Group Blog
 
<<
กุมภาพันธ์ 2564
 123456
78910111213
14151617181920
21222324252627
28 
 
6 กุมภาพันธ์ 2564
 
All Blogs
 
[Pan's Labyrinth] จินตนาการหลอนในโลกที่แสนเลว


บล็อกภาพยนตร์แรกของปีนี้ขอเปิดมาด้วยแฟนตาซีสีหมองหม่น เรื่อง Pan's Labyrinth ภาพยนตร์จากสเปนปี 2006 และเนื่องจากเป็นหนังนอกฮอลลีวูดจึงไม่รู้จักดาราที่เล่นเรื่องนี้สักคนจ้า แต่สิ่งที่ดึงดูดให้หนังเรื่องนี้ติดตาตรึงใจคือวิธีการเล่าเรื่องที่ผสานความโหดร้ายของสงครามกับจินตนาการของเด็กน้อย จนออกมาเป็นแฟนตาซีสุดดาร์คและน่าสยดสยอง พ่อแม่คนไหนคิดว่าเป็นหนังเด็กแล้วพาลูกไปดูนี่ร้องไห้คาโรงกันจ้าละหวั่น


ชื่อหนังเดิมคือ El laberinto del fauno (ทางวงกตของฟอน) โดยฟอนเป็นชื่อของเทพารักษ์อมนุษย์ครึ่งแพะที่เฝ้าทางวงกต แต่พอเปลี่ยนชื่อหนังเป็นภาษาอังกฤษแล้วคนอาจสับสนระหว่าง Faun กับ Fawn (ลูกกวาง) เลยต้องเปลี่ยนเป็นแพน ซึ่งเป็นเทพครึ่งแพะแต่ก็เป็นคนละตัวกับฟอนอะนะ ภาพยนตร์เรื่องนี้ได้รับเสียงตอบรับที่ดีมาก ชนะรางวัลออสการ์สาขาถ่ายภาพยอดเยี่ยม กำกับศิลป์ยอดเยี่ยม และแต่งหน้ายอดเยี่ยม นับเป็นภาพยนตร์จากต่างประเทศที่ประสบความสำเร็จสูงมาก

**เอ็นทรี่นี้มีการสปอยล์สาระสำคัญของเรื่อง**


 


แบ็คกราวด์ของหนังเรื่องนี้คือสเปนยุคหลังสงครามกลางเมือง ตัวเอกของเรื่อง โอฟีเลีย เป็นเด็กผู้หญิงที่ชื่นชอบการอ่านหนังสือ แม่ของเธอเสียสามีไปในสงครามและตั้งครรภ์กับวีดัลผู้กองฝั่งศัตรู ผู้กองรับอุปถัมป์ทั้งสองคน แต่สถานที่ที่ทั้งสองคนต้องย้ายมาอยู่คือค่ายทหารกลางป่าเขา ที่นี่เป็นกองกำลังของวีดัลเพื่อไล่ล่ากลุ่มต่อต้านที่กบดานอยู่บริเวณนี้ ก่อนอื่นมาปูพื้นประวัติศาสตร์กันหน่อยครับ ...พอได้ยินประวัติศาสตร์ทุกคนรีบกดปิดหน้าอย่างไม่คิดชีวิต ช้าก่อน! มันยาวแค่สามบรรทัด!

สงครามกลางเมืองสเปน เกิดขึ้นจากขั้วขัดแย้งระหว่างฝ่ายสาธารณรัฐ (เสรีนิยม) ที่เป็นรัฐบาล และฝ่ายชาตินิยม (นิยมกษัตริย์) ที่เข้ายึดอำนาจ โดยทั้งสองฝ่ายดึงต่างชาติเข้าร่วม สงครามยุติลงในปี 1939 ด้วยชัยชนะของฝ่ายชาตินิยม หลังจากนั้นรัฐบาลนายพลฟรังโก้ก็ปกครองสเปนมายาวนานจนถึงปี 1975 ...เห็นมั้ยสามบรรทัดเอง

สำหรับเหตุการณ์ในหนังเรื่องนี้คือปี 1944 ช่วงหลังสงคราม ฝ่ายสาธารณรัฐที่หลบซ่อนอยู่ตามที่ต่างๆ ถูกเรียกว่ากลุ่มต่อต้าน ส่วนพวกทหารกลุ่มของนายกองวีดัลคือฝ่ายชาตินิยมที่ตอนนี้เป็นรัฐบาล

โอฟีเลีย เป็นเด็กที่ชอบอ่านหนังสือ มันช่วยทำให้เธอได้หนีจากโลกแห่งความจริงที่โหดร้ายเข้าไปอยู่ในโลกแห่งจินตนาการ หนังเรื่องนี้จะพาผู้ชมผจญภัยไปกับโอฟีเลียในดินแดนแฟนตาซีสลับไปกับการกลับมายังฉากการไล่ล่ากันระหว่างกองทหารและกลุ่มต่อต้าน ชวนให้คิดว่าภาพต่างๆ ที่โอฟีเลียเห็นนั้นแท้จริงแล้วเป็นเพียงจินตนาการของเด็กผู้หญิง หรือเป็นโลกที่มีอยู่จริงกันแน่ อันที่จริงหนังเรื่องนี้ไม่จำเป็นต้องเฉลยออกมาก็ได้ แต่ผู้กำกับได้ออกมายืนยันภายหลังแล้วว่าโลกที่โอฟีเลียเห็นนั้นมีจริง เพราะฉะนั้นบล็อกนี้จะขอเล่าเรื่องไปตามบทนิยายเล่าเลยแล้วกันครับ


