บ ว ช ตอน ถ้ำฤาษี..แห่งเมืองชัยภูมิ
จำได้ว่าพระอาจารย์ที่เหล่าให้ฟังว่าที่อำเภอคอนสาร จังหวัดชัยภูมิบนภูเขาจะมี "ถ้ำฤาษี" อยู่แห่งหนึ่ง อยู่กลางหุบเขา ห่างไกลจากบ้านคน เหมาะแก่การทำภาวนาอย่างยิ่ง มีกุฎิ มีศาลาเอาไว้ให้ มีพระ มีผ้าขาวอยู่เพราะว่ามันไกลจากบ้านคนและต้องขึ้นต้องลงเขาทำให้ผ้าขาวจะเป็นคนทำอาหารถวายพระถวายเณรแทน
พอออกพรรษาแล้วก็ลาพระอาจารย์ออกเดินธุธงค์ไปทางนครราชสีมา แล้วได้โยมพ่อขับรถไปส่งที่หมู่บ้านไกล้ถ้ำฤาษี จำได้ละว่าหมู่บ้านอะไรลืมแล้ว จากนั้นได้สอบถามเส้นทางเดินเขาจากชาวบ้านว่าหากจะไปที่ถ้ำฤาษีต้องไปอย่างไร ไกลหรือไกล้ขนาดไหน ลำบากหรือสบายอย่างไร เมื่อฉันอาหารเช้าเสร็จก็ได้ตอบแล้วก็ล่ำลาโยมพ่อออกเดินขึ้นภูเขาไปทางถ้ำฤาษี
การเดินป่าเมื่อ 30 ปีที่แล้วคงเป็นอะไรที่น่าตื่นเต้นหรือท้าทายมาก เพราะที่บ้านเป็นพื้นที่ราบไม่ได้มีภูเขาหรือป่าขนาดนี้ แต่เชื่อมัยว่าไม่มีความกลัวเลย ไม่กลัวสัตว์ ไม่กลัวหลง ซึ่งแปลกมากๆ อาจจะเป็นเพราะความตั้งใจหรือความมุ่งมั่นที่จะไปหรือเพราะศีลบริสุทธิ์ก็ได้ ไม่เชื่อลองพิสูจน์หรือบวชดูได้นะ แต่ป่าดิบๆแบบนั้นคงจะลำบากหน่อยละ เพราะทุกวันนี้เข้าป่ายากละมีกฎหมายดูแลมากมาย
เมื่อเดินเข้าไปตามทางชาวบ้านหรือทางป่าแบบแคบๆไปเรื่อยไม่รู้ว่าเลี้ยวหรือแยกไหนบ้าง ขึ้นๆลงๆเลี้ยวซ้ายเลี้ยวขวา ต้องใช้คำว่าเดินไปเรื่อยๆตามที่เขาบอก ถ้าจำไม่ผิดเป็นทางเดียวแล้วไม่มีทางแยกอะไรเลย เขาบอกให้ตามทางหลักไปเรื่อยๆว่าอย่างนั้นไม่ต้องแยกไปตามทางย่อยๆ ก็จะถึงเดินสัก2-3ชั่วโมงนั้นละ สภาพป่ามีทั้งป่าไผ่ ป่าเต็งรัง ป่าดิบ ทั้งสองข้างทางไม่มีร่องรอยของทางน้ำหรือน้ำซึมน้ำซับเลย ไม่เหมือนกับแถวภาคเหนือที่ไปมาก่อนเข้าพรรษา แสดงว่าป่ามันแตกต่างกันก็ว่าได้ เสียงสัตว์ป่าก็เป็นสัตว์เล็กๆและจั้กจั่นเรไรทั่วๆ
เดินตามทางในป่ามาได้หลายชั่วโมงในที่สุดก็ลงไปในหุบเขาแห่งหนึ่ง เท่าที่เห็นมีความกว้างใหญ่พอสมควร มีต้นไม้หนาแน่น มีถ้ำ มีเพิง มีซอกเขาหลายแห่ง ตรงกลางเป็นศาลาหลังใหญ่ มองเห็นกุฎิอยู่เล็กน้อย เห็นตุ่มใส่น้ำฝนกระจายๆรอบๆ นั้นจึงมั่นใจว่ามาถึงละที่พระอาจารย์เรียกว่า "ถ้ำฤาษี" บรรยากาศหรือเงียบสงบดีจัง ถูกใจเราเป็นอย่างยิ่งเลยละ มิน่าละมีพระมีเณรหลายรูปต่างก็กล่าวถึงสถานที่แห่งนี้ว่าวิเวกสำหรับการภาวนาอย่างดี นับว่าเป็นสถานที่มีชื่อเสียงแห่งหนึ่งที่มีครูบาอาจารย์หลายองค์ได้มาอยู่ภาวนาที่นี่
