"Aviance UV Expert" Mission : 2nd Week

หนึ่งสัปดาห์ผ่านไปอย่างรวดเร็วทีเดียว วันนี้ปูเป้จะมาอัพเดท “Aviance UV Expert Mission” ในสัปดาห์ที่สองซึ่งมีโจทย์หลัก ๆ คือ “Beauty Diet” ซึ่งกำหนดคอนเซปต์ว่าผมจะต้องหาเคล็ดลับในการทานอาหารเพื่อบำรุงผิวให้ขาวกระจ่างใสมาลงใน Facebook ของ Aviance Thailand ซึ่งอ่านแล้วก็แบบ... มีด้วยหรอ(วะ)? แต่คำว่า “กระจ่างใส” ก็ทำให้ผมนึกถึงคำถามที่ผู้อ่านที่คอยติดตาม Blog ไถ่ถามกันมากมากที่สุดซึ่งก็คือ “อยากหน้าขาวใส อยากหน้าใสไร้สิว จะใช้อะไรดีคะ/ครับ?”



...ถ้ามีสิวก็ใช้พวก skincare ที่มีส่วนผสมของกรด Salicylic Acid หรือ BHA ควบคู่กับยารักษาสิวสามารถช่วยให้อาการของสิวบรรเทาลงได้ หากกังวลเรื่องผิวคล้ำจุดด่างดำการทาครีมกันแดดที่สามารถปกป้องผิวได้ครบทั้ง UVA/UVB และ อนุมูลอิสระ ควบคู่ไปกับการใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมซึ่งช่วยปรับลดเมลานินในผิวได้ก็จะช่วยทำให้ปัญหาบางเบาลง แต่เรื่อง “ผิวใส” เนี่ยสิคือปัญหา เพราะมันไม่ได้มีส่วนผสมตัวใดในเครื่องสำอางที่ใช้แล้วจะทำให้ “ผิวใส” ได้โดยตรง ปัญหาที่หนักยิ่งกว่าคือคนส่วนใหญ่ไม่เข้าใจในจุดนี้ (เลย)...

คำกล่าวที่ว่า “ดวงตา คือ หน้าต่างของ หัวใจ” ฉันใด ผมก็จะขอบอกว่า “ผิวพรรณ ก็คือหน้าต่างของ สุขภาพ” ฉันนั้น... มันเป็นไปไมได้หรอกครับกับการที่เราจะโปะโคมโปะครีมที่อุดมไปด้วยวิตามิน สารสกัดทรงคุณค่ามากมายแบบไม่อั้น แต่กลับกระทำการบ่อนทำลายสุขภาพทุกวิธีทางแล้วจะมี ผิวพรรณที่ “ผ่องใส” ได้ ผมจึงบอกทุก ๆ คนที่มาปรึกษามาโดยตลอดว่า “การที่เราจะมีผิวพรรณที่ดีนั้น การใช้เครื่องสำอางและการบำรุงผิวที่ดีเป็นเพียงปัจจัยครึ่งหนึ่ง แต่อีกครึ่งที่เหลือเราต้องช่วยเหลือตัวเองด้วยการดูแลสุขภาพให้แข็งแรงสมบูรณ์ควบคู่ไปด้วย” การดูแลผิวต้องดูแลแบบ “ครบวงจร” คือดูแลให้ครบทั้งจากภายในและจากภายนอก ศัพท์สวยๆ ก็คงจะบอกว่าเป็นการดูแลแบบ “องค์รวม” (Holistic) นั่นเอง ซึ่งในวันนี้ปูเป้ก็จะมาแชร์ประสบการณ์ของการดูแลตัวเองแบบครบวงจรโดยภาพรวมให้ทุกคนได้ลองเก็บข้อมูลกันนะครับ