แท้จริงแล้วโอฟีเลียคือเจ้าหญิงโมอาน่า ทายาทแห่งจันทราผู้มีปานรูปจันทร์เสี้ยวอยู่ที่หัวไหล่ อาณาจักรของเธออยู่ใต้ดินที่แสงส่องไม่ถึง เธอใฝ่ฝันถึงโลกเบื้องบนใต้ฟ้าสีคราม จึงได้ออกเดินทางละทิ้งความเป็นอมตะไป องค์หญิงได้สูญเสียความทรงจำไป จนกว่าเธอจะสิ้นชีวิตแล้วดวงวิญญาณกลับมายังอาณาจักรใต้ดินอีกครั้ง

โอฟีเลียได้ถูกแฟรี่ชักนำให้ลงมาที่ทางวงกตข้างค่ายทหารและพบกับเทพารักษ์ฟอน ฟอนได้มอบบททดสอบ 3 ภารกิจให้โอฟีเลียพิสูจน์ว่าเธอยังไม่ได้กลายเป็นมนุษย์อย่างสมบูรณ์ก่อนคืนจันทร์เพ็ญ โอฟีเลียต้องทำการทดสอบอย่างยากลำบากเพราะนอกจากความยากของการทดสอบแล้วยังต้องแอบหลบสายตาผู้ใหญ่ไม่ให้ขัดขวางเพราะที่นี่ไม่มีใครเชื่อเรื่องเทพนิยายแบบเธอเลย


ตัวชั่วร้ายประจำเรื่องนี้คือนายกองวีดัล หัวหน้าของกองทหารที่เข้ามาล่ากลุ่มต่อต้านที่นี่ เขาเป็นพ่อบุญธรรมของโอฟีเลีย และเป็นพ่อแท้ๆ ของเด็กในครรภ์แม่ของเธอ วีดัลเป็นคนไร้ความเป็นมิตรแม้แต่กับเด็กและสตรี ไม่มีเมตตาข้าทาสบริวาร และโหดเหี้ยมอำมหิตอย่างถึงที่สุดต่อศัตรู เราจึงคาดหวังได้ว่าเมื่อไหร่ที่หมอนี่โผล่มาจะต้องมีความรุนแรงเกินกว่าเหตุเกิดขึ้น ทั้งเอาไฟฉายตอกหน้าชาวนาที่มาล่ากระต่ายจนยุบเพราะคิดว่าเป็นกลุ่มต่อต้าน ยิงใส่หน้ากลุ่มต่อต้านที่พยายามปัดปืนออกเพื่อขอชีวิต และทรมานเชลยจนต้องร้องขอให้หมอฆ่าทิ้ง นับเป็นตัวละครที่ชวนให้เกลียดอย่างประสบความสำเร็จมากครับ ต่อให้ไม่นับว่าหมอนี่หน้าเหมือนประยุทธ จันทร์โอชาก็เถอะ


แม้แม่จะขอให้เรียกคนๆ นี้ว่าพ่อ แต่โอฟีเลียไม่เคยนับเขาเป็นพ่อ นอกจากสถานการณ์สงครามที่เลวร้ายแล้ว แม่ของโอฟีเลียเองก็ตกเลือดจนป่วยหนัก โอฟีเลียได้แต่เฝ้าภาวนาขออย่าให้น้องในครรภ์ทำร้ายแม่ และหากเป็นไปได้เธอจะพาน้องชายไปยังอาณาจักรใต้พิภพด้วยกัน ฟอนได้ให้แมนเดรกมา ให้โอฟีเลียใส่ชามนมเอาไว้ใต้เตียงแม่แล้วให้เลือดสองหยดทุกเช้า ซึ่งมันก็ทำให้อาการของแม่ดีขึ้นจริงๆ แต่เมื่อนายกองมาพบรากไม้เน่าๆ ใต้เตียงก็ทำให้เธอถูกแม่ดุและโยนแมนเดรกเข้าเตาไฟ มันถูกเผาร้องโหยหวน เสียงร้องของมันทำให้อาการของแม่ทรุดหนักและเสียชีวิตไป แต่หมอก็ช่วยคลอดน้องออกมาได้สำเร็จ


แม้จะพยายามหนีออกจากความโหดร้ายนี้ไปยังโลกแห่งจินตนาการ แต่ในโลกแห่งความเป็นจริงโอฟีเลียก็ยังมีพรรคพวกคนสำคัญอย่างเมอร์ซีเดส หัวหน้าแม่บ้านของกองทหาร โอฟีเลียรู้ว่าเธอเป็นสปายของกลุ่มต่อต้าน แต่ไม่บอกใครเพราะกลัวเมอร์ซีเดสจะเป็นอันตราย และทั้งสองต่างก็เกลียดชังวีดัลจึงเข้าใจกันดีที่สุด โอฟีเลียเคยขอให้เมอร์ซีเดสร้องเพลงกล่อม ซึ่งเธอร้องเป็นอยู่เพลงหนึ่ง แม้จะจำเนื้อไม่ได้ แต่ทำนองของมันก็อบอุ่นสวยงาม และนั่นคือเพลงธีมของภาพยนตร์เรื่องนี้ -- Long, Long Time Ago


