
 |
|
 |
 |
|
| 1 | 2 |
3 | 4 | 5 | 6 | 7 | 8 | 9 |
10 | 11 | 12 | 13 | 14 | 15 | 16 |
17 | 18 | 19 | 20 | 21 | 22 | 23 |
24 | 25 | 26 | 27 | 28 | 29 | 30 |
31 | |
|
|
|
|
 |
 |
|
|
Title: ดอกไม้ไฟ

เสียงดังทีเกิดขึ้นท่ามกลางความมืดมิดทำให้หญิงสาวสะดุ้งตัวตกใจ แต่เพียงไม่กี่วินาทีต่อมาความตกใจนั้นก็แปรเปลี่ยนเป็นรอยยิ้มแทน
แสงสว่างหลากสีสันสดใส ท่ามกลางความมืดมิดที่เกิดขึ้นนั้น ทำให้เธอเผลอยิ้มออกมาโดยไม่รู้ตัว
หญิงสาวพาตัวเองออกมาที่ระเบียงชั้นบน เพื่อชมศิลปะบนท้องฟ้าได้ชัดเจนยิ่งขึ้น แสงไฟหลากสี มาพร้อมลวดลายวิจิตรที่แตกต่างกันไป บ้างกระจายแผ่พุ่งเต็มท้องฟ้า บ้างกระจายเป็นจุดประกายพราวสวยงาม บ้างก็พุ่งขึ้นมาเป็นเส้นตรงก่อนที่จะแตกตัวเองเป็นช่อๆ ฯลฯ
การแสดงศิลปะบนท้องฟ้าชุดแรกจบลง เธอเอามือเท้าคางจ้องมองไปที่เบื้องหน้าที่มีแต่ความมืดมิด
...เธอรู้สึกกลัว...
แน่นอนความมืดมิดย่อมก่อให้เกิดความกลัวบนจิตใจตามหลักสัญชาตญาณการเอาตัวรอดของมนุษย์ เธอเบือนหน้าหนีไม่จ้องมองความมืดมิดนั้น แต่กลับ แหงนหน้าขึ้นเพื่อจ้องมองท้องฟ้ายามราตรีแทน อย่างน้อยแสงจันทร์นวล กับดวงดาวที่สุกสกาวก็สามารถกล่อมเกลาจิตใจของเธอให้ลดความหวาดกลัวลงมาได้บ้าง
เสียงอันดังกึกก้องทำให้เธอสะดุ้งด้วยความตกใจอีกครั้ง เสียงนี้หมายความว่า การแสดงศิลปะบนท้องฟ้ากำลังจะเริ่มขึ้นอีกเป็นครั้งที่สอง
เธอมองแสงสวยบนท้องฟ้าด้วยใจจดจ่อ ประกายไฟอันเจิดจรัสคล้ายกลับปลุกวิญญาณแห่งความสดชื่นในตัวเธอ ให้กลับมากระปรี้กระเปร่าอีกครั้งหลังจากที่เธอจมจ่อมอยู่ในห้วงแห่งความมืดมิดมานานแสนนาน
เธอไม่อยากกลับไปอยู่กับความมืดมิดอีกแล้ว
เธอคิดเช่นนั้น
เธอจดจำช่วงเวลาที่เธอถูกขังอยู่กับความมืดมิดได้เป็นอย่างดี
ในห้องนั้นเธอเป็นเพียงบุคคลที่ไร้ความสามารถในการมองเห็น ราวกับคนตาบอด ในห้องนั้นมีแต่ความเงียบงัน เธอไม่สามารถที่จะเปล่งเสียงออกมาเพื่อให้ใครซักคนได้ยินได้ ในทางเดียวกัน...ภายในห้องนั้นไร้ซึ่งเสียงใดๆ เธอไม่แน่ใจว่าหูของเธอยังสามารถใช้การได้ดีหรือเปล่า
จนเธอได้ยินเสียงลั่นบนท้องฟ้า นั่นจึงทำให้เธอมั่นใจได้ว่า หูของเธอยังไม่ได้หนวก สายตาที่จ้องมองแสงสวย นั่นจึงทำให้เธอรู้ว่า ตาของเธอยังไม่ได้บอด และเสียงหัวเราะสดใสในลำคอของเธอ ทำให้เธอได้รู้อีกเช่นกันว่า เธอไม่ได้เป็นใบ้
เธอหลุดพ้นจากความมืดมิดนั่นมาแล้ว
