Group Blog
 
All Blogs
 
ความสำนึก(ผิด)

เรื่องสั้น

ความสำนึกผิด

เพทาย

เขานั่งอยู่ที่โต๊ะใกล้ประตูหน้าร้านคนเดียว

นั่งมองดูสายฝนที่ซัดกระหน่ำลงมาอย่างหนักในต้นฤดู ทั้ง ๆ ที่กลางวันร้อนจะตับแตก

ตรงหน้าของเขามีแก้วน้ำแข็งเปล่าใบหนึ่ง
แทนที่จะเป็นแก้วเหล้า อย่างทุกวันที่ผ่านมา ที่ร้านนี้และโต๊ะนี้

เขากลับจากที่ทำงานกำลังจะเข้าซอยหน้าบ้าน ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากปากซอยมากนัก
แต่ยังไม่สามารถเดินฝ่าเม็ดฝนที่หนาแน่น และลมที่กระโชกแรงไปได้

เขายกแก้วน้ำแข็งที่เย็นเฉียบมีหยดน้ำเกาะรอบ ๆ ขึ้นคลีงกับแก้ม
เพื่อระบายความร้อนผ่าวจากเปลวแดดเมื่อก่อนที่จะมาถึงร้านนี้

เขาตั้งใจจะกลับบ้านแต่วัน จะได้กินข้าวมื้อเย็นกับเธอ
เธอซึ่งเป็นเมียของเขา ที่อยู่ด้วยกันมาร่วมสิบปีแล้ว

แต่ในปีสองปีหลังนี้ เข้าไม่เคยได้กินข้าวมื้อเย็นกับเธอเลย
เพราะมัวแต่เข้าวงเหล้ากับเพื่อนที่ทำงาน และมาแวะที่ร้านนี้อีกนิดก่อนจะเดินเข้าบ้าน

เมื่อถึงบ้านก็เป็นเวลาที่เมียเขาเข้านอนแล้วเกือบทุกคืน

................................เวลาล่วงไป.................ฝนยังกระหน่ำเหมือนเดิม

ถ้าจะมีใครถามเขา เหมือนกับเมียของเขา ที่เคยถามเขาว่าเขามาแวะที่ร้านนี้ทำไม

เขาก็ไม่อาจจะตอบได้อย่างฉาดฉานนัก เพราะเขาเองก็ไม่แน่ใจกับคำที่จะตอบนั้น
เขามานั่งที่ร้านนี้ก่อนจะเข้าบ้าน ก็เพราะถึงจะเข้าไปเวลานั้น
ก็เลยเวลาอาหารเย็นไปนานแล้ว เขาจึงหาอะไรกินพอหนักท้องเสียก่อน

แต่นั่นไม่ใช่คำตอบที่ถูกต้องที่สุด มันยังมีเหตุผลอื่นอีก
เด็กสาวเสริฟตาคมที่พูดไทยไม่ค่อยชัดคนนั้นน่าจะสำคัญกว่า

เขาซื้อเหล้าฝรั่งขวดใหญ่มากินเพียงแก้วสองแก้ว แล้วก็ฝากไว้
เพื่อที่จะได้มาอาศัยกินเวลาค่ำทุกวันที่กลับจากทำงาน

ทั้ง ๆ ที่ร้านนี้มีเด็กเสริฟสามสี่คน แต่เขาจะหาเรื่องคุยกับเด็กคนนี้คนเดียว
ทุกครั้งที่เธอเข้ามาชงเหล้าให้เขา และให้รางวัลไม่มากมายเมื่อจะออกจากร้าน

เขาไม่ได้หวังอะไรจากเธอ เพราะเขามีเมียแล้ว แม้จะไม่มีลูก
แต่เธอผู้นี้ก็มีอายุประมาณที่จะเป็นลูกสาวของเขาได้

...............................ฝนค่อยซาเม็ดลง.........................

