ป่าช้า ตอน ป่าช้า 100 ปี บ้านผมนี่ละ (1)
        ความจริงของซี่รี่ย์เรื่องป่าช้านี่ตั้งใจจะเล่าถึงป่าช้าที่บ้านของตัวเองเพราะเราใกล้ชิดมาตั้งแต่เด็กมีเรื่องราวให้เล่ามากมายนัก แต่ที่ต้องไปที่ป่าช้าอื่นๆกว่า 6000 ปีนั้นก็อย่างให้คนอ่านได้เห็นว่า ป่าช้า นั้นมีมานานแล้ว เพียงแต่จะเป็นแบบไหนเท่านั้นเอง  เลยพาไปแถวพม่า แถวสุพรรณบุรี แถวอุดรธานี ฯลฯ 
        วันนี้เลยจะพาไปดูป่าช้าที่มีเรื่องราวกับตนเองมากที่สุดเป็นป่าช้าในหมู่บ้านของตนเองที่เกิดนั้นละ เรียกว่าป่าช้าบ้านค้อ แต่ตอนนี้กลายมาเป็นวัดป่าไปแล้ว เพราะมีพระป่ามาอยู่คือพระอาจารย์ของผมเอง ท่านประอาจารย์โสภิส แต่ตอนนี้ย้ายไปสร้างวัดป่าภูเมยที่มุกดาหารแล้ว เจ้าอาวาสจึงเป็นพระอาจารย์อิ๊ด ซึ่งเป็นทั้งญาติและพระอาจารย์ของเรานั้นเอง ในเรื่องของป่าช้าบ้านตนเองนี้ขอเล่าเป็นตอนๆย่อยๆก็แล้วกันนะ เพราะว่ามีอะไรมากมายเกิดขึ้นน่าจะช่วงปี 2529-ปัจจุบันเลยละ
         สมัยที่สร้างหมู่บ้านเมื่อร้อยกว่าปีที่แล้วบรรพบุรุาได้กำหนดโซนป่าเอาว่า 2 แห่ง แห่งแรกใกล้หมู่บ้านคือ ดอนปู่ตา  กับอีกแห่งไกลออกไปหน่อยเลยจากดอนปู่ตาไป คือ ป่าช้า คงไม่ต้องบอกวาเอามาทำอะไร เอาไว้เก็บผักกิน เอาไว้เผา-ฝังคนที่ตายไปแล้ว ป่าผืนดังกล่าวมีขนาดกว่าสิบไร่อยู่ติดกับทุ่งนาติดกับสวนติดกับทางเกวียน ห่างจากหมู่บ้านสัก 2 กิโลเมตรเวลามาก็เดินผ่านดอนปู่ตานั้นละมากัน
         ต้นไม้ส่วนมากจะเป็นไม้ที่ทนน้ำท่วมน้ำขัง เพราะน้ำฝนน้ำจะท่วมหลายแห่ง ที่เพียงบางย่อมที่สูงนิดหนึ่งที่ไม่ท่วม น้ำจะขังนานจนพ้นหน้าหนาวโน้นละ พวกผักเมก พอก หว้า มันปา ชะมวง ลูกยาง ลุกพิผ่วน ลูกต่องแล่ง ฯลฯ ต้นไม้จะสูงๆเรียวเพราะต้องแย่งแสดงแดดกัน แต่บางต้นจะสูงใหญ่มากพวกไม้พอก  เวลามองไปจะไม่ทุละเพราะมีต้นไม้เหล่านี้บังสายตาเอาไว้
       พวกสัตว์เล็กๆจะอยู่เป็นจำนวนมากเพราะมีป่ามีต้นไม้มีผลไม้ให้กิน พวกกระรอก กระแต บ่าง หนู งู นก กระถ่าง ฯลฯ เป็นที่หลบภัยและเพาะพันธุ์เป็นอย่างดีทีเดียว เพราะน้อยคนนักที่จะมาหากินสัตว์ในป่าช้า เป็นพวกกล้าจริงๆหรือบ้าจริงๆนั้นละ ผมคนหนึ่งละที่ไม่เข้ามาที่นี่เลยก็ว่าได้
        ในป่าช้านี้ชาวบ้านจะเอาคนเสียแล้วมาฝังเอาไว้ทั้งเด็กหรือผู้ใหญ่ พอฝังไปนานๆเข้าจะมีปลวกมาทำรังสร้างบ้านแปงเมืองของปลวกจนกลายเป็นจอมปลวกขนาดใหญ่ๆทั้งสูงทั้งกว้าง (เดาเองก็แล้วกันว่าทำไมปลวกมาสร้างรังอยู่ตรงนี้นะ) เนื่องจากป่าช้านี้มีอายุมานานทำให้จอมปลวกเกิดขึ้นมากมายเป็นย่อมๆเต็มป่าไปหมด อยู่ริมๆบางหรือกลางป่าบ้าง ทำให้มีพื้นที่น้ำไม่ขังไม่ท่วมมากขึ้นด้วย เกิดเป็นเห็ดปลวกขึ้นมามากมายตามจอมปลวกเหล่านี้ แน่นอนคนก็ไปเห็บมากินเหมือนกัน
       ชาวบ้านส่วนมากจะไปเก็บผัก เก็บเห็ด เก็บผลไม้ที่เกิดขึ้นในป่าช้าเป็นเรื่องปกติ (หมายถึง บางคน บางกลุ่มนะ ที่ไม่กลัว) ส่วนการไปยิงสัตว์จะมีอยู่น้อยคนมากที่ไปหากินหายิงสัตว์ต่างๆในป่าช้าเพราะเราถือว่ามันไม่ควร ไม่เหมาะ แบบว่ามันน่ากลัวว่างั้นเถอะ แม้แต่ปลาหรือกบ พวกเรายังไม่กล้าไปหาใกล้ๆป่าช้านี้เลยต้องเวล้นระยะห่างนิดหนึ่งสัก 1-2 คันแทนา นี่ขนาดเว้นแล้วก็ยังต้องส่งไฟหรือแอบมองไปดูเป็นระยะโดยเฉพาะตอนเช้าๆหรือค่ำ (คงไม่ต้องบอกว่ามองหาอะไร)
        ช่วงที่เรากลัวมากที่สุดคือตอนหน้าฝนที่เราไปใส่เบ็ดกันตามคันแทนารอบๆป่าช้านั้นละแบบเว้นระยะห่างๆนะ น้ำจะท่วมคันแทนาเวลาเดินไปตามคันแทต้องลุยน้ำไปเสียงดังสวบๆ ยิ่งใกล้มืดเท่าไหร่พวกเราต้องนิ่งๆไว้เดินไปฟังไปว่าจะมีเสียงอะไรบ้างมัยแบบกลัวๆ แล้วเราจะเลี่ยงไม่ออกมากลางคืนมายามเบ็ดกันมาอีกทีก็ตอนเช้าทีเดียวแบบให้สว่างก่อนนะ
         พวกเราเด็กจะได้ยินพวกคนใหญ่หรือคนเฒ่าเล่าให้ฟังเป็นประจำเกี่ยวกับป่าช้าของบ้านเราว่าคนนั้นเจอแบบนั้น คนนี้เจอแบบนี้ หรือตนเองเจออะไรบ้างในป่าช้าหรือรอบป่าช้า พวกเราก็เลยจำและฝังใจกับเรื่องราวต่างๆมาโดยตลอด ในฐานะคนขี้กลัวจึงไม่มาใกล้ดดยเด็ดขาดนะ จนมีเหตุการณ์ที่ทำให้ผมต้องเข้าป่าช้าทุกคืน ต้องไปทุกเช้า ต้องไปทุกเย็น ต้องไปนอน ต้องขุดหลุม ต้องนอนบนหลุม ฯลฯ  รอมาติดตามกันต่อไปนะว่าจะเป็นอย่างไร...

