กรกฏาคม 2552

 
 
 
2
3
4
5
6
7
8
9
11
12
13
14
15
16
17
18
19
21
22
24
25
26
27
28
30
31
 
 
All Blog
ความสุข..มันไม่จีรังหรอก อีกไม่นานจะมีคนพรากมันไป ไม่ช้าก็เร็ว
เดือนนี้มีความเปลี่ยนแปลงมากมายในบริษัท
นังหวานก่อวีรกรรมให้ได้อับอายอีกล่ะ
เจือกลืมกระป๋องข้าวกลางวันที่บริษัทหนึ่งคืน
บูด เหม็น ..ไปทั้งแผนก
จริงๆ เขาก็รู้ว่าเป็นใคร แต่ก็นั่นแหละ ผู้ไม่ประสงค์จะออกนาม เพราะกุอาย
ในแผนกก็เลยร่างจม.เวียน ว่ามีคนร้องเรียน
ขอความร่วมมือให้ทำตามข้อบังคับ...
ก็เซ็นๆ กันไป หวานล่ะอายจริงๆ เน้อ

เมื่อก่อนแม่เคยบอกว่า ให้รักเพื่อนร่วมงานให้มากๆ
เพราะเพื่อนร่วมงานอยู่กับเรายิ่งกว่าครอบครัว
อย่าพยายามเกลียดใคร จะเสียเวลาเปล่า..
แต่หวานเกลียดนายซันเจี่ยไปแล้วอ่ะ
ซันเจี่ยคือไผ? อ่านย้อนไปหนึ่งบล๊อก

ตกลงว่า จะเรียกซันเจี่ยนี่แหละ เพราะหมั่นไส้มัน ชิ..
ผู้ชายอะไรเลื่อยไปทั่ว มันคงไม่รู้... ว่ากูอิจฉาาาาาา
กูอยากมีเสน่ห์สาวติดแบบมันบ้างอ่ะ ฮื่อ....


วันนี้พักเที่ยง หวานลืมหมอนอิงไว้ที่เก้าอี้คอมตัวเอง
ซันเจี่ยมานั่งเฉย .. เราก็ไม่ได้คิดอะไร จนเลยเที่ยง กินข้าวเสร็จ
ได้เวลานอนกลางวัน มองหาหมอนหนุน กะผ้าห่ม..
หมอนนี่ตัดเย็บฝีมือหวาน นั่งทำเองด้วยนะ
โฮ๊ะๆๆ สมเป็นกุลสตรี เละเทะเสร็จไปได้
ก็เลยไปสำรวจที่สุดท้ายที่จำได้
อีซันเจี่ยแม่งอิงทับหมอนเน่าหวานเต็มๆ
หวานแบบ โกรธธธธธธธธ

ตอนเช้าก็พึ่งโกรธมันไป
ตั้งนานก็ไม่มา พอหวานจะเดินไปทำธุระสักกะหน่อย
ทำไมมันต้องดันมายืนขวางประตู ก้มเก็บของอะไรของมัน ตู้ที่อยู่ข้างประตู
หวานต้องมายืนรอ.. ชะโงก..ยืนดู
แล้วซันเจี่ยแม่งก็นะ.. ไม่รู้ว่าจะใจเย็นไปถึงไหน ค่อยๆ จัดวางแก้ว..
ค่อยๆ ปิดประตูตู้เบาๆ ทำเหม่อนิดหนึ่ง ทำเป็นทองไม่รู้ร้อน
หวานนี่อยากเปิดประตูกระแทกมันจริงๆเลย
แต่ก็ฝืนใจ เปิดประตูให้มันเข้ามาก่อน แล้วหวานค่อยออกไป

ซันเจี่ยมันเป็นหวัด หรือ เป็นเห่อะไรสักอย่างอยู่ก็ไม่รู้ตอนนี้ รู้แต่มันไม่สบาย
เจ้านายน้อยหวานก็กล่อมประสาททุกวันเลย ไข้หวัด3000 น่ากลัวงั้น น่ากลัวงี้
แล้วคิดดูผู้ชายอกสามศอกป่วยเป็นไ้ข้หวัด
แล้วผู้หญิงตัวเล็กๆสองศอก อย่างหวาน นั่งใกล้มัน ก็คงจะรอดอ่ะเนอะ
(ซันเจี่ยสูงกว่าหวานอยู่ศอกเดียว จะเรียกว่าเตี้ย..ก็ได้อยู่)


