Bangkok Express
"เมื่อความเบื่อหน่ายมาย่างกรายในจิตใจ หัวสมองที่แล่นน้อยนิดจะส่งพลังงานไปทั่วร่างและกลั่นกรองออกมาเพื่อทำสิ่งไร้สาระ" (watmeari)
สัปดาห์ที่ผ่านไป ผมได้เจอกับผู้หญิงสองคน ที่ผมไม่รู้จักนามของเธอ แต่วีระกรรมของเธอ มันช่างทำให้ผมติดตราตรึงในใจยิ่งนัก
ผู้หญิงคนแรก อายุอานามมากอยู่ เราเจอกันครั้งแรกที่กลางถนน! ผมจำหน้าของเธอไม่ได้นัก แต่แผ่นหลังเธอของมันช่างบาดใจเสียจริง อะอะ อย่าเพิ่งคิดว่าเธอใส่ชุดโป๊ เว้าหลังหรืออย่างไร มันถึงได้บาดใจผม เธอใส่เสื้อผ้ารัดกุมมิดชิดครับ
ในวันพุธที่แสนเบื่อหน่ายและรถติด ตอนแรกผมมีแผนะจะไปดูหนัง แต่ก็เปลี่ยนใจไม่ได้ดู เลยจะกลับบ้าน แต่วันนั้นรถก็ติดอย่างบ้าระห่ำ ผมคิดว่าถ้ารถเมล์มา ผมคงไม่ได้นั่งแน่ๆ ผมเลยยอมเดินไปอีก 1 ป้าย เพื่อจะได้ขึ้นก่อนคนอื่น จึงเดินไปที่สวนลุมและก็นั่งรอรถเมล์
เวลาผ่านไปอย่างเนิ่นนาน ประมาณครึ่งชั่วโมงได้ รถเมล์คันแรกก็ผ่านไป คนอย่างแน่น อีกไม่นานนัก 10 นาทีต่อมา คนเริ่มเบาบาง แต่ก็ไม่มีที่นั่ง ผมจึงสงวนท่าทีวางเฉย
แต่แล้วอีก 10 นาทีต่อมา ก็มีรถหนึ่งคัน ผมไม่แน่ใจว่ามีที่นั่งหรือเปล่า แต่ท่ีแน่ๆ มีคนยืนสองคน คือกระเป๋ากับอีกคนยืนออตรงประตู กำลังจะลง
รถคันนี้ค่อนข้างจะทำให้ผมหวั่นไหวพอควร เพราะมันเล่นจอดเลนขวาสุด ผมละหวั่นใจเสียจริงว่ามันจะไม่มาจอดริมฟุตบาท(อดขึ้นน่ะสิ)
ในจังหวะที่รถติดผมก็พยายามเดินออกไปกลางถนน แล้วก็โบกมือ(เปิดประตูเด้) และนั่นคือจุดที่ทำให้ได้เจอกับผู้หญิงคนแรก.....
//ตัดภาพมาเย็นวันเสาร์
ผมนั่งรถเมล์สาย 177 จากสายใต้ใหม่กว่า เพื่อไปสีลม ตอนขึ้นเราก็ไม่ทันดูว่ามันวิ่งผ่านอะไรบ้าง ผมมาพบว่า เป็นรถเมล์สายที่ไม่ควรจะขึ้นจริงๆ เพราะมันวิ่งได้ส้นเท้ามาก วิ่งจากไหนไม่รู้ละ แต่มาโผล่สายใต้ใหม่กว่า แล้วก็ไปทางปิ่นเกล้าแล้วเลี้ยวเข้าโรงพยาบาลศิริราช!!! เท่านั้นไม่สาแก่ใจ เลี้ยวจากศิริราชไปออกสามแยกบ้านแขก!! สำหรับจุดนี้ผมคิดว่ามันบ้าบอมาก ยังไม่พอครับ แทนที่มันจะวิ่งไปวงเวียนใหญ่แล้วไปทางสะพานตากสินแล้วเข้าสีลม มันเสือกไปลาดหญ้า แล้วค่อยมาขึ้นสะพานตากสิน ผลคือ ติดบรรลัย ติดมันทุกจุดที่มันวิ่ง จนผมคิดว่า มันวิ่งบ้าไรวะ ใครเขาวิ่งแบบนี้กัน แล้วผมก็ตอบตัวเองได้ภายใน 3 วิ(ฉลาดจังเรา) "เออ ก็เพราะไม่มีใครวิ่งกัน มันเลยต้องมีรถเมล์คันนี้วิ่งมารับคนไง ถ้ามีเงินก็ไปแท็กซี่ หรือขับรถเองสิวะ"
พรรณนามายาวเยียด ผมขอย้อนกลับไป ณ จุดที่ทำให้เจอกับผู้หญิงคนที่สอง เราเจอกันที่ รถเมล์สาย 177 เธอขึ้นป้าย หน้าคาร์ฟู สำหรับเธอคนนี้แสนประทับใจมาก เธอขึ้นรถเมล์ด้วยรอยยิ้มสดใส หน้าขาว กับรอยยิ้มของเธอ มันช่าง.....
