
 |
|
 |
 |
|
| 1 | 2 |
3 | 4 | 5 | 6 | 7 | 8 | 9 |
10 | 11 | 12 | 13 | 14 | 15 | 16 |
17 | 18 | 19 | 20 | 21 | 22 | 23 |
24 | 25 | 26 | 27 | 28 | 29 | 30 |
|
|
|
|
 |
 |
|
|
Title: เมืองคนบาป
1. ณ ตอนนี้ ณ เวลานี้ ณ ที่แห่งนี้ ในที่สุด... เท้าดำๆ สกปรกๆ ที่ถูกห่อหุ้มด้วยรองเท้าผ้าใบเก่าๆ ขาดๆ ของผม ก็ได้เหยียบพื้นดินที่นี่ซะที
ที่ที่ใครๆต่างหมายปองที่จะมีโอกาสใช้ชีวิตที่นี่ ที่ที่เด็กบ้านนอกหลายคนฝันถึง ที่ที่ต้องเป็นแหล่งทำกินของใครหลายคน ที่ที่หลากชีวิตต่างแย่งชิงดีชิงเด่นกัน ที่ที่ต้องพบเจอะกับอากาศเป็นพิษด้วยมลภาวะต่างๆ อย่างไม่มีที่สิ้นสุด ที่ที่....ฯลฯ ที่ซึ่งหลากคนหลากชีวิตต่างความคิด ให้คำจำกัดความ คำนิยาม ว่าใครจะเปรียบเปรยที่แห่งนี้ว่าอะไร อย่างไร เท่าไร เอ๊ะ...ยังไง ใช่ครับ...ผมกำลังสับสนและมึนงงกับตัวเองว่า จะเอาอย่างไร จะทำยังไงต่อไปดี ในเมื่อผมได้มาซึ่งที่หมายแล้ว...ที่แห่งนี้...นครแห่งความเจริญ หรือ นครแห่งความยุ่งเหยิง!!
2. ด้วง...!! ผมตื่นจากอาการมึนงงกับตัวเอง พร้อมกับหันไปมองซึ่งแหล่งที่มาของเสียงที่เรียกชื่อผม เสียงนั้นไม่ได้หวาน เสียงนั้นไม่ได้นุ่มนวล หรือไพเราะเสนาะหูแต่อย่างไร กลับกัน.... มันเป็นเสียงที่แหลม...เล็ก...เมื่อถูกเปล่งออกมาด้วยเสียงอันดัง ยิ่งแสบแก้วหูดีนักแล แต่ทำไมนะ...ผมถึงชอบเสียงนี้จัง และเป็นเสียงที่คุ้นหูที่ผมอยากได้ยินเป็นเสียงแรกที่มาถึงที่นี่แล้วล่ะ
ขจี คือแหล่งกำเนิดของเสียงอันแหลมเล็กนั้น ผมขยับขาก้าวตามเธอที่เดินตัวปลิวไปแล้วก่อนหน้านั้น ดั่งกับเด็กที่เดินตามผู้ใหญ่ในเมือง
3. ตอนนี้ขจีสลัดคราบเด็กสาวบ้านนอกออกอย่างหมดเปลือก เธอเป็นผู้หญิงในเมืองอย่างเต็มตัว แต่งตัวทันสมัย ใช้ของมียี่ห้อ รวมทั้งเธอยังมีรถขับ และที่อยู่หรูที่คนเมืองเรียกว่า...เรียกว่าอะไรนะ อืม... อ้อ ใช่ๆ เค้าเรียกกันว่า คอมดอมมิเนียม !! เอ้ย....คอนโดมิเนียมสิ ไม่น่าเชื่อเลย เพียงแค่ปีเดียวขจีจะเปลี่ยนไปมากขนาดนี้ ผมก็ได้แต่หวังไว้ลึกๆ เช่นกันว่า ในระยะเวลา 1 - 2 ปี นี้ผมจะต้องเปลี่ยนไปอย่างขจีให้ได้บ้าง ครอบครัวผมจะได้ไถ่ที่นาได้เสียที...