หลังถูกสงสัยว่าเป็นสปาย เมอร์ซีเดสพยายามหนีออกจากค่ายโอฟีเลียขอให้พาเธอไปด้วย แต่ทั้งสองคนก็ถูกจับตัวได้ ด้วยความประมาทที่เห็นเป็นผู้หญิงคนเดียวทำให้เมอร์ซีเดสใช้มีดที่ซ่อนไว้ตัดเชือกที่มัดข้อมือออกมากระหน่ำแทงใส่นายกอง และเชือดปากนายกอง หนีออกไปสมทบกลุ่มต่อต้านได้สำเร็จ เป็นชัยชนะเล็กๆ ที่สะใจผู้ชมเป็นอย่างยิ่ง ...แล้วก็ตามมาด้วยฉากผู้กองเย็บปากตัวเอง ไอ้ผู้กอง!!! แกนี่มันชวนให้ปิดทีวีจริงๆ!!!

ภารกิจทั้ง 3 อย่างที่ฟอนมอบหมายให้โอฟีเลียนั้น หากเป็นจินตนาการของโอฟีเลียเองก็ดูจะสอดคล้องกับสถานการณ์ที่เธอต้องเผชิญ แล้วสร้างเป็นมโนภาพขึ้นมาไม่น้อย แต่การที่ผู้กำกับออกมาเฉลยว่าอาณาจักรใต้พิภพมันมีจริงๆ จ้ะ ก็ปิดข้อสงสัยเรื่องไอเท็มต่างๆ ที่โอฟีเลียไปเอามาและผู้ใหญ่จับต้องได้ทั้งชอล์กหรือรากไม้ว่ามันมีจริงๆนั่นแหละ

ภารกิจแรก - นำหินสามก้อนไปใส่ปากคางคกยักษ์ที่อยู่ใต้ดินและทำให้ต้นไม้แห้งตาย
โอฟีเลียมุดลงไปเผชิญกับความน่าเกลียดของคางคกยักษ์ เมื่อเอาหินใส่ลงไปในปากแล้วมันก็อาเจียนก้อนเมือกออกมาก่อนตายไป เมื่อควานลงไปในก้อนเมือกก็พบกับกุญแจดอกหนึ่ง (ทำไมภารกิจเธอไม่ฟรุ้งฟริ้งแบบเจ้าหญิงอื่นเลย) แม้งานนี้จะสำเร็จ แต่เสื้อสวยถูกโคลนจนเละ จึงถูกแม่ทำโทษให้งดอาหารเย็น


ภารกิจที่สอง - ใช้ชอล์กเปิดประตูมิติเข้าไปยังสถานที่อันตราย นำกุญแจไปไขเอาของออกมาโดยห้ามแตะต้องอาหาร
โอฟีเลียเปิดประตูเข้าไปพบห้องที่มีอสูรเผือก (Pale Man) นั่งนิ่งอยู่บนโต๊ะที่เต็มไปด้วยอาหารมากมาย บนผนังเต็มไปด้วยภาพอสูรตนนี้จับเด็กกิน โอฟีเลียไขกุญแจเอามีดออกมาได้ แต่ด้วยความหิวที่อดข้าวเย็นมาทำให้เธอหยิบอาหารบนโต๊ะกินแบบไม่สนใจคำเตือนของพวกแฟรี่ อสูรเผือกจึงตื่นขึ้นเดินเข้าหาโอฟีเลีย แฟรี่ที่เข้าไปขัดขวางก็ถูกจับฉีกกินอย่างสยดสยอง แม้เวลาจะหมดลงแต่โอฟีเลียก็หนีออกมาได้อย่างหวุดหวิด



Pale Man หรือคนไทยเรียกกันว่าผีจ๊ะเอ๋ เจ้าตัวนี้น่าจะเป็นมอนสเตอร์ที่น่ากลัวที่สุดในเรื่องแล้วหละ นักแสดงเป็นคนเดียวกับที่เล่นเป็นฟอนด้วยนะ

ตอนนี้ภารกิจล้มเหลวไปแล้ว ฟอนตราหน้าว่าโอฟีเลียจะไม่มีวันได้กลับไปอีก เธอจะต้องแก่และตายไปบนโลกนี้เช่นเดียวกับมนุษย์ธรรมดา แต่เมื่อคืนจันทร์เพ็ญมาถึงฟอนก็กลับมาให้โอกาสสุดท้าย กับภารกิจที่ยากที่สุดที่ต้องดำเนินการไปพร้อมกับศึกแตกหักระหว่างกองกำลังบนภูเขาประมาณ 50 คน กับทหารของวีดัลที่เหลืออยู่ประมาณ 20 นาย

ภารกิจสุดท้าย - นำน้องชายของโอฟีเลียมาที่เขาวงกต และใช้มีดที่ได้มาจากภารกิจที่แล้วแทงให้เลือดผู้บริสุทธิ์หยดบนแผ่นหิน


