(บล็อคนี้อาจจะดูสับสน คร่ำครวญไปหน่อย คนขี้รำคาญโปรดหลีกเลี่ยง)
อัพข่าวการเปลี่ยนแปลงหน่อยนะคะ หลังจากตกงานมานานเกือบ 5 ปี ตั้งแต่ท้องน้องกะบูนได้3เดือนกว่าล่ะค่ะ เลี้ยงลูกไปหางานไป เพิ่งมาได้งานเมื่ออาทิตย์ที่แล้วนี้เอง เป็นครูอัตราจ้างโครงการไทยเข้มแข็งที่รร.พระประโทนค่ะ งบจ้างกพ.-กย.53นี้เอง ได้เริ่มงานไปแล้วเมื่อ 21มค.ที่ผ่านมาค่ะ
ตั้งแต่วันแรกที่รู้ว่าได้งาน วูบแรกก็ใจหายค่ะ นี่เราต้องไปทำงานไม่ได้อยู่ดูแลลูกแล้วหรือนี่ ถึงเวลาแล้วสินะ น่าจะดีใจแต่ทำไมมันเศร้าแบบนี้
พอบอกข่าวตา ยาย ลุง น้า ของกะบูนก็ดีใจค่ะ เพื่อนๆของเราก็ดีใจด้วยเพราะลุ้นกันมานาน แต่พอบอกเพื่อนๆว่ารู้สึกแย่ๆไม่ค่อยอยากทำงานก็โดนด่าตามเคยค่ะ ได้งานแล้วยังจะเลือกอะไรอีก
เด็กนักเรียนก็เป็นเด็กที่มาจากครอบครัวค่อนข้างจนค่ะ แต่ก็น่ารักบ้างดื้อบ้างตามประสาค่ะ วันแรกที่ไปโรงเรียนอย่างเป็นทางการ เราขี่มอร์เตอร์ไซด์ไม่เคยทาง เข้ามาจะถึงหน้าโรงเรียนแล้วแต่ดันไม่เห็นลูกระนาด เลยชนแรง กระโปรงก็แคบเลยล้มโครม เด็กๆก็วิ่งมาช่วยยกรถยกครูค่ะ (วันแรกก็ดังซะแล้ว) ก็อยากสอนพวกเด็กๆนะคะ แต่ไม่ได้สอนเต็มตัวเป็นเพียงครูผู้ช่วยให้ครูเจ้าของวิชาเท่านั้น
ตอนนี้ทำงานมาได้ 4 วันยังอยู่ระยะปรับตัวค่ะ ทางด้านกะบูนเองก็มีอาการบ้างเล็กน้อย ต้องให้ยายไปรับส่ง ยังไม่คุ้นเคยสักเท่าไรค่ะ วันแรกพอเข้าโรงเรียนรอเข้าแถวก็ตะโกน "ไชโย้ แม่หนูรวยแล้ว แม่หนูมีงานทำแล้วไชโย เราจะรวยแล้วๆๆ...." เออ ลูกเอ๊ยยย (บอกเค้าไว้ว่าแม่ทำงานจะได้รวยๆมีเงินซื้อของให้บูนได้ค่ะ) แหม่ ครูขำก๊ากเลยค่ะ เอามาเล่าให้ยายฟัง แม่มันอายยสิคะเนี่ยแต่ก็ขำนะคะ แต่พอไปสักพักกะบูนก็เริ่มหงอยๆค่ะ วันนี้มีตัดพ้อ "แม่น่ะไม่รักษาสัญญา ทำไมหนูอุตส่าห์กลับบ้านมาเร็วแล้วแต่แม่ไม่กลับบ้านเร็วมั่งอ้ะ " ก็มันไม่เหมือนกันนี่ลูก(แม่มันกลับถึงบ้านประมาณ 5 โมงเย็นค่ะ) พูดแบบนี้แม่เศร้านะ แม่ไม่อยากทำงานแบบมนุษย์เงินเดือนเลยแต่แม่หาทางทำอะไรของตัวเองไม่ได้เลยไม่มีทุนไม่มีคนสนับสนุน ผ่านมา เกือบ 5 ปีมีแต่คนดุคนว่าจบสูงแล้วไม่มีงานทำทั้งๆที่แม่ก็พยายามหางานทำที่ใกล้บ้านเพื่อที่จะได้เป็นหลักให้หนู มีแต่คนให้แม่วางกะบูนเข้ามาหางานทำในกรุงเทพ แต่แม่ก็ไม่รู้จะฝากกะบูนไว้กับใครได้(ยายเพิ่งเกษียนปีนี้)
แม่ทำงานไม่มีความสุขเลยแม่รู้ว่าแม่ไม่เหมาะกับการทำงานแบบนี้แต่แม่จะพยายามอดทนทำถึงกย.นี้เพื่อเราจะได้มีเงินก้อน เพื่อจะไปทำอะไรของตัวเองได้แม่รู้ว่าบางครอบครัวเขาหนักกว่านี้เขายังผ่านกันมาได้ แล้วแม่จะพยายามเขียนหนังสือไปเสนอสน.พิมพ์ให้ได้ ถ้าทำได้เราจะได้ไม่ต้องเป็นแบบนี้อีก เพราะบูนไม่ได้ติดแม่คนเดียวหรอก แม่ก็ติดหนูเหมือนกัน แม่รักหนูนะลูก รักที่สุดเลย
เงินๆๆๆๆ ทำงานเพื่อเงิน ในที่สุดเราก็กลายเป็นคนเอาเงินนำชีวิตไปซะแล้ว ขอบคุณที่มาอ่านนะคะ
|