พักผ่อนให้เพียงพอ – การนอนหลับเป็นสิ่งที่สำคัญมาก!!! เพราะในขณะที่เราปล่อยใจให้ไหลไปกับกระแสนิทราแต่ร่างกายของเรากลับกำลังทำงานกันอย่างเต็มที่ในการซ่อมแซมและเสริมสร้างตัวเองในยามค่ำคืน ส่วนตัวผมเป็นคนที่รักการนอนมากครับและเห็นเรื่องการพักผ่อนเป็นสิ่งสำคัญมากกับการมีผิวพรรณ์ที่สดใสเนื่องจากมีประสบการณ์ตรงกับตัวเองในช่วงที่ผมมีงานที่ต้องทำเป็นเวลาจึงเข้านอนตอน 4 – 5ทุ่ม และตื่นตอน 6 – 7 โมงเช้าทุกวัน เวลาผ่านไปแค่หนึ่งเดือน ทุกคนทักเป็นเสียงเดียวกันว่าผิวใสเด้งออร่ากระจายจนน่าอิจฉา (ไปใช้ครีมอะไรมายะ อัพเดทด่วน!!!) ทว่าผมไมได้เปลี่ยนแปลงเครื่องประทินผิวที่ใช้เลยครับ แค่ปรับการนอนของตัวเองให้เป็นเวลาและมีคุณภาพมากขึ้นเท่านั้นเอง หลังจากนั้นเป็นต้นมาผมจะพยายามนอนเป็นเวลาเท่าที่ทำได้ แต่ก็ไม่ได้เคร่งหรือเข้มงวดมากเพราะมันจะกลายเป็นการกดดันตัวเองให้เครียดจนนอนไม่หลับซะเอง



มองโลกในแง่บวก – ผมมีคำคำที่ยึดมั่นไว้ในใจอยู่เสมอก็คือ "Once you replace negative thoughts with positive ones, you'll start having positive results" เพราะการมองโลกในแง่บวกนั้นบ่อยครั้งจะทำให้ปัญหาต่าง ๆ ที่ดูเหมือนตีบตันก็สามารถผ่านไปได้ ปกติผมเป็นคนที่คิดมากครับ เก็บกด ย้ำคิดย้ำทำ จนสะสมความเครียดให้กับตัวเองโดยไม่รู้ตัว (ถึงขั้นต้องพบจิตแพทย์มาแล้ว) แต่การปรับทันศนคตินี่แหล่ะครับที่ทำให้ผมผ่านความเครียดและอุปสรรคืชีวิตมาได้

“ความเครียด” ส่งผลต่อสุขภาพ... แน่นอนว่าส่งผลต่อผิวพรรณทางอ้อมด้วย ความเครียดส่งผลให้ระบบการทำงานของสารเคมี ฮอร์โมนต่างๆ ในร่างกายทำงานผิดปกติ ซึ่งอาจหมายถึงการไหลเวียนโลหิตที่ไม่ดีผิวจึงดูหมองคล้ำไม่สดใส ความเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนอาจทำให้การผลิตของต่อมไขมันเพิ่มขึ้นหรือลดลง อาจทำให้ผิวแห้งกร้านหรืออาจทำให้สิวเห่อก็ได้ ความเครียดยังลดความสามารถของระบบภูมิคุ้มกัน อาจทำให้เกิดการติดเชื้อหรือผิวหนังอักเสบ ผด ผื่น เป็นอาการแทรกซ้อนตามมา เราสามารถขจัดความเครียดได้ด้วยการมองโลกในแง่ดี ยอมรับความจริง และขจัดปมในใจให้หลุดไปครับ



กินอย่างฉลาด – ผมรัก Junk Food ครับ... เนื้อย่างติดมันเยิ้ม ๆ บนเตาถ่าน ของหวานสารพัดอุดมไปด้วยแป้ง นม เนย น้ำตาลนี่ขาดไม่ได้... แต่ในตอนที่ผมต้องผ่าตัดฝีที่ต้นขาออกไปนั้นเปลี่ยนแปลงทุกอย่าง เพราะว่าแผลผ่าตัดนั้นอักเสบอยู่นานและหายช้ามาก นั่นเป็นเพราะผมมีปริมาณน้ำตาลในเลือดสูงมาก (จนน่ากลัวว่าจะตายด้วยเบาหวานมากกว่าจะแก่ตาย...) วันนั้นเป็นวันที่ได้รู้ซึ้งถึงคำพูดที่ว่า “You are what you eat” ด้วยตัวเองจึงเริ่มปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการกินของตัวเองทีละเล็กทีละน้อย (ผมไม่แนะนำให้ใครเลิกแบบหักดิบครับ เพราะมักจะทนไม่ไหวและล้มเลิกกลางคันไปซะส่วนใหญ่)