ทีแรกโอฟีเลียรู้แค่ภารกิจนี้ต้องนำตัวน้องมาที่เขาวงกต ซึ่งก็ตรงกับความต้องการที่เธอต้องการพาน้องไปอาณาจักรใต้ดินด้วยกันอยู่แล้ว โอฟีเลียจึงนำน้องหนีจากวีดัลมา แต่เมื่อมาถึงเขาวงกตและฟอนบอกว่าจะต้องกรีดเลือดน้อง เธอไม่ยอมทำตาม จนกระทั่งวีดัลตามมาทันและเอาตัวน้องไปก่อนยิงเธอทิ้ง แต่วีดัลก็ต้องเผชิญกับพรรคพวกของเมอร์ซีเดสที่เอาชนะกองทหารและตามโอฟีเลียเข้ามาในป่า วีดัลรู้ว่าตัวเองคงไม่รอดแล้ว จึงขอให้เมอร์ซีเดสรับเด็กไว้

"ช่วยบอกลูกฉันด้วย บอกว่าพ่อของเขาตายเวลาเท่าไหร่ บอกเขาว่าฉัน..."
"ไม่ เขาจะไม่รู้จักแม้แต่ชื่อของแก"

แม้จะแบกรับชื่อเสียงของพ่อและต้องการเกียรติภูมิในช่วงสุดท้ายของชีวิตแบบเดียวกัน แต่กลุ่มต่อต้านตัดสินใจไม่มอบสิ่งนั้นให้กับเขา วีดัลถูกยิงสิ้นใจท่ามกลางเสียงปรบมือสะใจของคนดู จากนั้นเมอร์ซีเดสก็เข้ามาพบกับร่างของโอฟีเลียที่นอนสิ้นใจอยู่ที่ทางเข้าทางวงกต

วิญญาณของโอฟีเลียล่อยลอยกลับไปยังอาณาจักรใต้ดิน พระราชาและพระราชินีพ่อแม่ที่แท้จริงของเธอ พร้อมกับฟอน ได้ออกมาแสดงความยินดีกับเจ้าหญิงโมอาน่าที่เธอตัดสินใจสละชีวิตของตนเองแทนการทำร้ายผู้บริสุทธิ์ นั่นทำให้เธอผ่านการทดสอบ พร้อมเสียงปรบมือจากประชาชนของอาณาจักรดังกึกก้อง ต้นไม้ใหญ่ที่เคยแห้งตายจากคางคกยักษ์ก็กลับมาเขียวขจีออกดอกสวยงาม เธอได้ปกครองอาณาจักรนี้อย่างผาสุกไปอีกหลายศตวรรษ


ตอนนี้หมดหน้าที่ของร่างที่โอฟีเลียทิ้งไว้บนโลกเบื้องบนไปแล้ว เมอร์ซีเดสร้องเพลงกล่อมโอฟีเลียเป็นครั้งสุดท้าย ปลดปล่อยดวงวิญญาณของเธอจากโลกที่โหดร้าย กลับไปยังดินแดนที่เธอจากมาชั่วนิรันดร์

 


จบแบบหม่นหมองสมดังธีมดาร์คแฟนตาซี แต่อย่างน้อยวิญญาณของโอฟีเลียก็ได้กลับบ้านตามท้องเรื่องนะครับ
ต้องคะแนนเต็มเท่านั้นสำหรับเรื่องนี้ครับ เอาไป 5 โสมเกาหลี เอ้ย! แมนเดรก

หากทั้งหมดนี้คือเรื่องที่โอฟีเลียจินตนาการไปเอง ย่อมเปิดเป็นเวทีให้คอหนังวิเคราะห์กันได้อย่างกว้างขวางผสมผสานจิตวิทยาและการตีความสัญลักษณ์ แต่เมื่อโอฟีเลียคือเจ้าหญิงโมอาน่าจริงตามที่ผู้กำกับเปิดเผยนั้นการรับรู้ของผู้ชมก็จะเป็นอีกแนวทางหนึ่ง และมันต่อยอดได้ง่ายกว่า เพราะเรื่องราวมันไม่ได้จบสิ้นไปพร้อมชีวิตของโอฟีเลีย แต่สามารถต่อเส้นเรื่องจากน้องชายที่ควรได้เป็นเจ้าชายของอาณาจักร หรือแม้แต่โอฟีเลียเองจะกลับมาที่โลกมนุษย์อีกครั้ง ขนานไปกับประวัติศาสตร์หลังสงครามกลางเมืองจนสิ้นสุดวาระของรัฐบาลนายพลฟรังโก้ไปเลยก็ยังได้ ทีแรกเรื่องนี้ตั้งใจจะมีภาคต่อ แต่หลังทีมสร้างติดภารกิจกับ Hellboy II ก็เลยยกเลิกโปรเจ็คต์ไปเลย เราก็ได้แต่จินตนาการถึงเรื่องราวหลังจากนี้ไปกันเองนะครับ



 


Create Date : 06 กุมภาพันธ์ 2564
Last Update : 7 กุมภาพันธ์ 2564 9:09:27 น. 34 comments
Counter : 2430 Pageviews.

ผู้โหวตบล็อกนี้...
คุณเริงฤดีนะ, คุณไวน์กับสายน้ำ, คุณภาวิดา คนบ้านป่า, คุณสายหมอกและก้อนเมฆ, คุณThe Kop Civil, คุณtoor36, คุณอาจารย์สุวิมล, คุณทนายอ้วน, คุณมาช้ายังดีกว่าไม่มา, คุณสองแผ่นดิน, คุณSai Eeuu, คุณหอมกร, คุณกะว่าก๋า, คุณmultiple, คุณTui Laksi, คุณtuk-tuk@korat, คุณที่เห็นและเป็นมา, คุณSweet_pills, คุณจันทราน็อคเทิร์น, คุณzungzaa, คุณInsignia_Museum, คุณอุ้มสี, คุณทุเรียนกวน ป่วนรัก


 
เจิมๆๆ
มาจองที่


โดย: เริงฤดีนะ วันที่: 6 กุมภาพันธ์ 2564 เวลา:9:04:03 น.  