แล้วนี่มาอิงทับหมอนหวานอีกอ่ะ หวานแบบโกรธ .. หน้าไปแล้วแต่ไม่ด่า
ใจเย็น.. บอก"ขออนุญาติน่ะค่ะ" แล้วก็ดึงหมอนออกมาเลย

ปกติซันเจี่ย มันจะรู้นะ ว่าเออไม่ควรทับหมอนคนอื่น จะเอาหมอนออกตลอด
โดยเฉพาะ .. โต๊ะคอมประจำเครื่องเขาไรเงี้ย
แต่คราวนี้มันคงเบลอเพราะฤทธิ์ไข้ ก็เลยทับซ่ะเลย

หวานรีบเอาไปตากแดด ช่วงนี้พยายามเอาพวกเสื้อหนาว ผ้าห่ม หมอน
(นี่หล่อนไปทำทำงานแน่เรอะ!~)
เอาไปตากแดดบ่อยๆ ตอนพักเที่ยงเพื่อฆ่าเชื้อโรค
ไม่ได้อยากหนุนหรอก ชอบดม พอตากแดดใหม่ๆ มันก็หอมอ่ะเนอะ
ก็ดมฟุ๊ดฟิดจุ๊กจิ๊กกะหมอน สักพัก.. รู้สึกตัวร้อนๆ ก็ยังไม่ฉลาดวุ้ย

จนบ่าย เริ่มฉลาด ได้ยินเสียงฮัดชิ้วนายซันเจี่ย.. โคกๆ เค๊กๆ
อีซันเจี่ย เมิงเล่นกุแล้วไงล่ะ ฮื่ม!!!

ตอนนี้ก็แค่ตัวร้อนๆ ยังไม่เป็นไร น้ำมูกยังไม่ไหล
แล้วติดหวัดใครไม่ติด มาติดจากคนที่ตัวเองเกลียดเนี้ยนะ.. เฮ่อ... กุ..


จริงๆ ก็ไม่อยากเกลียดซันเจี่ยหรอก
เพราะซันเจี่ยเขาไม่ห่วงวิชา เวลาอยากรู้อะไร
อยากเสนอความคิดอะไร เขาก็รับฟัง ครับ (แต่ไม่ทำตาม )
ตอนนี้ก็เรียนรู้งานจากซันเจี่ย กะ บก. พี่สาวแสนน่ารักอีกคนหนึ่ง
ชอบการทำงานของพี่สาวมากๆ เลย
พี่เขาจะอ่านหนังสือ เก็บข้อมูลเป็นอย่างดี แล้วก็เอามาเขียนเป็นต้นฉบับ
แล้วอ่านก็ตลกด้วย หวานอ่านงานเขาแล้ว หวานมีความสุข สนุก ตลกดี

แต่ซันเจี่ยเขาจะมีวิธีการทำงานอีกแบบหนึ่ง
ไม่รู้ว่าเรียกอย่างไง คือเขาจะคิดไป.. คิดกลับ คิดย้อน คิด คิด...
คิดแล้วตอบ คิดแล้วตอบ ตอบจนไม่มีข้อสงสัยใดๆ แล้วเขาถึงเีขียนต้นฉบับ
งานของซันเจียจะเป็นงานละเอียด ปราณีตมาก
แต่เวลาอ่านในต้นฉบับ.. หวานแอบเครียดเล็กๆ เพราะมันจืดจริงๆ
อย่างต้นฉบับเรื่องดาว มันก็กล้าเขียนเนอะ
"ทำไมดาวถึงตก - เพราะดาวไม่อ่านหนังสือ"

แล้วเวลาหวาน หัวเราะเยาะตัวละคร ซันเจียก็จะชื่นชมตัวละครตัวนั้น
หวานต้องมาคิดทบทวนในใจ เอ๊ะ.. กูอ่านไม่ดีเองหรือเปล่า?
แต่ถ้าหวานซึ้งกะตัวละครตัวไหนที่แกเขียนขึ้นมา หรือ รักเลยแหะ
แกก็พูดข้อเสียของตัวละครตัวนั้น ... ให้หวานเสียเส้นซ่ะงั้น..

