การเรียนรู้ภาษาอังกฤษ ความคิดเห็นที่ 2 [ถูกใจ] [แจ้งลบ] พิมพ์ตั้งนาน ไฟดับซะงัั้น - -. ผมเองก็เรียน ด้วยตัวเองเหมือนกันครับ ก่อนอื่นขอเล่าประวัติตัวเองสักนิดครับ ผมเองก็เข้ามาในห้องนี้ทุกวัน เปิดอ่านเกือบจะทุกกระทู้ แทบจะไม่ได้ตอบกระทู้สักกระทู้ ภาษาอังกฤษของเมื่อก่อนนั้น (ปี 1 ของมหาลัยฯ แทบจะเป็น 0) เพราะผมแทบเขียน a-z ไม่ได้เลย ไม่รู้แม้กระทั่ง cat, dog, eat, drink etc. เรียน ป.6 ก็โดนครูด่าตลอด พอขึ้น ม.3 เกือบโดนไล่ออกหลายครั้ง พอเข้า ปวช. ก็หนักไปกันใหญ่ สุดท้ายมาเข้ามหาลัยฯ ก็เป็นจุดคิดถึง "อนาคต" ว่าจะทำอย่างไรกับชีวิตตัวเราเอง ในช่วง 1-4 เดือนแรก ผมได้เรียนกับติวเตอร์ และครู อยู่หลายท่าน ปรากฏว่ารู้สึกเบื่อครับ หรือว่าครูสอนไม่สนุก - - ดังนั้นมีวิธีเดียวก็คือ ต้องเรียนด้วยตัวเองครับ ผมจึงตัดสินใจไปซี้อหนังสือมาให้หมด ตั้งแต่ ป.3 - ม.6 หมดค่าหนังสือราว 25,460 บาท ครับ/รวมทุกวิชา ((ถ้าเรียนพิเศษในแต่ละเดือนก็เดือนละ 3,000 บาท ถ้า 4 เดือนก็ 12,000 บาท แต่การเรียนพัฒนาขึ้นน้อย ไม่ก้าวกระโดดครับ)) แต่มันเบื่อมาก - - ผมใช้เวลาก็นั่งไล่อ่านกันครับ ทำแบบฝึกหัด หลาย ๆ เล่ม ดูวิดีโอจาก Youtube หรือแม้แต่ติวเตอร์ออนไลน์ครับ //tutor.mitech.co.th/ และโรงเรียนไกลกังวลก็เป็นช่องทางหนึ่งที่ผมเรียนด้วยเสมอมา //www.dlf.ac.th/live.php และรามคำแหง //www.bid.ru.ac.th/page/index.asp สุด ท้ายผมก็เลือกเรียนสาขาภาษาอังกฤษ ผมใช้เวลาในการเรียนค่อนข้างมาก เพราะผมเป็นคนไม่เก่ง หัวก็ไม่ค่อยดี ถูกฝึกมาน้อย สิ่งที่สำคัญคือ เราต้องรับผิดชอบที่เรียนมัน ภาษาหรือความรู้ต่าง ๆ ถ้าเราไม่สนใจหรือเรียนรู้กับมัน มันอยู่ก็อยู่ตัวของมันเองครับ ดังนั้นภาษาอังกฤษจึงเป็นประตูเปิดโอกาสการเรียนรู้ต่าง ๆ สำหรับตัวผมได้เรียนรู้อีกมากมายครับ เช่น ได้ทุนนักศึกษาไปทำวิจัยในประเทศจีนในปีหน้า หรือเป็นตัวแทนของนักศึกษาในการทำกิจกรรมต่าง ๆ อีกมากมายครับ ทั้ง ๆ ที่ผมทุ่มเวลาการเรียนทุกอย่าง เพียงแค่ 2 ปีเท่านั้น ผมต้องทุ่มเท กับการเรียนมากกว่าคนอื่นปกติครับ ทั้งเรื่องวิชาการ ความรู้ หรือแม้แต่ภาษาอังกฤษ อย่างน้อยคุณก็มีความรู้ตุนมากกว่าผมหลายเท่า ดังนั้นผมเองก็ต้องหมั่นรักษาความรับผิดชอบสำหรับตัวผมให้มากขึ้นกว่าเดิม ผมเองก็ตั้งใจสอบ TOEFL หรือ IELTS เหมือนกันครับ โปรแกรมการเรียนภาษาอังกฤษของผมในแต่ละวัน 1. //www.voanews.com/english/news/ สลับกับ Learning English //www.voanews.com/learningenglish/home/ ใช้เวลา 2 ชั่วโมง/วัน 2. //www.bbc.co.uk/ สลับกับ Learning English //www.bbc.co.uk/worldservice/learningenglish/ ใช้เวลา 1 ชั่วโมง/วัน 3. https://www.youtube.com ครับ ส่วนใหญ่ผมชอบดู Most popular มากที่สุดครับ เรียนรู้ต่าง ๆ ที่อยากจะเรียน โดยการ Input จากสมองเป็นภาพ และเสียงไปพร้อม ๆ กัน ครับ ไม่ว่าจะเป็น Song, News, Learning etc. 4. ผมสลับทำกับ ข้อ (1-3) คือ อ่านหนังสือ ทำแบบฝึกหัด ทำสลับกันครับ เปิดตำราจากหลาย ๆ เล่ม สรุปเป็นความคิดของตนเอง เน้นเข้าใจ และการนำไปใช้ ใช้หลักทฤษฎี Bloom ใช้เวลา 3 ชั่วโมง/วัน เบื่อจากการเรียนก็ไปทำกิจกรรมต่าง ๆ แต่อย่าลืมต้องกลับมาทำหน้าที่ของเรา ซึ่งจะฝึกให้เราเป็นคนมีระเบียบวินัย วิธีคิดในการทำงาน การบริหารงาน ของเรามากขึ้นครับ การเรียนด้วยตัวเอง ผมขอแนะนำเทคนิคที่สำคัญ และช่วยลดระยะเวลาในการเรียนเพิ่มเติมครับ 1. ถ้าต้องการรวดเร็ว ผมขอแนะนำโปรแกรม Wordweb ประโยชน์ของมันคือ มี Pronunciation, Thesaurus, ตัวอย่างประโยค, เป็นโปรแกรมขนาดเล็กมาก และที่สำคัญสามารถใช้ Hotkey ได้อีกด้วย เช่น กดแป้น keyboard; Ctrl+q ก็สามารถเรียกโปรแกรมขึ้นมาได้ และเร็วอีกด้วย สามารถ Download ได้ที่ //wordweb.info/free/ ครับ 2. ผมแนะนำโปรแกรม OneNote ซึ่งเป็นประโยชน์มากครับ ซึ่งผมเชื่อว่าทุกเครื่องต้องลงไว้แล้ว