 
อ่านดูแล้ว ผมว่าน่าดูนะ เป็นเรื่องจินตนาการ... แสงกับ
มุมกล้องโอเคเลย


โดย: ไวน์กับสายน้ำ วันที่: 6 กุมภาพันธ์ 2564 เวลา:9:48:46 น.  

 
เกือบไปแล้ว เกือบไม่ทันอ่านว่า
ประวัติศาสตร์ยาวแค่สามบรรทัด หึหึ

อ่านจบแล้ว ต้องไปหาข้อมูล
ของคำว่า เมอร์ซีเดส
วาววว น่าจะไปซื้อสักคัน 555
เกี่ยวกันไหมเนี่ย
เสียดายที่ตอนนี้ขับรถไม่ไหวแล้วจ้า
ขอบคุณที่แวะไปให้กำลังใจนุ้งนะคะ



โดย: ภาวิดา คนบ้านป่า วันที่: 6 กุมภาพันธ์ 2564 เวลา:10:03:41 น.  

 
มาแสดงตัวไว้ก่อง โหวตหมด หนังหดหู่นี่
ความจริงไม่อยากดูเลย แต่พอดูแล้วมันหยุดไม่ได้จริงๆ
แปะใจไว้ก่องน๊าาา หมดเป๋าจิงๆ


โดย: nonnoiGiwGiw วันที่: 6 กุมภาพันธ์ 2564 เวลา:11:42:04 น.  

 
เป็นหนัง Dark ที่เป็นที่กล่าวขวัญมากมาย
และยาวนานมาจนปัจจุบัน



"เริงฤดีนะ" แม้นจะเป็นสาวก Gothic ก็มิกล้าดู
ด้วยติดตาหนังแหวะ






โดย: เริงฤดีนะ วันที่: 6 กุมภาพันธ์ 2564 เวลา:14:00:02 น.  

 
อ่านรีวิวของคุณชีริวแล้วคิดถึงหนังเรื่องนี้ขึ้นมาทันทีครับ จำได้ตอนนั้นดูไปสองรอบกว่าจะรู้เรื่อง ชอบเหมือนกันครับ อยากจะดูภาคต่อด้วยครับ ไม่รู้จะมีหรือเปล่า 555


โดย: The Kop Civil วันที่: 6 กุมภาพันธ์ 2564 เวลา:15:19:53 น.  

 
พวกพ่อแม่เข้าใจผิดพาเด็กไปดูหนังโหดมีเยอะ อย่างเดดพูลนี่ก็น่าจะนับนะ เกรียนเกิน เรื่องราวแปลกครับ ผมว่าเด็กไปดูถ้าขวัญอ่อนได้กรีดร้องกันล่ะ

ช่วงเวลาในหนังมันก็พอจะระบุได้ล่ะว่าช่วงนั้นมีเทคโนโลยี หรืออุปกรณ์อะไรที่ใช้งานได้บ้าง โลกสมัยก่อนไม่ได้สะบายเหมือนเดี๋ยวนี้เลย

เข้าใจเปรียบเทียบนะครับ #Saveชีริว


จากบล็อก
ไททันสนุกมากครับ แนะนำให้ดูเลย แนวฮีลลิ่งผมดูกี่เรื่องก็ชอบทุกเรื่อง ชอบแนวนี้แบบจริงจังจริงๆ เกียวอนิสำหรับเรื่อง Hibike! Euphonium จะเป็นลักษณะของดนตรีแบบวงซิมโฟนี ออร์เคสตร้า ครับ ส่วนม้าโมเอะ ผมมีด๋อยตัวนึงนะ "สเปเชียลวีค" น่ารักอยู่นะ เปิดตัวไปแล้วด้วย


โดย: คุณต่อ (toor36 ) วันที่: 6 กุมภาพันธ์ 2564 เวลา:15:42:09 น.  

 
อ่านแล้วดูหดหู่ใจมากเลยค่ะ

ดีที่ตอนจบสวยงาม


โดย: VELEZ วันที่: 6 กุมภาพันธ์ 2564 เวลา:19:34:02 น.  

 
หนังแนวนี้พี่ก๋าไม่ค่อยได้ดูเลยครับ
แต่นั่งอ่านรีวิวจนจบ
มันมีความดาร์กซ่อนอยู่ในหลายๆฉาก
เด็กไม่ควรดูจริงๆล่ะครับ 555

กีตาร์ของพี่ก๋าเก็บไว้นานมากจริง
ตอนแรกก็คิดว่าสายเพี้ยนเพราะคอมันเบี้ยว
สุดท้ายหมิงก็ซ่อมเองครับ
จนมันกลับมาเล่นได้เหมือนเดิมเลย



โดย: กะว่าก๋า วันที่: 6 กุมภาพันธ์ 2564 เวลา:20:03:07 น.  

