อิ่มอร่อยแดนพม่า ก๋วยเตี๋ยวเด็ดชวนเคลิ้ม
ณอร อ่องกมล
| เอเชียและอาเซียนต่างขึ้นชื่อเป็นครัวของโลก ไม่ว่าจะพูดถึงประเทศไหนเป็นต้องตอบได้ว่าเมนูยอดนิยมคืออะไร
ไทยเรามีต้ม ยำกุ้ง และผัดไทย ลาวก็ต้องเป็นลาบรสแซบ สิงคโปร์มีข้าวมันไก่ มาเลเซียมีนาซิ เลอมัก เวียดนามต้องเฝอ เข้มข้นถึงใจ หรือจะเป็นซูชิญี่ปุ่น และติ่มซำต้นตำรับของจีน
แล้ว "อาหารพม่า" ล่ะ??
คำตอบนี้ต้องบินข้ามแดนไปชิมและสังเกตการณ์กันหน่อย
เริ่มต้นรับวันใหม่ ชาวพม่านิยมจิบชา หรือชานมชงร้อนๆ รสนุ่มชุ่มนม หนักหวานแต่เติมน้ำร้อนเพิ่มได้ตามใจชอบ แก้วละ 300 จ๊าด ก็ราวๆ 10 บาท กินคู่กับ "อิจาเวย" หรือ ปาท่องโก๋ คู่โตที่ขายแยกเป็นขา ขาละ 100 จ๊าด
หากยังไม่อิ่ม ร้านส่วนใหญ่จะมี "ซาโมซา" วางบริการไว้ ทุกโต๊ะแม้ไม่ได้สั่งก็ตาม คิดราคาตามที่หยิบกิน ตัวละ 100 จ๊าด
ซาโมซาเป็นขนมรองท้องสัญชาติอินเดียที่ได้รับความนิยมในพม่า ตัวไส้ใช้ผักพื้นเมือง หอมแดง และผงกะหรี่ ผัดกับมันฝรั่งลวกพอสุก ตักไส้ใส่แป้งโรตีที่นวดไว้ พับเป็นรูปสามเหลี่ยมแล้วนำไปทอด กินกับซอสพริกตัดเลี่ยน อร่อยอย่าบอกใคร มันฝรั่งกรุบๆ เข้ากันดีกับผักและเครื่องเทศที่โชยกลิ่นเรียกน้ำย่อย
หนำใจแล้วออกเที่ยวชมโบราณสถาน และวัดวาอาราม จนตะวันเคลื่อนมาอยู่กลางหัว แปลว่าถึงคิวอาหารกลางวัน
มื้อนี้ขอไปลอง "เมียนมาร์ คูซีน" ละกัน
เอ่ยปากถามชาวบ้านร้านตลาด โดยมีลุงหัวหน้าวินมอเตอร์ไซค์ พระราชวัง มัณฑะเลย์รับประกันความอร่อย บอกให้ไป ร้านตูตู ร้านอาหารพม่าต้นตำรับ
มาถึงคนนั่งกันแน่นร้าน มีส่วนโต๊ะแยก และโต๊ะรวมแบบโรงอาหาร พอได้ที่นั่ง สาวพนักงานเดินมาบอกให้ไปเลือกเองที่ตู้
แต่แค่ชะโงกหน้ามองก็อิ่มขึ้นมาทันที เพราะอาหารกว่า 10 เมนูที่วางเรียงรายบนถาด ถ้าไม่ใช่แกงกะทิ ก็เป็นผัดพริกแกงสไตล์แดนภารตะ
เอาน่ะ...ลองดู แต่เพื่อความชัวร์ถามพนัก งานก่อนเลยว่าจานโน้น จานนี้คืออะไร สรุปแล้วสั่งมา 3 อย่าง แถมเครื่องเคียง 3 อย่าง พร้อมด้วยข้าวสวย
นั่งพิจารณาดูทีละจาน เมนูแรก "แกงเนื้อแกะก้อนกับมันฝรั่ง" หน้าตาคล้ายมัสมั่นบ้านเรา แต่ใช้เนื้อแกะสับผสมเครื่องเทศ ปั้นเป็นก้อนกลมๆ น้ำแกงรสกลมกล่อม ใช้กะทิ น้ำซุป น้ำมันพืช และ "การัม มะสะล่า" ผงเครื่องเทศแห้ง 5 อย่าง มีกระวาน อบเชย ยี่หร่า ลูกจันทน์ และกานพลู ต้มจนมันฝรั่งสุกจึงใส่เนื้อแกะปั้นก้อนที่ต้มแล้ว ใช้ไฟอ่อนๆ เคี่ยวจนเดือดเป็นอันเสร็จ
แกงหนักนี้มีเครื่องเคียง ทั้ง ผักท้องถิ่นผัดแห้งโรยกระเทียมเจียว น้ำซุปใส ยำมะม่วงเปรี้ยวคลุกกับหอมแดงและพริก
คล่องคอพอหายเลี่ยนตักเมนู "แกงเผ็ดปลาแม่น้ำ" ขึ้นมาชิม โอ้โห! รสจัดจ้าน กลมกล่อมด้วยความหวานของเนื้อปลาสด กินกับผักผัดแห้งเข้ากันดีจริง
เหลือบไปเห็นจานสุดท้ายยังไม่ได้ลอง เลยเอื้อมช้อนไปตักเข้าปาก แค่รสแตะลิ้นก็ถูกใจยกให้เป็นเมนูต้องลอง กับ "ชีสเฟต้าผัดน้ำมันพริก" ชีสก้อนหอมกลิ่นนมแพะ ผัดกับน้ำมัน และพริกแกง ชีสเนื้อนุ่มหนุบหนับ แทรกด้วยรสพริกแกงเผ็ดปานกลาง
ซัดกันเกลี้ยงจนแน่นจุกอกได้เวลาจ่ายเงิน พนักงานเดินมาพร้อมใบเสร็จเขียนว่า 8,300 จ๊าด ไอ้หย่ะ...เกือบหมื่น
นั่งปาดเหงื่อ มือกดโทรศัพท์ยิกๆ คิดกลับเป็นเงินไทย พอเห็นเลข 280 บาทเท่านั้นแหละ ถึงกับถอนใจดังเฮ้อ...