เริ่มต้นง่ายๆ แค่เปลี่ยนจากน้ำอัดลมและน้ำหวานเป็นน้ำเปล่า เปลี่ยนจากข้าวขาวเป็นข้าวกล้อง เปลี่ยนจากเนื้อแดงเป็นเนื้อขาว (อย่างเนื้อไก่ เนื้อปลา) และอื่น ๆ ก็จะช่วยให้สุขภาพดีขึ้นทีละนิด ๆ แล้วครับ (แน่นอนว่าผมก็ไมได้เคร่งแบบว่าต้องทานแบบนี้ตลอด 7 วันหรอกครับ จะมีสัก 1 – 2 มื้อในแต่ละสัปดาห์ที่ผมจะแอบตามใจปากบ้างเหมือนกัน เพื่อความสุขในชีวิตครับ)



กีฬา~กีฬา เป็นยาวิเศษ – ออกกำลังกายเป็นสิ่งที่ดี แต่หลาย ๆ คน มักมี “ข้ออ้าง” และ “ข้อแก้ตัว” ให้ตัวสำหรับเพื่อที่จะไม่ออกกำลังกาย (ไม่ว่าง... ไม่มีเวลา... ชั้นทำงานหนัก... ชั้นเหนื่อย... แต่จริงๆ แล้วคือ “ชั้นขี้เกียจ” นั่นเอง) ผมก็งงนะว่าผู้หญิงมีเวลาแต่งหน้า ทำผม (โดยค่าเฉลี่ย 30 -60 นาที) มีเวลาตั้งวงนินทาชาวบ้านหรือพูดถึงละครหลังข่าววันก่อนในช่วง Coffee Break (ก็เฉลี่ย 20 – 30 นาที) มีเวลาเดินตลาดนัดแถวออฟฟิสก่อนกลับบ้าน ( 1 ชั่วโมงหรือมากกว่า) แต่บอกไม่มีเวลาออกกำลังกาย 30 นาที...

การออกกำลังกายเป็นการเพิ่มภูมิคุ้มกันให้กับร่างกาย เพิ่มการไหวเวียนโลหิต ลดความเครียด และดีต่อรูปร่างด้วย มีแต่ข้อดีครับ แต่กลับไม่ค่อยมีคนทำกันเท่าไหร่... สำหรับผู้ที่เริ่มต้น ผมไม่แนะนำให้โหมออกกำลังกายในวันแรก ๆ ที่เริ่มเป็นอันขาด แต่ให้เริ่มจากน้อยไปมากดีกว่าครับ ค่อย ๆ ปรับร่างกายไปทีละนิด ผมเคยเจอผู้หญิงที่มีรูปร่างอวบคนหนึ่งในฟิตเนส คิดว่าคงพึ่งมาเป็นวันแรกเพราะไม่เคยเห็นมาก่อน เธอปั่นจักรยานและยกเวทอย่างบ้าคลั่งเหมือนกับจะพยายามผอมให้ได้ในวันเดียว แน่นอนครับว่านั่นเป็นวันแรกและวันสุดท้ายที่ผมพบเธอ... คนที่เริ่มออกกำลังกายต้องเริ่มออกเบาๆ และน้อยๆ ก่อนครับ อัดเต็มสตีมไปตั้งแต่วันแรกร่างกายก็น็อคจนปวดเมื่อยล้าจนพาลไม่อยากออกกำลังกายต่อน่ะสิ...)





ที่ว่ามานั้นก็ดูเหมือนเป็นเรื่องทุกคนน่าจะรู้กันดี (แต่ก็ไม่ค่อยมีคนทำกันเท่าไหร่) ทว่าปูเป้ยืนยันจากประสบการณ์ตรงครับว่า “สุขภาพ” ที่สมบูรณ์นั้นมีผลมากทีเดียวกับการที่จะมีผิวพรรณที่สดใส