 
ส่วนตัวคิดว่าหนังยุโรปเล่าเรื่องในวิธีที่แตกต่างจากหนังอเมริกาที่เราคุ้นเคยกันนะครับ


โดย: ทนายอ้วน วันที่: 6 กุมภาพันธ์ 2564 เวลา:20:20:17 น.  

 
สวัสดี จ้ะ น้องชีริว

ชื่อเรื่องของภาพยนตร์เรื่องนี้ ยาวและดูหลอน ๆ นะ
"จินตนาการในโลกที่แสนเลว" ห้าห้า
อ่านเรื่องย่อที่เธอเล่าแล้ว โอฟีเลีย ตัวเอกของเรื่องที่ชอบ
การอ่านหนังสือมาก ก็เป็นไปได้ที่จะสร้งจินตนาการได้เป็นอย่างดี
แต่ผู้สร้างกลับเฉลยว่า เรื่องของ โอฟีเลย เป็นเรื่องจริงที่มาจาก
เมืองใต้ดิน เป็นเจ้าหญิง และตายจากโลกมนุษย์แล้วสามารถกลับ
ไปยังเมืองใค้ดินและครองเมืองใต้ดินต่อจากพ่อ เออ! เลยจบไป
อีกรูปแบบ

ตัวร้ายของเรื่อง นายพลวีดัล ที่เธอเล่าถึงความโหดร้าย
อย่างมากมาย หนังที่เป็น เีรื่องโบราณเช่นนี้ มักมีลักษณะ
โหดร้ายเช่นนี้
เมอร์ซีเดส หัวหน้าแม่บ้านนี่ก็เป็นตัวละครเสริมที่เด่น
เป็นตัวช่วยของโอฟีเลีย หนีกันไป ถูกจับแต่ก็หนีได้ในที่สุด
น่าจะเป็นภาพยนตร์ที่ให้ความตื่นเต้นน่าติดตาม เนาะ

(ผาสุก ใช้ ก ไม่ใช่ ข จ้ะ)

โหวดหมวด ภาพยนตร์


โดย: อาจารย์สุวิมล วันที่: 6 กุมภาพันธ์ 2564 เวลา:20:23:45 น.  

 
เคยดุแวบๆ ในทีวีหนะชีริว
เพิ่งรู้ว่าเป็นหนังสเปนนะ
ขอบใจที่มำข้อมูลอย่างละเอียดมาเล่าให้ฟังจ้า



โดย: หอมกร วันที่: 6 กุมภาพันธ์ 2564 เวลา:21:43:15 น.  

 
เคยดูหนังสเปนค่ะ ถ้าแนวนี้ จะหลอนสุดๆไปเลยค่ะ เด็กดูไม่ได้แน่ๆค่ะ


โดย: Sai Eeuu วันที่: 7 กุมภาพันธ์ 2564 เวลา:4:11:37 น.  

 

สวัสดียามเช้าครับน้องชีริว



โดย: กะว่าก๋า วันที่: 7 กุมภาพันธ์ 2564 เวลา:7:41:07 น.  

 
หนังเรื่องนี้ เห็นชื่อเรื่องแล้วว่า คุ้นๆอยู่ พออ่านเนื้อเรื่องแล้ว
เป๊ะเลย อ.เต๊ะ เคยดูมาแล้วนี่นา จำได้ว่านายทหารนี่โหดมาก

แต่ส่วนที่เป็นเทพนิยายนี่ ดูแล้วก็ งงๆ แต่ก็จำได้ว่ามีลุ้นตลอดเรื่องเหมือนกัน ดูทีแรกเพราะคิดว่าเป็นหนังสงครามซะอีก
ดูไปดูมา อ้าว น่ากลัวอีกตะหากวุ้ย

สรุปว่าเป็นหนังที่ดูแล้วลืมไม่ลงนะครับ ให้ 5 ถั่งเช่า เย้ย 5แมนเดรก เหมือนกันครับ 555

ปล.รถรุ่นใหม่ๆเดี๋ยวนี้ มักจะมีแบตหลัก+แบตสำรอง มาให้ด้วย
เวลาเปลี่ยนเลยจะกระเป๋าแหกๆหน่อยนะครับ555

ขอบคุณสำหรับโหวตด้วยนะครับ





โดย: multiple วันที่: 7 กุมภาพันธ์ 2564 เวลา:9:39:52 น.  

 
สวัสดียามสายค่ะคุณชีริว
รีวิวหนังเรื่องแรกปีนี้มาแนวแฟนตาซีดาร์กโหมด
จากชื่อเรื่องเราว่าไม่ใช่หนังสำหรับเด็กชมเล๊ย...

เคยฉายมานานแล้วแต่ยังไม่เคยผ่านสายตาเรา
อ่านรัวิวและเห็นภาพประกอบ อืม...น่าสนใจนะ
เขาเข้าใจนำมาเปรียบเทียบอารมณ์ของตัวแสดงระหว่าง
ความโหดร้ายของสงครามกับความใสซื่อของเด็กผู้หญิง
นี่ถ้าเปลี่ยนตัวแสดงเด็ก เป็นผู้ชายก็คงจะสร้างไปอีกแนว

รางวัลออสการ์ที่ได้รับ เป็นเครื่องการันตืให้เราอยากหามาชมตาม
นั่นงัย อ่านมาถึงตอนท้าย...มีน้องชายของโอฟีเลีย ที่น่าจะนำ
มาสร้างต่อได้...คงอีกนานละ พิษโควิดรุนแรงผ่านมาปีละ
ที่ยังจบไม่สวย ยังมีตามมาเป็นระลอกๆต่อไปอีกนานแน่ๆ

ปล.ขอขอบคุณมากคร้าบ...สำหรับคำอวยพรด้วยค่ะ


โดย: Tui Laksi วันที่: 7 กุมภาพันธ์ 2564 เวลา:9:49:16 น.  

