|
อาหารกาย...อาหารใจ
สวัสดี วันนี้...วันพระแรม ๑๕ ค่ำ เดือน ๑๒ อาหารกาย...อาหารใจ
อากาศเย็น...เย็น มองไม่เห็นด้วยตาเนื้อ แต่รับรู้ด้วยใจ รับรู้ด้วยกาย บางสิ่งเห็น... แต่ไม่สามารถสัมผัสได้ บางสิ่งไม่เห็น...แต่สัมผัสได้ ได้แก่ คลื่นโทรศัพท์ สายลม สภาวะธรรม... อาหารมื้อ ๑ ซึ่งบำรุงสมอง อาหารมื้อ ๒ บำรุงซึ่งร่างกาย อาหารมื้อ ๓ ตามใจ กิเลส (กิเลส ในที่นี้คือ ความทะยานอยาก ความไม่รู้จักพอ) อาหารที่เห็นด้วยตาเนื้อบำรุงกาย...อาหารใจ ต้องบำรุงด้วยธรรม... ด้วยดั่งกันและกันฉันใด...กายอยู่ได้เพราะใจด้วย เป็นเรื่องจริงของ ใจ ถ้าใจแข็งแรง กายก็แข็งแรงด้วย เช่น วันนี้ป่วยกาย แต่มีคนทักทายว่า... เอ...วันนี้ดูดีนะแต่งตัวสวย... เท่านี้แหล่ะ มันแทบหายป่วยกายเลย มันแปลก...แต่เป็นเรื่องจริงของใจ ถ้ากายป่วย ใจไม่ป่วย...อยู่ได้ ถ้าใจป่วย กายไม่ป่วย...อยู่ยาก
โดยปกติธรรมดา เราบำรุงแต่กายเนื้อ ส่วนที่เหลือเรื่องของใจไม่เคยมอง... ต่อเมื่อทุกข์เศร้าหมองจึงมองธรรม อาหารของกายมีกระบวนการผลิตหลายขั้นตอน (Input > Process > Output) ใส่ปาก เคี้ยวๆ...จบลงที่ของเสีย แต่อาหารของใจ ไม่มีกระบวนการผลิตพุ่งสู่ลงตรงที่ใจ ใช้ความสงบ คือสงบจากกิเลส...สงบจากความอยาก...
ฉะนั้น วันนี้วันพระ... ขอเธอทั้งหลาย...โปรดพิจารณาอาหารบำรุง ใจ ด้วยเทอญ... อาหารที่เห็นด้วยตาเนื้อบำรุงกาย...ส่วนอาหารของใจ ต้องใช้ธรรม...


|
|
|
|
Konpa.BlogGang.com
คนป่าหาธรรม
 ผู้ติดตามบล็อก : 3 คน [ ?]
|
|
ต่อเมื่อทุกข์เศร้าหมองจึงมองธรรม
คำนี้โดนใจอย่างจัง และเป็นอย่างนั้นจริงๆ ค่ะ
ไม่เคยบำรุงรักษาใจ เมื่อมีความทุกข์ขึ้นมา
ตั้งรับแทบไม่ทัน ทั้งยังทุกข์ได้มากมาย
ขอบคุณที่นำเสนอข้อคิด ธรรมะดีๆ ค่ะ