|
|
"เอส เอ็น ซี ฟอร์เมอร์" ปูทาง..สู่ "โฮลดิ้ง" ปรับบริบทธุรกิจ "รับจ้างผลิต" เต็มรูปแบบ
"เอส เอ็น ซี ฟอร์เมอร์" ปูทาง..สู่ "โฮลดิ้ง" ปรับบริบทธุรกิจ "รับจ้างผลิต" เต็มรูปแบบ
"เอส เอ็น ซี ฟอร์เมอร์" ปรับแผนธุรกิจวางอนาคต 2 ปีข้างหน้าเป็น "โฮลดิ้ง คัมปานี" หลังจากขยายการลงทุน และเร่งจัดตั้งบริษัทย่อยใหม่ เพื่อก้าวไปสู่การเป็นผู้รับจ้างผลิต และผู้ประกอบชิ้นส่วน (OEM) อย่างเต็มตัว
ในปี 2549 บริษัท เอส เอ็น ซี ฟอร์เมอร์ (SNC) ได้กำหนดกลุ่มเป้าหมายสินค้าใหม่แบ่งออกเป็น 5 กลุ่ม ได้แก่ 1.ชิ้นส่วนเครื่องปรับอากาศรถยนต์ 2.ชิ้นส่วนเครื่องปรับอากาศภายในอาคาร 3.ชิ้นส่วนคอมเพรสเซอร์ตู้เย็น และเครื่องปรับอากาศ 4.ชิ้นส่วนตู้เย็น และ 5.ชิ้นส่วนเครื่องซักผ้า
ล่าสุดได้ขยายตัวไปสู่ผลิตภัณฑ์ใหม่ที่หลากหลายยิ่งขึ้น จากเดิมที่ทำจากท่อทองแดง ท่ออะลูมิเนียม ทองเหลือง และท่อเหล็ก บริษัทได้ขยายไปทำผลิตภัณฑ์ขึ้นรูปโลหะที่ทำจากแผ่นเหล็ก อะลูมิเนียม และสเตนเลส
เมื่อต้นเดือนก.พ. 2549 ได้จัดตั้งบริษัทใหม่อีก 1 แห่งคือ "บริษัท เฟรช-เทค แมนูแฟกเจอริ่ง จำกัด" (FTM) ผลิตเครื่องแช่แข็ง และชิ้นส่วนอุปกรณ์ที่ใช้กับเครื่องจักรในขบวนการผลิตอาหาร ซึ่งเป็นการแยกสายการผลิตออกมาจาก บริษัท เอส เอ็น ซี ไพยองซาน อีโวลูชั่น (SPE) เพื่อให้เกิดความคล่องตัวมากขึ้น
โดยเอส เอ็น ซี ถือหุ้นในสัดส่วน 100% ของทุนจดทะเบียน 3 ล้านบาท ปัจจุบันบริษัทใหม่นี้มีลูกค้าหลักคือ บริษัท แอร์ โปรดักท์ (APCI) ซึ่งเป็นผู้ผลิตก๊าซไนโตรเจนรายใหญ่ของโลก คาดว่าสิ้นปีนี้ 2549 FTM จะสร้างรายได้ประมาณ 30-40 ล้านบาท
ส่วนแผนการดำเนินงานของ FTM จะแตกไลน์ผลิตไปยังสินค้าเครื่องมืออาหาร และยา เพื่อเป็นการกระจายความเสี่ยง
"ยอดขายเราจะโตขึ้นทุกปีอย่างน้อย 20% ต่อปี โดยในปี 2550 จะมีสินค้าใหม่เพิ่มขึ้นอีกตัวกับลูกค้ารายใหม่ ซึ่งจะทำให้เราเติบโตต่อไปถึงปี 2010 อย่างน้อยเกิน 2 เท่าตัว" เผด็จ มนต์บุรีนนท์ กรรมการผู้จัดการคนใหม่ บริษัท เฟรช-เทค แมนูแฟกเจอริ่ง กล่าว
ล่าสุดเอส เอ็น ซี กำลังจะจัดตั้งบริษัทแห่งใหม่ เพื่อขยายธุรกิจไปสู่การเป็นผู้ผลิตแม่พิมพ์ โดยจะร่วมลงทุนกับ "บริษัท ฟงซิง" (Feng Xing) ผู้ผลิตแม่พิมพ์จากประเทศจีน
