...เห็นธรรมชาติ...เป็นธรรมชาติ...
รูปภาพด้านล่างสวยดีนะ สาธุ
โดย: ตะวันเจ้าเอย วันที่: 26 เมษายน 2554 เวลา:15:03:34 น.
"...เห็นธรรมชาติ...เป็นธรรมชาติ..."
แล้ว . . . - ๑ . รู้เท่าทันธรรมชาติทั้งปวง - ๒ . รู้เหตุแห่งการเกิดธรรมชาตินั้นๆ - ๓ . รู้วิธี และดับธรรมชาตินั้นๆได้ - ๔ . รู้การอยู่เหนือธรรมชาตินั้นๆ ธรรมชาติไม่เที่ยง เป็นสมมุติสัจจะ คือ สังสารวัฏฏ์ ธรรมที่เที่ยง เป็นปรมัตถสัจจะ คือ ตัดสังสารวัฏฏ์ โดย: P2wichai วันที่: 27 เมษายน 2554 เวลา:10:39:42 น.
อรุณสวัสท่าน คนป่าหาธรรมครับ ขอบพระคุณธรรมมะดีๆที่ท่านมอบให้ครับ อนุโมทนาสาธุครับ
โดย: shadee829 วันที่: 27 เมษายน 2554 เวลา:10:56:01 น.
เรียน...ตะวันเจ้าเอย, shadee829, P2wichai
ขอบคุณมากครับ...ที่กรุณาแวะมาเยี่ยมและ comment. "ผมชอบนะ... รู้เหตุแห่งการเกิดธรรมชาตินั้น ๆ" ถ้าเรารู้ และเข้าใจธรรมชาติ เราก็จะทุกข์น้อยกว่าปกติ หรืออาจจะรู้แจ้ง เห็นจริง อยู่เหนือธรรมชาติ นั่นคือ "โลกุตระ" ก็ได้นะ เช่น สมัยโบราณนั้น...ฟ้าร้อง ฟ้าผ่า เรากลัว คิดว่าเป็นอำนาจของบางสิ่ง บางอย่าง...ต้องเคารพ แต่ปัจจุบันนี้...เรารู้ เราเข้าใจ เราก็ไม่ทุกข์...ฉันใด.. โดย: คนป่าหาธรรม (คนป่าหาธรรม ) วันที่: 27 เมษายน 2554 เวลา:12:18:26 น.
ชอบนะ เข้าใจธรรมชาติ เปรียบเทียบได้ดีกับดอกไม้
โดย: คนหลังเขา IP: 58.8.10.182 วันที่: 27 เมษายน 2554 เวลา:13:39:30 น.
อนุโมทนาสาธุด้วยค่ะ ขออนุญาตนำไปแบ่งปันต่อในเฟชบุ๊คนะคะ สาธุค่ะ
โดย: แม่ออมบุญ วันที่: 27 เมษายน 2554 เวลา:15:03:38 น.
ถึง...แม่ออมบุญ
ยินดี...ที่แบ่งปันผู้อื่นต่อไป "ขอผลบุญแห่งการให้...ย่อมเป็นที่รัก" โดย: คนป่าหาธรรม IP: 14.207.237.168 วันที่: 27 เมษายน 2554 เวลา:16:55:56 น.
