เปิดกล่อง "ของขวัญ" ซักหน่อย ... เป็นของขวัญที่ควักเงินจ่ายเองส่วนนึง -_-" (คนอื่นให้มาส่วนหนึ่ง)

ตอนแรกก็ไม่ได้ตั้งใจจะซื้อ แต่ว่า กะจะซื้อของขวัญให้เพื่อน ... ก็เลยซื้อโน่นซื้อนี่ เพื่อให้ได้ free shipping ก็เลยไปหลวมตัวสอยไอ้พวกนี้มาด้วย

ได้มาอาทิตย์กว่าแล้วหล่ะ ... เปิดกล่องมา ... โต้กกะใจ ... ทำไมกล่องมันช่างใหญ่โตอลังกาลแบบนี้ ... เปิดมา



เจอกระดาษเป็นฟ่อนเลย ... มันจะ abuse ธรรมชาติมากไปหน่อยแล้วนะเนี่ย

ชั้นบนซัก 30 แผ่น up ... รองข้างล่างกล่องอีกปึ๊งนึง อีกซัก 30 แผ่นเห็นจะได้ ... คือ มันไม่ได้มีการขยุ้มๆ เพิ่ม volume เลย ... มันล่อ เป็นปึ๊งเรียงกันแน่นๆ เลย ... เปลืองทรัพยากรจริงๆ

เปิดกระดาษออกมาก็เจอใบเสร็จ ... คริ คริ ไม่อยากโชว์

เปิดมาอีกชั้น เจอถุงสีแดงแปร้ด ... ถุงใหญ่ดีจัง

ข้างในก็มี ... MUFE (อีกแล้ว) ... คือ สั่ง sephora ทีไร ก็ซื้อแป้ง MUFE ทุกทีนั่นแหล่ะ ... ก็มันใช้ดีนี่น่า ... จริงๆ ของเก่าก็ยังไม่หมด แต่ว่า ไหนๆ ก็สั่งแล้ว ก็สั่งมาอีก ไม่เสียหาย เดี๋ยวก็ได้ใช้

แล้วก็มี CK lipgloss แบบ set เอามาให้เพื่อนๆ เป็นของขวัญ

อีกอันเป็น skincare ... โฮ่ะๆๆๆ ... Kinerase

ครั้งนี้ได้ของเล่นใหม่อันนึง คือ eye concealer (เอามาลบขอบตาดำๆ นิดหน่อย) ไปอ่านที่ชาวบ้านเค้า review มา ... หลายคนชมว่าเทพนักเทพหนา ... เอาก็เอาวะ ... เห็นคนผิวสีประมาณ NC25 เค้าใช้ #3 ... เราก็ #3 ก็ #3 วะ



รูปบนสีมันเพี้ยนๆ หน่อย ... จริงๆ สีมันไม่ชมพูขนาดนั้น



รูปนี้สีใกล้เคียงสุดแล้ว ... เปิดฝาแล้วเนื้อครีมมันทะลักออกมาซะเยอะเลย T_T ... เอาป้าย มือ ป้ายแขน แล้วก็ blend ง่ายดีหล่ะ ... แต่เราจะเอามาทาขอบตา ... ปิดเงามุมตานิดหน่อย

ลองใช้นิ้วแดบๆ แล้วมันไม่ค่อยจะดีเท่าไหร่ ... แต่ใช้แปรงอันเล็กๆ แล้วใช้ดีทีเดียว ... บีบครีมใส่หลังมือซ้าย (จุดนิดเดียว) ... แล้วก็เอาแปรงแตะครีม แล้วก็ป้ายๆ ที่มือ ไม่ให้ครีมเยอะเกิน ... แล้วก็ค่อยๆ แตะๆ รอบดวงตา ... เม็ดสีปกติดใช้ได้เลย ... เนื้อครีมไม่หนัก ... แห้งค่อนข้างเร็วเหมือนกัน ... ติดทนค่อนข้างนานทีเดียว ... พอเกือบๆ แล้ว ก็เอานิ้วกดๆ เบาๆ (ถ้ารีบกดเร็วเกิน มันจะทำให้เนื้อ concealer หลุดออกมาได้เหมือนกัน) ... โดยรวมๆ แล้ว ถือว่าชอบทีเดียว ... ชอบมากกว่า christian dior ตัวเก่าที่เรามีอีกหล่ะ