ซึ่งติดตั้งมาพร้อมกับ Microsoft Office เพราะโปรแกรมนี้เป็นโปรแกรมบันทึก เก็บข้อมูล แยกเอกสาร ให้เป็นหมวดหมู่ เช่น ผมเจอประโยคเด็ด ๆ ผมก็สามารถคลุมดำจากบทความ แล้วคลิกขวาเลือก OneNote ซึ่งไม่ต้องเสียเวลาไปนั่งจดลงสมุด หรือมานั่ง Copy ลง Word ให้เสียเวลา อีกทั้งยังเป็นการประหยัดเวลาและกระดาษอีกด้วย อีกทั้งผมยังสามารถมานั่งแก้ไขใน OneNote จะเขียนพลิกแพลงประโยคที่เรียนมากี่ร้อยรอบก็ได้ หรือแม้กระทั่งคำศัพท์ใหม่ ๆ ก็สามารถเขียนพลิกแพลง โดยดูตัวอย่างจาก Dictionaries Eng-Eng หลาย ๆ เล่มแล้วนำรูปประโยคมาดัดแปลงเขียนใหม่ 3. แนะนำคลังหนังสือครับ //www.englishtips.org เอา username กับ password ผมไปใช้ก็ได้ครับ ถ้าไม่อยากสมัครให้เสียเวลา หลังไมค์มาก็ได้ครับ ที่นี่เป็นคลังหนังสือมากมายครับ ผมโหลดแทบทุกวัน หาหนังสือและอ่าน text book หรือแม้แต่ Drill book จากเจ้าของภาษามีทั้ง TOEFL, IELTS, GRE, GMAT, Fiction, Literature, Grammar etc. 4. เว็บบิทครับ เจ้าของกระทู้ต้องลองไปหาเลือกเอาครับ เลือกที่เป็นเว็บบิทขนาดใหญ่ ซึ่งจะมีคนฝากบิทไว้มากครับ โดยเฉพาะหมวดการเรียนภาษาอังกฤษครับ ที่นี่ก็เป็นคลังความรู้มหาศาลเหมือนกันครับ ถ้าอยากได้หลักสูตรอะไรเพิ่มเติมก็หลังไมค์มาครับ ผมรวบรวมไว้ได้ปีกว่า ๆ แล้วครับ ค่อนข้างมาก ตั้งแต่หลักสูตร Starter จนถึง Advanced เลยครับ สุดท้ายก็อยากฝากเจ้าของกระทู้นิดนึงครับ ว่าการเรียนด้วยตัวเองต้อง ... 1. มีวินัย ไม่ขี้เกียจ คือ ทำตารางเวลา โดยไม่ต้องอัดแน่นจนเกินไป มีพักบ้าง มีหนักบ้าง สลับกัน สามารถยืดยุ่นได้ 2. ความรับผิดชอบ ความมีระเบียบวินัย คือ ต้องทำจนให้เกิดนิสัย อย่าผัดวันประกันพรุ่ง อาจจะละได้ ถ้าจำเป็น แต่อย่าจนเคยตัว 3. เข้าสังคมบ้าง คือ ไม่ใช่ฝึกจนหนักเกินไป ทั้งวัน ทั้งคืน ให้ตัวเองเปิดโอกาสกับสังคมบ้าง เช่น ชวนเพื่อนออกไปทานข้าว ดูหนัง ออกกำลังกายบ้าง ฯลฯ 4. การเรียนรู้ คือ หลักการเรียนรู้ที่ใช้ในการศึกษา ของทฤษฎี Bloom คือ 1)เริ่มจากความจำ 2) การนำไปใช้ 3)การวิเคราะห์ 4) การสังเคราะห์ 5) การประเมินผล เมื่อการเรียนทุกอย่างต้องจำก่อน อาจจะความหมายของคำ หลัก ทฤษฎี และเริ่มจากเข้าใจ จากนั้นอาจเรียงไปตามขั้น นี่คือการเรียนรู้ ลองไปศึกษาเพิ่มเติมจากอากู๋ดูครับ 5. ประเมินตนเอง คือ โอกาสในการเรียนกับตัวเองค่อนข้างประสบผลสำเร็จมากน้อยขึ้นอยู่กับการประ เมินตนเอง ว่ามีการพัฒนาไปมากน้อยเพียงใด เจ้าของกระทู้อาจจะสร้างแบบประเมินอัตราความก้าวหน้าของตัวเองก็ได้ **จะประเมินเป็นอะไร ต้องมีตัววัดซะก่อนนะ เช่น วัดจากข้อสอบ วัดจากความสามารถ ฯลฯ แนะนำเว็บเพิ่มเติม อาจจะเป็นประโยชน์มากยิ่งขึ้นครับ 1. //www.manythings.org/ รวมทุกอย่าง กับการเรียนภาษาอังกฤษออนไลน์ 2. //englishpdf.com/index.php? แบบฝึกหัด Grammar ไฟล์.pdf 3. //www.breakingnewsenglish.com/ ข่าวสั้นทั่วโลก 4. //www.newsworthyaudio.com/NewsworthyAudio.aspx ฟังข่าว พร้อม script 5.. //www.answers.com/ ถามที่ไม่เข้าใจ พร้อมคำตอบ คล้ายกับ wiki อาจจะดีกว่าด้วยซ้ำ ดึงข้อมูลมาจาก wiki ด้วย 6. https://www.youtube.com/user/VOALearningEnglish ฝึก speaking จาก VOA แบบเห็นหน้า 7. //vhost.oddcast.com/support/examples/API/sayAIResponse/sayAIResponse.html ฝึก Chat กับคอมพิวเตอร์ 8. //www.engvid.com/ คลังวีดีโอการเรียน เช่น TOEFL, TOEIC, Conversation, Grammar etc. 9. //www1.voanews.com/thai/news/ ข่าววิชาการจาก VOA Thai --ฝึกการพูดภาษาไทย การใช้ภาษา 10. //www.englishclub.com/esl-jokes/index.htm สำนวน ตลก จากเจ้าของภาษา 11. //www.freshwap.net/ download แหล่งข้อมูล, สื่อการเรียนต่าง ๆ 12. //www.scientificamerican.com/ ข่าววิทยาศาสตร์จากอเมริกา //www.dekgeng.com/english/index.html แบบฝึกหัดออนไลน์ ป.1-6 13. //translateitbangkokpost.