พี่เลี้ยงหวานตอนนี้โอ๋ และ ก็แหย่หวานเหมือนเด็ก
เพราะหวาน ไปทำนิสัยเด็กๆ อะไรหลายอย่าง
แปลกนะ ที่ยังคนเอ็นดูหวานใจคนนี้
หวานไม่ได้ชอบให้มารุมล้อมหรอกนะ แต่หวาน เกิดมาเพื่อเป็นคนแบบนี้นะ ยกเว้นก็แต่ตอนเรียนมหาลัยนี่แหละที่เปลี่ยนไป
ในที่สุดก็สิวหาย สุดยอดยามหัศจรรรรรย์ นั่นก็คือ
ขี้ผึ้งฆ่าเชื้อแบททีเรีย
หวานก็ไม่รู้ + งงๆ ว่า เภสัชจ่ายมาทำไม แต่หวานทาแล้ว หน้ามันดีขึ้น ดีขึ้น ดีขึ้น สิวยุบ อย่างเป็นธรรมชาติ
ก็แปลกดีเหมือนกัน แต่ก็ดีใจที่สิวหายจนได้
เมื่อหวานนั่งบีบเล่น โอ้.. วัดได้ 1.5 ซ.ม.
จินตนาการไม่ออกเลยว่าหัวมันลึกขนาดไหน มิน่าล่ะ เค้นตอนนั้นเท่าไหร่ก็ไม่ออก ตอนนี้หัวก็ยุบ กะรอยแดงนิดนุง
มีความสุขเว๊ยๆๆ พึ่งรู้ว่า มีหน้าใสมันดีงี้ ไม่น่าหลงผิด ทำตัวโทรมๆ จนสิวขึ้นเยย
ขอบคุณเภสัสมากๆ รักคุณป้าจัง คืองี้ หวานเคยไปหาเภสัช ชื้อไฟเบอร์กินแก้ท้องผูก แล้วแกคุยดีมาก พอเป็นสิวเลยวัดดวงให้แกจ่ายยาให้
แล้วก็หายจริงๆ ด้วย วันหลังจะแอบถ่ายรูปร้าน โฆษณาให้นะคุณป้า ป้าแกใจดีจริงๆ อยากให้แกขายดีๆๆๆ
ที่ต้องไปถ่ายรูปเพราะ
ชื่อร้านไร ยังจำไม่ได้เลย
ลูกสาวคนสุดท้ายท่านประธาน เจ้านายพึ่งกลับมาห้องกรง อีพวกชะนี มันต้องห้องกรงชิมิ๊ค่ะ แบบว่าหมั่นไส้อ่ะคะ ช๊อปกันหนุกหนานหลายกระเป๋าทีเดียวเชียว
อิจฉาคนรวยเว๊ย อิจฉา
แต่ว่า พูดงี้ไม่ดีนะเค๊อะ นังหวาน เพราะหล่อนแด๊กขนมเขาไปตั้งสองชิ้น แบบนี้ มันไม่รู้บุญคุณข้าวแดงแกงร้อน ข้าวเย็นที่แด๊กๆ บ.ออกเงินแด๊กฟรี นิเค๊าะ
นี่คือ .... ขนมโคร่อน เพราะโคมันร่อนไปถึงฮ่องกง อีกหวาน เอ๊ย..หมาเห่าแรงไป ตอนแรก คิดว่าเป็นพายกรอบ ยี่ห้อ ที่ว่า
แต่พอเปิดมา มันก็คือ ขนมโคร่อนแบบไทยนี้แหละ แต่สีเหลือง เพราะเป็นรสพายไข่ ซึ่งกินไง มันก็ไม่เห็นจะเป็นพายไข่ เหมือน สังขยาลืมใส่กะทิ เลยมาใส่นมแทน
พอดีเพื่อนอีกคน คนที่อิชั้นนินทาไปคราวที่แล้ว ว่าน่าหมันไส้อ่ะค่ะ ตอนนี้ ดีกันแล้ว แต่ยังทำตัวได้น่า.. เหมือนเดิม เดียวนี้เวลาหวานอยากให้เขาหยุดทำอะไร หวานก็บอก กะเขาตรงๆ ว่า ทำงี้ไม่ได้นะ หวานอึดอัดนะ อย่าทำเลยนะ ไม่รู้ว่าจะได้ผลสักกี่น้ำ แต่ก็ทำไปแก้ขัดไปก่อน
หวานก็เลยได้เพิ่มเป็น 4 ชั้น เอาไปฝากน้องชายที่บ้าน
อีกอันเป็นชินมัยรสสาหร่าย ก็ยัมมี่ดีค่ะ กรุบๆ กรอบๆ ไปตามประสา
เมื่อวานกลับบ้านมา แม่เรียกให้ไปดูใจปลาทอง หวานก็สังเกตมาหลายอาทิตย์แล้ว ว่าเกล็ดมันหลุดเป็นแถบๆ หวานบอกให้แม่ดูแลมัน หายาฆ่าเชื้อให้มัน
แต่แม่กะพ่อไม่เข้าใจ