พอเดินสำรวจไปสักหน่อยก็พบกับพระที่อยู่ที่นี้เลยไปกราบและแจ้งความประสงค์ว่าธุดงค์มาตั้งใจจะมาภาวนาที่นี่ เพราะพระอาจารน์แนะนำหรือกล่าวให้ฟังว่าเป็นอย่างไรเลยอยากมาดูและหากเป็นไปได้อยากจะอยู่ภาวนาดูที่นี่ ท่านจะว่าอย่างไรมัย เห็นสภาพป่าไม้และสถานที่แล้วดูดีมาก พระท่านก็อธิบายให้ฟังว่าการอยู่ที่นี่ต้องทำอย่างไร ไม่ได้ออกไปบิณฑบาตเพราะมันห่างไกลจากหมู่บ้าน ทางก็ลำบาก เลยให้โยมซื้อของมาไว้ในโรงครัวแล้วมาทำอาหารให้เป็นวันๆไป ส่วนน้ำก็ใช้น้ำฝนที่เก็บเอาไว้ในตุ่มเพราะไม่มีแหล่งน้ำภูเขาหรือบ่อน้ำ ทำให้มีความลำบากในเรื่องน้ำฉันน้ำใช้ด้วย นี่ละสภาพที่อยู่แบบถ้ำฤาษี พอได้ฟังแบบนี้เราก็เลยบอกว่างั้นก็ไม่เป็นไรนะครับ ขอพักก่อนแล้วจะเดินลงเขาไป จะได้ไม่เป็นการลำบากให้กันและกันมากขึ้น หรือมืดค่ำระหว่างทาง พอพักได้หายเหนื่อยล้าแล้วก็กราบลาพระท่านออกเดินทางกลับทางเดิมเข้าไปในหมู่บ้านและธุงดงค์ต่อไป...ไปไหนนะหรือรอตอนหน้าก็แล้วกัน
ถ้ำฤาษีในปัจจุบันนี้เรียกว่าวัดอะไรไม่รู้แล้วละ เพราะไม่ได้ไปสอบถามหรือพยายามค้นแล้วแต่ไม่พบ คงจะมีชื่ออื่นแล้วละ สมัยนั้นเป็นสถานที่ในการปลีกวิเวกอย่างดี คนที่ชอบสภาพแบบกลางป่า กลางหุบเขา อยู่แบบลำบากในการกินการอยู่น่าจะชอบนะ น่าเสียดายที่ไม่ได้อยู่หรือพักภาวนา สงสัยวาสนาไม่ตรงกันหรือไม่ใช่ที่ของเราที่จะอยู่ก็ว่าได้ รอโอกาสหน้าซึ่งไม่รู้ว่าโอกาสไหนเหมือนกันนะจะไปอีกสักครั้งพอให้หายคิดถึง หรือได้รู้บรรยากาศตอนกลางคืนว่าเป็นอย่างไรบ้าง ....หากให้เดาว่าอยู่แถวๆไหนก็คงปมาณแผนที่กูเกิลด้านล่างนี้ละนะ เพราะมีชื่อคุ้นคือ ถ้ำช้างเผือก ถ้ำขาม อยู่..https://www.google.com/search?rlz=1C1OWKM_enTH869TH869&sxsrf=ALeKk01BeSC0LesUVzKgCUstNIvbM3oi0A:1589811903787&q=%E0%B8%AD%E0%B8%B3%E0%B9%80%E0%B8%A0%E0%B8%AD%E0%B8%84%E0%B8%AD%E0%B8%99%E0%B8%AA%E0%B8%B2%E0%B8%A3++%E0%B8%96%E0%B9%89%E0%B8%B3&npsic=0&rflfq=1&rlha=0&rllag=16534171,101823368,6820&tbm=lcl&ved=2ahUKEwjhsKPuzr3pAhVQ4HMBHZAPDOQQtgN6BAgJEAQ&tbs=lrf:!1m4!1u2!2m2!2m1!1e1!2m1!1e2!3sIAE,lf:1,lf_ui:2&rldoc=1#rlfi=hd:;si:;mv:[[16.641372399999998,101.9077516],[16.4659862,101.74293660000001]];tbs:lrf:!1m4!1u2!2m2!2m1!1e1!2m1!1e2!3sIAE,lf:1,lf_ui:2
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [