Bloggang.com : ทนายอ้วน - ทนายอ้วนชวนหิว :: โหว .. เส็ก โครงการ 5 - ชวนไปกินข้าวอบสมาคมแม่บ้าน

ทนายอ้วนชวนหิว :: โหว .. เส็ก โครงการ 5 - ชวนไปกินข้าวอบสมาคมแม่บ้าน - Four Season Pot Rice

ชื่อร้าน : Four Season Pot Rice
รายการอาหาร : หอยนางรมทอดกรอบ ข้าวอบหม้อดินหน้ากระดูกหมู ข้าวอบหม้อดินหน้ากระดูกหมูกับตั้งฉ่าย
เวลาเปิดบริการ : ทุกวัน 17.00 - 24.00
ที่ตั้งร้าน : Arthur Street, Yau Ma Tei, Hong Kong, Hongkong
พิกัด GPS : 22° 18' 41.47" N 114° 10' 14.15" E

ดูแผนที่เพิ่มเติม

ข้าวอบหม้อดินก็เป็นอาหารขึ้นชื่ออย่างหนึ่งของฮ่องกงนะครับ มีทั้งแบบในภัตตาคารและร้านที่อยู่ข้างๆถนน เขตที่มีชื่อเสียงในเรื่องข้าวอบมากที่สุดเห็นจะเป็น Causeway Bay เพราะว่ามีร้านข้าวอบ ดั๊ก ลัก เบลอ ตั้งอยู่ ร้านนี้คนแน่นมากกกกกกกก เราไม่สามารถแทรกตัวเข้าไปกินได้เลย ได้แต่ยืนมองข้าวอบที่ส่งกลิ่นหอมๆมายั่วยวนพยาธิในท้องเราเท่านั้น

อีกเขตนึงที่มีข้าวอบหม้อดินที่โด่งดังก็คือ Yau Ma Tei ที่เขตนี้มีร้านข้าวอบหม้อดินอยู่หลายร้านทีเดียวครับ แถวๆนี้ขายข้าวอบหม้อดินในราคามิตรภาพ แต่บรรยากาศอาจไม่ดีเท่าอยู่ฝั่งฮ่องกงครับ

เย็นวันหนึง เรามีเหตุให้ต้องไปช้อปปิ้งแถวๆ Mong Kok เพราะมันจะมีถนนคนเดินอยู่แส้นหนึ่งมีร้านรวงเต็มไปหมด แถมร้าน Giordano Bossini ก็ยังร้านใหญ่กว่าที่อื่นๆ ที่สำคัญมี outlet Esprit อีกด้วย เรากะว่าพอไปช้อปตรงนี้เสร็จจะได้ไปเดินหาซื้อเครื่องสำอางมีคนฝากซื้อโพยยาวเป็นหางว่าวเพราะมีร้านขายเครื่องสำงราคาถูกเต็มไปหมดและไปซื้อของตามคำสั่งคุณนายแม่ที่ Ladies' Market ด้วย

ปกติคุณผู้ชายไม่ค่อยโปรดข้าวอบหม้อดินซักเท่าไหร่ก็เลยยังไม่มีโอกาสได้ลองไปชิม ตอนแรกกะว่าจะไปลองชิมที่ร้าน "หิ่ง คี" เพระเป็นร้านดังแถวๆ Yau Ma Tei แต่เราไปถึงที่ร้านหิ้ง คี แล้วร้านยังไม่เปิดครับ ร้าน Four Season Pot Rice ซึ่งอยู่ข้างๆกันนั้นเปิดทำการแล้ว มีคนอยู่ในร้านบ้างแล้วก็เลยลองร้าน Four Season Pot Rice ก่อนครับ เดี๋ยวคราวหน้าค่อยมาลองร้าน หิ่ง คี ครับ

ร้านนี้อยากจะเรียกว่า "ร้านสมาคมแม่บ้านสามเหล่าทัพ" มากกกกก เพราะพนักงานในร้านเป็นอาอึ้ม อาม่า อาเจ๊ เต็มไปหมด มีเยอะกว่าคนมากินซะอีก พอนั่งโต๊ะทุกคนต่างก็เอาไอ้นั้นไอ้นี่มาให้เต็มไปหมดรู้สึกงงๆ ดีมากกกก ฮ่าๆๆๆๆๆๆ

Four Season Pot Rice

วิธีการไปร้านนี้ก็ง่ายมากๆครับ

นั่งรถไฟฟ้าสายสีแดงไปลงที่สถานี Yau Ma Tei แล้วเดินมาออกทางออก C นะครับ หน้าทางออกจะเป็นแบบนี้

ทางซ้ายมือของทางออกจะเป็นซอยเล็กๆชื่อว่า Man Ming Lane ให้กลับหลังหัน แล้วเดินเข้าซอยไปเลยคับ เดินมานิดเดียวจะมีถนนแยกเล็กๆชื่อ Arthur Street ก็เลี้ยวซ้ายเข้าไปเลยครับ

เดินเข้ามาประมาณ 100 เมตร ร้านจะอยู่ทางซ้ายมือ เป็นร้านที่มีพื้นยก 2 คูหา ส่วนร้านติดๆกันที่เป็นป้านสีขาวๆคือร้าน หิ่ง คี ครับ ถ้าสังเกตุดีๆจะพบว่าร้านหิ่ง คี มีสาขาอยู่แถวนี้เยอะมากๆๆคราบ

