ป่าช้า ตอน บ้านผมเอง ..อะไร.. (5)
       ต้นไม้ใหญ่ๆแถวๆในป่าช้ามีอยู่หลายต้นอายุก็คงหลายสิบหรือร้อยปีเพราะเป็นป่าดั้งเดิมของหมู่บ้านเรา พวกเรามีความเชื่อว่าต้นไม้ใหญ่ๆจะเป็นที่อยู่ของอะไรสักอย่างที่ลึกลับแบบมองไม่เห็น ขนาดสัตว์เรายังไม่กล้ายิงหรือล่าแถวๆต้นไม้ใหญ่เหล่านั้นเลย เช่น ต้นยางนา ต้นไทร ต้นโพธิ์ ฯลฯ ที่มันใหญ่ๆ เราเชื่อกันว่าจะมีพวกวิญญาณสิงสถิตย์อยู่อาจจะเป็นเทวดา นางไม้ เจ้าที่เจ้าทาง ต่างอาศัยอยู่ เวลาจะตัดก็ไม่ค่อยมีคนกล้าตัด จะไปทำอะไรสกปรกก็จะไม่กล้าเข้าใกล้แถวนั้น เวลาเดินผ่านก็ต้องมองให้ชัดส่องไฟหลายๆรอบให้มั่นใจว่าจะไม่มีอะไรโพล่มา
       ตามบ้านนอกเราก็จะมีเรื่องราวเรื่องเล่าหรือคนเคยเจอความลึกลับที่แตกต่างกันไป บางคนเห็นเอง ได้ยินเอง บางคนคนอื่นก็เล่าให้ฟังมา สรุปได้ว่าต้นไม้ใหญ่มีอะไรสักอย่างแน่นอน เราไปบ้านไหนๆก็จะมีคนเล่าให้ฟังเป็นปกติถึงความลึกลับของต้นไม้ใกล้ๆนั้น จนพวกเราก็จำจนฝังใจเลยละว่าผ่านต้นไม้ต้นนี้ต้องระวังให้ดีนะ ดูให้ดีอย่าไปทำอะไรแผลงๆเข้าละเดี๋ยวโดนดี ยิ่งผ่านไปกลางคืนยิ่งน่ากลัวกันไปใหญ่เลยละ กลางวันพอได้แต่กลางคืนนี่ละสุดยอด
      ในวัดป่าจะมีกุฎิอีกหลังหนึ่ง ห่างจากกุฎิกอไม้ไผ่ออกมาหน่อยห่างสัก 100 เมตรนี่ละ  ด้านข้างจะทำเป็นทางจงกลมสั้นๆเอาไว้เดินภาวนา  กุฎิหลังนี้ไม่ได้สร้างเป็นจอมปลวกอะไรแต่ขุดเอาดินรอบๆมาถมให้เหนือน้ำ ทำเป็นหลังเล็กๆ หน้าต่างก็ใช้ไม้ค้ำยันเอาไม่ได้มีกลอน ไม่มีสิ่งอำนวยสะดวกอะไร ไม่มีไฟฟ้า  หลังกุฎิจะมีต้นไม้ใหญ่2-3ต้น มองไปจะเห็นเป็นเงาทมึนอยู่สูงกว่าต้นไม้อื่นๆ และมีเครือเถาเกาะขึ้นไปเต็มไปหมด  รอบๆก็เป็นต้นไม้เล็กๆหลายเมตรกระจายแบบหนาอยู่รอบๆแต่พอมองออกมาได้ ตอนกลางวันก็ไม่มีอะไรมากเพราะมันสว่าง พอตกกลางคืนนี้ฃะบรรยายกาศมันวังเวงๆแปลกๆ ใครเดินผ่านไปผ่านมาก็จ้องส่องไฟรอบๆเป็นประจำ 
      ส่วนพวกที่มาหากินกลางคืนรอบๆป่าช้าก็จะพยายามไม่มาแถวนี้ ผ่านมาก็ต้องส่งไฟให้ชัดๆกันทุกครั้งไปหรือพยายามเดินให้ห่างๆไปทางอื่น ความจริงแล้วรอบๆป่าช้าก็ไม่มีคนมาหากินกันมากเท่าไหร่รอกในตอนกลางคน ยกเว้นพวกที่กล้าจริงๆ แถมตอนนี้กลายเป็นวัดป่าแล้วยิ่งไม่มีใครเข้ามาวุ่นวายกันเท่าไหร่
       พอตึกกลางคืนนานครั้งจึงจะลงมาเดินจงกลมนอกกุฎินะ ทั้งกลัวงู และกลัวอย่างอื่นๆ ส่วนมาจะมาเดินช่วงกลางวันหรือค่ำๆมากกว่า ยกเว้นช่วงเร่งความเพียรก็จะมาทั้งกลางวันและกลางคืน ตรงหัวทางจงกลมก็จะจุดเทียนเอาไว้ให้แสงสว่างพอประมาณจะได้มองเห็นทางกับสัตว์มีพิษที่อาจจะผ่านมาทางนี้บ้าง ใครที่ยังไม่เคยลองเดินจงกลมกลางคืน หรือดึกๆอยากให้ลองดูนะ เพราะอารมณ์และความรู้สึกจะแตกต่างกันมากกับกลางวัน รับรองสติมาครบสมบูรณ์ทีเดียว
   
