
 |
|
 |
 |
|
| 1 |
2 | 3 | 4 | 5 | 6 | 7 | 8 |
9 | 10 | 11 | 12 | 13 | 14 | 15 |
16 | 17 | 18 | 19 | 20 | 21 | 22 |
23 | 24 | 25 | 26 | 27 | 28 | 29 |
30 | 31 | |
|
|
|
|
 |
 |
|
|
Title: หลง
ตึ่ง...ตึง...ตึ๊ง
ผู้ใดพบเห็นเด็กชาย พีรภัทร จิตมั่นคง หรือน้องแปง อายุ 7 ขวบ สวมเสื้อยืดคอกลมสีขาว สกรีนลายการ์ตูนโดราเอม่อน กางเกงยีนส์สีน้ำเงิน กรุณานำมาส่งที่กองอำนวยการประชาสัมพันธ์ของสวนสัตว์ด้วยค่ะ...
ตึ่ง...ตึง...ตึ๊ง
ผู้ใดพบเห็นเด็กชาย...
ในขณะที่เครื่องขยายเสียงกำลังทำหน้าที่ประกาศหาเด็กที่หลงทางคนหนึ่ง ประสาทหูของผมก็รับรู้ได้พร้อมๆ กับประสาทตาที่กำลังทำหน้าที่จ้องมองเด็กชายที่มีลักษณะตรงตามที่ประกาศไว้ทุกประการ
เด็กชายคนนั้นกำลังยืนร้องไห้อยู่ โดยที่ไม่มีแม้ใครสักคนสนใจ
.
ประกาศ...ประกาศ ผู้ใดพบเห็นเด็กชายนฤปพันธ์ พงศ์อารีย์ หรือน้องปอนด์ อายุ 7 ขวบ สวมเสื้อยืดคอกลมสีแดงสกรีนลายการ์ตูนโดราเอม่อน กางเกงขาสั้นสีเทา กรุณานำมาส่งที่กองอำนวยการสวนสัตว์ด้วย...
เด็กชายซึ่งเพิ่งเคยเข้ามาเที่ยวที่สวนสัตว์เป็นครั้งแรกในชีวิตถึงกับร้องไห้จ้าด้วยความหวาดกลัว หลังจากรู้ตัวว่าได้พลัดหลงกับผู้ปกครองไปแล้ว เสียงร้องไห้ของเด็กชายยังคงส่งเสียงแข่งกับเสียงประกาศจากเครื่องขยายเสียงที่กำลังประกาศตามหาเด็กชายคนนี้อยู่ แต่แล้วเด็กชายก็หยุดร้องไห้ พร้อมกับคลายความหวาดกลัวลง เมื่อพบกับหญิงสาวในชุดเสื้อขาว กระโปรงพีท (เป็นกระโปรงที่มีจีบรอบตัวอ่ะฮะ ทรงจะพองๆ เผอิญว่าผมพิมพืผิด แหะ) สีดำยาวเลยเข่า รองเท้าคัทชูสีขาว ท่าทางของเธอดูใจดี เข้ากับใบหน้าที่ยิ้มแย้มของเธอ หญิงสาวย่อตัวลง พร้อมกับนั่งบนส้นเท้าของตัวเองเพื่อให้ความสูงอยู่ในระดับเดียวกันกับเด็กชาย
เป็นอะไรไปคับ...คนเก่ง นั่นคือประโยคแรกที่หญิงสาวพูดกับเด็กชาย พร้อมกับฉีกยิ้มกว้างด้วยความเป็นมิตร เด็กชายรู้สึกว่ารอยยิ้มของหญิงสาวช่างอบอุ่น และสวยงามยิ่งนัก นั่นจึงทำให้เด็กชายเงียบเสียงร้องไห้ลงได้
เด็กชายสะอึกสะอื้น สายตามองใบหน้าของหญิงสาวแปลกหน้า มือทั้งสองข้างยังคงขยี้ตาอยู่เพื่อสะบัดน้ำตาที่ไหลอยู่ออกไป
อืม...ลูกผู้ชายน่ะ เค้าไม่ร้องไห้กันหรอกนะ รู้หรือเปล่า อึก...ฮือๆๆ แม่ผมอยู่ไหน...ฮือ... เด็กชายยังคงสะอื้น เอ่ยถามหญิงสาว
.