บลอกspot.com/2010/02/oxford-3000-wordlist.html คำศัพท์ oxford พร้อมแปลไทย 3,000 คำ ***ใน URL เปลี่ยนจาก บลอก เป็น blog ครับ 14. //translateitbangkokpost.บลอกspot.com/2010/02/voa-special-english-word-book.html คำศัพท์ VOA พร้อมแปลไทย 1,500 คำ ***ใน URL เปลี่ยนจาก บลอก เป็น blog ครับ 15. //translateitbangkokpost.บลอกspot.com/2010/02/longman-defining-vocabulary.html คำศัพท์ Longman พร้อมแปลไทย 2,000 คำ ***ใน URL เปลี่ยนจาก บลอก เป็น blog ครับ 16. //www.student-weekly.com/thisweek/ นิตยสาร Student Weekly 17. //www.bangkokpost.com/learning เรียนข่าวจาก Bangkok post simple words. 18. //www.bangkokpost.com/ ข่าวจาก Bangkok Post 19. //www.bangkokpost.com/ 20. //english.aljazeera.net/ ข่าวจาก Aljazeera 21. //www.cnn.com/ ข่าวจาก CNN 22. //www.reuters.com ข่าวจาก Reuters 23. //www.usatoday.com ข่าวจาก USA Today 24. //money.cnn.com/magazines/fortune/index.html ข่าวจากนิตยสาร Fortune 25. //www.atimes.com ข่าวจาก Asia times 26. //www.aol.com/ ทุกอย่างต้อง AOL 27. //www.msnbc.msn.com ข่าวจาก MSN BC 28. //www.washingtonpost.com/wp-dyn/content/world/ ข่าวจาก Washington Post 29. // //www.nypost.com ข่าวจาก New York Post 30. //www.wn.com/ ข่าวจาก World News 31. //www.businesstimes.com.sg/ ข่าวจาก Business Time 32. //www.aptn.com/ ข่าวจาก AP โชคดีสำหรับการเรียนภาษาอังกฤษครับ แก้ไขไปซะเยอะเลย ขอโทษครับ   Create Date : 13 ตุลาคม 2553     1 comment Last Update : 13 ตุลาคม 2553 20:39:09 น.     Counter : 1482 Pageviews.   Share Tweet

บล็อคประสานทรายสีชมพู วัตถุดิบท้องถิ่นทำเงินชาวหนองบัว บล็อคประสานทรายสีชมพู วัตถุดิบท้องถิ่นทำเงินชาวหนองบัว อิฐ บล็อค บล็อคซีเมนต์ อิฐมอญ หรือเรียกชื่อเป็นอย่างอื่นนั้น ล้วนแล้วแต่เป็นการผลิตขึ้นเพื่อใช้ในการก่อสร้างแทบทั้งสิ้น จะมีความแตกต่างกันที่การใช้ส่วนผสมของวัสดุเท่านั้น เช่น ที่อำเภอหนองบัว จังหวัดนครสวรรค์ แหล่งวัตถุดิบตามธรรมชาติที่นำมาใช้ทำเป็นบล็อคได้หลายชนิด เช่น เม็ดทรายที่มีสีชมพูตามธรรมชาติ ดินลูกรังที่มีสีแดง หรือแหล่งแร่ยิปซัม ฯลฯ คุณเกรียงไกร มานะกิจศิริสุทธิ คนหนุ่มรุ่นใหม่ไฟแรง วัย 37 ปี ผืนดินถิ่นเกิดที่บ้านหนองบัว จบปริญญาตรี สาขาวิศวกรรม จากมหาวิทยาลัยศรีปทุม ปริญญาโทจากมหาวิทยาลัยมหิดล รับราชการในตำแหน่งหัวหน้าฝ่ายแบบแผนและก่อสร้าง เทศบาลตำบลหนองบัว นับว่าเป็นบุคคลที่ศึกษาและทำงานได้ตรงตามความรู้ ความสามารถ จึงเกิดแนวคิดว่า หากใช้วัตถุดิบในท้องถิ่นมาใช้ทำเป็นบล็อคประสานในงานก่อสร้าง จะช่วยลดต้นทุนการผลิตได้มาก ประมาณ 3 เท่าตัว คือหากใช้ทรายแม่น้ำที่ใช้ก่อสร้างทั่วไป ราคาลูกบาศก์เมตรละ 400 บาท หากใช้เม็ดทรายสีชมพูที่มีอยู่ทั่วไปในอำเภอหนองบัว จะราคาลูกบาศก์เมตรละ 120 บาท เท่านั้น จึงริเริ่มทำบล็อคประสานครั้งแรกด้วยการใช้เครื่องอัดก้อนแบบรุ่นโบราณที่ ใช้แรงงานคน ผลิตได้วันละ 100-200 ก้อน ต่อมาได้ทดสอบตลาดแล้วเห็นว่า ตลาดมีความต้องการ เพราะราคาถูก รูปร่างสวยงาม สีสดสวยแบบธรรมชาติ มีความแข็งแกร่ง รับแรงต้านทานได้มาก ประมาณ 50 กิโลกรัม ต่อก้อน จึงเริ่มผลิตแบบการค้าด้วยการนำเครื่องจักรเข้ามาช่วยในการผลิต สูตร การทำบล็อคประสาน ใช้เม็ดทรายสีชมพูและดินลูกรังสีแดงมาร่อนด้วยตะแกรงให้เป็นผงเล็กๆ นำไปผสมด้วยเครื่องผสม อัตราส่วนดินลูกรังแดง 5 ส่วน ทรายสีชมพู 2.5 ส่วน ปูนซีเมนต์ 1.5 ส่วน และน้ำ เมื่อผสมคลุกเคล้าจนได้ที่แล้วจึงส่งต่อไปทางสายพาน นำเข้าเครื่องอัดแท่งที่ใช้แรงอัดสูงด้วยระบบไฮโดรลิกส์ จากนั้นนำออกมาวางผึ่งลมพอหมาดๆ นำไปตากแดด ประมาณ 1 วัน จึงพร้อมที่จะใช้งานได้ ในช่วงที่เก็บรักษาบล็อคประสานก่อนจำหน่ายหรือนำไปใช้นั้น จะต้องใช้น้ำพรมก้อนบล็อคทุกวันเพื่อรักษาความชื้นและจะช่วยให้บล็อคมีความ แกร่งมากขึ้น ในด้านการผลิตนั้น ด้วยเครื่องจักรนี้จะผลิตได้ประมาณ 5,000 ก้อน ต่อสัปดาห์ บล็อคประสานที่ใช้ส่วนผสมของเม็ดทรายสีชมพูนี้ ได้ผ่านการรับรองจากสถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์แห่งประเทศไทย เคยนำไปประกวดและจัดแสดงในงานวันวิทยาศาสตร์ เนื่องจากมีจุดเด่นคือ บล็อคประสานมีความหนา ประมาณ 25 เซนติเมตร เมื่อนำไปก่อสร้างเป็นผนังบ้าน ช่วงฤดูร้อนที่อบอ้าว ภายในบ้านจะเย็นสบาย ช่วงฤดูหนาวภายในบ้านจะไม่หนาวเย็นเกินไป บล็อคประสานจะทนทานต่อความร้อน สีสวยงาม ไม่ซีด ไม่จำเป็นต้องฉาบปูนทับอีกครั้งหนึ่ง ถ้าต้องการเปลี่ยนสีผนังบ้านใหม่ สามารถทาสีทับได้เลย หากใช้ทำเป็นรั้วบ้าน จะมีรูหรือช่องสำหรับใส่เหล็กเส้นและปูนซีเมนต์ผสม เพื่อให้การยึดเกาะแน่นและแข็งแรงยิ่งขึ้น หากนำไปใช้ในการจัดสวน หรือเป็นส่วนประกอบของการทำบ้านดิน จะช่วยให้มองดูสวยงามตามธรรมชาติ ใน อนาคตคาดว่า จะทดสอบการใช้วัสดุอื่นๆ คือ การนำเอาแร่ยิปซัมที่มีอยู่ในท้องถิ่น เป็นส่วนผสมของบล็อคประสาน จะช่วยให้เกิดความแวววาวสะท้อนแสง แต่ต้นทุนอาจจะสูงเกินไป คงนำไปใช้ได้บางส่วนในการก่อสร้างเท่านั้น สนใจศึกษาดูงานหรือขอทราบข้อมูลเพิ่มเติม ติดต่อได้ที่ โทร. (086) 312-0534 , (056) 323-038   Create Date : 30 ธันวาคม 2552     0 comment Last Update : 30 ธันวาคม 2552 8:58:00 น.     Counter : 2822 Pageviews.   Share Tweet

‘กล่องอเนกประสงค์’ ยิ่งใกล้ ‘ปีใหม่’ ยิ่งทำเงิน ‘กล่องอเนกประสงค์’ ยิ่งใกล้ ‘ปีใหม่’ ยิ่งทำเงิน ใกล้เทศกาลปีใหม่แล้ว เทศกาลปีใหม่ของทุกปีเป็นช่วงเวลาที่นิยมมอบของขวัญให้กัน และก็เป็นช่วงเวลาที่ดีสำหรับ “ช่องทางทำกิน” เกี่ยวกับงานประดิษฐ์ ซึ่งวันนี้ทางทีมงานก็มีข้อมูลการทำ “กล่องกระกระดาษเอนกประสงค์” อีกหนึ่งผลิตภัณฑ์ที่น่าจะสอดคล้องกับเทศกาลปีใหม่ที่ใกล้จะมาถึง... สมเกียรติ รัตนอำนวยศิริ หรือ ช่างกบ เป็นหัวหน้ากลุ่มหัวใจกระดาษ ซึ่งทำสินค้าหัตถกรรมจากกระดาษ กระดาษสา กล่อง กระเป๋า และผ้าไหม จากที่เคยทำงานในโรงงานผลิตกล่องกระดาษกว่า 20 กว่าปี ต่อมาก็ผันตัวเองมาเป็นเจ้าของธุรกิจทำกล่องกระดาษรูปแบบต่างๆ หรือเรียกว่ากล่องเอนกประสงค์ จากกระแสสินค้า OTOP ที่โด่งดังเมื่อ 4-5 ปีก่อน ก็ทำให้สินค้าอย่างกล่องกระดาษเป็นที่รู้จักของใครต่อใครหลาย ๆ คน และจดทะเบียนเป็นสินค้าชุมชนของเขตบางกะปิ โดยรูปแบบการทำงานจะเป็นแบบเครือข่าย ซึ่งจะรวบรวมผู้คนที่ว่างงานหรือบรรดาแม่บ้าน มาช่วยกันประดิษฐ์กล่องเอนกประสงค์เหล่านี้จำหน่าย โดยส่วนใหญ่จะเป็นออเดอร์ของลูกค้าที่สั่งตั้งแต่100 กล่องขึ้นไป รูปแบบของกล่องนั้นมีหลากหลาย เช่น กล่องใส่ขวดไวน์ กล่องใส่หนังสือ กล่องใส่จตุคามรามเทพ กล่องใส่กระดาษทิชชู่ กล่องหูหิ้วใส่ของต่าง ๆ ฯลฯ ซึ่งกล่องกระดาษนี้จะมีความแข็งแรง ทนทาน และมีความละเอียดประณีตกว่า โดยใช้วัสดุที่มีคุณภาพดี ใช้กาวลาเท็กซ์อย่างดียึดติด ที่ผ่านมาการทำตลาดจะเป็นแบบปากต่อปาก และเป็นแบบขายฝาก ซึ่งลูกค้าที่ชอบจะบอกต่อ ๆ กันไป และในกรุงเทพฯจะมีจำหน่ายอยู่ที่จตุจักรด้วย ซึ่งก็มีลูกค้าสนใจในการตกแต่งกล่องโดยใช้กระดาษสาที่มีลวดลายแตกต่างกันไป เช่น ลายพิมพ์กนก ลายไทยโบราณ หรือ ลายบาติก ก็กำลังเป็นที่นิยม อีกทั้งยังมี ลายการ์ตูน ลายรูปสัตว์ต่าง ๆ เพื่อเอาใจลูกค้าหลาย ๆ วัย หรือแล้วแต่ลูกค้าจะสั่งแบบมา และทางกลุ่มเองก็จะออกแบบรูปทรงให้แหวกแนวไม่ซ้ำใคร ซึ่งจะต่างจากกล่องทั่ว ๆ ไปที่เห็นจนชินตา อุปกรณ์ในการทำกล่องกระดาษเอนกประสงค์ หลัก ๆ ก็มี กระดาษสาลวดลายตามที่ต้องการ, กระดาษแข็ง เช่น เบอร์ 32, กาวลาเท็กซ์อย่างดี, คัทเตอร์, ไม้บรรทัด เป็นต้น วิธีทำกล่องเอนกประสงค์ ขนาดกว้าง 12 x 18 x 6.5 ซม. 1.เลือกความหนาของกระดาษ จะมีหลายเบอร์ อย่าง 16, 20, 24, 32 แต่ส่วนใหญ่จะใช้กระดาษที่มีความหนาเบอร์ 32 ซึ่งจะมีความหนาและคงทนมากที่สุด 2.