หวานชอบตรงที่ซันเจี่ยใช้ความคิดเนี้ยแหละ..
เป็นคนที่คิดได้ลึก แบบที่เรียกได้ว่า 'ดื่มดำเข้าสู่ห้วงนโนภาพแห่งจินตภาพ'
เล็กน้อยนิดเดียว หากซันเจี่ยมั่นใจ ซันเจี่ยก็จะยอมไม่ได้ ...
แต่ถ้าอันไหนที่มีความแคลงใจแม้แต่นิดเดียว ซันเจี่ยก็จะโยนทิ้งแบบไม่ลังเล
อีตาซันเจียนี่แหละ ที่เอารายงานหวานจำนวน 12 หน้า ไปใช้ 6 บรรทัด
พอคิดว่าเป็นงาน ก็นะ .. ไม่เครียดอะไร
หวานอยากเป็นคนคิดเก่งแบบซันเจี่ยบ้าง แล้ว ปั่นต้นฉบับได้สนุกๆ แบบพี่สาว

อยากทำต้นฉบับออกมาให้ตลก จั๊กจี้ เหน็บแนม ร้ายกาจนิดๆ แฝงความคิด
แบบฉบับหวานโหด

เมื่อวันเสาร์หวานพึ่งได้เซ็นสัญญาทดลองงาน
เดือนหน้าหวานก็จะผ่านโปรแล้ว
หวานคิดมาตลอด ว่าหวานอยากเป็นนักเขียน
ขอแค่วันๆ ได้เขียน ได้อ่านหนังสือ หวานก็เป็นสุขแล้ว


ทุกวันนี้หวานก็เป็นสุข
แต่บางทีหวานคิดว่า หวานเห็นแก่ตัวไปหรือเปล่า เห็นแต่ความสุขของตัวเอง
ไม่ใยสนใจความทุกข์ของคนอื่น หรือ ความทุกข์ในวันข้างหน้า

วันนี้หวานเป็นสุข แต่.. สักวันหนึ่ง ในวันข้างหน้า หวานจะเป็นอย่างไง
หวานเรียนจบแค่บัญชีกิ๊กก๊อก
ใช้หน้าตา คารม และ โชคส่วนตัว มาทำงานในสำนักพิมพ์
หวานจะทำงานในสำนักพิมพ์ได้อีกสักปี สักพัก มันก็ต้องตัน

หวานเคยคิดว่า อยากมีสำนักพิมพ์ แต่พอดูเจ้านายใหญ่ เจ้านายน้อย
ก็บ้านมีเงิน ตระกูลเก่าแก่ เหมือนเป็นอาชีพเสริมเขาซ่ะมากกว่า
หวานไม่เคยตั้งหวัง ว่าตัวเองจะไปอยู่จุดไหน ในวงการหนังสือ
เพราะไม่เคยคิดว่าตัวเองจะเข้าในนี้ได้
ตอนสมัคงานรก็เขียนไปมั่วๆ ตัดรำคานที่แม่ชอบไล่ไปทำงาน

พอมาคิด ก็รู้สึกว่าช้าไปหมด หลายเดือนแล้วที่เป็นผู้ช่วย เรียนรู้งาน
ภาษาก็อ่อนปวกเปียก ก็นั่งคุยกะพิสูจน์อักษรตลอดเวลา
จนพิสูจน์อักษร เริ่มเบือนหน้าหนีล่ะ ..(บก.เบือนหนีไปล่วงหน้านานแล้ว)

พึ่งรู้วันนี้ ว่า สระเอา มาจากสระอะ แปลงเสียง
หวานบอกว่า หวานเรียนสุดมาแค่ สระ โอ๊ะ โอ เอง ไม่ยักรู้มี สระเอาด้วย
พิสูจน์ถามว่า ถ้าไม่มีสระเอา แล้วเขียน กระเพราไง
หวานกะจะบอกว่า ก็กินราดหน้าแทนล่ะกัน
แต่ตอนนั้นมึนๆ ตัวร้อน เลยพูดไม่ออก