4. ผมรู้สึกหูอื้อมากๆ ในที่ที่ทำงานใหม่ของผมซึ่งขจีมาฝากผมทำงานที่นี่ และ เธอ...ขจีก็ทำงานที่นี่เช่นเดียวกัน ขจีบอกว่า สถานที่ที่นี่นี้คนกรุงเทพ มักจะเข้ามาเพื่อเป็นแหล่งพักผ่อน เมื่อเหน็ดเหนื่อยจากการทำงาน ผมก็ไม่ค่อยใจหรอกครับ ว่าเป็นที่พักผ่อนได้อย่างไร ก็ในเมื่อเปิดเพลงเสียดังออกขนาดนี้ ไม่มีที่นั่งสบายๆ ผมกลับมองว่ามันจะเหนื่อยกันทั้งคืนน่ะสิไม่ว่า เพราะทุกอณูพื้นที่ที่นี่ไม่มีพื้นที่ตรงไหนที่ไม่มีคน มีแต่ความแออัด ยัดเยียด เบียดเสียดกัน อีกทั้งสถานที่ก็คับแคบไม่มีอากาศหายใจ แถมยังมีควันฟุ้งจากบุหรี่ลอยปะปนเพื่อแย่งอากาศบริสุทธิ์อีก หรือความอึดอัดแบบนี้คนกรุงเทพเค้าชอบกันน้า ขจีเลยหัวเราะกิ๊ก...พร้อมบอกกับผมอีกว่า เดี๋ยวอยู่ไปนานๆแล้วจะชินเอง เพราะว่ามันเป็นวิถีชีวิตของคนที่นี่
5. ผมยังออกจากงุ่นง่านอยู่มากกับการทำงานในสถานที่ที่ไม่คุ้นเคยเช่นนี้ วันนี้ผมทำแก้วแตกไปเกือบ 2 โหลแล้วมั้ง ผมอยากจะรู้จังเลยว่า ขจีปรับตัวในสถานที่เช่นนี้ได้อย่างไรกัน ในขณะนั้น เสียงโห่ร้องก็ดังขึ้น ผมเหลือบมองขึ้นไปบนเวที พร้อมกับเห็นเธอคนนั้น ขจี พร้อมกับเด็กสาวหน้าตาดีอีก 10 กว่าคน ขึ้นไปยักย้ายส่ายสะโพก ด้วยชุดนุ่งน้อยห่มน้อยบนนั้น ผมแทบไม่เชื่อสายตาตัวเอง... ขจีที่ขนาดงานรำวงเธอยังไม่กล้าออกไปรำ แต่เธอกลับ... คนเรามันต้องมีการปรับตัวและต้องเปลี่ยนแปลงนะด้วง เธอบอกผมในเวลาต่อมา
6. เสียงเพลงยังดังกระหึ่ม...สลับกับเสียงโฆษก เอ่อ...ที่เค้าเรียกว่า เจดี ดีเจ อะไรเนี่ยแหล่ะ ยิ่งดึกเสียงยิ่งดัง ยิ่งดึกผู้คนยิ่งฟุ้งซ่าน ยิ่งดึกจังหวะของเสียงเพลงยิ่งทำให้เกิดความกระเส่า ยิ่งเร้า ยิ่งเร้า ยิ่งเร้า ยิ่งเร้าขึ้นเรื่อยๆ ขจีเคยบอกผมว่า เมื่อได้ยืนอยู่ตรงที่ตรงนี้ เราจะรู้สึกได้ถึงความสนุก ความอิสระ และได้ปลดปล่อยความทุกข์ที่สั่งสมมาตลอดทั้งอาทิตย์ได้โดยไม่มีขีดจำกัด ไม่มีคำว่าเกินขอบเขต พวกเขามาเพื่อความสนุกเท่านั้น ผมนึกคำพูดของเธอและได้เห็นภาพประกอบคำพูดของขจี ได้อย่างชัดเจน ผมนึกในใจ.......นี่มันเป็นเพียงเปลือกนอกของความสนุกเท่านั้นล่ะขจี มันไม่เหมือน มหรสพเล็กๆในบ้านเรา โดยมีดวงดาวระยิบระยับสลับกับท้องฟ้ายามค่ำคืน มีพระจันทร์เป็นนางเอก มีแสงไฟจากหิ่งห้อยนับร้อย ประกอบกับเสียงเพลงเพราะๆจาก จักจั่น หรีดหริ่งเรไร และที่สำคัญ เราได้อยู่เคียงข้างกับคนที่เรารักจริง แค่นี้ก็ประทับใจได้มิรู้ลืม...............................................................................................