 "...ตรงต้นพอกใหญ่ๆข้างกุฎิเณรนั้นนะ เขาเคยเห็นอะไรก็ไม่รู้ สูงๆดำๆใหญ่นะ  เห็นกันหลายคน.." คำบอกเล่าและบอกกล่าวของแต่ละคนแต่ละองค์เวลาเจอกันเพราะว่าเราเองก็ไปอยู่กุฎิหลังนี่หลายสิบวัน เพราะตะเวณนอนไปเรื่อยเพื่อฝึกภาวนานั้นเอง     
     พ่อออกแม่ออกเล่าให้ฟังว่าบริเวณต้นไม้ใหญ่ๆนี่ละคนมาหากินกลางคนมักจะเห็นเป็นประจำเป็นอะไรหรือเขาบอกว่าเป็นคนตัวสูงๆดำๆใหญ่ๆยืนอยู่ตรงต้นไม่สูงๆนั้นละ พวกที่มาส่งนกส่องหนูใส่เบ็ดจะเห็นกัน เลยไม่มีใครกล้าเข้ามาแถวนี้เพราะกลัวจะเห็นนั้นเอง ไม่ได้เห็นคนเดียวนะแต่เห็นกันหลายคนหลายครา เลยเป็นที่ร่ำลือกันไปว่าตรงนี้อย่ามานะเดี๋ยวจะเจอ
            ส่วนเราเองอยู่นป่าช้านี้นานมากก็ไม่ได้เห็นอะไรอย่างเขานะ สงสัยเป็นคนขี้กลัวก็ว่าได้ เลยไปไหนมาไหนก็ต้องบอกต้องกล่าวก่อนว่า ..เป็นคนกลีัวผีนะไม่ต้องมาหา ไม่ต้องมาให้เห็น....อะไรประมาณนั้น   เวลาคนถามว่าเณรไม่เห็นอะไรบ้างหรือตรงต้นไม้นั้นนะ อ้อก็ไม่เห็นนะไม่มีอะไร สงสัยเขารู้ว่ากลัวเลยไม่มาให้เห็นกลัวเณรจะตกใจเป็นบาปเป็นกรรมกับเขา เลยไม่ให้เห็นว่าอย่างนั้น
      
           



Create Date : 09 พฤษภาคม 2563
Last Update : 9 พฤษภาคม 2563 15:15:04 น.
Counter : 421 Pageviews.

0 comments
: ความงดงามในวัยชรา : กะว่าก๋า
(20 เม.ย. 2568 04:55:06 น.)
งานสัปดาห์หนังสือแห่งชาติครั้งที่ 53 toor36
(20 เม.ย. 2568 17:59:57 น.)
เมื่ออยู่ในวัย"คุณน้า" กิจกรรมพักผ่อน คือไปดูพระอรหันตธาตุ,อัฐิธาตุพระอาจารย์ peaceplay
(19 เม.ย. 2568 23:20:46 น.)
วิ่งข้างบ้าน 11,12,14,16 เม.ย.2568/ค่าฝุ่นPM2.5 อุทัยธานี สองแผ่นดิน
(16 เม.ย. 2568 20:49:32 น.)
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

D-chang.BlogGang.com

Dr Chang
Location :
กรุงเทพฯ  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]

บทความทั้งหมด