แสงงามสะท้อนให้เห็นใบหน้าของเธอ หากมีใครอยู่ข้างกายเธอในตอนนี้ และได้มีโอกาสพิศใบหน้าของเธอ น่าจะรู้ได้ทันทีว่า เธอกำลังมีความสุข
แสงสีสวยงามบนท้องฟ้า ยังคงส่องแสงเจิดจ้าตระการตาอยู่อย่างไม่มีทีท่าว่าจะหยุด เสียงที่ดังติดต่อกันแม้เธอจะไม่ชอบเท่าไรนัก แต่ก็ยังดีกว่าที่เธอจะต้องเผชิญหน้ากับความเงียบงันอีกครั้ง
อย่างไม่รู้ตัว เธอพาตัวเองออกมานอกชายคาบ้านของเธอ สวมรองเท้า พร้อมกับก้าวออกเดินสู่จุดกำเนิดของแสงสว่างสวยงาม
สองข้างทางช่างมืดมิด เธอไม่แม้แต่ที่จะคิดหันมองรอบกาย สายตาเธอจับจ้องมองแต่บนท้องฟ้า สลับกับมองทางเดินข้างหน้าเป็นระยะๆ เธอกำลังเดินเข้าไปหาแสงสวยงาม ยิ่งใกล้ยิ่งตื่นเต้น ยิ่งใกล้เสียงจากการจุดชนวน และ เสียงระเบิดกลางอากาศก็ยิ่งดังมากยิ่งขึ้น เธอใกล้ที่จะถึงจุดหมายปลายทางเต็มทีแล้ว
เธอสาวเท้าก้าวเร็วมากยิ่งขึ้น สายตาจับจ้องแต่บนท้องฟ้า ประกายไฟยังคงเจิดจ้าอยู่อย่างต่อเนื่อง เธอเคยนึกว่า ถ้าแสงสวยๆ เหล่านี้ ถูกจุดขึ้นในตอนเวลากลางวัน คงจะไร้ซึ่งเสน่ห์และไม่สวยงามเท่ากับตอนกลางคืน ติดอยู่ที่เธอเกลียดชังและหวาดกลัวความมืดมิดในอัตราส่วนเท่าๆ กัน
ความสวยงามบนความน่ากลัว เสน่ห์ในความมืดมิด หากไม่ใช้ความกล้า ก็อาจจะไม่ได้เห็นสิ่งสวยงาม เธอคิดเช่นนั้น
ในขณะที่เธอเดินทางเข้าใกล้จุดมุ่งหมายเข้าไปทุกที
แสงสว่างสดใสบนท้องฟ้าก็ดับวูบลง ความมืด และความเงียบงันเข้ามาแทนที่
ความมืดมิดย่างกายเข้ามาหาเธออีกครั้ง
สายตาเธอไม่สามารถจ้องมองอะไรได้ เพราะที่แห่งนั้นมีแต่ความมืด ...เธอรู้สึกคล้ายกับว่าเธอเป็นคนตาบอด
รอบกายเธอมีแต่ความเงียบงัน เธอพยายามเงี่ยหูฟังเสียงรอบๆ ในบริเวณนั้น ...แต่...ก็ไร้ร่องรอยแห่งเสียง
เธออยากที่จะกรีดร้องออกมาดังๆ เพื่อแสดงออกว่าเธอหวาดกลัวเพียงไร ...แต่...เธอไม่มีความกล้าพอที่จะกรีดร้องออกมาในขณะที่รอบกายเธอมีแต่ความมืดมิด
ที่ซึ่งไร้แสง... ที่ซึ่งไร้เสียง... ที่ซึ่งไม่สามารถเปล่งเสียงออกมาได้
ความกล้าหาญในการเดินตามหาแสงสว่างของเธอ ได้ดับมอดลงไปพร้อมกับฝุ่นขี้เถ้าที่ล่องลอยอยู่กลางอากาศ
เธอลืมตัวไปชั่วขณะ แสงไฟสีสวยบนท้องฟ้าหาใช่นิรันดร์ แสงนั้นเผยความงามบนท้องฟ้าได้ไม่กี่วินาที ประกายไฟที่ก่อกำเนิดขึ้นมา เป็นเพียงภาพลวงตาให้เธอตื่นเต้นกับแสงสีแห่งความฉาบฉวย แสงสว่างที่เธอตามหา สูญสลายมลายไปในชั่วพริบตา...
