คัมภีร์ผู้นำ (พันเอก นเรศร์ จิตรักษ์, "ขอเพียง...ให้ได้อ่าน")
ผู้นำ เป็นผู้อยู่เบื้องหลังความสำเร็จ ทั้งในครอบครัว ชุมชน สังคม และ ประเทศชาติ
ผู้นำแต่ละท่านในประเทศไทย ล้วนมีจุดยืน หรือวิธีการแก้ปัญหาที่แตกต่างกันไป ตามทักษะหรือศักยภาพของตน แบบของผู้นำในสังคมไทย จึงแตกต่างกันไป สุดแต่ว่าใครจะใช้แบบไหนให้ได้ประโยชน์สูงสุดแก่ประชาชนและประเทศชาติในปัจจุบัน
พระเดชพระคุณพระราชธรรมวาที วัดประยูรวงศาวาส ได้สรุปแบบของผู้นำในสังคมไทยไว้ดังนี้
คุณสมบัติของผู้นำ 6 ประการ คือ
1. อดทน ผู้นำต้องไม่เปราะบาง เมื่อมีอะไรมากระทบต้องไม่ปริ ยิ้มได้เมื่อภัยมา ไม่โศกาเมื่อทุกข์มี ยิ้มได้เมื่อถูกเยาะ หัวเราะเมื่อถูกเย้ย วางเฉยเมื่อถูกชม
ใครชอบ ใครชัง ช่างเถิด ใครเชิด ใครชู ช่างเขา ใครเบื่อ ใครบ่น ทนเอา ใจเรา ร่มเย็น เป็นพอ
2. ตื่นตัว กระฉับกระเฉง ว่องไว แต่ต้องไม่ตื่นตูม วูบวาบ หวั่นไหว ไปตามแรงยุ ต้องรู้เท่าทันต่อเหตุการณ์ ได้แก่ ทันโลก ทันงาน ทันข่าวสาร และทันคน
3. มีความขยัน บากบั่น ไม่ท้อแท้ ไม่ท้อถอย ไม่ใจฝ่อห่อเหี่ยว หนักเอาเบาสู้ ไม่หลบเลี่ยงเบี่ยงบ่าย ถือคติ ตั้งใจจนนอนฝัน ขยันจนขาเขย่ง เก่งจนคนขยาด ฉลาดจนคนแขยง
4. เอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ และ แบ่งปัน รู้จักแบ่งปันของกินของใช้ ให้โอกาสแก่ผู้ด้อยโอกาส ให้ความฉลาดแก่ผู้โง่เขลา ถือคติ ให้ถูกเวลา เจรจาให้ถูกใจ บำเพ็ญประโยชน์ให้กว้างไกล และวางตนไว้อย่างเหมาะสม
5. เอ็นดูด้วยเมตตากรุณา ไม่โหดร้าย ไม่อำมหิต เมื่อลูกน้องผิดพลาด ต้องรู้จักให้โอกาส และให้อภัย
ถ้าไม่มีการให้อภัยผิด และไม่คิดที่จะลืมซึ่งความหลัง จะหาสามัคคียากลำบากจัง เพราะความเผลอพลั้ง มีทั่วทุกตัวคน
6. ตรวจสอบติดตามผลงาน ถือคติ งานดีสำคัญที่ใจ งานยิ่งใหญ่ สำคัญที่คน
เอกลักษณ์ของผู้นำ
1. รู้งานดี คือ รู้หน้าที่ และ วิธีปฏิบัติงานอย่างละเอียดรอบคอบ และลึกซึ้ง
รู้จำ - ทำให้ไม่ผิดพลาดพลั้งเผลอในขณะทำงาน มีความพอใจ ใฝ่ใจรักที่จะทำสิ่งนั้นอยู่เสมอ (ฉันทะ)
รู้จัก - รู้จักงานนั้นเป็นอย่างดี มีความขยันหมั่นประกอบสิ่งนั้นด้วยความพยายาม เข้มแข็ง อดทน เอาธุระ ไม่ท้อถอย (วิริยะ)