 
เรื่องฝุ่นควันในเชียงใหม่
ก็คือปัญหาเดียวกับเรื่องโควิดนี่ล่ะครับน้องชีริว
คือ รัฐบาลไร้ประสิทธิภาพในการทำงาน
แล้วก็ไม่ยอมออกไปเสียที
ยิ่งอยู่ ยิ่งแย่
แก้ปัญหาเฉพาะหน้าไปวันๆ

คนเบื่อมากจริงๆนะครับ
วันนี้ถ้ากล้ายุบสภา
จะเห็นคะแนนเลยว่ามันสวิงขนาดไหน
ต่อให้โกงโคตรโกง
พี่ก๋าก็ว่าไม่มีทางกลับมาชนะครับ
คนเบื่อถึงขีดสุดแล้ว
สุดท้ายก็คงทำตามพม่า
กลับมาอยู่ในวังวนรัฐประหารอีกรอบและอีกรอบ

อนาถใจ
คิดได้แต่แบบเดียวกัน
สู้ไมไ่ด้ก็ใช้อำนาจเข้ายึด
ประเทศก็ต่ำต้อยล้าหลังไปเรื่อยๆ

น่าเศร้าใจ



โดย: กะว่าก๋า วันที่: 7 กุมภาพันธ์ 2564 เวลา:9:50:02 น.  

 
สวัสดีครับคุณชีริว
อ่านตามแล้วก็สนุกมาก แต่ดาร์กเอาการอยู่ทีเดียว เกิดเป็นโอฟีเลียช่างเหนื่อยเหลือเกินครับ หนำซ้ำภารกิจทั้งสามยังไม่มีสิทธิ์ปฏิบัติภารกิจนางามสวยๆ อีก TT
คุ้นว่านิทานเด็กที่เคยอ่าน เช่นกริมม์ ก็เห็นว่ามีเวอร์ชั่นดาร์กๆ อยู่เหมือนกันนะครับ ภาพลักษณ์สวยงามที่เห็นตอนเด็กๆ อาจเป็นการแปลงกายของนางยักษ์ก็ได้ ^^
และถุกใจความย่อประวัติศาสตร์สามบรรทัดครับ

ขอบคุณสำหรับกำลังใจที่บล็อกนะครับ
จาบล็อก :
แม็ตช์หนังนี่ ได้อาศัยใบบุญจากชื่อที่มุมภาพหน้าไตเติ้ลการ์ตูนครับ ไม่งั้นผมไม่มีทางหาเจอได้แน่เลย แทบไม่ได้ดูหนังรุ่นนั้นเลยครับ ที่พอรู้จักก็เรื่อง Three men และ Back to the future ที่เหลือคุ้นภาพบ้าง แต่ไม่เคยได้ดู ^^

สำหรับปกญี่ปุ่น นี่ก็กล้าเกิ๊น พอคุณชีริวพูดถึงสมุดหน้าเหลืองแล้วมันใช่เลยครับ


โดย: มาช้ายังดีกว่าไม่มา วันที่: 7 กุมภาพันธ์ 2564 เวลา:10:25:58 น.  

 
สนุกค่ะ


โดย: tuk-tuk@korat วันที่: 7 กุมภาพันธ์ 2564 เวลา:11:10:58 น.  

 
เหมือนที่ออฟฟิตจะเลิกนโยบาย
WFH​ พอๆกะนฌยบายขึ้นเงินเดือนค่ะ
นี่ไม่ขึ้นมาสองปีแล้ว.. ปวดกระดองใจมากกกก..


แค่นะ.. เค้าไม่ลดเงินเดือนก็บุญแล้วเนอะ

คิดบวกๆ..


โดย: nonnoiGiwGiw วันที่: 7 กุมภาพันธ์ 2564 เวลา:15:04:40 น.  

 
ขอบคุณสำหรับกำลังใจในบล็อก - ปลาจาระเม็ดขาวทอดราดพริก นะครับ


โดย: ทนายอ้วน วันที่: 7 กุมภาพันธ์ 2564 เวลา:20:03:58 น.  

 
ส่งกำลังใจก่อนนะคะน้องชีริว
เดี๋ยวพี่ต๋ามาใหม่ค่ะ


โดย: Sweet_pills วันที่: 7 กุมภาพันธ์ 2564 เวลา:23:43:44 น.  

 

สวัสดียามเช้าครับน้องชีริว



โดย: กะว่าก๋า วันที่: 8 กุมภาพันธ์ 2564 เวลา:6:23:30 น.  

 
จากบล็อก


ซอสราดปลาชอบทำเองครับ ปรุงรสเผ็ดๆ หวานๆ ครับ ถ้าซื้อสำเร็จก็ต้องเอามาปรุงเองอีกครั้งครับ อิอิ


วันนี้ชวนไปเที่ยว - วัดร่องขุ่น เชียงราย ครับ


โดย: ทนายอ้วน วันที่: 8 กุมภาพันธ์ 2564 เวลา:12:50:55 น.  

