขึ้นท่าน้ำ เจอไข่หอยเชอรี่  เลยเก็บให้กะบูนดู ลุงอู่ก็มาช่วยเก็บให้ กะบูนสนใจตื่นเต้นมาก เพราะไม่เคยเห็นและสีมันสวยๆดี 




ไปกันต่อค่ะ สวนกล้วยไม้ฝนตกน้อยกว่าตรงนาบัวลงดูได้ค่ะ  มี 2 สวนถนนผ่านกลางพอดี 



มีแบบใส่กระถางขายด้วยนะคะ 


ลงไปสวนทางซ้ายมือก่อน (หันหลังให้คลอง) จะเป็นสวนที่ตัดดอกเพื่อกำขาย  ในสวนจะมีใบเตยเองด้วย 1กำ/1ต้น กำส่งกำละ8บาท ขายปลีกกำละ10บาท มาถึงบ้านเรา 2 กำ25บาท  
ลุงกับป้าจัดได้เร็วและสวยค่ะ 






เข้าไปดูในสวนได้ค่ะ สวยอ่ะ










ข้ามไปอีกฟากค่ะ ลุงอู่อธิบายว่าการทำกล้วยไม้ ต้องคัดขายส่งนอก ซึ่งมีมาตรฐานสูงด้วย และขายตลาดในประเทศด้วย ถึงจะอยู่ได้ค่ะ 













แถมนิด กล้วยหอมข้างสวนกล้วยไม้ โดนทอดทิ้งแบบนี้ คนซื้อกล้วยหอมหวีละ30-40 บาท  ปลีกล้วยละ5-10บาทแบบเราปวดใจ 


จบทริปแล้วล่องเรือกลับค่ะ 






กลับมาที่ท่าน้ำใช้เวลาตั้งแต่ก่อนเที่ยงนิดๆถึงบ่าย 3 
คุ้มค่ามากๆจ่ายค่าเรือไป560บาท ให้ลุงอู๋พิเศษไปเป็นสินน้ำใจ 
ลุงไม่ได้กินข้าวกลางวัน เพราะมีกลุ่มใหม่รอคิวอยู่ 
ลุงอู่บอกว่าที่นี่มีการท่องเที่ยวมา 15 ปีแล้ว ตอนนี้คนน้อยลงน่าจะเป็นเพราะมีตลาดน้ำใหม่ๆผุดขึ้นเยอะมาก  ที่นี่เลยมีความพยายามจะทำตลาดน้ำที่ศาลาดิน (ตรงแม่บ้านโอทอป) เพื่อจูงใจให้คนมาเที่ยว
ขอให้ประสบความสำเร็จนะคะ 


มีโปรแกรมดีๆนำเสนอด้วย วันลอยกระทงที่นี่จะมีตักบาตรเรือตอนเช้าและงานลอยกระทงค่ะ ฝากไว้เลย ถ้ามีโอกาสอาจจะมาเหมือนกันค่ะ(ที่กลัวคือขับรถกลางคืนไม่เก่ง ถ้าถนนตรงนครชับศรีดีขึ้นก็น่าสนค่ะ) 


จบทริปด้วยความอิ่มท้องอิ่มอกอิ่มใจ แต่ยังวันอยู่เราขับรถไปต่อกันอีกนิดที่ประจำของเรา องค์พระปฐมเจดีย์ 



พาครอบครัวมาสักการะพระรูปของสมเด็จพระปิยมหาราชค่ะ 


อยู่ตรงวิหารที่ขึ้นมาจากประตูหลวงพ่อศิลาขาว ที่มีเจดีย์ยายหอมนะคะ



วนมาไหว้พระร่วงโรจนฤทธิ์วันนี้คนมามากจริงๆค่ะ ขนาด4โมงกว่าแล้ว



เราเลยไม่กินตรงโต้รุ่งค่ะ ไปกินร้านประจำดีกว่า ร้านใหญ่กระทะร้อน ขวัญใจเด็กศิลปากร 
หน้าผับ 1-2-3 


ที่นี่เค้าเด่นอาหารผัดค่ะ 
ข้าวผัดทะเล 



ข้าวผัดผงกระหรี่ทะเล 



เซี่ยงไฮ้กระทะร้อน



มีแมวจรรู้ว่ากะบูนบ้าแมว แอบมาเล่นด้วย ถ้าไม่ติดหมาที่บ้านมีอุ้มกลับค่ะ 


ปิดทริปสุขสันต์วันหยุดยาว 
ขอบคุณที่มาอ่านนะคะ 
ขอบคุณพี่ๆน้องๆทุกคนที่มาเยี่ยมจะตามไปทักนะคะ 




 

Create Date : 24 ตุลาคม 2558    
Last Update : 26 ตุลาคม 2558 10:12:35 น.
Counter : 3230 Pageviews.  

ชวนกินกะลอจี๊ ขนมโบราณที่นับวันจะสูญหาย

  กะลอจี้เป็นขนมสายพันธ์ุจีนที่ใช้วัตถุดิบไม่มาก ใช้เพียงเมล็ดธัญพืชเป็นหลักคือแป้งข้าวเหนียว งา น้ำตาล น้ำมัน

วิธีทำก็ไม่ยากแต่ต้องอาศัยความชำนาญแป้งถึงจะอร่อย
โดยนำแป้งข้าวเหนียวไปนึ่งให้สุกแล้วมาจี่น้ำมันให้กรอบแล้วตัดเป็นชิ้นใส่น้ำตาลงา  ฟังดูง่าย แม่มันเคยอ่านไม่เคยทำนะคะ