https://www.google.com/maps/search/%E0%B8%A7%E0%B8%B1%E0%B8%94%E0%B8%9B%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B9%82%E0%B8%9E%E0%B8%98%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%B2%E0%B8%A1+%E0%B8%95%E0%B8%B3%E0%B8%9A%E0%B8%A5%E0%B8%84%E0%B8%B9%E0%B9%80%E0%B8%A1%E0%B8%B7%E0%B8%AD%E0%B8%87+%E0%B8%A7%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%B4%E0%B8%99%E0%B8%8A%E0%B8%B3%E0%B8%A3%E0%B8%B2%E0%B8%9A/@15.1293234,104.8630594,340m/data=!3m1!1e3



Create Date : 29 เมษายน 2563
Last Update : 11 พฤษภาคม 2563 11:25:39 น.
Counter : 477 Pageviews.

0 comments
ถนนสายนี้มีตะพาบ ประจำหลักกิโลเมตรที่ 349 : วันใดที่เธอรู้สึกเหมือนไม่มีใคร โปรดมองมาทางนี้ ฯ The Kop Civil
(10 เม.ย. 2567 16:44:58 น.)
โจทย์ตะพาบ ... วันใดที่เธอรู้สึกเหมือนไม่มีใคร โปรดมองมาทางนี้ เธอจะเห็นใครคนหนึ่งที่รอเธอ ... tanjira
(9 เม.ย. 2567 14:13:50 น.)
"วันใดที่เธอรู้สึกเหมือนไม่มีใคร โปรดมองมาทางนี้ เธอจะเห็นใครคนหนึ่งที่รอเธอ" คนผ่านทางมาเจอ
(10 เม.ย. 2567 23:49:39 น.)
ถนนสายนี้มีตะพาบ กม.ที่ 349 "วันใดที่เธอ...." จันทราน็อคเทิร์น
(8 เม.ย. 2567 14:18:13 น.)
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

D-chang.BlogGang.com

Dr Chang
Location :
กรุงเทพฯ  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]

บทความทั้งหมด