หาย...แสงสว่างจากประกายไฟหลากสีนั้นได้หายไปแล้ว
เธอทรุดตัวลง อ่อนล้า และท้อแท้ต่อชะตากรรม แสงสว่างแห่งความหวังของเธอเป็นเพียงการลวงหลอก ให้เธอเพ้อพกเพียงชั่วคราวเท่านั้น
เธอถูกความมืดครอบงำเธออีกครั้ง... และเธอยังคงต้องตามหาแสงสว่างในความมืดมิดอยู่อย่างนั้น...ชั่วนิรันดร์
Create Date : 22 พฤษภาคม 2552 |
|
2 comments |
Last Update : 27 พฤษภาคม 2552 22:02:02 น. |
Counter : 1433 Pageviews. |
|
 |
|
|
โดย: อมิธีสท์ วันที่: 27 พฤษภาคม 2552 เวลา:22:16:05 น. |
|
โดย: คุณพีทคุง (ลายปากกา ) วันที่: 31 พฤษภาคม 2552 เวลา:17:55:16 น. |
|
| |
|
ยางมะตอยสีชมพู |
 |
|
Location :
กรุงเทพ Thailand
[ดู Profile ทั้งหมด]
|
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]

|
เป็นมนุษย์เงินเดือน รับใช้การตลาด ต้องคิดงานให้เกินคาด แล้วจะได้ตังค์ใช้
ชอบดนตรี เสียงเพลงเป็น ชีวิตจิตใจ ตัวอักษรนั้นไซร้ กัดแทะได้ ทุกวี่วัน

ของเค้าดีจริง เข้าไปเยี่ยมชมกันได้ครับ ^ ^ ถึงแม้ว่าผมอาจจะยังไม่ใช่นักเขียน
ถึงแม้ว่าผมอาจจะไม่มีคุณสมบัติแม้ที่จะคิดเขียน
และถึงแม้ว่า เรื่องที่ผมเขียนนั้นจะห่วยแตกแค่ไหนก็ตาม
แต่ว่ามันก็ออกมาจากมันสมองอันน้อยนิดของผม
ขอร้องเถิดครับ กรุณาอย่าเอาไป คัดลอก เผยแพร่ ดัดแปลง
ส่วนหนี่งส่วนใดหรือทั้งหมดของงานเขียนของผมเลย (ยางมะตอยสีชมพู)
ผมขอสงวนสิทธิ์ตามกฏหมาย ซึ่งหากฝ่าฝืนโดยไม่ได้รับอนุญาตแล้ว จะมีโทษ ปรับตามกฏหมายตั้งแต่ 20,000 บาท ถึง 200,000 บาท หรือนำเรื่องไปเสนอสำนักพิมพ์ ถือเป็น การเสนอขาย มีโทษจำคุกตั้งแต่ 6 เดือน ถึง 4 ปี หรือ ปรับตั้งแต่ 100,000 บาทถึง 800,000 บาท หรือ ทั้งจำทั้งปรับนะครับ ขอบพระคุณเป็นอย่างสูง
ที่ยังเข้าใจ และเห็นใจคนชอบเขียนห่วยๆอย่างผม
(ตามมาตรา 69 แห่ง พ.ร.บ. กฏหมายลิขสิทธิ์)
|
|
 |
|