วันนี้เราไปเที่ยวหน้าองค์พระกัน


ที่หน้าองค์พระจะมีกะลอจี๊อยู่เจ้านึงนะคะ 
คุณลุงขายมานานแล้วค่ะ ชิ้นละ20บาท อยู่ตรงประตูหน้าพระร่วงโรจนฤทธิ์บริเวณถนนหน้าตลาดนะคะ


แผ่นละ20บาท  มีทั้งแป้งข้าวเหนียวแบบดั้งเดิม  แป้งข้าวเหนียวดำ   และแป้งข้าวเหนียว+เผือกนะคะ


คุณลุงจะจี่ไว้เมื่อเราไปซื้อจะตัดเป็นชิ้นๆคลุกในน้ำตาลงาให้เราค่ะ 



อร่อยกรอบๆ หนึบๆ นุ่มนวล  หวานหอมน้ำตาลงา 



ลองชิมกันได้นะคะ  ลองให้เด็กๆชิมกันอร่อยดี เดี๋ยวนี้เด็กกินขนมไทย ขนมโบราณกันน้อยมาก  ลุงบอกว่าหมดลุงก็คงไม่มีใครขายแล้ว เสียดายขนมสูตรโบราณเก่าแก่ค่ะ  
ขอบคุณที่มาอ่านนะคะ




 

Create Date : 18 ตุลาคม 2558    
Last Update : 18 ตุลาคม 2558 14:24:39 น.
Counter : 4326 Pageviews.  

สอนลูกเข้าครัวกันเถอะ ทำข้าวห่อไข่ (โครงการอร่อย Express จูเนียร์)

  แม่มันเจอโครงการอร่อย Express จูเนียร์ ในเฟสของวารสารแม่บ้านค่ะ เข้าไปดูได้ที่เฟสแม่บ้านนะคะ  คลิกที่นี่ 

โดยกติกาง่ายๆ เพียงแค่น้องๆ สร้างสรรค์เมนู Lunchbox โดยใช้ "ไข่ไก่อนามัย ตราเบทาโกร" (พร้อมโชว์ผลิตภัณฑ์) เป็นหนึ่งในวัตถุดิบหลัก แล้วถ่ายคลิปการทำอาหารของน้องๆ ส่ง
เลยชวนกะบูนทำคลิปส่งพอสนุกๆ ให้กะบูนหาว่าอยากทำเมนูอะไร ลองหาและช่วยกันคิดในที่สุดก็ลงตัวที่เมนู "ข้าวห่อไข่" ค่ะ 

มันคือข้าวผัด ห่อไข่เจียวนั่นเอง

กะบูนซ้อมห่อไข่อยู่2-3จานพอจะจับทางได้ ก็ห่อได้ค่ะ 
เคล็ดลับคือ
1.ใช้ไข่2ใบ  
2.กรองไข่ที่ตีแล้วด้วยกระชอนให้เนื้อเนียน จะห่อง่าย 
(อันนี้เธอหาจากกูเกิ้ลเองลยะนะคะ ) 

วันถ่ายคลิปหาวัตถุดิบคือไข่เบทาโกรกันอยู่นาน ที่เมืองนครปฐมต้องไปซื้อที่ชอปเบทาโกรในตลาดซอย2ค่ะ 
กะบูนตั้งใจทำมากถ่ายไป 2 เทค ยาว 10กว่านาที 
ผลงานของหนูค่ะ 


น่ากินไหมคะ  จานนี้อร่อยป่าวไม่รู้เพราะเธอกินเองค่ะ (จานที่ห่อไม่ได้ แม่กับยายกิน ) 


จากนั้นแม่มันก็เป็นคนตัดต่อด้วยโปรแกรม window movie maker ซึ่งก็เปิดดูวิธีจากกูเกิ้ลด้วยเหมือนกัน
โหลดเพลงประกอบ+ตัดต่อตอนหัวค่ำจนถึงตี1 
เช้าอีกวันเรียนรู้วิธีใช้เวบdropbox ส่งไฟล์ขนาดใหญ่ไปให้แอดมิน
เย็นวันนั้น ก็ได้เห็น



รู้สึกขอบคุณเฟสแม่บ้านมากๆที่จัดกิจกรรมนี้ กะบูนตื่นเต้นมากค่ะ ที่คนกดดูเยอะมาก  
อยากให้กำลังใจหนูกะบูน  กดคลิกที่นี่นะคะ 



ฝีมือน้องๆคนอื่นๆก็ใช่ย่อยค่ะ ภาษอังกฤษกระจายยก็มี แบบบ้านๆแบบกะบูนตอนนี้ยังไม่มีค่ะ :-D 


เข้าดูเฟสหน้านี้ คลิกที่นี่นะคะ 



ลองชมวีดีโอกันค่ะ 




แม่มันภูมิใจลูกสาวมาก ไม่ว่าจะแพ้หรือชนะในโครงการแต่เราก็ทำได้แล้วค่ะ 

ขอบคุณที่มาอ่านนะคะ 




 

Create Date : 22 กันยายน 2558    
Last Update : 23 กันยายน 2558 8:42:39 น.
Counter : 1364 Pageviews.  

1  2  3  4  5  6  7  8  9  10  11  12  13  14  15  16  17  18  19  20  21  22  23  24  25  26  27  28  29  

แม่น้องกะบูน
Location :
นครปฐม Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 11 คน [?]




(สงวนลิขสิทธิ์ ตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2539 ห้ามผู้ใดละเมิด ไม่ว่าการลอกเลียน หรือนำส่วนหนึ่งส่วนใดของข้อความใน blog แห่งนี้ไปใช้ ทั้งโดยเผยแพร่และเพื่อการอ้างอิง โดยไม่ได้รับอนุญาตเป็นลายลักษณ์อักษร จะถูกดำเนินคดี ตามที่กฏหมายบัญญัติไว้สูงสุด )
New Comments
Friends' blogs
[Add แม่น้องกะบูน's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.