ราคาไม่แพงเท่าไหร่นะ เราว่า ... แต่ว่าเมืองไทย ขาย MUFE แบบ เอาปืนจี้ปล้นกันเลย ... ที่นีราคาถูกกว่าไทยเยอะ ... จริงๆ ยี่ห้อนี้มันไม่น่าแพงนะ เพราะมันถูกจัดให้เป็น consumer product ของ moët hennessy louis vuitton (mhlv) ซึ่งก็ไม่ควรจะราคาแพงเว่อร์ๆ เลย

พูดถึงสี ... มันออกครีมส้มๆ อมชมพู ... ทาออกมาแล้วมันกลืนดีนะ เราว่า ... เนื้อครีมก็ถือว่าผ่าน ... แต่ทามากเกินจะดูแห้งๆ นิดหน่อย แต่ถ้าทาพอดีๆ จะดูธรรมชาติดีทีเดียว

ตัวนี้ ... อิๆ ... ไม่ได้คิดจะซื้อนะ ... จริงๆ อยากลอง Kinerase ตัวอื่นมากกว่า ... แต่บังเอิญว่า อันนี้มันคุ้มอ่ะ มาเป็น set ... ขอไม่บอกว่าราคาเท่าไหร่ (เด็กๆ ไม่ควรอ่าน)

ดูราคาจริงๆ ก็อาจจะดูว่ามันแพง ... แต่พอดูปริมาณที่ได้แล้ว เราว่ามันไม่แพงนะ

ที่เราได้มาก็มี cream, cleanser, eye cream ขนาด full size ... แล้วก็ได้ serum ของแถม 7ml มาหลอดนึง (อันนี้ใช้หมดไปแล้ว)



Kinerase Extreme Lift Face

Water, Alcohol, Caprylic/Capric Triglyceride, Cetyl Alcohol, PEG-100 Stearate, Dimethicone, Algae Extract, Pullulan, Acmella Oleracea Extract, Lauramidoyl Inulin, Acetyl Octapeptide-3, Carbomer, Tromethamine, Diazolidinyl Urea/ Iodopropynyl Butylcarbamate, Potassium Sorbate, Camellia Sinensis Leaf (Green Tea) Extract, Citrus Sinensis (Orange) Oil, Disodium EDTA, Allantoin, Epilobium Angustifolium Flower/Leaf/Stem Extract, Ascorbic Acid, Kinetin

มี alcohol อยู่ลำดับสอง ... แล้วก็มีพวก emollients, thickeners, plant extract แล้วก็ อะไรๆ อีก ... เห็นส่วนผสมแล้วเราไม่ได้รู้สึกว่ามันควรจะราคาแพงขนาดนี้นะ (ขนาดจริง 30ml, 150USD) ก็ไม่รู้ว่ามันอะไรที่แพงเนี่ย ... ส่วนไอ้ kinetin ที่โฆษณาก็มีอยู่กระจิดดดดด นึง

ทาแล้วผิวแห้งทีเดียว ... รู้สึกเหมือนซึมเร็ว (ปกติเวลาใช้อะไรที่มีส่วนผสม Caprylic/Capric Triglyceride จะรู้สึกได้ว่าหน้าจะมัน ... ตัวนี้ดูจะมันน้อยกว่า ... พอทิ้งไว้ซักพัก หน้าจะแห้งทีเดียว ... ส่วนกลิ่นเนี่ย ... แบบ ... เหมือนผงไวตามินซีรสส้ม แบบกลิ่นเหมือนขนมราคาถูกไงไม่รู้ ไม่ชอบเลย ... ก็คงเป็นกลิ่น orange oil อ่ะนะ

เราใช้ไปแค่ 7ml ถ้าเป็นอาหารก็ต้องพูดว่า ไม่พอยาขี้ฟัน (อาทิตย์เดียวก็เกลี้ยงหลอดแล้ว) ... อร่อยรึเปล่าก็บอกไม่ได้