รู้จริง - รู้คุณค่าประโยชน์ในสิ่งที่ทำอย่างชัดเจน ถูกต้อง เที่ยงตรง เป็นความรู้ที่เกิดจากความคิด คือตั้งจิตรับรู้ในสิ่งที่ทำ และสิ่งนั้นด้วยความคิด เอาจิตฝักใฝ่ ไม่ปล่อยใจให้ฟุ้งซ่านเลื่อนลอยไป (จิตตะ)
รู้แจ้ง - ใช้ปัญญาไตร่ตรอง พิจารณาใคร่ครวญตรวจตราหาเหตุผล และตรวจสอบข้อยิ่งข้อหย่อนในสิ่งที่ทำนั้น รวมทั้งมีการวางแผน วัดผล คิดค้นวิธีแก้ไขปรับปรุง (วิมังสา)
อันความรู้ รู้กระจ่าง เพียงอย่างเดียว แต่ให้เชี่ยว ชาญเถิด จะเกิดผล อาจจะชัก เชิดชู ฟูสกนธ์ ถึงคนจน พงศ์ไพร่ คงได้ดี
2. ทำหน้าที่ไม่บกพร่อง ต้องทำงานด้วยสติ สัมปชัญญะ คือระลึกได้ หมายรู้อยู่ตลอดเวลา ใจกิจที่ทำ ในกรรมที่ก่อในข้อที่คิด ความผิดพลาดจึงจะไม่เกิด
3. ต้องสุจริต คือ ไม่ฉ้อฉล ไม่คดโกง ต้องทำงานด้วยความบริสุทธิ์ และยุติธรรม
4. มีมิตรสัมพันธ์ คือ มีทีมงาน เรียกว่า ทำงานเป็นทีม ผู้นำต้องสร้างมิตร อย่าสร้างศัตรู
การสร้างมิตร โดย วิธี สังคหวัตถุ 4 คือ
ทาน - โอบอ้อมอารี
ปิยวาจา - วจีไพเราะ
อัตถจริยา - สงเคราะห์ทุกคน
สมานัตตตา - วางตนเหมาะสม
5. รู้ว่างานคือชีวิต ผู้นำต้องคิดว่า ชีวิตกับงาน คือสิ่งเดียวกัน ขาดกันไม่ได้ เพราะชีวิตคืองาน และงานคือชีวิต ถ้ารักชีวิตก็ต้องรักงาน ดูแลชีวิตก็ต้องดูแลงาน เมื่อใดเราทำงานดี ชีวิตก็จะดี และจะมีคนยกย่องสรรเสริญ
ทำงานใด ทำให้จริง อย่าทิ้งหลัก และรู้จัก กาลเวลา หาเหตุผล ทำงานดี มีคนภักดิ์ เทิดศักดิ์ตน ค่าของคน คือผลงาน ตระการคุณ
หลักของผู้นำ อีกประการหนึ่ง คือ
1. บำราบคนพาล - ไม่ให้โอกาสแก่คนพาลมีอำนาจ
2. อภิบาลคนดี - ยกย่องคนที่ควรยกย่อง คุ้มครองและส่งเสริมคนดี
3. ผูกไมตรีทั่วหน้า - มีเมตตาจิต มีมิตรภาพ
4. พัฒนามวลชน - คือการนิยมประชาธิปไตย พร้อมใจกันริเริ่ม ส่งเสริมความร่วมมือ ยึดถือประโยชน์ชุมชน ฝึกฝนการแก้ปัญหา และพัฒนาจิตใจ อย่างเป็นกระบวนการ
5. นำตนถึงธรรม - ผู้นำต้องประพฤติธรรม คือ พรหมวิหารธรรม แปลว่า คุณธรรมของผู้ใหญ่ เมตตา มีความรักใคร่ กรุณา มีจิตใจสงสาร มุทิตา เบิกบานพลอยยินดี อุเบกขา มีใจเป็นธรรม
คัดลอกมาจากส่วนหนึ่งของหนังสือ " ขอเพียง...ให้ได้อ่าน" ของ พันเอก นเรศร์ จิตรักษ์
Create Date : 02 มิถุนายน 2551 |
|
9 comments |
Last Update : 2 มิถุนายน 2551 17:03:13 น. |
Counter : 4919 Pageviews. |
|
|
|