แกะลายแทง "รายใหญ่" ตลาดหุ้น "UOBKH-BFIT-ASP" รอวันร้อน
แกะลายแทง "รายใหญ่" ตลาดหุ้น "UOBKH-BFIT-ASP" รอวันร้อน
"กรุงเทพธุรกิจ BizWeek" แกะรอยลายแทง "รายใหญ่" แนะจับตา 3 หุ้นโบรกเกอร์ "UOBKH-BFIT-ASP" รอทะยานเดือนมีนาคม หลังวอลุ่มตลาดหนาแน่น สวนทางราคาหุ้นที่ดิ่งลงต่อเนื่อง
วงการตลาดทุนกำลังจับตากับความโดดเด่นของ "หุ้นโบรกเกอร์" ที่เตรียมฉายแววรุ่ง หลังจากมูลค่าการซื้อขายที่ผ่านมาเพิ่มขึ้นค่อนข้างมาก
เพียงแค่เดือนเศษ (มกราคม-ครึ่งเดือนกุมภาพันธ์) มูลค่าการซื้อขายรวมของตลาดหลักทรัพย์ มีมากถึง 1,692,646 ล้านบาท แซงหน้าไตรมาส 4 ปี 2548 ทั้งไตรมาส ที่มีมูลค่าการซื้อขายรวมอยู่ที่ 1,592,433 ล้านบาท ซึ่งจะผลดีในระยะสั้น ต่อรายได้ค่านายหน้าของบริษัทหลักทรัพย์
โดยก่อนหน้านี้ มีนักลงทุนรายใหญ่ ในตลาดหลักทรัพย์ แนะให้จับตาหุ้นโบรกเกอร์ 3 ราย ได้แก่ บล.ยูโอบี เคย์เฮียน (UOBKH) บง.กรุงเทพธนาทร (BFIT) และ บล.เอเซีย พลัส (ASP)
สำหรับ "UOBKH" นับเป็นหุ้นหลักทรัพย์น้องใหม่ที่เพิ่งเข้าตลาด เมื่อเดือน พ.ย. 2548 ราคาจอง 6.20 บาท โดยมีเซียนหุ้นติดโผในรายชื่อหุ้นจอง อาทิ กลุ่มของ "เสี่ยปู่" สมพงษ์ ชลคดีดำรงกุล ที่ติดโผได้รับหุ้นจอง 6.5 ล้านหุ้น "กุล่มรักศรีอักษร" ได้รับจัดสรร 1 ล้านหุ้น และ "กลุ่มลีสวัสดิ์ตระกูล" ได้รับจัดสรร 947,600 หุ้น
ความโดดเด่นของหุ้นตัวนี้อยู่ที่มี "ค่าพี/อี ต่ำ" กว่าบริษัทหลักทรัพย์อื่น โดยฝ่ายวิจัย บล.ไซรัส มองว่า UOBKH มีค่า พี/อี เรโช ที่ต่ำมาก หากคำนวณ ณ ราคา 7 บาท เมื่อเทียบกับผลกำไรในปี 2549 คาดว่าจะมีค่าพี/อี เพียง 7.8 เท่า ขณะที่ บริษัทหลักทรัพย์ส่วนใหญ่มีค่าพี/อีเกิน 10 เท่าแทบทั้งสิ้น
ขณะที่ บล. ฟินันซ่า มองว่า เม็ดเงินต่างชาติที่ไหลทะลักเข้าตลาดหุ้นไทยจะส่งผลดีต่อ UOBKH เพราะเป็นที่น่าสังเกตว่าทุกครั้งที่เงินต่างชาติไหลเข้ามาลงทุน มาร์เก็ตแชร์ของ UOBKH ก็จะกระตุกขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ (โดยเฉพาะที่มาจากสิงคโปร์)
ทางด้าน บง.กรุงเทพธนาทร (BFIT) ก็เป็นหุ้นที่มีแนวโน้มการเติบโตสูง เป็นผลมาจากทางด้านของธุรกิจหลักทรัพย์ "บล.บีฟิท" (BFITSEC)
เพียงครึ่งทางของ ไตรมาส 1 (เดือนครึ่ง) บล.บีฟิท มีมูลค่าการซื้อขายสูงถึง 61,027 ล้านบาท มากกว่าไตรมาส 4 ของปี 2548 ทั้งไตรมาส ที่มีมูลค่าการซื้อขาย 27,972 ล้านบาท และมูลค่าการซื้อขายใกล้เคียงกับไตรมาส 1 ทั้งไตรมาสของปี 2548 ที่มีมูลค่าการซื้อขายรวม 64,583 ล้านบาท
นี่คือ สัญญาณความแรงต่อเนื่องของโบรกเกอร์รายนี้ หลังจากปีที่ผ่านมา BFIT มีผลกำไรจากการดำเนินงานเติบโตอย่างก้าวโดดเด่นถึง 53% สวนทางกับสภาวะธุรกิจหลักทรัพย์ที่ไม่ดีในรอบปีที่ผ่านมา
