สงสัยอยู่ ทำไมนะ ถึงกลายเป็นแบบนี้ไปได้
นี่เราไม่ได้ตัดผมมานานเท่าไหร่แล้วนะ
จำได้ลางๆ ว่าไปไดรท์ผม ... เมื่อไหรว่ะ
ล่าสุดไป ร.พ. คอเจ็บ น้ำหนักขึ้นมาสามโล
นั่งเปิดดูรูปชายโหดกับเรา ตอนนั้นก็อ้วนล่ะน่ะ นี่อ้วนกว่าเดิมอีก
ขัดตัวครั้งสุดท้ายเมื่อไหร่
ทากันแดดครั้งสุดท้ายเมื่อไหร่
นอนแต่หัวค่ำครั้งสุดท้ายเมื่อไหร่
แต่งหน้า......... ครั้งสุดท้ายเมื่อไหร่
จู่ๆ ก็เอาเครื่องสำอางไปกองทิ้งไว้ที่อื่น ไม่แตะต้อง
ปากแตกแห้ง ก็ไม่หยิบลิปมันมาทา
ผมก็ขึ้นโคนดำหมดแล้ว
เมื่อตอนเย็น ส่องกระจก ตกใจตัวเอง
เฮ่ย! ทำไมเรา กลายเป็นแบบนี้ ไม่ได้โทรม แต่ไม่ดูแลตัวเองเลย
จู่ๆ เป็นอะไรขึ้นมา ลืมหมดทุกสิ่งอย่าง นิสัยรักสวยรักงามที่เคยชิน
แปลกใจมากๆ จริงๆนะ
ไม่ใช่ว่า อกหัก รักตุ๊ด หรืออะไรทั้งสิ้น ทุกอย่างเหมือนเดิม
จู่ๆ ก็กลายเป็นแบบนี้ไปได้ไงว่ะกู
ไม่เอาแล้ว ไม่ชอบเลย
ถึงฉันจะไม่ใช่คนสวย แต่ฉันก็ต้องเป็นคนมีความพยายาม..
แต่ก็ยังสงสัยอยู่ ทำไมนะ ถึงกลายเป็นแบบนี้ไปได้
บางที การที่เราปล่อย ไม่ได้หมายถึงว่าละเลยนะ แต่ปล่อยตัวเองบ้าง ปล่อยให้ตัวเองได้ตามใจปากบ้าง ปล่อยให้ตัวเองโทรมบ้าง มันก็มีข้อดีเหมือนกัน
คิสไม่ได้คิดว่าการที่เราดูแย่กว่าเดมเป็นเรื่องดี แต่มัน่าเบื่อที่ต้องมีกฎ ข้อห้ามให้กับตัวเองตลอดเวลา
คิสเพิ่งเลิกแต่งหน้ามาได้เดือนกว่าๆ ตอนแรกก็ไม่ชิน แทบจะบ้า เพราะรับหน้าตัวเองไม่ได้ พอผ่านไปเดือนนึง ก็เออ ดีวะ ไม่ต้องใช้ออยล์ล้างหน้าแล้ว ๕๕ สบายดีเหมือนกัน เริ่มชินกับหน้าตัวเองเวลาเหียกสมบูรณ์มากขึ้น มองไปมองมา เออ มันก็ไม่ได้เลวร้ายขนาดนั้นนี่หว่า คนเห็นแล้วไม่วิ่งหนีก็ใช้ได้
คิดอยู่ว่าจะลดนน.สักสองโล อยากดูดีไง แต่พออดไปได้แค่ไม่กี่ชม.ก็รู้สึกตัวเองหงุดหงิด ต้องสั่งตัวเองห้ามโน่นห้ามนี่ แล้วคิสก็เป็นพวกไม่ยอมฝืนใจตัวเองด้วย ก็เลยถามตัวเองว่า "ฉันอ้วนจนต้องทำตัวโง่ๆเหมือนผู้หญิงบางจำพวกด้วยหรอ" คำตอบก็คือ "ไม่" คือมันก็อ้วนละ แต่ไม่จำเป็นต้องลดหรอก ลดแล้วอารมณ์เสีย ลดไปทำไม เลยกินเหมือนเดิมเลย ๕๕
อาจดูไม่มีวินัยกับตัวเองเท่าไหร่ แต่ชีวิตเราก็อยู่ในวินัยมากไปแล้ว ปล่อยให้มันเป็นไปของมันบ้าง ก็ดีเหมือนกัน
คิดถึงนะจ้ะ เทคแคร์ด้วย ^^