นำกระดาษแข็งที่ตัดเป็นสี่เหลี่ยมผืนผ้า ขนาดกว้าง 12 x 18 x 6.5 ซม. 4 ชิ้น และขนาด 12 x 18 ซม.1 ชิ้น มาประกอบเป็นกล่อง โดยทากาวตามขอบเชื่อมต่อกัน 3.จากนั้นตัดกระดาษสาให้พอดีเพื่อที่จะทากาวหุ้มรูปทรงกล่องให้ทั่ว และกรีดกระดาษตรงขอบด้านข้างให้เป็นรูปสามเหลี่ยมเพื่อปิดขอบหลบข้างใน 4.ตัดมุมขอบด้านบนของกระดาษออกมานิดหน่อย เพื่อไม่ให้กระดาษหนาจนเกินไปในการหุ้มขอบกล่อง ตรงพื้นด้านในของกล่องจะตัดกระดาษสาปิดทับอีกที 5.ส่วนฝาก็ทำวิธีเดียวกัน เพียงแต่ว่าฝาจะใหญ่และบางกว่าตัวกล่องเพื่อให้คลุมปิดได้ ซึ่งผู้ทำที่ชำนาญแล้วจะใช้เวลาในการทำไม่ถึง 15 นาทีต่อกล่อง 1 ใบ วันหนึ่ง ๆ ก็จะทำได้หลายสิบกล่อง ถ้าเป็นกล่องหูหิ้วนั้น ช่างกบบอกว่า ทำเหมือนกับกล่องกระดาษทั่ว ๆ ไป แต่แตกต่างกันที่ฝากล่องจะต้องทำพอดีกับตัวกล่อง แต่เพิ่มความซับซ้อนขึ้น คือติดบานพับ ติดหูหิ้ว ติดตัวล็อค หรือติดกระจกเพิ่มเติมเพื่อความสวยงาม กล่องเอนกประสงค์นี้เหมาะทั้งใช้ใส่ของขวัญ และตัวกล่องเองก็เป็นของขวัญได้ โดยสามารถใช้สอยได้ตามต้องการ ราคาขายก็จะตามขนาดของกล่อง โดยมีตั้งแต่ 20 –100 บาทขึ้นไป ต้นทุนอยู่ที่ประมาณ 60-70% ของราคาขาย ใครสนใจผลิตภัณฑ์กลุ่มหัวใจกระดาษ ติดต่อได้ที่เลขที่ 449 หมู่บ้านเสนาวิลล่า 84 ถนนแฮปปี้แลนด์ แขวงคลองจั่น เขตบางกะปิ กรุงเทพฯ หรือติดต่อ ช่างกบ-สมเกียรติ รัตนอำนวยศิริ ได้ที่หมายเลขโทรศัพท์ 0-2728-5956 และ 08-1918-4505 ซึ่งชิ้นงานลักษณะนี้ดูแล้วเหมือนธรรมดา ๆ แต่ก็เป็นอีกหนึ่ง “ช่องทางทำกิน” ที่ไม่ธรรมดาได้ พลอยไพลิน บินชัย :รายงาน / จเร รัตนราตรี :ภาพ   Create Date : 15 มกราคม 2552     0 comment Last Update : 15 มกราคม 2552 8:00:00 น.     Counter : 2059 Pageviews.   Share Tweet

อาชีพ 'ประดิษฐ์เด่น' ปี'51 อาชีพ 'ประดิษฐ์เด่น' ปี'51 'สร้างตลาด-เฟ้นจุดขาย' ฝ่าวิกฤติ แม้ว่าเศรษฐกิจปี 2551 ใช่ว่าจะดี แต่ก็ใช่ว่างาน “ประดิษฐ์-งานฝีมือ” จะถึงทางตัน หากผู้ผลิตรู้จักหาโอกาส สร้างตลาด จับจุดขาย ก็สามารถฝ่าวิกฤติเศรษฐกิจได้ อย่างเช่น “อาชีพด้านงานประดิษฐ์-งานฝีมือ” ที่เด่น ๆ ที่น่าสนใจ ที่ทีม “ช่องทางทำกิน” ประมวลจากที่เคยนำเสนอไป และนำมายกตัวอย่างส่งท้ายปี..... “ดอกไม้หินสี” เป็นมงคลคือจุดขาย วรรณี บุญยงค์ นำหินสีมงคลที่มีความหมายดีมาทำเป็นดอกไม้ประดิษฐ์ การทำดอกไม้หินสีมงคลทำไม่ยากเรียนรู้ไม่นานก็ทำได้ แต่คนทำต้องชอบและมีใจรัก ต้องมีจินตนาการ เพราะไม่มีรูปแบบตายตัว ที่สำคัญต้องศึกษาหาความรู้เรื่องของหินสีมงคลด้วย ดอกไม้มงคลจากหินสีมงคลจำหน่ายได้ตั้งแต่ราคาหลักร้อยไปจนถึงหลักหมื่นบาท ขึ้นกับจำนวนหินสีมงคลที่ใช้ทำ และความยากง่ายของชิ้นงาน สนใจติดต่อที่ โทร. 0-2434-4544, 08-6002-9394 “รองเท้าแตะกะลา” เด่นที่วัตถุดิบ ดีที่สุขภาพ จุฬา จันทร์เพ็ง กลุ่มส่งเสริมอาชีพทำ รองเท้า อ.อัมพวา จ.สมุทรสงคราม นำภูมิปัญญาการบำบัดอาการปวดเข่าปวดขาด้วยการเหยียบกะลามาจับลูกค้ากลุ่มคนสูงอายุ โดยพัฒนาเป็นรองเท้าแตะกะลามะพร้าวเพื่อเพิ่มความสะดวกในการใช้งานมากขึ้น สนใจติดต่อ โทร. 08-3778-5096, 08-9075-2182 “กระถางทราย” เพนท์ลายขาย รายได้สวย อดิเรก ชูชาติ ได้ไอเดียจากงานโคมไฟทำจากทราย และนำมาพัฒนาจนเป็นงานกระถางทรายเพนท์แทน เพื่อลดขั้นตอนและเวลา ทำให้ผลิตชิ้นงาน ได้มากขึ้น และสร้างจุดขายด้วยการคิดลายที่เป็นเอกลักษณ์ ถือเป็นอีกงานประดิษฐ์ใส่ไอเดียจนเป็นชิ้นงานสร้างรายได้ดี สนใจติดต่อที่อีเมล HUA_KIDZ@ yahoo.com หรือ โทร.08-1772-0850, 08-6307-6359 “รีไซเคิลพวงหรีด” แปรของดีที่ถูกทิ้งให้เป็นเงิน วนิดา กำพลรัตน์ อาจารย์สอนกลุ่มการงานอาชีพและเทคโนโลยี โรงเรียนวัดธาตุทอง นำการแปรรูปดอกไม้สดจากพวงหรีดมาพัฒนาเป็นผลิตภัณฑ์กระดาษ โดยนำดอกไม้สดที่ถูกทิ้งมารีไซเคิลเป็นกระดาษโดยใช้เทคนิคการทำเหมือนกับการทำกระดาษสา และแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ อาทิ กล่องใส่กระดาษทิซชู, ของชำร่วย หรือรีไซเคิลกลับมาทำเป็นพวงหรีดดอกไม้ประดิษฐ์อีกที สนใจติดต่อโทร. 08-1810-6762 “ยาดมดีไซน์” จุดขายคือแพ็กเกจเก๋ รัชดา โอระพันธ์ นำธุรกิจผลิตน้ำมันเหลืองสกัดแบบโบราณของครอบครัวที่ทำตลาดยาก มาแก้ไขปัญหาด้วยการพัฒนาแพ็กเกจ หรือบรรจุภัณฑ์ จนออกมาเป็นยาดมหลอดทรงตุ๊กตาล้มลุก ตั้งชื่อว่า “ยาดมนางฟ้าแฟนซี” เพื่อจับตลาดวัยรุ่น จากเดิมที่ขายได้แค่กลุ่มผู้ใหญ่-คนสูงอายุ นอกจากนี้ยังสามารถทำตลาดในกลุ่มของที่ระลึก ของชำร่วย ได้อีกหนึ่งช่องทางด้วย สนใจติดต่อ โทร. 08-1985-4680, 08-1696-1331, 0-2871-7522 “ตุ๊กตาล้อเลียน” เงินดี-ขายผ่านเว็บก็ได้ รณภพ กัญจนิตานนท์ ยึดอาชีพสร้างสรรค์งานปั้นการ์ตูนล้อเลียน โดยอาศัยช่องทางการขายผ่านเว็บไซต์ เพื่อแก้ปัญหาเรื่องทำเลขายและการขาดเงินทุนตั้งร้าน ซึ่งงานปั้นการ์ตูนล้อเลียนนั้นเป็นอาชีพที่แทบไม่มีโอกาสตัน อีกทั้งแบบสินค้ายังถูกกำหนดขึ้นมาโดยลูกค้าเป็นคนกำหนดด้วยอีกต่างหาก สนใจติดต่อที่ อีเมล zagai 2002@ yahoo.com หรือโทร. 08-9009-9800, 08-1402-3551 “ศิลปะลูกน้ำเต้า” ของขลัง สร้างเงิน ธีระพงษ์ คงมั่น เป็นเจ้าของผลงานวาดลวดลายลงบนลูกน้ำเต้าโดยใช้เทคนิคการวาดด้วยความร้อน จนผลงานเขาเป็นได้ทั้งเครื่องรางและของประดับตกแต่งบ้านไปในตัว โดยนำจุดเด่นเรื่องคติความเชื่อของผลน้ำเต้าที่เชื่อว่าเป็นเหมือนเครื่องรางนำโชคลาภเงินทองเข้าบ้าน มาผสมผสานเข้ากับงานศิลปะและการวาดลวดลาย ซึ่งนี่ก็เป็นอีกหนึ่งช่องทางทำกินที่แปลกดี สนใจติดต่อที่ โทร. 08-5184-8628 “เรือจำลอง” วัสดุจั่นมะพร้าวก็เข้าท่า พุฒ ดวงแก้ว นำจั่นมะพร้าวเหลือใช้มาประดิษฐ์เป็นเรือจำลอง เป็นของตกแต่งที่น่าสนใจ สร้างรายได้เป็นอย่างดี โดยผลิตออกมาได้ทั้งเรือยาว, เรือแจว, เรือสำเภา เป็นอีกไอเดียต่อยอดจากวัสดุธรรมชาติที่น่าสนใจที่ยังต่อยอดได้อีกเยอะ อยู่ที่ไอเดียใครจะโดนใจตลาดเท่านั้นเอง สนใจติดต่อ โทร. 08-6901-6858 “เซฟตี้เบลท์สมุนไพร” ทำเงินจากภูมิปัญญาไทย ดารารัตน์ ธเนศวาณิชย์ นำไอเดียสมุนไพรมาสอดไส้ในปลอกสำหรับหุ้มเซฟตี้เบลท์ เพื่อเปิดตลาดกลุ่มผู้ใช้รถยนต์และกลุ่มสินค้าประดับยนต์ โดยเพิ่มประโยชน์ใช้สอยในด้านบำบัดอาการภูมิแพ้และให้ความสดชื่นขณะขับรถ นอกเหนือไปจากประโยชน์ด้านความปลอดภัยของเข็มขัดนิรภัยเพียงอย่างเดียว จนสามารถทำตลาดถึงระดับผลิตสินค้าเพื่อส่งออก สนใจติดต่อ โทร.0-2571-2589, 08-1935-9740 “โคมไฟอมยิ้ม” ขายดีไซน์ได้กำไรดี สมศักดิ์ ฐิตินันท์ ใช้ความน่ารักของตัวการ์ตูนมาสร้างสรรค์งาน ทำให้ไม่ซ้ำใคร โดยงานดีไซน์โคมไฟนั้นจำเป็นจะต้องคิดงานออกมาเรื่อย ๆ เพื่อให้ได้งานใหม่ ๆ ออกมาเป็นตัวเลือกให้ลูกค้า ซึ่งโคมไฟการ์ตูนเป็นอีกตัวอย่างว่าแม้สินค้าบางชนิดจะมีการผลิตสู่ตลาดมากมาย แต่หากหาเอกลักษณ์ให้สินค้าได้ ก็ยังสามารถแทรกเข้าสู่ตลาดได้ สนใจติดต่อ โทร. 08-1621-2575 หรือที่เว็บไซต์ //www.omyimdesige.com ทั้งนี้ ที่จริงยังมีอีกหลายงานที่น่าสนใจ แต่ด้วยพื้นที่จำกัดจึงนำเสนอที่เด่น ๆ ได้เพียงเท่านี้ แต่ก็พอจะบอกได้ว่างานประดิษฐ์-งานฝีมือยังทำเงินได้อีกนานซึ่ง “แม้เศรษฐกิจจะฝืดหรือถดถอย แต่ถ้าใครมีไอเดียที่ดี รู้จักคิด รู้จักสร้างตลาด ก็ยังมีทางไปได้เสมอ” พวกเราก็ขอเป็นกำลังใจให้ !!. แปรรูปอาหาร 'ปลอดสาร' ยังแรง ในรอบปี 2551 “ช่องทางทำกิน” เกี่ยวกับ “อาหารแปรรูป” นั้น จุดขายที่ยังคงมาแรงคือต้อง “ปลอดสารพิษ” และตามมาด้วยการ “ต่อยอดไอเดีย” จากวัตถุดิบธรรมดา ๆ จนไม่ธรรมดา อาทิ..... “ไข่เค็มปลอดสาร” อาหารสุขภาพทำเงิน ทวี สิทธิสาครศิลป์ ผลิตไข่เค็มปลอดสารพิษด้วยการดองน้ำแทนวิธีหมักพอกดิน เนื่องจากในดินอาจมีสารพิษปนเปื้อนและไข่เค็มก็อาจมีสารปนเปื้อนได้ แต่การดองไข่จะมีปัญหาเรื่องกลิ่น เจ้าตัวจึงดับกลิ่นจากวิธีแปรรูปวิธีนี้โดยใช้เครื่องฆ่าเชื้อในน้ำก่อนที่จะนำไปใช้ดองไข่ ทำให้ปัญหาเรื่องกลิ่นหมดไป ทั้งนี้ อาหารปลอดสารพิษสามารถทำจำหน่ายได้หลากหลาย อยู่ที่ไอเดียของแต่ละคน สนใจติดต่อ โทร. 08-9113-1899 “ปลาทูเค็มไร้สาร” หน้าตาทันสมัยขายลื่น ปลาทูเค็มที่มีขายตามท้องตลาดทั่วไป ถ้าสร้างจุดขายให้แตกต่าง ก็ยังเปิดตลาดได้อีก อย่าง นภดล แก้วช่างศรี กับปลาทูเค็มปลอดสารพิษ ยี่ห้อ “อ๊อดปลาเค็ม” ที่มีบรรจุภัณฑ์ปิดผนึกมิดชิด เป็นอีกวิธีแปรรูปอาหารขายโดยทำให้ลูกค้ามั่นใจ หาวิธี-หาจุดขายให้กับปลาทูเค็มเพิ่มขึ้น จนสามารถส่งสินค้าออกไปขายยังต่างประเทศได้ด้วย สนใจติดต่อ โทร. 08-1427-0148 และใครได้ไอเดียแล้วจะนำไปพลิกแพลงก็อย่าช้า “ไชโป๊ 3 รส...ไร้สารพิษ” สูตรบางคล้า กับภูมิปัญญาถนอมอาหารอย่างการหมัก-ดอง ประไพ แสงสวัสดิ์ อ.บางคล้า จ.ฉะเชิงเทรา ทำไชโป๊ 3 รส ปลอดสารพิษ ยึดหลักสะอาด ปลอดภัย กำไรนิดหน่อย จนถูกใจลูกค้า เทคนิคทำไชโป๊ให้ได้รสชาติกลมกล่อมอยู่ที่ช่วงรีดน้ำออกจากหัวไชเท้า ต้องรีดให้แห้งสนิทจริง ๆ เวลานำไปหมักแล้วน้ำปรุงรสจะได้ซึมเข้าเนื้อได้ดี สนใจติดต่อ โทร. 08-7147-9689, 0-3813-3041 และใครที่เคยมองไชโป๊ว่าแค่ของกิน คงต้องมองใหม่ “หมูยอกล้วยน้ำว้า” ไอเดียต่อยอด-น่าสน นนทวัชร์ วิริยะธนนนท์, ไพลิน ศิริอุดมเศรษฐ นักศึกษาคณะเทคโนโลยีคหกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลพระนคร วิทยาเขตโชติเวช ได้คิดทำหมูยอแนวใหม่จากผลไม้ ใช้เนื้อหมูบดผสมกับกล้วยน้ำว้า, เกลือ, น้ำตาล, พริกไทย, กระเทียมป่น, น้ำแข็ง, โซเดียมไตรโพลีฟอสเฟต, สารสกัดจากแป้งสาลี จนเกิดเป็นหมูยอไขมันต่ำ-มีคุณค่าทางอาหารสูง สนใจติดต่อที่ โทร. 0-2281-9231 ต่อ 1102 “กล้วยแปรรูป” แม้จะไม่ใหม่แต่ยังขายดี เป็นอีกเมนูแปรรูปจากกล้วยที่ยังขายดี แพรวเพ็ญ แก้วมา กลุ่มแม่บ้านเกษตรกรรอยพระพุทธบาทป่ากล้วย จ.เชียงใหม่ แปรรูปกล้วยน้ำว้าเป็นกล้วยฉาบรสบาร์บิคิว สร้างจุดต่างให้กับสินค้านอกเหนือไปจากการทำกล้วยสุกทอดกรอบ กล้วยอบ กล้วยฉาบรสเค็ม-รสหวาน สามารถสร้างรายได้ให้กับสมาชิกในกลุ่มได้เป็นอย่างดี ใครสนใจก็ติดต่อได้ที่ โทร.0-5348-7204 หรือ 08-9632-9034, 08-1783-5913.   Create Date : 15 มกราคม 2552     0 comment Last Update : 15 มกราคม 2552 7:59:08 น.     Counter : 1098 Pageviews.   Share Tweet

ดาดฟ้ารั่ว [24 พ.ค. 51 - 17:05] เสาร์นี้ขอไขข้อข้องใจให้ผู้มีปัญหาจาก จ.อุดรธานี เขียนจดหมายมาถามเรื่อง จะสร้างตึกแถวแต่กลัวดาดฟ้าจะรั่ว น้ำฝนซึมเข้าบ้าน มีเพื่อนแนะนำให้ทำหลังคาจะดีกว่า แต่คุณผู้มีปัญหาบอกว่า ทำไม่ได้เพราะเนื้อที่มีจำกัด เลยต้องทำเป็นดาดฟ้าเทปูนสถานเดียว จะทำดาดฟ้าแบบไหนถึงจะหนีปัญหาดาดฟ้ารั่วได้...จะใช้น้ำยากันซึม หรือปูหินขัดดีหรือเปล่า อันดับแรกขอบอกเลยค่ะว่า...ที่เพื่อนแนะนำให้ทำหลังคาน่ะถูกต้องแล้ว ป้องกันน้ำรั่วซึมได้ดีกว่าดาดฟ้า เพราะปูนซีเมนต์ นั้น ยังไงก็มีรูพรุนที่น้ำสามารถซึมผ่านได้ตลอดเวลา ยิ่งถ้ามีความชื้นหรือ น้ำท่วมขังอยู่บนพื้นผิวเป็นเวลานาน...น้ำซึมแน่ ส่วนที่ถามมาว่า เอาน้ำยากันซึมผสมลงไปในปูนซีเมนต์ที่เอามาทำพื้นดาดฟ้า จะสามารถแก้ปัญหานี้ได้หรือไม่ ก่อนอื่นต้องรู้ น้ำยากันซึมที่ว่ามานั้น... เป็นน้ำยากันซึมจริง หรือเป็นแค่น้ำยาลดน้ำ!!! เพราะส่วนใหญ่ที่มีขายกันในท้องตลาด แล้วช่างเรียกว่า “น้ำยากันซึม” จริงๆ แล้วไม่ใช่ เป็นแค่ น้ำยาลดน้ำ ที่เขานำมาผสมกับปูนซีเมนต์ใช้ในการเทแบบ เทเสาเทคาน เพื่อให้ปูนลื่นไหลลงเข้าแบบได้ทั่วทุกซอกทุกมุม เพราะถ้าไม่ผสมน้ำยาตัวนี้เข้าไป จะให้ปูนไหลเข้าแบบได้ดี ช่างต้องผสมน้ำเยอะเพื่อให้ปูนเหลว สิ่งที่ตามมาเสาคานจะไม่แข็งแรง...เขาเลยเรียกน้ำยาตัวนี้ว่า น้ำยาลดน้ำ แต่มาตอนหลังมีการเข้าใจกันผิด เรียกเพี้ยนเป็น น้ำยากันซึมค่ะ เราจะรู้ว่าน้ำยากันซึมจริงหรือเปล่า... อันดับแรกถามคนขาย เอาก็ได้ หรือสอบถามบริษัทที่ผลิตน้ำยาตัวนี้ว่า กันซึมได้จริง หรือแค่ น้ำยาลดน้ำ หรือไม่สังเกตจากราคา...