อึก...ฮือๆๆ แม่ผมอยู่ไหน...ฮือ... เด็กชายสะอึกสะอื้นเอ่ยถามผมด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ
ไม่ต้องกลัวนะครับ... ผมบอก เดี๋ยวน้าจะพาหนูไปหาแม่เองนะ
อืม...เอาเป็นว่าเรามาแนะนำตัวกันก่อนนะครับ หนูชื่ออะไรเหรอ อึก...แปงคับ...ฮือ... แล้ววันนี้แปงมาสวนสัตว์ แปงอยากมาดูอะไรที่สุดครับ ฮือ...อยากดูลิงคับ เด็กชายตอบเสียงใสปนสะอื้นกลับมา งั้นโอเค น้องแปงต้องเงียบก่อนเดี๋ยวน้าจะพาไปดูลิง แล้วก็พาไปหาแม่ดีไหมครับ เด็กชายไม่ตอบ แต่พยักหน้าอย่างช้าๆ
ดีมาก...งั้นเราไปกันเถอะ ผมพูดพร้อมกับเดินนำหน้าไปโดยที่ไม่ลืมจูงมือเด็กชายให้เดินตามมาด้วย
.

นั่นไงจ๊ะปอนด์ ลิงอุรังอุตัง หญิงสาวชี้ไปข้างหน้าให้เด็กชาย ดูสัตว์ขนสีดำปนน้ำตาลหน้าตามู่หู้ที่กำลังนั่งอยู่ตัวเดียว พี่ลิง...เค้าอยู่ตัวเดียวเค้าจะเหงาไหมคับ...
หญิงสาวนิ่งคิดหันไปสบตาเด็กชายก่อนตอบ พี่ว่าพี่ลิงเค้าคงไม่เหงาหรอก เพราะมีคนเยอะแยะ มาเยี่ยมมันทุกวันเลยนี่จ๊ะ แต่คนที่มาเยี่ยมเป็นคนนี่ครับไม่ใช่ลิงเหมือนกับพี่ลิงซักหน่อย อืม...นั่นสินะ แล้วพี่มาคนเดียวเหงาไหมคับ หญิงสาวยิ้ม ไม่เหงาหรอกจ๊ะ เพราะพี่มีน้องปอนด์ อยู่เป็นเพื่อนแล้วนี่จ๊ะ แถมเรายังเป็นคนเหมือนกันอีกเนอะ
.
ฉันว่าเราควรหยุดความรู้สึกของเราตอนนี้ไว้ก่อนดีกว่า เพราะอะไร... ผมถามเธอด้วยความไม่เข้าใจ ฉันว่าเราไม่ควรรู้สึกกันอย่างนี้ เราน่าจะเป็นเพื่อนกันเหมือนเดิม เราก็ยังไม่เข้าใจอยู่ดี ผมย้ำให้เธอเข้าใจถึงความไม่เข้าใจต่อสถานการณ์ตอนนี้ระหว่างผมและเธอ ให้เธอรับรู้อีกครั้ง ฉันจะพยายามเดินถอยหลัง ย้อนเวลาให้เรากลับไปเป็นเพื่อนกันอีกครั้ง ดีกว่าที่เราจะมารู้สึก...มากกว่าคำว่าเพื่อนในตอนนี้ เธอก็รู้ว่ามันทำยาก ในเมื่อเรารู้สึกดีๆ ต่อกันไปแล้ว เธอจะหยุดความรู้สึกดีๆ แบบนี้ไปทำไม ฉันจะพยายาม...
พี่คับๆ ผมฟื้นจากภวังค์หันหน้าไปหาเด็กชาย ว่ายังไงครับแปง น้าว่า พี่ลิงเค้าอยู่ตัวเดียวจะเหงาไหมคับ ผมมองที่หน้าของเด็กชาย ก่อนตอบ เหงาสิ...
.
ระหว่างทางหญิงสาวพาเด็กชายไปส่งที่กองอำนวยการสวนสัตว์ ทั้งสองคนต่างเจอกับกรงของสัตว์หลายๆ ประเภทมากมาย พี่ว่าพวกมันจะเหงาไหมคับ เด็กชายยังคงถามคำถามซ้ำๆ อยู่ อืม...ถ้าอยู่ไปนานๆ พี่ว่ามันก็น่าจะเหงาบ้างล่ะนะ แล้วพี่ว่า มันจะคิดถึงบ้านไหมครับ
เหมือนกับคำถามนี้จะไปแทงเข้าที่ใจของหญิงสาว เธอลืมไปเสียสนิทเลยว่าเธอก็คงไม่ต่างจากสัตว์ที่อยู่ในสวนสัตว์เท่าไหร่นัก ตรงที่เธอต้องจากบ้านมาเพื่อเข้ามาศึกษาต่อในเมือง และเธอก็รู้สึกคิดถึงบ้านอยู่ทุกวัน หากบางสิ่งที่จะทำให้เธอรู้สึกแตกต่างจากบรรดาสัตว์ต่างๆ ที่อยู่ในสวนสัตว์แห่งนี้เห็นจะเป็นความอิสระ ที่เธอมีเท่านั้น
เธอหลบตาเด็กชายเล็กน้อย และตอบไปว่า คิดถึงสิ...
.
เด็กชายปล่อยมือออกจากผมวิ่งเข้าไปหาอ้อมกอดจากแม่ของเขา
หญิงสาววัยกลางคนที่เป็นแม่ของเด็กชายเผยยิ้มด้วยน้ำตานองหน้า เธอหันมาสบตาผม เอาแต่พร่ำพูดแต่คำว่า ขอบคุณค่ะๆ ไม่ขาดปาก ผมยิ้มและบอกไปว่า ไม่เป็นไร
ผมเข้าใจดีถึงการไม่มีใคร ผมเข้าใจดีถึงการที่ต้องถูกทอดทิ้งอยู่คนเดียวเนื่องจากการทำให้คนที่เรารักหายไป ผมเข้าใจความรู้สึกของเด็กชายถึงการต้องพลัดหลงจากคนที่เรารักนั้นจะรู้สึกยังไง พอๆ กับที่ผมเข้าใจความรู้สึกของสัตว์ในสวนสัตว์แห่งนี้ว่ามันจะเหงา ว้าเหว่ และคิดถึงบ้านที่แท้จริงของมัน ซึ่งก็คือผืนป่านั้นเป็นเช่นไร ผมเข้าใจดี
เมื่อผมพาเด็กชายมาส่งจนเจอกับแม่ของเขาแล้ว ผมจึงค่อยๆ เดินออกมาจากที่ทำการ แต่ก็ยังไม่รอดพ้นสายตาของเด็กชายจนได้
น้าชื่ออะไรเหรอคับ น้ายังไม่ได้บอกหนูเลย เด็กชายตะโกนถามทั้งๆ ที่ยังอยู่ในอ้อมกอดของแม่...ผู้หญิงคนนั้น น้าชื่อปอนด์ครับ... ผมตะโกนตอบกลับไป แปงต้องเป็นเด็กดีนะครับ รู้ไหม? รู้คับ เด็กชายรับคำเสียงใส จากนั้นผมจึงค่อยๆ หันหลังเดินจากสองแม่ลูกนั้นออกมา
ผมยิ้ม...แม้เวลาจะล่วงเลยมานานหลายปี แต่รอยยิ้มของเธอยังคงอบอุ่น และสวยงามไม่มีเปลี่ยนเลย ผมดีใจที่ได้เห็นรอยยิ้มนั้นอีกครั้ง
และอีกอย่าง ผมได้ตอบแทนบุญคุณเมื่อตอนนั้นแก่เธอได้แล้วล่ะ
Create Date : 25 สิงหาคม 2552 |
Last Update : 25 สิงหาคม 2552 20:02:06 น. |
|
12 comments
|
Counter : 1513 Pageviews. |
|
 |
|
|
โดย: merf1970 วันที่: 25 สิงหาคม 2552 เวลา:20:31:16 น. |