//ตัดกลับไปที่วันพุธ
ใน Chungking Express หนังสุดแสนประทับใจ เป็นหนังที่ผมดูหลายรอบเหลือเกิน มีฉากคลาสสิคที่หลายคนเอามาเล่น และเอามาล้อ คือฉากเจอที่พระเอกวิ่งชนผู้หญิงคนนึง จากภาพสปีดต่ำ มาสู่การหยุดภาพนิ่งสนิท แล้วมีเสียงบรรยายว่า "At the high point of our intimacy, we were just 0.01cm from each other. I knew nothing about her. Six hours later, she fell in love with another man. "
ผมก็ไม่คิดว่าเราจะได้เจออะไรแบบในหนัง ในจังหวะที่ผมออกไปกลางถนน(เพื่อจะขึ้นรถเมล์) ภาพดูเชื่องช้าเนิบนาบ สปีดของภาพถูกหยุดนิ่งเมื่อผู้หญิงคนนั้น วิ่งมาชนผม แล้วก็มีเสียงผมบรรยายว่า "ณ จุดที่เราห่างกัน 0.1 เซนติเมตร ผมไม่รู้จักเธอ อีก 1 นาทีต่อมา เธอก็ลงนั่งที่นั่ง ท่ีเหลือตัวเดียว ที่ซึ่งควรจะเป็นของผม....."
เวลาหนึ่งชั่วโมง ที่ผมเฝ้ารอ ถูกทำลายเพียงระยะ 0.1 เซนติเมตร โรแมนติคสาดดดดดดด
ชื่อไทยของ Chungking Express มีชื่อว่า "ผู้หญิงผมทอง ฟัดหัวใจโลกตะลึง"
สำหรับก็คิดชื่อตอนนี้ว่า "ยัยเจ๊ผมขาว ปาดหัวใจโลกตะลึง" ...
//ตัดมาวันเสาร์ ผู้หญิงคนที่สองที่เข้ามาชีวิตของผม เธองามเฉิดฉายเหลือเกิน
เธอย่างก้าวอย่างช้าๆ และมั่นใจ เธอเดินอย่างช้าๆ แล้วมาหยุดตรงหน้าผม โอ้ววว ไม่นะ... แล้วก็เธอก็นั่งรถตรงเบาะหน้าผม ผมหวั่นไหวมาก คุณรู้ไหมว่า ผมรู้สึกอย่างไร.....
15 นาทีก่อนหน้านั้น
รถเมล์ติดแหงกมากที่สี่แยกบ้านแขก วันนั้นเรามีนัดกับพี่ที่สีลม นัดเจอกันแล้วไปกินเนื้อย่างกัน ซึ่งผมก็สายมากแล้ว จิตใจก็ร้อนรุ่ม ผมรู้ชะตาตั้งแต่รถเมล์สายนี้วิ่งมาเส้นโรงพยาบาลศิริราชแล้วละ ยิ่งมาออกสี่แยกบ้านแขกนี่ รู้เลยยาวแน่ เพราะสี่แยกบ้านแขก เส้นนี้เหมือนลูกเมียน้อย เป็นถนนเล็กๆ ที่ปล่อยไฟเขียวนิดนึง แล้วปล่อยไฟแดงยาวๆ ในจังหวะที่รถติดอย่างยาวนาน "หน้าห้างคาร์ฟู" รถเมล์ก็เริ่มเคลื่อนตัว ผมคิดว่าเอาละ จะได้หลุดจากตรงน้ีเสียที (ตอนนั้นผมยังเข้าใจว่าหลุดแยกนี้แล้วรถเมล์จะไปตรงรถไฟฟ้าวงเวียนใหญ่) แต่แล้วรถเมล์วิ่งไปได้นิดเดียวแล้วก็หยุด ผมบ่นในใจว่า เวร แม่งปล่อยไฟแดงแล้วเหรอ แต่เปล่าครับ รถเมล์จอดรับยัยหน้าสวยนั่น! แล้วรถเมล์ก็รีบออกตัวอย่างเร็วเพื่อให้พ้นแยกนี้ แต่อนิจา เราเป็นคันแรก..... ของไฟเขียวรอบต่อไป อ้ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก(คลั่งมากตอนนั้น)
คือตอนที่ลงนั่งตรงเบาะหน้าผม ผมอยากจะถีบเบาะเธอจนแทบขาดใจ เธอบ้าหรือเปล่ารถเมล์จอดนาน 15 นาที เปิดประตูทิ้งไว้ เสือกไม่ขึ้น พอไฟเขียว เสือกเป็นคนดีมีระเบียบรอรถจอดเข้าป้ายแล้วขึ้น แล้วผลที่ได้คือ รถไม่พ้นไฟเขียว เพราะต้องเสียเวลาจอดและรับคนคนเดียวขึ้นรถ ทั้งที่จริงๆ สามารถเดินมาขึ้นรถได้เพราะตอนรถติด จอดห่างกับป้ายแค่ 2 ช่วงคันได้
จิตตอนนั้นแตกมาก สัปดาห์นี้เราเจอผู้หญิงสองคนสองวัย ที่ทำให้ต่อมโรแมนติคพังทลาย
คนแรกทำให้การรอคอยของเราช่างหมดความหมาย
คนที่สองทำให้เวลาที่ไม่ควรจะเสียต้องมาเสียไปเปล่าๆ
โอ้ว หากหว่อง กาไว ทำให้แสงสี สัปประรดกระป๋อง ที่ฮ่องกงโรแมนติคได้
ผมเอง ภาวะรถติดกรุงเทพฯ โรแมนติคได้เช่นกัน!
ว่าแต่ มันโรแมนติคตรงไหนโว้ยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย (คลั่งแล้ว)
Create Date : 07 กุมภาพันธ์ 2553 |
|
4 comments |
Last Update : 7 กุมภาพันธ์ 2553 1:17:15 น. |
Counter : 1109 Pageviews. |
|
|
สองปีที่ผ่านมานี้ entry นี้ของวัช เจ๋งสุด
พี่กีบขำกระอักไปเลย
เอ๊ะ!...นี่แกกะจะฆาตกรรมพี่แกโดยการทำให้ขำจนตายหรือเปล่า?!? ห๊ะะ นังน้องวัช!