Group Blog
 
All Blogs
 
วายร้ายจนมุม

เรื่องสั้น

วายร้ายจนมุม

เพทาย

เมื่อ พ.ศ.๒๕๒๓ ในตอนเช้าตรู่ของวันที่ ๒ ธันวาคม นายร้อยเวร สถานีตำรวจภูธรอำเภอเมือง จังหวัดสุพรรณบุรี ได้รับแจ้งความจากนาย ศิริ อายุ ๕๑ ปี ซึ่งเป็นเจ้าของโรงสีข้าว อยู่ใน ตำบลสระแก้ว อำเภอเมือง มีรายละเอียดว่า

เมื่อวันที่ ๒๑ พฤศจิกายน ตนได้เบิกเงินจำนวนร่วม ๒ ล้านบาท จากธนาคารกรุงเทพ มาเก็บไว้ในตู้เซฟที่บ้าน เพื่อเตรียมไว้รับซื้อข้าวจากชาวนาที่จะนำมาขาย แต่ในเย็นวันเดียวกันนั้นเอง ตนก็ได้ออกจากโรงสีไปร่วมงานวางศิลาฤกษ์เจ้าแม่เทพรักษ์ ในตำบลเดียวกัน ซึ่งมีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์เป็นประธาน ครั้นเสร็จพิธีแล้วก็กลับมาบ้าน แต่กว่าจะถึงโรงสีก็เป็นเวลาประมาณ ๒๓.๐๐ น. ครั้นเปิดตู้เซฟสำรวจดูเงินที่เก็บเอาไว้ ก็ปรากฏว่า ธนบัตรราคาต่าง ๆ ได้อันตรธานไปเป็นจำนวนมาก คำนวณดูแล้วก็เป็นเงินถึง ๑,๓๕๕,๐๐๐ บาท จึงได้นำความมาแจ้งตำรวจในวันรุ่งขึ้น

เมื่อ สารวัตรใหญ่ได้รับทราบ แล้วก็ได้ดำเนินการสืบสวนสอบสวน จนได้ความว่าผู้ที่ลักเอาเงินจำนวนนี้ไปนั้น คงจะไม่ใช่คนอื่นคนไกลที่ไหน น่าจะเป็นคนงานในโรงสีนี้เอง เข้าทำนองเกลือเป็นหนอน แต่เจ้าหน้าที่ก็ยังไม่ลงมือจับกุม เพราะยังไม่ทราบว่าผู้ต้องสงสัยเอาเงินไปซุกซ่อนหรือว่าเก็บไว้ที่ไหน จึงได้แต่เฝ้าสังเกตความเคลื่อนไหวไว้เท่านั้น

จนกระทั่งเมื่อเช้าวันนี้เอง ทางโรงสีได้เปิดการสีข้าวตามปกติ พอเดินเครื่องไปได้ครู่ใหญ่ นายศริก็ต้องตกตลึงพรึงเพริด เมื่อปรากฏว่าได้มีธนบัตรใบละ ๕๐๐ และใบละ ๑๐๐๐ บาท ปลิวว่อนออกมาจากปล่องไฟโรงสี ธนบัตรเหล่านั้นส่วนใหญ่จะติดไฟลุกโชติช่วงออกมาราวกับสะเก็ดดาว จึงสั่งให้คนงานทั้งหมดไล่ตามเก็บ พร้อมกับสั่งให้ปิดเครื่องสีข้าวทันที

ในขณะเดียวกันก็ได้มีคนงาน ๔ คน แสดงอาการพิรุธไม่ยอมช่วยเก็บธนบัติ และทำท่าจะหลบหนี นายศริจึงแจ้งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจ ที่บังเอิญอยู่บริเวณนั้นทำการจับกุมไว้ได้ทั้งหมด จากนั้นก็ทำการสำรวจหาเงินที่ยังไม่ไหม้ไฟ จนพบว่าหลงเหลืออยู่ที่ก้นปล่องไฟกองใหญ่ เมื่อนำมารวมกับส่วนที่คนงานวิ่งไล่เก็บมาได้โดยยังไม่ชำรุด นับดูแล้วเป็นเงินเพียง ๖ แสนบาทเท่านั้น นายศิริถึงกับลมใส่ด้วยความเสียดายเงินที่สูญเสียไปเป็นจำนวนมหาศาล

เมื่อผู้ต้องสงสัยทั้ง ๔ คนถูกนำมาสอบสวนที่สถานีตำรวจแล้ว ทั้งหมดก็ให้การรับสารภาพตลอดข้อหา ว่าพวกตนได้ช่วยกันงัดตู้เซฟของนายศิริ แล้วฉกเอาเงินทั้งหมดไปซุกซ่อนในปล่องไปโรงสี เพื่อรอให้เรื่องเงียบและทางตำรวจไม่สงสัยพวกตนเสียก่อน จึงจะวางแผนขั้นต่อไปด้วยการลาออกจากงาน แล้วขนย้ายเงินหลบหนีไปแบ่งกันต่อไป เพราะนึกไม่ถึงว่านายศิริจะลงมือสีข้าวในระหว่างนี้ แต่เพราะดวงไม่ดีพอที่จะมีเงินล้าน จึงเกิดเหตุให้ของกลางปลิวว่อนออกมาให้จับได้เสียก่อน จึงหนีไม่รอด เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงควบคุมตัวไว้ดำเนินคดีต่อไป

ส่วนผลคดีจะเป็นอย่างไรนั้น ป่านนี้จำเลยดวงจู๋ทั้งสี่คนก็คงจะสำนึกในบาปที่ตนได้กระทำไปแล้วเป็นแน่นอน

#########



Create Date : 30 กรกฎาคม 2558
Last Update : 30 กรกฎาคม 2558 11:11:08 น. 0 comments
Counter : 704 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

เจียวต้าย
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 45 คน [?]




เชิญหารายละเอียดได้ ที่หน้าบ้านชานเรือนครับ
Friends' blogs
[Add เจียวต้าย's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.