โดยคาดว่าในเบื้องต้นราวไตรมาส 3/2549 จะใช้เงินลงทุนประมาณ 10-20 ล้านบาท เพื่อนำมาใช้ซ่อมแซมเครื่องจักรและปรับปรุงพื้นที่ภายในโรงงาน และในไตรมาส 4/2549 จะใช้เงินลงทุนอีกประมาณ 50 ล้านบาท เพื่อลงทุนเครื่องจักรแม่พิมพ์ และเริ่มดำเนินการผลิต ซึ่งคาดว่าจะเริ่มรับรู้รายได้ในช่วงปี 2550
"ขณะนี้เราได้ข้อสรุปแล้วและคาดว่าจะเซ็น MOU และกำหนดสัดส่วนการลงทุนได้ในไตรมาสแรกนี้ โดยคาดว่าจะใช้เงินทุนไม่เกิน 50 ล้านบาท ในเบื้องต้น เอส เอ็น ซี ฟอร์เมอร์ จะถือหุ้นในสัดส่วน 75-80% โดยที่จีนจะถือหุ้นในส่วนที่เหลือ คาดว่าจะได้ข้อสรุปในเดือนมีนาคมนี้" สมชัย ไทยสงวนวรกุล ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เอส เอ็น ซี ฟอร์เมอร์ กล่าว
สำหรับแผนการใช้เงินลงทุนโครงการจัดตั้งบริษัทร่วมทุนกับจีนครั้งนี้ บริษัทจะใช้เงินจากกระแสเงินสดที่มีอยู่ประมาณ 200 ล้านบาท
การทยอยแตกบริษัทย่อย เพื่อนำไปสู่เป้าหมายของ "สมชัย" ที่ต้องการยกฐานะเอส เอ็น ซี ฟอร์เมอร์ขึ้นเป็น "โฮลดิ้ง คัมปานี" โดยมุ่งไปสู่ธุรกิจรับจ้างผลิตและผู้ประกอบชิ้นส่วน (OEM) เต็มรูปแบบในระยะ 2 ปีข้างหน้า
"อนาคตผมจะวางเอส เอ็น ซี เป็นบริษัทแม่หรือ โฮลดิ้ง ของกลุ่ม เพื่อให้เกิดความชัดเจนในการทำธุรกิจ ซึ่งจะต้องสร้างเครือข่ายของบริษัทลูกให้มีหลายๆ บริษัท พร้อมกับเปลี่ยนตัวเองไปทำธุรกิจเป็น OEM เต็มรูปแบบ
...ถ้าเราเป็น OEM จะต้องมีบริษัทลูกภายใต้โครงสร้างใหม่มากกว่า 4-5 บริษัท โดยโครงสร้างของบริษัทแม่ จะไปลงทุนถือหุ้นในบริษัทลูกไม่น้อยกว่า 75-80% ยกเว้นหากเราต้องการด้านการตลาดและเทคโนโลยีจากพันธมิตร ก็อาจจะถือหุ้นในสัดส่วนเพียง 51% แต่ปัจจุบันเรายังเป็นเพียง Pre Assembly หรือผู้ผลิตชิ้นส่วนเครื่องจักร และมีบริษัทลูกไม่กี่แห่ง ทำให้ภาพของการไปสู่ธุรกิจ OEM ยังไม่ชัดเจน แต่คาดว่าจะทำให้ได้ใน 2 ปีนี้"
สำหรับแผนงานในปี 2549 บริษัทวางเป้าหมายไว้ว่า จะมียอดขายเติบโตไม่น้อยกว่า 40% จากการผลิตใน 3 ธุรกิจหลัก คือ หนึ่งธุรกิจผลิตชิ้นส่วนเครื่องปรับอากาศภายในอาคาร มีสัดส่วน 60% ของยอดขายรวม จะเติบโตราว 45% จากลูกค้าใหม่อีก 2 ราย คือ LG และ Samsung และอีกส่วนมาจากลูกค้าเดิมคือ York และ Mitsubishi ที่มีการ Outsource สายการผลิตชิ้นส่วนให้กับเอส เอ็น ซี เพิ่มขึ้น
สอง ธุรกิจผลิตชิ้นส่วนเครื่องปรับอากาศในรถยนต์ ซึ่งมีสัดส่วน 26% ของยอดขายรวม ตั้งเป้าเติบโตอีก 20%
