เถียง 2528 ไปเก็บหินกัน
          ไปเก็บหินกัน.....เป็นภารกิจที่พวกเราทำกันเป็นประจำในตอนทำไร่ รวมทั้งในช่วงอื่นๆที่เดินผ่านก้อนหินวันนี้เลยจะพาทุกคนไปทำอะไรหนักๆกันบ้างนั้นคือ ไปเก็บ “ก้อนหิน” หินที่ว่าคือหินจริงๆ หินหนักๆ หินแท้ๆ ก้อหินที่โรงโม่หินซื้อเอามาบดเป็นหินนั้นละ  จะพาย้อนไปดูว่าการทำไร่สมัยนั้นมันเป็นยังงัย 
          ตอนที่คุณตาไปซื้อไร่ใหม่ๆนั้น จนถึงตอนที่เราโตจนสามารถช่วยทำไร่ได้ สภาพของไร่จะไม่มีป่าไม้แล้วเพราะไปซื้อไร่ต่อจากขายได้เป็นคนแรกที่ถางป่าจับจองที่ จำได้ว่าเหลือต้นไม้ใหญ่ที่ตายเป็นตอตะโกสูงเพียง 2-3 ต้นเท่านั้นล่ะ ที่เหลือเป็นพื้นไร่อย่างเดียว ก้อนหินตามไร่ หากเป็นกองดีๆเรียบๆเราก็เอามาฝนมีดฝนพร้าฝนเหล็กเสียบข้าวโพด บางครั้งเอามา ทำที่อาบน้ำ ที่ถูตัว ห้องปูพื้นอาบน้ำ หรือดช็ดเท้า ต่างๆนานา หรือเอาไปถมถนนตามไร่ ตามทาง สภาพที่เป็นนี้ ทุ่งกองหิน ไม่ได้มีแต่ในไร่เรานะ มีอยู่ทั่วๆ นั้นละ เต็มไปหมดทุกเจ้า 
          ในไร่ของเราที่เหลือมากมาย คือ “ก้อนหิน” หากมองไปในไร่จะเห็นก้อนหินเรี่ยราดไปหมด เวลาไถนี่ละฝานไถโดนก้อนหินเด้งดึ่งๆเสียงแกวกๆๆ หรือฝานปลิ้วหรือก้อนหินปลิ้วเป็นระยะ ทำให้เป็นอุปสรรคในการไถมาก รวมทั้งตอนที่ขุดหลุมปลกข้าวโพดนี่ต้องหลบต้องเว้นก้อนหินเล่านี้เป็นระยะทำให้เสียพื้นที่ในการปลูกไปเลย
          วิธีการแก้ไขก็คือ พวกเราต้องเก็บก้อนหินเหล่านั้นเป็นกองๆ กลุ่มๆ เล็กบ้างใหญ่บ้าง กระจายเต็มท้องไร่ไปหมด มองไปคล้ายๆกับเจดีย์ของพุกามแห่งพม่า กลายเป็นทุ่งเจดีย์หินไปเลย หรือกองตามตอไม้ที่ตายแล้วหรือโคนต้นไม้ต่างๆ แล้วแต่ว่าอะไรมันใกล้ เพราะก้อนหินไม่หนักมันใหญ่มันเล็กมีทุกขนาด หากขนาดเล็กก็ขนไปกองได้ไกลๆแต่หากจนาดใหญ่ๆก็เอาก้อนอื่นๆมากองตัวมันแทน 
          การเก็บหินเหล่านี้ทำได้ทุกเวลา เดินผ่าน เห็นก็เก็บ เดินตามรถไถก็เก็บ ปลูกข้าวโพดก็เก็บ เอาเป็นว่าหากเดินผ่านเมื่อไหร่แล้วพบเจอเข้าก็เก็บหินและโยนกองๆทั้งกองเก่ากองใหม่ จนหินหมดจากไร่โน้นล่ะดี มีน้อยครั้งที่เราจะออกเก็บหินเป็นการเฉพาะ ทั้งนี้ก็เนื่องมาจากเราต้องทำงานในไร่ตลอดเวลา เดี๋ยวก็เจอหิน พบเมื่อไหร่ก็เก็บเมื่อนั้น ใช้เวลาหลายสิบปีมากจึงสามารถเก็บและกองหินเอาไว้ จนเหลือแต่ดินไร่อย่างเดียวกับหินที่กองสุมๆเอาไว้นั้นละ
           บนกองหินต่างๆนี้เป็นที่เกิดและอาศัยของสัตว์ประจำไร่สารพัด นก หนู งู เต่า ตะขาย แมงวงอด กิ่งก่า ฯลฯ กลายมาเป็นแหล่งอาหารการกินอย่างหนึ่งของขาวไร่อย่างเราๆ ที่สามารถออกหา ออกล่าได้ทั้งกลางวันและกลางคืน รวมทั้งเป็นที่หลบแดด หลบฝนได้ หรือเอนหลังนอนได้เป็นพักๆ
         กองหินเหล่านี้สมัยนั้นไม่มีทางเอาไปทิ้งที่อื่นๆก็กองๆเอาไว้ ไม่มีรถขน ไม่มีราคา ไม่มีคนซื้อ เลยกลายเป็นของไม่มีคุณค่า ราคาอะไรเลย มีแต่คนรังเกียจ ไร่บางแห่งมีหินมาก มองไปนี้ขรุขระเต็มไร่เลย พื้นดินมีน้อย กองหินนี้เต็มไร่ทีเดียว เราไร่ว่า ไร่หิน แบบนี้ซื้อขายกันไม่แพงเท่าไหร่ ต่างจากไร่ดินอย่างเดียว อย่างไรก็ตามทุกอย่างไม่เสมอไป ทุกอย่างไม่เที่ยง มาจนยุคหลังๆนี้ได้ข่าวว่ามีโรงโม่ออกไปรับซื้อก้อนหินตามไร่ต่างๆมาบด ตั้งแต่นั้นมากองหินตามท้องไร่ทุกแห่งหายไปไม่เหลือร่องรอยเลยทีเดียว ไม่มีสักกองให้ดูต่างๆหน้า 555 เรียกว่าสูญพันธุ์เลยทีเดียว  หากเดินไปตามไร่ในตอนนี้คงนึกภาพเหล่านั้นไม่ออกแล้ว ล่ะ...ว่าครั้งหนึ่งมันเคยมีก้อนหินกระจายเต็มไปหมด ต้องใช้แรงในการเก็บหลายสิบปีเลยทีเดียว....

 



Create Date : 17 มีนาคม 2563
Last Update : 31 มีนาคม 2563 14:36:58 น.
Counter : 512 Pageviews.

0 comments
เรื่องเล่าที่ไม่เกี่ยวกับวันสงกรานต์ tanjira
(13 เม.ย. 2567 16:10:32 น.)
Bangsaen 21 The Finest Running Event Ever 2023 บางแสน แมวเซาผู้น่าสงสาร
(12 เม.ย. 2567 10:20:55 น.)
ep 4 ขับรถบนถนนเริ่มจะประมาท โอพีย์
(10 เม.ย. 2567 05:03:14 น.)
"วันใดที่เธอรู้สึกเหมือนไม่มีใคร โปรดมองมาทางนี้ เธอจะเห็นใครคนหนึ่งที่รอเธอ" คนผ่านทางมาเจอ
(10 เม.ย. 2567 23:49:39 น.)
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

D-chang.BlogGang.com

Dr Chang
Location :
กรุงเทพฯ  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]

บทความทั้งหมด