จนมาถึงเมื่อวานซืนนี้เอง ซึ่งเขาได้รับข่าวที่ทำให้ตัวชา
จิตใจแห้งเหี่ยวเหมือนต้นไม้บนเกาะกลางถนนในหน้าแล้ง

เธอผู้นั้นได้ลาออกจากร้านกลับไปบ้านเกิดของเธอแล้ว
เขาเพิ่งรู้สึกตัวว่าเด็กสาวคนนั้นมีความสำคัญกับชีวิตของมากมายเพียงใด

เมื่อวานเขามานั่งที่ร้านนี้โดยไม่มีเธอ และกินเหล้าที่เหลือเกือบครึ่งขวดจนหมด

และเมื่อกลับบ้านเจอหน้าเมียซึ่งต่อว่าด้วยเรื่องอะไรก็จำไม่ได้
ซึ่งทำให้เขาบันดาลโทสะจนถึงกับออกปากไล่เธอออกจากบ้าน
ทำให้เธอต้องร้องไห้อย่างหนัก ส่วนเขาหลับเหมือนกับสลบไปด้วยฤทธิ์เหล้า

..........................ฝนเริ่มซาเม็ดลงแล้ว.......มีแสงฟ้าแลบและเสียงครืนครางเบา ๆ

เมื่อเช้าก็รีบแต่งตัวไปทำงาน โดยไม่เอาใจใส่เลยว่าเมียของเขาจะอยู่ตรงมุมไหนของบ้าน

ระหว่างทำงานเขาหวนคิดถึงเด็กเสริฟคนนั้น แล้วก็คิดถึงเมียของเขา

ความเป็นจริงย่อมมีค่ามากกว่าความฝัน สิ่งที่สามารถจับต้องได้ย่อมดีกว่าเงาที่เลือนราง
สิ่งที่ผ่านไปแล้วย่อมไม่หวนคืนมาอีก คนที่เขาน่าจะระลึกถึงควรจะเป็นเมีย
ผู้หญิงที่เขาเคยรักและเทิดทูน เมื่อสิบปีที่แล้ว

เขาเพิ่งสำนึกได้ ถึงความผิดของเขาที่ละเลยเธอมาเป็นปี

.........................ฝนเกือบจะหยุดแล้ว........ฝอยฝนปลิวอย่างบางเบา...........................

เขาควักเหรียญสีทองจากกระเป๋าออกมาวางบนโต๊ะเป็นค่าน้ำแข็ง

แล้วก้าวเดินเข้าชอยโดยไม่สนใจกับละอองฝนที่ยังพรมอยู่เล็กน้อย
สองมือซุกอยู่ในกระเป๋ากางเกงที่ค่อนข้างขื้น

เขาตกลงใจที่จะเลิกกินเหล้า หรือกินให้น้อยลง หรือกลับมากินที่บ้าน หรือ ฯลฯ

ช่างก่อนเถอะ แต่วันนี้เขาต้องกลับไปให้ทันก่อนที่เมียของเขาจะเข้านอน

เขาจะอ้อนวอนขอให้เธอยกโทษให้เขา ที่พลั้งเผลอแสดงกิริยาอาการที่น่าเกลียดกับเธอ

เขาจะยอมทำทุกอย่างที่เธอต้องการ เพื่อแก้ตัวใหม่สักครั้ง

เมื่อเขามาถึงบ้าน...........................ประตูรั้วปิด.........................!

ประตูบ้านก็ปิด หน้าต่างก็ปิด.............................ไม่มีวี่แววของเมีย ! ! !

เธอไปแล้ว............เธอทิ้งเขาไปแล้ว.................โดยไม่ยอมให้เขาแก้ตัว

เธอคงโกรธแค้น และเสียใจ จนไม่ยอมอภัยให้เขาเป็นแน่

เขาคิดอะไรไม่ออก.................................................