สำหรับประเด็นเรื่อง “อาหารเสริม” หรือ “วิตามินเม็ด” ผมมองว่ามันไมได้เป็นสิ่งที่จำเป็น (Essential) เพราะถึงไม่ต้องพึ่งสิ่งเหล่านี้เราก็สามารถมีสุขภาพที่ดีได้ แต่ผมเองก็ไม่ได้ต่อต้านหรอกนะครับ ใจจริงแล้วผมอยากให้ทุกคนพยายามด้วยตัวเองและวิธีแบบธรรมชาติให้เต็มที่ก่อน ถ้าได้ผลดีเราก็ไม่จำเป็นต้องไปเปลืองเงินกับพวกอาหารเสริม แต่หากพยายามแล้วยังไม่ได้ผลหรือได้ผลไม่ดีเท่าที่ควร อาหารเสริมก็เป็นอีกตัวเลือกที่ควรพิจารณาใช้อย่างเหมาะสม ความคิดที่จะขี้โกงหรือใช้ชีวิตแบบมักง่ายโดยการพึ่งพา “ยา” หรือ “อาหารเสริม” แต่เพียงอย่างเดียวแล้วจะผิวสวย หุ่นดีได้นั้น เป็นความคิดที่ผมแอนตี้มาก เพราะผมเชื่อว่าคนเราจะมีคุณค่าได้เมื่อมีความพยายาม และไม่ว่าปราการอุปสรรคจะสูงเท่าไรหากมีความพยายามก็สามารถก้ามข้ามไปได้อย่างแน่นอน... เรามาพยายามเพื่อสุขภาพและผิวพรรณที่สดใสกันเถอะครับ ;D



PS. สัปดาห์ต่อไปปูเป้ก็ยังคงอัพเดททิปการดูแลความงามที่ Facebook ของ Aviance Thailand อีกเช่นเคย สามารถแวะติดตามชมได้ครับผม

ติดตาม Aviance UV Expert Mission ทั้ง 4 สัปดาห์


"Aviance UV Expert" Mission : 1st Week (Facial Nourishment)
"Aviance UV Expert" Mission : 2nd Week (Beauty Diet)
"Aviance UV Expert" Mission : 3rd Week (Beauty Tips in Office)
Aviance UV Expert" Mission : 4th Week (My Beauty Philosophy)





Create Date : 26 กันยายน 2553
Last Update : 31 ตุลาคม 2553 12:46:30 น.
Counter : 3126 Pageviews.

6 comments
  
มาเก็บเกี่ยวความรู้และสาระดีๆ ความรู้คู่ความงามจริงๆ เลยค่ะ
โดย: FerGieFoN IP: 58.11.58.41 วันที่: 26 กันยายน 2553 เวลา:15:22:48 น.
  
ว่ากันว่า รสนิยมของการกินอาหารส่วนหนึ่งก็คือความเคยชิน ไม่เชื่อลองถามคนไทยที่ต้องอยู่ต่างประเทศสิ ร้อยทั้งร้อยก็ต้องนึกถึงอาหารไทยบ้านเราอยู่ดี

ดังนั้นวิธีแก้สำหรับคนที่ติดหวานคือ ลดปริมาณลงไปเรื่อยๆ ทำช้าๆแล้วจะไม่ติดหวาน เราชอบดื่มกาแฟนะ เดียวนี้ไม่ใส่น้ำตาลเลย ขนมหวานกินที่ไหนก็รู้สึกว่าหวานจัง "ทุกร้าน" เลยต้องทำกินเองเช่นกัน
โดย: narusu IP: 125.27.196.113 วันที่: 26 กันยายน 2553 เวลา:15:47:04 น.
  
ขอบคุณคุณปูเป้มากๆ ค่ะ เราทำไม่ได้ 2 ข้อ
ืคือนอนหลับพักผ่อน กับ ออกกำลังกาย

จะพยายามทำให้ได้จ้ะ
โดย: แฟนานุแฟน IP: 118.172.196.95 วันที่: 26 กันยายน 2553 เวลา:19:22:34 น.
  
เราก็ทำไม่ได้สองข้อคือ กินอย่างฉลาด และออกกำลังกาย --* แต่จะค่อยๆเป็นค่อยๆไป ^^
โดย: ตุ๊กกี้ IP: 125.26.166.27 วันที่: 26 กันยายน 2553 เวลา:20:08:00 น.
  
ได้ความรู้มากๆ
ขอบคุณปูเป้ มากนะคะ
โดย: คนไม่เข้าตา IP: 118.175.76.170 วันที่: 27 กันยายน 2553 เวลา:11:02:09 น.
  
พี่ปูเป้ :(
โดย: กชกร IP: 1.46.240.241 วันที่: 7 ธันวาคม 2553 เวลา:5:16:46 น.
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

Pupesosweet.BlogGang.com

PuPe_so_Sweet
Location :
กรุงเทพฯ  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ผู้ติดตามบล็อก : 1829 คน [?]

บทความทั้งหมด