แล้วในที่สุด เหลือบพวกนั้น ก็เข้าไปถึงในหัวใจ ปลาทอง ก็เลยช๊อก แล้วก็ชัก หวานพยายามปฐมพยาบาล ด้วยการปั้มหัวใจหลายครั้ง ใส่อ๊อกซิเจน พารา0.00001 กรัม ขูดด้วยเล็บใส่ลงไป หวังให้ยาปฎิชีวะจะทำให้ไม่ปวด
แต่ปลาทองก็อาการไม่ดีขึ้น ในที่สุดก็ชัก เข้าสู่ภาวะ โคม่า แล้วในที่สุด เมื่อเช้าแม่ก็แจ้งข่าว ว่า ปลาทองก็ตายในที่สุด
ที่จริงหวานเกลียดปลาทองนะ เพราะมันเป็นสิ่งมีชีวิต ที่ไร้ค่าที่สุด ในโลก พึ่งพาตัวเองไม่ได้ ทำตัวโง่ๆ ขออาหารจากคนไม่รู้จักตลอดเวลา แถมยังชอบขี้เยอะๆ ลำบากกูมาล้าง กินปลาเล็ก และลูกปลาตัวเองเมื่อสบโอกาส
ใครเกิดเป็นปลาทองนี้ ซวยอักโขจริงๆ ชีวิตไม่ได้ทำประโยชน์กับโลกสักอย่าง พึ่งพาคนอื่นตลอด
แต่หวานก็เสียใจนะ ที่ปลาทองต้องตายเพราะความไม่ใส่ใจของหวาน และทุกๆ คนในบ้าน
ขอให้นาย เกิดชาติภพใหม่ที่ดีกว่านี้นะ
---------------------------------
ความสุข.. คือ ของไร้ค่าบนโลกนี้
"หวานนี่เหมือนเด็กๆ เลยนะ" พี่เลี้ยงยิ้มๆ เมื่อเห็นหวานชื้อลูกโป่งวิทยาศาสตร์
ตอนนี้หวานชื้อเจ้านี้ มาตั้ง 5 บาท เมื่อก่อนหลอดเล็กแค่ 2 บาทเอง การมาของเจ้านี้ ทำให้หวานคิดอะไร เรื่อยเปื่อย
เมื่อก่อน เรามีเงินแค่ 2 บาท เราก็มีความสุขได้แล้ว
แต่ทุกวันนี้ เราต้องพยายามหาเงินให้มากขึ้น
ในขณะที่ความสุขไม่ได้เพิ่มขึ้นตามจำนวนเงิน
ความสุข ของหวาน มีค่าแค่สองบาท
แต่เจ้านี้ มันเป่าไปได้แป๊บเดียวก็แฟ่บ
หวานคิดถึงความสุข ... ความสุขที่ยาวนานกว่านี้
ที่บ้านหวานจะ มี ต้นไม้แปลกๆ ขึ้นเสมอ
นั่งเพราะว่า เวลาหวานไปไหน ถ้าหวานเจอต้นไม้
ต้นอ่อนๆ ที่ขึ้นผิดที่ผิดทาง ซึ้ง มองดูแล้ว
อีกไม่นาน ต้นไม้นั่น จะต้องโดนเหยียบ หรือ จะต้องเหี่ยวตาย
หวานจะดึง แล้วเก็บเอาไปปลูกที่บ้าน
เวลาหวานทำแบบนั้น ทุกคนมักจะบอกว่า หวานบ้า
แต่ในความรู้สึกของหวาน หวานคือวีรสตรี
ทุกสิ่งที่เกิดมาในโลกนี้ สมควร จะมีชีวิตอยู่ต่อไป
ไม่ว่าสิ่งนั้นจะเป็นมดปลวก คน หรือแม้กระทั่ง วัชพืช
เวลาหวานเห็นมดลอยน้ำ หรือแมลงอะไรที่กำลังจะจมในน้ำ หวานจะรีบช่วยมันขึ้นมา ไม่เคยรู้สึกขยะแขยง
เวลาหวานเห็นแมลงอะไร อยู่ผิดที่ผิดทาง หวานก็จะแค่เป่าเบาๆ ให้มันไป หวานไม่ใช่คนใจดี เพียงแต่ หวานดูดาย ปล่อยให้มันตายไม่ได้
หวานเป็นคนที่เขาเรียกว่า มดเดิน มันเลยไม่ข้ามอะไรแบบนั้นเลย
คนส่วนใหญ่คิดว่า การกระทำแบบนี้คือบ้า แต่หวานคิดว่า คนเราจะต้องไม่ละเลยกับสิ่งเหล่านี้ เพราะสิ่งเหล่านี้ เป็นการทำให้จิตใจผ่องใส
เมื่อมาถึงบ้าน หวานก็ใช้นิ้ว ขุดดินเล็ก เอาวัชพืชวาง รดน้ำนิดหน่อย บางทีหวานมาบ้านช้า ต้นไม้ก็ตายเหมือนกันนะ ไม่ใช่ว่า จะรอดทุกต้น แต่ยังดีกว่า ที่จะปล่อยให้มันตายตรงนั้น