ขณะนั้นมีเสียงเรียกชื่อเขาด้านหลัง เมื่อหันไปตามเสียงก็พบหญิงเพื่อนบ้าน

เธอบอกว่า ไม่รู้เรื่องหรอกหรือว่าเมียของเขาอยู่ที่โรงพัก
เธอไปทำอะไรที่โรงพัก แจ้งความที่เขาอาจจะลืมตัวทำร้ายเธอเมื่อคืนนี้หรือ

เธอถูกจับขณะแทงหวยใต้ดินพร้อมกับเจ้ามือ................เพื่อนบ้านบอก.

###########









Create Date : 16 เมษายน 2552
Last Update : 16 เมษายน 2552 6:30:10 น. 8 comments
Counter : 558 Pageviews.

 
อุตส่าห์อ่าน แล้วเชียร์ มาเรื่อยๆ จนผู้ชายคนนี้คิดได้ คิดถึงเมียตัวเองแล้ว ไชโย...อะไรประมาณนั้น

โธ่ ตอนจบ หักมุม ซะเซเลยเรา

ฮ่าๆ ๆ ๆ


โดย: Mermaid AI วันที่: 16 เมษายน 2552 เวลา:10:27:30 น.  

 


น้ำสงกรานต์ พัดผ่าน ความโศกเศร้า
ทุกปัญหา เคยรุมเร้า จงเข้าที่
มีความรัก รับความสุข ทุกไมตรี
มีสุขี วันดี ปีใหม่ไทย



โดย: หน่อยอิง วันที่: 16 เมษายน 2552 เวลา:15:21:18 น.  

 
ศึกษารายละเอียดในเว็บไซด์นี้ อาจเปลี่ยนชีวิตคุณได้

//www.i-amagel.com/leader.php?id=salakchit


โดย: salakchit_5 วันที่: 16 เมษายน 2552 เวลา:19:05:50 น.  

 
ขออภัยครับคุณ Mermaid AI
หักเลี้ยวแรงไปหน่อยถึงกับเซเลยหรือครับ


ขอบคุณหน่อยอิง สำหรับบทกวีวันสงกรานต์ครับ


ขอบคุณ คุณสลักจิต ที่กรุณาแนะนำ
บังเอิญผมพอใจในชีวิตที่เป็นอยู่มากว่า ๗๐ ปีนี้แล้วครับ.


โดย: เจียวต้าย วันที่: 18 เมษายน 2552 เวลา:21:52:25 น.  

 
แหม คุณลุง โค้งหักศอก 90 องศานะคะ
เอ๊ แล้วยังจะสำนึก ( ผิด) โดยไปช่วยประกันตัวไม๊ค่ะ ?
คนนึงติดคนชง อีกคนติดหวยใต้ดิน
ต้นแบบละครไทยบ้านเราจริงๆ
ขอบคุณค่ะ


โดย: PANPISA วันที่: 20 กรกฎาคม 2553 เวลา:21:27:40 น.  

 
ต่อจากเหตุการณ์นี้แล้ว ทั้งสองก็ครองคู่กันอย่างเป็นสุข ตราบชั่วชีวิต.............จบครับ.


โดย: เจียวต้าย วันที่: 21 กรกฎาคม 2553 เวลา:5:58:57 น.  

 
"ความเป็นจริงย่อมมีค่ามากกว่าความฝัน สิ่งที่สามารถจับต้องได้ย่อมดีกว่าเงาที่เลือนราง"
ชอบครับ...ถูกต้องและจริงแท้ทีเดียว
ผมขอจดเอาไว้นะครับ


โดย: วิรุฬห์ IP: 124.122.112.247 วันที่: 31 สิงหาคม 2553 เวลา:22:46:44 น.  

 
ขอบคุณที่ความสำนึกผิดของเขา เป็นคติสำหรับผู้อ่านครับ.


โดย: เจียวต้าย วันที่: 1 กันยายน 2553 เวลา:5:51:31 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

เจียวต้าย
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 45 คน [?]




เชิญหารายละเอียดได้ ที่หน้าบ้านชานเรือนครับ
Friends' blogs
[Add เจียวต้าย's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.