ต้องยอมรับว่าการเติบโตของ บล.บีฟิท ส่วนหนึ่งเกิดจากการดึงตัวมาร์เก็ตติ้งมาจากโบรกอื่น โดยเฉพาะจาก บล.ซีมิโก้ และ บล.เอเซีย พลัส
"พรรณี เถกิงเกียรติ" กรรมการผู้จัดการ บล.บีฟิท เปิดเผยว่า ในปี 2549 นี้บริษัทตั้งเป้าครองส่วนแบ่งการตลาดถึง 4% จากปี 2548 ซึ่งบริษัทมีมาร์เก็ตแชร์ 3% นับเป็นการก้าวขึ้นมาติดอันดับ "ท็อปเท็น" ได้เป็นครั้งแรกในระยะเวลารวดเร็ว ส่วนแผนธุรกิจในปี 2549 นั้น บริษัทจะหันไปให้ความสำคัญกับการพัฒนาระบบการซื้อขายผ่านอินเตอร์เน็ตเพื่อรองรับลูกค้ากลุ่มใหม่ในอนาคต
นอกจากวอลุ่มรวมที่เพิ่มขึ้นมากแล้ว BFIT ยังมีแผนจะนำบริษัทลูก "บล.บีฟิท" เตรียมเข้าระดมทุนจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ภายในไตรมาส 1 ปีนี้อีกด้วย
โดยจะเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนแก่ประชาชนทั่วไป (IPO) จำนวน 200 ล้านหุ้น หรือ คิดเป็น 25% ของจำนวนหุ้นทั้งหมด เพื่อนำเงินไปใช้ในการขยายธุรกิจโดยการเพิ่มสาขา และปรับปรุงสำนักงานใหญ่ และใช้คืนเงินกู้จากการออกหุ้นกู้ด้อยสิทธิ ซึ่งจะครบกำหนดภายในปี 2549 นี้
นั้นหมายความว่า BFIT จะได้รับประโยชน์จากมูลค่าหุ้นบล.บีฟิท เพิ่มขึ้นมาอีกทาง
แต่ที่เหนือไปกว่านั้น ก็คือ บรรดาลูกค้ารายใหญ่ที่ช่วยซื้อขายกับ บล.บีฟิท จะได้รับหุ้นจองกันอย่างถ้วนหน้า
ทางด้าน "บล.เอเซีย พลัส (ASP)" ถือว่าเป็นอีกหนึ่งในโผหุ้นเด่นในกลุ่ม แม้ว่าการเติบโตทางด้านการซื้อขายหลักทรัพย์จะไม่ได้โดดเด่น และต้องตกจากตำแหน่งเบอร์ 2 มาอยู่ที่ 5 ขณะที่ตลอดทั้งปี 2548 บล.เอเซีย พลัส ก็ไม่โดดเด่นในด้านงานวาณิชธนกิจ โดยไม่ได้รับงานดีลใหญ่ๆ เหมือนกับ บล.ไทยพาณิชย์ และ บล.ภัทร
โดยช่วง "เดือนครึ่ง" ที่ผ่านมา บล.เอเซีย พลัส มีมูลค่าการซื้อขาย 99,770 ล้านบาท มีมาร์เก็ตแชร์ในระดับ 5.89% ทำให้บริษัทยังต้องเหนื่อยกับระยะทางที่เหลืออีกเดือนครึ่ง ก่อนจบไตรมาส 1 หากต้องการคงระดับวอลุ่มการซื้อขายให้เท่ากับ ไตรมาส 1 ปี 2548 ที่มีมูลค่า 205,065 ล้านบาท
อย่างไรก็ตาม บล.เอเซีย พลัส กลับมีจุดเด่นที่เหนือกว่าโบรกอื่นในตลาด ในด้านของธุรกิจวาณิชธนกิจ ที่เกี่ยวข้องกับการควบรวมกิจการ (M&A) ที่แรงขึ้นทุกขณะ
โดยช่วงที่ผ่านมาบริษัทได้ให้คำปรึกษาในการเข้าซื้อกิจการ บมจ.โออิชิ กรุ๊ป (OISHI) ให้กับ กลุ่ม "เจริญ สิริวัฒนภักดี" มูลค่ากว่า 3 พันล้านบาท และได้รับค่านายหน้าจากการส่งคำสั่งซื้อขายหุ้น OISHI เมื่อวันที่ 26 มกราคม จำนวน 12 ล้านบาท รวมไปถึงการเป็นที่ปรึกษาเข้าซื้อกิจการ บริษัท เอส ที ซี ฟีด จำกัด ของ บมจ.ห้องเย็นเอเชี่ยน ซีฟู้ด (ASIAN)ด้วย มูลค่าการเข้าซื้อกิจการ 275 ล้านบาท