พ่อหวานก็ชอบบ่น ว่าไอ้พวกนี้เป็นวัชพืช เจอทีไรก็เป็นถอน แต่เวลาได้เห็น วัชพืชพวกนี้ เติบโต หวานก็อิ่มใจ
ความสุขนั้น เกิดขึ้นจากใจ ไม่ต้องมีสิ่งใดมาตีราคา
แม้ว่าพวกนี้เป็นแค่วัชพืช ไม่มีคุณค่าใดๆ
แต่มันให้ความสุขกับหวานได้ แน่นอน เสียยิ่งกว่าเงินทองกองใดในโลกที่หวานเคยผ่านมือ
หวานเคยได้เงินเดือนห้าพันกว่า ๆ หวานคิดว่าจะชื้ออะไรก้ได้ ที่เด็กคนหนึ่งจะชื้อได้ หวานพยายามหา หาสิ่งที่หวานอยากได้จริง ๆ
จนกระทั่ง หวานเงินหมด หวานกลับไม่เจอสิ่งใดเลยที่หวานอยากได้จริงๆ
สิ่งหวานอยากได้จริงๆ คือ กลับบ้านไปอยากให้แม่กอดหวาน หวานอยากคุยกับแม่ เหมือนตอนที่หวานยังเรียน หวานอยากมีเวลา ไปต่อล้อต่อเถียงกับแม่ หวานไม่อยากพูดคำว่าไม่มีเวลา แล้ว...ก็ไม่อยากร้องไห้จนเป็นสายเลือด เพราะเหนื่อยจากที่ทำงานมาเจอแม่บ่นที่บ้าน อีกแล้ว
(หวานร้องไห้เพราะอะไร ไปอ่านได้ในบล๊อกย้อนหลับ ไป 2-3 ตอนอ่ะ จำไม่ได้ )
ต่อมีพันล้าน แต่ใจต้องเป็นทุกข์ ... นั่น ก็คงไร้ค่ากว่าวัชพืชแค่ต้นเดียว
ความสุข ... คือ ของไร้ค่าบนโลกใบนี้
มันคล้ายสินทรัพย์ แต่ ...
ไม่มีค่างวด ไม่มีดอกเบี้ย ไม่ต้องจ่ายภาษี ไม่จ่ายค่าตรวจสอบ ให้ปวดหัว ไม่ต้องมาเถียงว่าตั้งค้างจ่ายหรือยัง ไม่ต้องใช้เอกสารใดยื่นขอ หรือ ประกวดราคา
แค่เพียง เรารู้จักที่ถนอมและใส่ใจดูแลหัวใจ นั่นก็เพียงพอ
และจะเติบโตอย่างสวยงามเสมอ แม้เพียงในสายตาเราคนเดียวก็ตาม
หวานอยากกอดแม่ .. แต่หวานยังไม่มีเวลาเลย กลับบ้านมาก็ สามทุ่ม แม่ก็เอาแต่เล่นเน็ต (แย่งหวานเล่น) เนี้ย พอจะคุยด้วย ก็หลับไปซ่ะแล้ว
วันนี้ก็แม่ก็พูดๆ เหมือนเดิม อยากให้หวานออก เพราะ กลับบ้านดึก แล้วก็ไม่มีเวลา หวานกึ่งๆ ทะเลาะกะแก เพราะโกรธ ที่แกพูดไม่ดีใส่
หวานก็เคยถามแม่นะ .. ว่ามีเงินเท่าไหร่ ถึงจะพอ
แม่หวานตอบว่า ตอนที่แม่เด็กๆ เพื่อนแม่คนหนึ่ง เคยเอาวิทยุมาอวด แม่จำได้ว่าตอนนั้น มันสามแสน แม่เคยคิดว่า ถ้าแม่มีเงินสักสามแสน มันก็คงจะโก๋มาก
ตอนนี้ ต่อให้มีสักล้าน ได้เงินอีกกี่หมื่น ก็ไม่พอมึงแดก กินเก่งเหลือเกิน (555+)
จำได้แม่นๆ คือ แม่บอกว่า
หวานจะต้องหาเอง ว่าเงินเท่าไหร่ ถึงจะชื้อความสุขได้ แต่สำหรับแม่ หวานกับน้อง คือความสุขของแม่ จะมีต้องใช้เงินอีกสักกี่หมื่นล้าน แม่ก็จะหามาให้
หวานก็ไม่รู้ว่าตัวเอง จะต้องหา เงินอีกสักเท่าไหร่ ? ถึงจะชื้อเวลาได้กอดแม่สักที
จะต้องหาเงินอีกเท่าไหร่ ถึงจะพอสักที ....?
เคยอ่านเจอเค้าว่า ใจคนเหมือน บ่อน้ำไม่มีก้นบ่อ
เรียกได้ว่าเติมยังไงก็ไม่เต็ม