7. ร้านปิด แต่ความสนุกของบางคนยังไม่จบ ผมเห็นการเคล้าคลอเคลียของหนุ่มสาวท่ามกลางแสงไฟสลัวๆ เห็นบางกลุ่มก็พากันกลับบ้าน เห็นบางคนก็อาศัยข้างหน้าร้านเป็นที่นอน และ เห็นบางคนก็กำลังให้อาหารเจ้าตูบที่มารอกินกันหน้าสลอนเชียว แต่ผม...ไม่เห็นขจี
8. ผมตื่นขึ้นมา ด้วยเสียงเคาะประตูปึงปัง และต้นกำเนิดของเสียงนั้นก็คือเธอ...ขจี เธอมาหาผมที่ห้องด้วยสภาพที่อิดโรย แตกต่างจากเนื้อเนียนสาวของเธอที่หอมฟุ้ง และกลิ่นหอมบางๆ ของเส้นผมเธอ เธอแวะมาหาผมด้วยความเป็นห่วง เธอบอกผมว่าอย่างนั้นแล้วเธอก็ฟุบหลับไป ผมได้เห็นภาพของขจีที่เป็นดั่งสาวน้อยที่อ่อนต่อโลก ความน่ารักของเธอยังมีให้เห็นอยู่เหมือนวันเก่าๆ ขอแค่เพียง... ได้จ้องมองเธอแม้เพียงตอนหลับก็ยังดี ก่อนที่เธอจะแปลงร่างเป็นนางแมวป่า เฉกเช่นเหมือนกับ...ทุกคืน
9. ผมตัดใจจากความอยากมี อยากเป็น อยากร่ำรวย ความอยากทุกอย่าง ผมเดินหันหลังให้กับความเจริญจอมปลอม ผมเดินหันหลังให้กับความรักที่ไม่มีวันเหมือนเดิม...หลังจากที่ผมพบถุงยาง และยาคุมกำเนิดในกระเป๋าของขจี ผมเดินหันหลังให้กับเมืองกรุง เมืองหลวง เมืองแห่งกิเลส เมืองแห่งคนบาป ทิ้งไว้กับข่าวการหายตัวอย่างลึกลับไร้ร่องรอยของผู้หญิงกลางคืนคนหนึ่ง
ใช่ครับ!!! ผมพาขจีกลับมาด้วย เธออยู่ในกระเป๋าเป้ของผมเอง เสียดายที่ผมพาเธอมาได้ไม่หมด ป่านนี้ป้าที่หอพัก คงเจอ ชิ้นส่วนตัวของขจีพร้อมกับยาระงับประสาทในห้องของผมแล้วล่ะ
ตายล่ะวา.........ผมลืมหยิบยาระงับประสาทมาได้ไงเนี่ย
แต่ช่างเถอะ
ผมไม่ต้องใช้มันแล้วนี่............
Create Date : 12 กันยายน 2549 |
Last Update : 13 กันยายน 2549 20:54:40 น. |
|
0 comments
|
Counter : 776 Pageviews. |
|
 |
|
|
| |
|
ยางมะตอยสีชมพู |
 |
|
Location :
กรุงเทพ Thailand
[ดู Profile ทั้งหมด]
|
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]

|
เป็นมนุษย์เงินเดือน รับใช้การตลาด ต้องคิดงานให้เกินคาด แล้วจะได้ตังค์ใช้
ชอบดนตรี เสียงเพลงเป็น ชีวิตจิตใจ ตัวอักษรนั้นไซร้ กัดแทะได้ ทุกวี่วัน

ของเค้าดีจริง เข้าไปเยี่ยมชมกันได้ครับ ^ ^ ถึงแม้ว่าผมอาจจะยังไม่ใช่นักเขียน
ถึงแม้ว่าผมอาจจะไม่มีคุณสมบัติแม้ที่จะคิดเขียน
และถึงแม้ว่า เรื่องที่ผมเขียนนั้นจะห่วยแตกแค่ไหนก็ตาม
แต่ว่ามันก็ออกมาจากมันสมองอันน้อยนิดของผม
ขอร้องเถิดครับ กรุณาอย่าเอาไป คัดลอก เผยแพร่ ดัดแปลง
ส่วนหนี่งส่วนใดหรือทั้งหมดของงานเขียนของผมเลย (ยางมะตอยสีชมพู)
ผมขอสงวนสิทธิ์ตามกฏหมาย ซึ่งหากฝ่าฝืนโดยไม่ได้รับอนุญาตแล้ว จะมีโทษ ปรับตามกฏหมายตั้งแต่ 20,000 บาท ถึง 200,000 บาท หรือนำเรื่องไปเสนอสำนักพิมพ์ ถือเป็น การเสนอขาย มีโทษจำคุกตั้งแต่ 6 เดือน ถึง 4 ปี หรือ ปรับตั้งแต่ 100,000 บาทถึง 800,000 บาท หรือ ทั้งจำทั้งปรับนะครับ ขอบพระคุณเป็นอย่างสูง
ที่ยังเข้าใจ และเห็นใจคนชอบเขียนห่วยๆอย่างผม
(ตามมาตรา 69 แห่ง พ.ร.บ. กฏหมายลิขสิทธิ์)
|
|
 |
|