ธรรมวินัยอันพระตถาคตเจ้าประกาศแล้วเปิดเผย ไม่กำบังจึงรุ่งเรือง (เล่ม ๑๐ หน้า ๔๖๕_ปกน้ำเงิน)
บัญญัติของพระพุทธเจ้า จากพระไตรปิฎกชุด 91 เล่ม ของมหามกุฎราชวิทยาลัย เล่ม 3 (ปกสีแดง หน้า 887 ปกสีน้ำเงิน หน้า 940) พระบัญญัติ อนึ่ง ภิกษุใด รับก็ดี ให้รับก็ดี ซึ่ง ทอง-เงิน หรือยินดี ทอง-เงิน อันเขาเก็บไว้ให้ก็ดี เป็นนิสสัคคียปาจิตตีย์ (นิสสัคคียปาจิตตีย์ 1 ตัว ต้องตกโรรุวนรก 1 ชั่วอายุ คือ 4,000 ปีของนรกขุมนี้ เท่ากับ 840,960,000 ล้านปีมนุษย์) พระราชบัญญัติคณะสงฆ์ (ฉบับที่ 2) พ.ศ.2535 ภูมิพลอดุลยเดช ป.ร.ให้ไว้ ณ วันที่ 25 กุมภาพันธ์ พ.ศ.2535 เป็นปีที่ 47 ในรัชกาลปัจจุบัน พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้ประกาศว่า โดยที่เป็นการสมควรแก้ไขเพิ่มเติมกฎหมายว่าด้วยคณะสงฆ์ จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้า ให้ตราพระราชบัญญัติขึ้นไว้โดยคำแนะนำและยินยอมของสภานิติบัญญัติแห่งชาติ ทำหน้าที่รัฐสภาดังต่อไปนี้ มาตรา 15 ตรี มหาเถรสมาคมมีอำนาจหน้าที่ดังต่อไปนี้ ...(4)รักษาหลักพระธรรมวินัยของพระพุทธศาสนา **หยุดทำร้ายพระพุทธศาสนา(โยมควรเรียนรู้) ทำบุญแล้วเป็นบาป ตกนรกทั้งพระและโยม 1.ตักบาตรด้วยเงินและทอง 2.ตักบาตรด้วยสิ่งของที่ต้องห้าม 3.ทำบุญกับพระทุศีล(ผิดศีลธรรมและไม่ปฏิบัติตามพระธรรมวินัย)รับเงิน รับทอง มีบัญชีเงินฝากธนาคารเป็นของตนเอง มีบัตรเอทีเอ็ม มีบัตรเครดิต 4.ฯลฯ จากพระไตรปิฎกและอรรถกถาแปลไทยฉบับมหามกุฎราชวิทยาลัย 91 เล่ม **ชาวพุทธทั้งหลาย ขอให้อธิษฐานเพื่อถวาย พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ดังนี้ "ขออำนาจพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ จงบันดาลบุญของข้าพระพุทธเจ้าให้เข้าไปรวมเป็นพระราชกุศลของ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พลังบุญทั้งหลาย ที่พระองค์ได้ทรงกระทำต่อพสกนิกรและราชอาณาจักร ขอบุญนั้นทั้งหมด จงเป็นพลังขับดันโรคภัยทั้งหลายที่กำลังเกิดในพระวรกายของพระองค์ให้อันตรธานไป" จากหลักฐานเทียบเคียงของการใช้สัจอธิษฐาน ในพระไตรปิฎก 91 เล่ม ฉบับมหามกฎราชวิทยาลัย เล่ม 74 หน้า 447-479 ประมวลกฎหมายอาญา พ.ศ.2499 มาตรา 1, 3, 341, 342 และ 343 หรือศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่สำนักสงฆ์ป่าสามแยก ต.วังกวาง อ.น้ำหนาว จ.เพชรบูรณ์ (www.samyaek.com) ผู้มีปัญญาทั้งหลาย ขอจงพิจารณาเอาเถิด เพราะไม่บังคับให้ใครมาเชื่อหรือทำตาม เพียงแต่นำคำสอนของพระพุทธเจ้ามาเปิดเผย เพื่อให้ชาวพุทธปฏิบัติได้ถูกต้องตามคำสอนของพระพุทธเจ้าเท่านั้น โดย: shada วันที่: 27 เมษายน 2554 เวลา:20:54:07 น.
"...เห็นธรรมชาติ...เป็นธรรมชาติ..." นี่แหละ..ทุกสิ่งอย่างล้วนแล้วแต่..ธรรมดา ธรรมดา..ทั้งรูปธรรม-นามธรรม มีเกิดขึ้น มีตั้งอยู่ มีดับไป...ท้ายที่สุดแล้ว..ก็เป็นเช่นนี้เอง... ปล.ดำรงตนทุกขณะอย่างมีสติ ปฏิบัติด้วยปัญญา แน่วแน่ด้วยสมาธิ เมื่อสุข..ก็สุขแบบไม่รู้สึกตัว เมื่อทุกข์..ก็รู้ทันทุกข์ ผนวกกายกับใจให้มีความสมดุลมากยิ่งขึ้น..สำหรับหนึ่งชีวิตของเรา... ^-^ โดย: คนเมือง^-^ IP: 10.0.3.175, 125.24.248.236 วันที่: 5 พฤษภาคม 2554 เวลา:19:52:20 น.
"คนเมือง" หายไปนานเลยนะ...แต่วันนี้มา...
นี่ก็คือ ความไม่แน่นอน คือ "อนิจัง" เมื่อทุก...รู้เท่าทัน นี่คือ ทางของทุกข์ เมื่อรู้ทางทุกข์....เราจะทำทางนี้อย่างไร... แต่สุดท้ายคือ "อนัตตา" โดย: คนป่าหาธรรม IP: 14.207.87.101 วันที่: 5 พฤษภาคม 2554 เวลา:22:40:53 น.
|
บทความทั้งหมด
|