|
โดย: อมิธีสท์ วันที่: 27 สิงหาคม 2552 เวลา:0:03:21 น. |
|
โดย: ยางมะตอยสีชมพู IP: 124.122.50.249 วันที่: 28 สิงหาคม 2552 เวลา:21:38:25 น. |
|
โดย: คุณพีทคุง (ลายปากกา ) วันที่: 28 สิงหาคม 2552 เวลา:22:02:48 น. |
|
โดย: GottaBeMary วันที่: 31 สิงหาคม 2552 เวลา:20:51:38 น. |
|
โดย: ยางมะตอยสีชมพู IP: 192.168.7.97, 58.181.141.208 วันที่: 1 กันยายน 2552 เวลา:7:26:22 น. |
|
โดย: อมิธีสท์ วันที่: 3 กันยายน 2552 เวลา:0:24:42 น. |
|
โดย: คุณพีทคุง (ลายปากกา ) วันที่: 11 กันยายน 2552 เวลา:16:04:49 น. |
|
โดย: ปณาลี วันที่: 12 กันยายน 2552 เวลา:23:50:16 น. |
|
| |
|
ยางมะตอยสีชมพู |
 |
|
Location :
กรุงเทพ Thailand
[ดู Profile ทั้งหมด]
|
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]

|
เป็นมนุษย์เงินเดือน รับใช้การตลาด ต้องคิดงานให้เกินคาด แล้วจะได้ตังค์ใช้
ชอบดนตรี เสียงเพลงเป็น ชีวิตจิตใจ ตัวอักษรนั้นไซร้ กัดแทะได้ ทุกวี่วัน

ของเค้าดีจริง เข้าไปเยี่ยมชมกันได้ครับ ^ ^ ถึงแม้ว่าผมอาจจะยังไม่ใช่นักเขียน
ถึงแม้ว่าผมอาจจะไม่มีคุณสมบัติแม้ที่จะคิดเขียน
และถึงแม้ว่า เรื่องที่ผมเขียนนั้นจะห่วยแตกแค่ไหนก็ตาม
แต่ว่ามันก็ออกมาจากมันสมองอันน้อยนิดของผม
ขอร้องเถิดครับ กรุณาอย่าเอาไป คัดลอก เผยแพร่ ดัดแปลง
ส่วนหนี่งส่วนใดหรือทั้งหมดของงานเขียนของผมเลย (ยางมะตอยสีชมพู)
ผมขอสงวนสิทธิ์ตามกฏหมาย ซึ่งหากฝ่าฝืนโดยไม่ได้รับอนุญาตแล้ว จะมีโทษ ปรับตามกฏหมายตั้งแต่ 20,000 บาท ถึง 200,000 บาท หรือนำเรื่องไปเสนอสำนักพิมพ์ ถือเป็น การเสนอขาย มีโทษจำคุกตั้งแต่ 6 เดือน ถึง 4 ปี หรือ ปรับตั้งแต่ 100,000 บาทถึง 800,000 บาท หรือ ทั้งจำทั้งปรับนะครับ ขอบพระคุณเป็นอย่างสูง
ที่ยังเข้าใจ และเห็นใจคนชอบเขียนห่วยๆอย่างผม
(ตามมาตรา 69 แห่ง พ.ร.บ. กฏหมายลิขสิทธิ์)
|
|
 |
|
ถ้าเป็นหนัง บางตอนก็ต้องเป็นฟิลม์สี
บางตอนก็เป็นฟิลม์ขาวดำสลับกัน... ประมาณอารมณ์ย้อนรำลึกอตีต
ผมอ่านเรื่องแล้วกลับนึกถึงเพลงๆหนึ่ง
เนื้อเพลงบางตอนมีอยู่ว่า
ดูนั่นไงช้างพลายตัวโต
ล่ามโซ่ โย้ไปเย้มา...ดีใจมีเพื่อนรำสุรา
เป้นช้างป่ายกให้กินทั้งกลม.. โอ๋โอโอ้โอ
จับมันมาขังทำไม มันโดนข้อหาอะไร...