น้ำยาลดน้ำ ราคาลิตรละไม่กี่สิบ ส่วนกันซึมของแท้...ลิตรละเป็นพัน แต่ถ้าจะนำมาผสมปูนเพื่อกันซึมให้ ดาดฟ้า...ไม่แนะนำ เป็นเพราะอะไรไว้ว่ากันต่อคราวหน้าค่ะ. มาว่ากันต่อกับจดหมายของผู้มีปัญหาจาก จ.อุดรธานี จะสร้างตึกแถว มีดาดฟ้าแบบไร้ปัญหาน้ำรั่วซึมเข้าบ้าน จะเอาน้ำยากันซึมมาผสมลงไปในปูนซีเมนต์ จะป้องกันปัญหาได้หรือไม่ น้ำยากันซึมถึงจะกันซึมได้จริง แต่จะเอามาใช้งานกับดาดฟ้า...ไม่ขอแนะนำ!!! ด้วย 2 เหตุผลสำคัญ...ธรรมชาติ กับฝีมือมนุษย์ ประเภทช่างเถอะ เหตุผลเรื่องธรรมชาติ ทุกอย่างในโลกนี้ไม่มีอะไรคงทนถาวร มีเสื่อมมีพังมีหมดอายุด้วยกันทั้งนั้น ยิ่งดาดฟ้าอยู่ในตำแหน่งถูกฝนถูกแดดเผารุนแรงทุกวัน น้ำยากันซึมที่ผสมลงไปก็มีโอกาสเสื่อมหมดสภาพได้เร็ว ส่วนเหตุผลฝีมือช่างเถอะ...ไม่ค่อยบ่มน้ำให้กับปูน ปูนซีเมนต์ไม่ว่าจะก่อฉาบเท ทุกอย่างต้องมีการเลี้ยงบ่มน้ำให้ครบสูตร อย่างน้อย 7 วัน บ่มยิ่งนานยิ่งดี ยิ่งดาดฟ้าด้วยแล้ว ยิ่งต้องมากเป็นพิเศษ เพราะอยู่ในที่โล่งแจ้ง ถูกทั้งแดดเผาลมพัดผ่านตลอดเวลา ปูนที่เทไปใหม่ๆ จะสูญเสียน้ำมากและเร็ว ช่างเถอะขี้เกียจบ่ม พื้นดาดฟ้าจึงมักจะมีปัญหาแตกร้าวแตกลายงามากเป็นพิเศษเหมือนกัน พอฝนตก น้ำไหลเข้าไปขังในรอยแตกรอยร้าว รอเวลาซึมรั่วเข้าบ้าน ยิ่งได้ช่างเถอะเทพื้นดาดฟ้าเป็นแอ่งเป็นหลุมที่น้ำขังได้ด้วยแล้ว...การซึมรั่วเกิดขึ้นแน่ เพราะตัวการสำคัญที่จะทำให้น้ำซึมผ่านปูนซีเมนต์ได้ คือ ต้องมีน้ำขังอยู่เป็นพื้นเป็นเวลานาน จะให้ดาดฟ้าไร้ปัญหาน้ำรั่วซึม ผู้เชี่ยวชาญเรื่องปูนซีเมนต์ เครือซิเมนต์ไทย แนะนำว่า พื้นดาดฟ้าจะต้องมีความลาดชันพอสมควร เพื่อให้น้ำฝนที่ตกลงมาไหลระบายออกไปได้เร็ว ฝนตกลงมาแล้ว ต้องไม่มีน้ำท่วมขังอยู่ บนพื้นเด็ดขาด ทำพื้นดาดฟ้าให้เรียบ ไร้รอยแตกร้าว ไม่มีแอ่งไม่มีหลุมให้น้ำขัง พื้นลาดชันระบายน้ำได้ดี...ทำพื้นดาดฟ้าให้มีคุณสมบัติอย่างนี้ได้ คุณหยุดปัญหาน้ำฝนรั่วซึมได้แน่ค่ะ แต่ก็ได้แค่ชั่วคราว...แค่ในระยะแรกเท่านั้น ในระยะยาวนานหลายปีก็ยังมีปัญหาได้อีก... ไว้ว่ากันต่อคราวหน้าก็แล้วกันค่ะ. มาว่าเรื่องดาดฟ้ารั่วของผู้มีปัญหาจาก จ.อุดรธานี กันต่อค่ะ คราวที่แล้ว ค้างไว้ถึงดาดฟ้าที่จะป้องกันน้ำรั่วซึมได้ ดาดฟ้าจะต้องมีคุณสมบัติ...เทปูนไปแล้วพื้นดาดฟ้าจะต้องไม่มีแตกร้าว พื้นดาดฟ้าจะมีความลาดชันให้น้ำไหลระบายได้เร็ว และไม่มีแอ่งหลุมให้น้ำท่วมขังบนพื้นดาดฟ้า แต่ป้องกันน้ำรั่วซึมได้แค่ระยะแรก...ไม่กี่ปี เพราะเป็นธรรมชาติของดาดฟ้า ที่ถูกแดดแผดเผาทั้งวัน หลายปีเข้าพื้นปูนก็จะเสื่อม กะเทาะหลุดล่อน เป็นหลุมเป็นแอ่งให้น้ำท่วมขังและรั่วซึมเข้าบ้านได้อีก แล้วจะแก้ปัญหานี้อย่างไร ผู้เชี่ยวชาญเรื่อง ปูนซีเมนต์ เครือซิเมนต์ไทย แนะนำให้ลงทุนเพิ่ม เติมอีกนิด ปูกระเบื้องเซรามิก ทับลงไปบนพื้นดาดฟ้า กระเบื้องเซรามิกกันน้ำซึมได้ แถมยังทนแดดฝนได้ดีกว่าปูนซีเมนต์...แต่จะมีปัญหานิดหน่อย ตรงบริเวณยาแนวรอยต่อระหว่างกระเบื้อง ต้องใช้กาวยาแนวคุณภาพดีหน่อย และคอยหมั่นดูแลซ่อมแซม ถ้ารอยยาแนวมีการแตกหักหลุดล่อนก็เกินพอ ส่วนที่ถามว่า ปูหินขัดบนดาดฟ้าดีหรือไม่...หินขัดนั้นต้องใช้ปูนด้วยใช่หรือไม่ ปูนถูกแดดถูกฝน สุดท้ายก็จะลงเอยว่าแบบเดียวกับปูนซีเมนต์ค่ะ กระเบื้องเซรามิกเผาด้วยความร้อนเป็นพันองศา ทนแดดทนฝนได้มากกว่าค่ะ ที่สำคัญเอาเซรามิกปูดาดฟ้า... ไม่เพียงแต่ป้องกันน้ำรั่วให้กับดาดฟ้าตึกแถวสร้างใหม่เท่านั้น ดาดฟ้าตึกแถวเก่าๆ ที่น้ำรั่วแล้วรั่วอีก... เอากระเบื้องเซรามิกไปปูทับแก้ปัญหานี้ได้ เหมือนกัน แต่ต้องทำความสะอาดพื้นดาดฟ้า กำจัดสิ่งสกปรก เศษพื้นปูนที่แตกกะเทาะหลุดล่อน ให้หมดเสียก่อนก็แล้วกัน.   Create Date : 12 มิถุนายน 2551     0 comment Last Update : 12 มิถุนายน 2551 8:24:09 น.     Counter : 6738 Pageviews.   Share Tweet