พออ่านต้นฉบับ นั่งเถียงกะซันเจีย ว่า ต้องใช่เอ้า ไม่ใช่ อ้าว

ซันเจียก็แบบ..(กุมาทำงานก่อนเมิงเกือบสิบปีนะเฟ้ย)
เดียวให้พิสูจน์ตรวจอีกทีล่ะกัน ไปทำงานอื่นก่อนล่ะกันนะเน้อ
แต่ดูหน้ามันก็แบบ (เมิงเป็นแค่ผู้ช่วยนะเฟ้ย.. อีนังหวาน เดี๊ยะๆ )
(หวานก็หึๆ อย่าหลุดเรื่องแกแอบมีกิ๊กหลากก๊กล่ะกัน อีซันเจี่ย
ถ้าข้อมูลแน่นกว่านี้ ฉันจะแฉให้ แกโดนรุมประชาทัณฑ์แน่ๆ โฮ๊ะๆ)

ในขณะคนที่มาใหม่ เป็นบก. นำโล้ดไปหลายอาทิตย์แล้ว เพราะเขามีวุฒิมา
ถ้าหวานไปทำงานที่เป็นสาย.. ที่หวานจบมา
ไปทำงานธนาคาร
ไปเป็นเซลล์ แบบที่เพื่อนไปเป็น
ไปทำงานบัญชี หวานว่า หวานหาเงินได้เยอะกว่านี้
หรือไปเป็นราชการ ...

หวานรู้สึกเฉยๆ กับความร่ำรวย เพราะ หวานเกิดมา พ่อแม่หาให้ทุกอย่าง
บ้าน สามหลัง รถคันหนึ่ง อยากจะอีกสักคัน ก็แค่บอก ก็มีได้
หวานไม่เคยคิดว่าจะต้องหาเอง เพราะหวานไม่จำเป็นต้องมี
แต่เพราะว่า วันนี้ เพื่อนรอบข้างตัวหวาน เขายังไม่มีสิ่งที่หาเองได้
หวานก็เลยยังไม่คิดว่าจำเป็นต้องมี

ถ้าวันหนึ่งวันใด เพื่อนหวานแต่งงานไป (ใกล้เต็มทีแล้ว)
หวานคงเริ่มคิดเรื่องสามี
ถ้าวันหนึ่งวันใด เพื่อนหวานขึ้นบ้านใหม่
หวานคงเริ่มคิดเรื่องชื้อบ้าน
ถ้าวันหนึ่งวันใด เพื่อนหวานขับรถมารับ
หวานคงเริ่มคิดเรื่องชื้อรถ

ถ้าวันหนึ่งวันใด มาถึง หวานจะทำไงกับชีวิต ชีวิตที่ไม่มีอะไรเลย
นอกจากสุขไปวันๆ กับการทำสิ่งที่ตัวรัก นะเหรอ????

ความสุข..มันไม่จีรังหรอก อีกไม่นานจะมีคนพรากมันไป ไม่ช้าก็เร็ว



Create Date : 20 กรกฎาคม 2552
Last Update : 22 กรกฎาคม 2552 23:38:53 น.
Counter : 721 Pageviews.

3 comments
  
หนูว่าอาชีพนัเขียนเมืองไทยถ้าทำหวังรวยยากอะพี่ ส่วนใหญ่เห็นทำเป็นงานอดิเรกมากกว่า
โดย: น้องผิง วันที่: 23 กรกฎาคม 2552 เวลา:15:00:19 น.
  
โดย: คนเดินดิน (หน้าใหม่อยากกรอบ ) วันที่: 8 สิงหาคม 2554 เวลา:8:38:45 น.
  
โดย: คนเดินดิน (หน้าใหม่อยากกรอบ ) วันที่: 12 สิงหาคม 2554 เวลา:3:27:45 น.
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

หวานใจนายโหด
Location :
กรุงเทพ  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




add me!!plz~
Add to Google

ไม่สวยก็เซ็งเป็น


MY VIP Friend