มาดูแผนที่กันชัดๆอีกทีครับ

ร้านนี้ก็นับได้ว่าเป็นร้านเพิงๆบนถนนเส้นเล็กๆได้เหมือนกันครับ แต่ตัวร้านค่อนข้างใหญ่ทีเดียว มีตั้ง 2 คูหาแน่ะ บรรยากาศภายในร้านไม่ได้ถ่ายรูปมาให้ดูมากนักเพราะเริ่มมีลูกค้าเข้าร้านเยอะแล้วครับ ส่วนมากก็เป็นคนแถวๆนั้นกับผู้ใช้แรงงาน

มองดูรอบๆร้านก็เจอเอาชื่อร้านเป็นภาษาอังกฤษครับ

เห็นเมนูภาษาจีนเต็มร้านอย่านึกว่าจะอ่านออกนะครับ อ่านไม่ออกเหมือนกัน พอดีคุณผู้ชายเคยมากินร้านนี้แล้วบอกว่าเค้ามีเมนูภาษาอังกฤษด้วยก็เลยใจชื้นขึ้นมาหน่อยครับ

อุปกรณ์ประจำโต๊ะเค้าเยอะดีนะครับ อิอิอิ

เมนูแรกที่เราสั่งเป็นเมนูกินเล่นๆเค้าเรียกว่าอะไรไม่รู้ครับ ภาษาอังกฤษเขียนมาแปลออกมาได้ว่า หอยนางรมทอด

เปรียบกับที่บ้านเราก็เรียกว่า หอยทด หรือ ออส่วน ฮ่าๆๆ แต่มันเป็นหอยทอดที่กรอบที่สุดเท่าที่เคยกินมา

เค้าใช้หอยนางรม คลุกเคล้ากับแป้งสูตรเฉพาะและถั่วฝักยาว แล้วเอาไปทอดในน้ำมันเยอะๆ จนกรอบเกรียว เสิร์ฟตอนที่ยังร้อนๆอยู่ มันอร่อยมากเลยคราบบบบบ

ทานตอนร้อนๆให้มือหักๆเอาเลย ทานกับซอสพริกเผ็ดๆเข้ากั๊นนนน .... เข้ากันนนน คราบบบบ

ส่วนเมนูข้าวอบหม้อดินต้องรอนิดนึงนะครับ รอประมาณ 15 นาทีครับ

ตอนแรกคุณชายบอกเทคนิกการกินว่าให้เปิดฝา ใส่ซีอิ๊วลงไปแล้วปิดฝาทิ้งไว้

ปรากฎว่าโต๊ะข้างๆไม่ทำอย่างนั้นครับ พ่อหนุ่มโต๊ะข้างๆเล่นเทซิอิ๊วลงไปบนฝาให้ซีอิ๊วค่อยๆไหลลงไปตามฝาเข้าไปในข้าว เราเลยทำตามบ้างงงง แต่พ่อหนุ่มคนนั้นเทซีอิ๊วเยอะกว่าเรามากกๆๆๆๆ เทซะฝาดำไปเรยคราบ เรากลัวจะเค็มเกินก็เลยเอาแค่นี้ก่อน เสร็จแล้วพ่อคุณก็นั่งรออีกพักใหญ่ๆ

พอเปิดฝามาปรากฎว่าหอมมากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก

หอมทั้งเครื่องที่ปรุงมา และหอมซีอิ๊วที่ใส่ลงไปด้วย

คุณชายบอกว่าหอมกว่าเปิดฝาแล้วใส่ซีอิ๊วซะอีก คงเป็นเพราะอบทุกอย่างเอาไว้รวมกันนั่นเองครับ

ของผมเป็น ข้าวอบกระดูกหมูกับกุนเชียง

ตอนแรกนึกว่าจะจืดๆ ข้าวไม่มีรสชาติซะอีก พอตักเข้าปากแล้วถึงได้รู้ว่าเค้าปรุงรสมาเป็นอย่างดี ข้าวก็ท่าทางจะหุงกับน้ำซุป เพราะว่ารสชาติกลมกล่อมมากๆ

แต่ถ้าชอบรสจัดให้ใส่ซอสพริกลงไปนิดหน่อยครับ

ของคุณผู้ชายก็เป็น ข้าวอบกระดูกหมูกับตั้งฉ่าย

ถึง 2 หม้อนี้ถึงหน้าตาคล้ายๆกัน แต่รสชาติแตกต่างกันนะครับ

ของคุณผู้ชายจะมีรสเค็มๆกว่า และมีกลิ่นหอมตั้งฉ่ายเพิ่มมาอีก เมื่อรวมกันกลิ่นซีอิ๊วที่ใส่ลงไปทำให้ข้าวอบหม้อนี้น่ากินขึ้นไปอีกครับ

เสน่ห์ของข้าวอบอยู่ที่หม้อดินยังจะร้อนอยู่อีกนานหลังยกออกจากเตา เพราะฉะนั้นมันจะทำให้ข้าวที่ก้นหม้อไหม้นิดๆ ขณะที่เรากินก็จะได้กลิ่นข้าวไหม้กรุ่นๆไปด้วยครับ สุดยอดดดดดด