และสามการผลิตแผ่นโลหะภายใต้บริษัทย่อย คือ "เอส เอ็น ซี ไพยองซาน อีโวลูชั่น (SPE) เพื่อใช้ในเครื่องใช้ไฟฟ้าต่างๆ เช่น เครื่องซักผ้า ไมโครเวฟ หม้อหุงข้าว เป็นต้น คาดว่าจะผลิตเต็มที่ในปลายไตรมาส 2/2549 และมียอดขายเติบโตมากกว่า 500% จาก 32 ล้านบาท ในปี 2548 คาดว่าจะเพิ่มเป็น 200 ล้านบาทในปีนี้
"ปีนี้เราตั้งเป้ารายได้เติบโต 40% และกำไรสุทธิเติบโต 9.8% เนื่องจากยอดขายเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง โดยเฉพาะชิ้นส่วนแอร์บ้าน ซึ่งปัจจุบันบริษัทมีสัดส่วนรายได้จากชิ้นส่วนแอร์บ้าน 60% ชิ้นส่วนแอร์รถยนต์ 25% คอมเพรสเซอร์ 12% และโลหะแผ่น 3%"
ด้านฐานะทางการเงิน สมชัย กล่าวว่า บริษัทมีเงินสดในมือ 200 ล้านบาท และมีหนี้สินรวมราว 210 ล้านบาท ในปีนี้เรามีแผนที่จะนำกำไรจากการดำเนินงาน และเงินสดที่มีบางส่วนไปล้างหนี้ระยะสั้นให้หมด โดยตั้งเป้าสิ้นปีนี้จะสามารถลดหนี้สินให้เหลือเพียง 100 ล้านบาท
สำหรับความคืบหน้าการเพิ่มทุนจดทะเบียนจาก 200 ล้านบาท เป็น 202.50 ล้านบาท โดยออกหุ้นสามัญเพิ่มทุนจำนวน 2.5 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 1 บาท ให้กับบริษัท ฟงซาน คอร์เปอเรชั่น จากประเทศกาหลี สมชัย กล่าวว่า บริษัทจะนำเข้าในที่ประชุมผู้ถือหุ้นในวันที่ 5 เมษายนนี้ ซึ่งสิ่งที่ SNC จะได้จากการออกหุ้นเพิ่มทุนให้กับบริษัทดังกล่าว คือ ความรู้และความเชี่ยวชาญด้านการผลิต เนื่องจากฟงซานฯ เป็นผู้เชี่ยวชาญในการผลิตชิ้นส่วนเครื่องปรับอากาศในรถยนต์
ด้าน บล.ทรีนีตี้ ประมาณการผลการดำเนินงาน ของ เอส เอ็น ซี ฟอร์เมอร์ ในปี 2549 คาดว่าจะมีกำไรสุทธิ 171 ล้านบาท และกำไรต่อหุ้น 0.85 บาท
ขณะที่ฝ่ายวิจัย บล.เกียรตินาคิน มองว่า ช่วงไตรมาส 1 ปีนี้ กำไรสุทธิของบริษัทจะกลับมาโตก้าวกระโดดอีกครั้ง เนื่องจากเป็นช่วงฤดูกาลของธุรกิจ
"เราคาดว่าในปี 2549 เอส เอ็น ซี ฟอร์เมอร์ จะมีรายได้ 1,751ล้านบาท เพิ่มขึ้น 37% และคาดจะมีกําไรสุทธิ 188 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 54% และมีกําไรสุทธิต่อหุ้น 0.93 บาท"
| Create Date : 20 เมษายน 2549 |
| Last Update : 20 เมษายน 2549 19:44:48 น. |
|
0 comments
|
| Counter : 852 Pageviews. |
|
 |
|
|
|
|
|
| hoon_vi |
 |
|
|
 |
|
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
ผู้ติดตามบล็อก : 41 คน [