และบริษัทยังได้เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน และผู้รับประกันการจัดจำหน่ายหุ้นไอพีโอ บมจ.จี สตีล (GSTEEL) ด้วย ซึ่งรายได้ทั้งหมดนี้จะบันทึกเข้ามาในไตรมาส 1 ปีนี้
"ดร.อุดมศักดิ์ ชาครียวณิชย์" กรรมการผู้อำนวยการ บล.เอเซีย พลัส กล่าวว่า ในปีนี้บริษัทมั่นใจว่าจะมีการเติบโตของรายได้ในส่วนของธุรกิจวาณิชธนกิจมากกว่า 30% เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา จากกระแสการควบรวมกิจการทั้งใน และนอกตลาดหลักทรัพย์ที่มีมากขึ้น โดยจะมีดีลควบรวมกิจการเข้ามาในปีนี้อีก 4-5 รายการ มูลค่าหลายพันล้านบาท
ขณะที่การเป็นที่ปรึกษาและรับประกันการจำหน่ายหุ้นไอพีโอนั้นขณะนี้บริษัทมีทั้งสิ้น 4 บริษัท ในกลุ่มรับเหมาก่อสร้าง, ชิ้นส่วนยานยนต์ และเซรามิค
ดร.อุดมศักดิ์ กล่าวว่า ในปีนี้ บล.เอเซีย พลัส ไม่ได้เน้นรายได้จากค่านายหน้าการซื้อขายหลักทรัพย์มาก โดยจะรักษามาร์เก็ตแชร์ให้อยู่ในระดับ 6-7% เท่านั้น โดยจะหันมาเพิ่มสัดส่วนรายได้ในส่วนอื่นๆ ให้มากขึ้นแทน
เปรียบเทียบมูลค่าการซื้อขายและมาร์เก็ตแชร์ของ 15 บริษัทหลักทรัพย์
บริษัทหลักทรัพย์ มูลค่าการซื้อขาย (หน่วย : ล้านบาท)
ม.ค.-16 ก.พ.2549 % ก.ย.-ธ.ค. 2548 % ม.ค.-มี.ค.2548 %
1 KIMENG 160,206.90 9.46 140,828.40 8.84 288,145.20 10.93
2 SCBS 140,270.35 8.29 96,795.18 6.08 129,645.04 4.92
3 PHATRA 103,625.73 6.12 90,086.72 5.66 122,070.17 4.63
4 UBS 102,232.74 6.04 65,178.40 4.09 100,957.64 3.83
5 ASP 99,770.55 5.89 109,901.78 6.90 205,065.41 7.78
6 CS 86,072.63 5.09 67,747.38 4.25 101,445.31 3.85
7 KGI 81,202.27 4.80 58,060.90 3.65 101,728.19 3.86
8 ZMICO 69,055.62 4.08 67,747.38 4.21 123,076.25 4.67
9 BFITSEC 61,027.97 3.61 55,007.99 3.45 64,583.60 2.45
10 BLS 54,121.39 3.20 51,718.80 3.25 86,568.07 3.28
11 NATSEC 51,000.54 3.01 47,242.06 2.97 60,777.31 2.30
12 CLSA 47,876.01 2.83 46,747.55 2.94 74,249.42 2.82
13 AYS 45,040.84 2.66 43,642.87 2.74 72,663.54 2.76
14 TSC 44,521.96 2.63 50,696.89 3.18 84,679.76 3.21
15 UOBKHST 43,073.52 2.54 41,124.43 2.58 72,002.34 2.73
| Create Date : 20 เมษายน 2549 |
| Last Update : 20 เมษายน 2549 19:35:13 น. |
|
0 comments
|
| Counter : 890 Pageviews. |
|
 |
|
|
|
|
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
ผู้ติดตามบล็อก : 41 คน [
