|
|
มูลค่าที่ยั่งยืน
มูลค่าที่ยั่งยืน
Value Way
มนตรี นิพิฐวิทยา
ในWEB SITE ชมรมนักลงทุนเน้นมูลค่าหรือ Thaivi.com ได้มีการพูดคุยกันเรื่องการลงทุนแบบไหนดีกว่ากัน ในการพูดคุยกันนั้นไม่ได้คุยกันเรื่องการใช้Technical analysisกับFundamental analysis แต่เป็นการคุยกันถึงเรื่องการลงทุนที่ใช้การเสาะหาบริษัทที่มีมูลค่าสูงและมีรูปแบบการดำเนินธุรกิจที่ดีและมีอนาคตในระยะยาวกับ บริษัทที่ผลประกอบการน่าจะโดดเด่นในไม่ช้า
การค้นหาบริษัทที่น่าจะมีผลการดำเนินงานที่โดดเด่นในหนึ่งหรือสองไตรมาสนั้นได้รับความนิยมจากนักลงทุนแบบเน้นมูลค่ามากในปีที่ผ่านมา แน่นอนมันสร้างผลตอบแทนที่น่าพอใจมากในปีที่ผ่านมา มันมากเสียจนนักลงทุนที่ใช้วิธีการแบบนี้เริ่มติดใจ และติดตามค้นหาหุ้นประเภทนี้กันมาก
หุ้นดังกล่าวนี้บางบริษัทอาจจะกล่าวได้ว่าเป็นหุ้นก้นบุหรี่(Cigar Butt) ก็ได้ คือหุ้นเหล่านี้มีราคาถูกเมื่อเทียบกับมูลค่า แต่ถ้าราคามันเข้าใกล้มูลค่าแล้วสิ่งที่ต้องทำคือต้องรีบขายมันออกไป การค้นหาหุ้นประเภทนี้ต้องใช้ความพยายามมากสักหน่อย ต้องคอยตรวจสอบงบการเงิน ค้นหาข้อมูลทางธุรกิจเพื่อตามรอยการเปลี่ยนแปลงของกิจการให้พบ และที่สำคัญหุ้นประเภทนี้มีอยู่ตลอดเวลา ให้ผลตอบแทนที่สูงในเวลาไม่นาน
ส่วนหุ้นของบริษัทที่มีรูปแบบการดำเนินธุรกิจ(Business Model) ที่ดีนั้นอาจจะต้องค้นหากันมากหน่อย ต้องศึกษารูปแบบการดำเนินธุรกิจให้ลึกซึ้ง ธุรกิจที่มีรูปแบบธุรกิจที่ดีนั้นมักจะสามารถสร้างมูลค่าที่ยั่งยืนได้อยู่ตลอดเวลา ฉะนั้นเราไม่จำเป็นต้องรีบขายหุ้นไปในระยะเวลาสั้นๆ
ในบทความของ Sham God (อ่านรายละเอียดได้ใน //thinkvalueinvestment.blogspot.com/2007/02/blog-post.html ทั้งหมดนี้แปลเป็นภาษาไทยเรียบร้อยแล้ว) ในบทความนี้เป็นการสัมภาษณ์ Warren Buffett เรื่องการค้นหาหุ้นที่มีมูลค่าที่ยั่งยืน Buffettได้กล่าวว่าให้คิดเสมือนว่าเรากำลังจะเลือกลงทุนทำธุรกิจกับเพื่อนเรา คนใดคนหนึ่ง แน่นอนเราต้องเลือกเพื่อนคนที่เก่ง ซื่อสัตย์ มีความคิดสร้างสรรค์ที่ดี แน่นอนว่าเราต้องลงทุนกับเขายาวนานมาก
การหาเพื่อนมาเป็นหุ้นส่วนนั้นก็คล้ายๆกับการค้นหาบริษัทที่เราจะลงทุนครับ คือเราต้องหากิจการที่สามารถสร้างมูลค่าได้โดยตลอด บางบริษัทมีตราสินค้าที่สื่อให้เห็นถึงว่านี่แหละคือสินค้าที่รับรองได้ว่ามีคุณภาพที่สูง และเจ้าของสินค้านั้นๆสามารถปรับราคาได้อยู่เสมอ
การที่บริษัทจะมีรูปแบบธุรกิจที่ดีนั้นไม่ใช่ไปดูแค่ รูปแบบการได้มาของรายได้(Revenue Model) เท่านั้น เราต้องมองไปถึง รูปแบบของต้นทุน (Cost Model) ซึ่งทั้งสองส่วนประกอบกันเป็น Business Model ดังที่ผมเคยเขียนไปแล้วเมื่อหลายเดือนก่อน
การค้นหาหุ้นที่อาจจะมีผลประกอบการที่น่าประหลาดใจและทำให้ราคาหุ้นเพิ่มขึ้นนั้นเราอาจจะพิจารณาแค่ รูปแบบการได้มาของรายได้เท่านั้นก็พอครับ เพราะบางช่วงเวลาบริษัทประเภทนี้สามารถสร้างรายได้ได้อย่างโดดเด่น แต่บางเวลาอาจจะไม่ดีเลยก็เป็นได้ สำหรับบริษัทที่มีรูปแบบธุรกิจที่ดี จะต้องสังเกตต้นทุนของกิจการให้ดี การลงทุนในเครื่องจักร อุปกรณ์ต่างๆนาๆนั้นเราเรียกว่า "สินทรัพย์" แต่แท้ที่จริงแล้วมันคือต้นทุนที่ยังไม่ได้ถูกใช้ประโยชน์ และเมื่อมันถูกใช้ไปก็จะกลายไปเป็นค่าใช้จ่าย และเมื่อรายได้หักด้วยค่าใช้จ่ายก็จะเป็นกำไร และกำไรนี่แหละครับจะเป็นตัวบอกว่า รูปแบบธุรกิจของบริษัทนั้นใช้ได้ผลหรือไม่
การลงทุนที่ดีจะต้องเป็นการลงทุนที่มุ่งสร้างธุรกิจให้เกิดความได้เปรียบในเชิงแข่งขันเปรียบเทียบกับผู้เล่นคนอื่นๆ เช่นลงทุนเพื่อสร้างตราสินค้า สร้างความได้เปรียบด้านต้นทุน ไม่ว่าต้นทุนทางตรงและทางอ้อม ต้นทุนการผลิต หรือต้นทุนทางการเงิน
รายละเอียดในเรื่องการวิเคราะห์รูปแบบธุรกิจนั้นมีรายละเอียดมากพอสมควร ผมจะค่อยๆนำเสนอต่อจากนี้ไปเรื่อยๆครับ
| Create Date : 12 กรกฎาคม 2550 |
| Last Update : 12 กรกฎาคม 2550 20:37:01 น. |
|
0 comments
|
| Counter : 591 Pageviews. |
|
 |
|
|
|
|
|
| hoon_vi |
 |
|
|
 |
|
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
ผู้ติดตามบล็อก : 41 คน [