เมื่อเติมพลังจนเต็มก็ตระเวนเที่ยวต่อ ก่อนขึ้นรถเดินทางไป ปะกั่น (พุกาม) เมืองเจดีย์พันองค์ แหล่งก๋วยเตี๋ยวรสเด็ด 2 เมนู
จานแรกคือ "คอเซเบียว" คล้ายราดหน้าไทย ใช้เส้นบะหมี่ไข่ ราดด้วยน้ำซุปข้น มีเนื้อหมู แครอต ถั่วลันเตา และไข่ตีละเอียดผสมเป็นเนื้อเดียวกับน้ำ โรยหน้าด้วย ต้นหอม น้ำซุปหวานกระดูกต้ม ผักสดๆ ลวกพอสุกเพื่อคงความกรอบ ส่วนบะหมี่ก็เหนียวหนึบเคี้ยวเพลิน จานนี้แพงหน่อย 1,500 จ๊าด
แต่สุดยอดอาหารที่อร่อยสุดในทริปตะลุยพม่าครั้งแรก ต้องยกให้ "ค่าว สเวย์"
ร้านที่ลองแล้วติดใจสุดๆ ตั้งอยู่ทางเข้า "วัดติโลมินโล"
ดอ สุ มุ สาวเจ้าของร้านภูมิใจโชว์เบื้องหลังความอร่อย ต้มก๋วยเตี๋ยวคล้ายพาสต้าเส้นแบนในน้ำร้อนแล้วเทลงตะแกรงสะเด็ดน้ำ หยิบเส้นกำมือหนึ่งใส่ชามสังกะสี เหยาะน้ำปลา ราดน้ำพริกปรุงรสคล้ายซอสพริก แล้วใช้มือคลุกๆ ขยำๆ ให้เข้ากัน จากนั้นโรยผงไก่ และหอมแดงเจียว
ก่อนส่งให้หนุ่มน้อย จอ ซู ลิ ลูกชาย วัย 11 ปี ผู้รับหน้าที่บ๋อยกิตติมศักดิ์ นำ ไปเสิร์ฟ
มองเผินๆ ก็ก๋วยเตี๋ยวธรรมดา ไม่มีเนื้อ ไม่มีผัก แต่พอได้ชิมแค่คำแรกถึงกับเคลิ้ม นิ้วขยับหนีบตะเกียบคีบเส้นแล้วเส้นเล่าเข้าปากจนเกลี้ยง เส้นก๋วยเตี๋ยวเหนียวนุ่มกำลังดี น้ำพริกให้รสเผ็ดอ่อนๆ น้ำปลาเพิ่มความเข้มข้น ผงไก่ให้รสกลมกล่อม และหอมแดงเจียวกรุบกรอบมาพร้อมกับกลิ่นหอมยั่วใจ เป็นจานโปรดที่ครบรส กินแล้วไม่หนักท้อง
ที่ย่างกุ้งก็มีขาย แต่ใช้เส้นหมี่ขาว และบะหมี่เหลืองคล้ายยากิโซบะ คลุกกับกะหล่ำปลี และผักกาดหอม ส่วนน้ำพริกรสจัดกว่าเล็กน้อย แต่ความอร่อยคงเส้นคงวา ที่สำคัญราคาถูกสุดๆ จานละ 500 จ๊าดเท่านั้น
ทริปนี้อิ่มท้องด้วยอาหารพื้นบ้านหลากสไตล์ แถมได้อาหารสมอง เรียนรู้วิถีกินอยู่ที่ผสมผสานวัฒนธรรมเพื่อนบ้าน ทั้งอินเดีย บังกลาเทศ และไทย จนได้อาหารพม่าที่ "อะยาต่าชิเดะ" หรืออร่อยลงตัวมากๆ
หน้า 5
ขอบคุณ ข่าวสดออนไลน์ คุณณอร อ่องกมล สิริสวัสดิ์จันทรวารค่ะ
Create Date : 18 มีนาคม 2556 |
|
0 comments |
Last Update : 18 มีนาคม 2556 11:53:58 น. |
Counter : 2231 Pageviews. |
|
|
|