 
คนสร้างผนวกเรื่องได้สนุกมาก
แค่อ่านยังลุ้นตื่นเต้น แต่ก็ยังสงสัย
ทำไมฟอนต้องหลอกให้เอาเลือดน้องด้วยนะ
วีดัลเขาคงทำไปโดยไม่รู้ขนาดจะตายแล้วยังคิดว่า
ตัวเองเป็นวีรบุรุษอีก

สมแล้วที่เป็นสายประวัติศาสตร์
ไม่เว้นแม้แต่ภาพยนตร์ เยี่ยมมากค่ะ


โดย: mcayenne94 วันที่: 8 กุมภาพันธ์ 2564 เวลา:19:14:46 น.  

 

โอฟีเลียไม่ยอมกรีดเลือดน้องชายและถูกวีดัลยิงเสียชีวิต
วิญญาณกลับไปที่ที่จากมาและได้รับการยกย่อง
สมแล้วนะคะที่โอฟีเลียเป็นเจ้าหญิงที่มีเมตตา ปกป้องน้อง
และเสียสละชีวิตบนโลกมนุษย์
สนุกมากค่ะน้องชีริว

หนังชนะรางวัลออสการ์ถึงสามสาขา
ขอบคุณที่ทำให้พี่ต๋ารู้จักหนังน่าชมอีกเรื่องนะคะ



โดย: Sweet_pills วันที่: 9 กุมภาพันธ์ 2564 เวลา:0:20:36 น.  

 
เป็ดย่างพิมาย ร้านอยู่ซ้ายมือก่อนถึงทางแยกโรงพยาบาลพิมาย
เป็นเป็ดย่างแบบไก่บ้านย่างของทางอิสานค่ะ แห้ง ๆ อร่อยดีนะคะ


โดย: tuk-tuk@korat วันที่: 9 กุมภาพันธ์ 2564 เวลา:9:52:43 น.  

 
จริงๆก็ชอบดูนะหนังแนวนี้ ตื่นเต้นปนสยองเหมือนกัน แต่พออ่านเป็นตัวหนังสือกับน่าติดตามนะ


โดย: zungzaa วันที่: 9 กุมภาพันธ์ 2564 เวลา:13:29:58 น.  

 
เนื้อหาของเรื่องนี้ชวนให้อยากรู้และอยากเข้าไปสัมผัสโลกของโอฟีเลีย น่าสนใจครับ



โดย: Insignia_Museum วันที่: 9 กุมภาพันธ์ 2564 เวลา:15:35:15 น.  

 
สีของโทรนหนังทึมทึม
บอกได้ว่าหนังเป็นแบบใด
หนังแบบนี้พี่อุ้มขอบาย
แวะมาโหวตให้จ้า


โดย: อุ้มสี วันที่: 10 กุมภาพันธ์ 2564 เวลา:0:25:26 น.  

 
สวัสดีวันพุธครับ


ชวนไปชิมร้านอาการริมแม่น้ำโขงกันครับ - ครัวไท เชียงแสน


โดย: ทนายอ้วน วันที่: 10 กุมภาพันธ์ 2564 เวลา:19:59:59 น.  

 
เรื่องนี้ผมได้ดูครับ (นาน ๆ ทีจะมีหนังที่ดูตรงกันซักเรื่อง)
บังเอิญร้่านแมงป่องแถวบ้านเปิดแช่ไว้ ผมเลยยืนดูจนจบเลย เมื้อย~เมื่อย
^
^
เอ้ย! ไม่ใช่แล้ว! ผมดู DVD ที่บ้านนี่แหละ ^^"


ชอบเรื่องนี้มากเหมือนกันครับ
ชอบทั้งเนื้อเรื่อง การนำเสนอ และการออกแบบศิลป์เลย
มันลงตัวและสุดยอดมาก
ผู้กำกับ เดล โตโตโร่ (ขอเรียกชื่อนี้แล้วกัน น่ารักดี) ทำได้เยี่ยมจริง ๆ
ผมว่าดีแล้วล่ะที่ไม่มีภาคต่อ จบแค่นี้ตัวหนังเลยกลายเป็นตำนานไปเลย



โดย: ทุเรียนกวน ป่วนรัก วันที่: 11 กุมภาพันธ์ 2564 เวลา:0:42:01 น.  

 
ที่ไปคุย
netflix มีอะไรให้ดูเยอะจริงๆ ครับ ผมดูวันละตอนเลยพอจะดูได้หลายตอนครับ


โดย: คุณต่อ (toor36 ) วันที่: 11 กุมภาพันธ์ 2564 เวลา:18:24:28 น.  

 
น้ำมะขามได้ชิมแล้วชอบเลยค่ะ ส่วนโกโก้ปั่นที่นี่ต้องลองค่ะแล้วจะติดใจไม่เหมือนกับหลายๆที่ๆเคยชิม


โดย: zungzaa วันที่: 11 กุมภาพันธ์ 2564 เวลา:22:00:45 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

ชีริว
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 89 คน [?]





**5 Latest Entries**
RedLife
เบตง
โดราเอม่อน ตอน ปืนหยั่งรู้ความคิด
ปัว-บ่อเกลือ
โดราเอมอน ตอน ฝาแฝดของโนบิตะ


Friends' blogs
[Add ชีริว's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.