Kinerase Gentle Daily Cleanser

เป็น cleanser ที่พื้นๆ สุดแสนจะพื้น ... ขนาด 200ml ... ขายเวอร์ไปอ่ะ ... นี่ถ้ามันไม่มากับ set นี้ ไม่ซื้อแน่นอน ... แต่คิดๆ ไป ราคาก็ระดับ lancome อ่ะนะ (ซึ่งเราก็ยังเคยซื้อเลย T_T ... แต่ส่วนมากแลกซื้อเอาซะมากกว่า)

สิ่งที่ชอบก่อน ... คือ กลิ่นมันสะอาดดี คือ แทบจะไม่มีกลิ่นเลย ... เราชอบอะไรที่มันกลิ่นแบบสะอาดๆ ไม่มีกลิ่นเหม็นๆ อ่ะ ... ใครเคยใช้ วาสลีนบอดี้โลชั่น สูตรล่าสุดแบบปราศจากน้ำหอมบ้าง ... คือกลิ่นสะอาดๆ จืด ประมาณนั้น ... ใช้แล้วรู้สึกดีนะ ... ใช้แล้วผิวไม่แห้งตึง ล้างหน้าก็ ... พูดตรงๆ ก็คือ เหมือนกับ cleanser หลายล้านตัวในท้องตลาด คือ ล้างหน้าได้สะอาดดี (แต่ไม่เอี๊ยด) ... ถ้าจะซื้อมาใช้เพราะคิดว่า มันวิเศษ ... ขอให้คิดกันหลายๆ ตลบ ... แต่ถ้าซื้อเพราะ placebo ก็อีกเรื่อง



Water, Sodium Lauryl Sulfate, Cocamidopropyl Betaine, Cocamide DEA, Glycol Stearate, Stearamide AMP, Sodium Laureth Sulfate, Camellia Sinensis Leaf Extract, Glycerin, Citric Acid, Magnesium Aluminum Silicate, Sodium Chloride, Diazolidinyl Urea, Iodopropynyl Butylcarbamate

ต่อมาเป็น cream และ eye cream ... ดูส่วนผสมท้้งสองตัวดีๆ ... เหมือนกันเด๊ะๆ ... ถ้าใครคิดจะซื้อทั้งครีมทั้งอายครีมละก็ ... เลิกคิดไปได้เลย ... อย่าไปเสียเงินซื้อ eye cream ตัวนี้เลย ไม่คุ้ม ... ก็ใช้ตัว cream นั่นแหล่ะ

ถึงแม้ว่าข้างหลอด จะบอกว่า kinetin ของตัว eyecream (0.125%) จะสูงกว่าตัว cream (0.1%) ... คือ มันแทบจะเรียกได้ว่า insignificant อ่ะ ... มันก็คือๆ กันนั่นแหล่ะ

จริงๆ แล้ว ดูส่วนผสมตัวนี้แล้ว ไม่ได้อยากจะซื้อนะ (คือมันมี thickener เยอะมากๆ) ... แล้ว thickener แต่ละตัวมันช่าง ... อย่างตัวแรก Glyceryl Stearate ตัวนี้ไม่อุดตันมาก ก็ดีไป ... ตัวถัดมา (ลำดัับ 3) Isopropyl Palmitate มันอุดตันสูงทีเดียวอ่ะ ... คือมันแบบว่า น้ำ + thickener + thickener เลยอ่ะ ... แล้วก็อย่างที่คาดไว้ คือ ... เป็นครีมที่ข้นมาก (เพราะมันจะใส่ thickener หาไร ทำไมต้องใส่เยอะแบบนั้น) ... เวลาทาเนี่ย มันมี thickener มากจนรู้ส้ึกว่ามัน spread ยากเลย ... ต้องทาตอนหน้าเปีียกๆ ถ้าหน้าแห้งเนี่ย ... เกลี่ยยากมาก เพราะมันข้นสุดๆ

แล้วลองอ่านข้างขวดนะ ... มันมีหน้ามาเขียนข้างขวดว่า "Non-Comedogenic" คือ ... ไม่อายฟ้าอายดินบ้างเลยหรือไง ... คือ จริงๆ แล้วเนี่ย ครีมส่วนมาก ก็มี water + thickener ด้วยกันทั้งนั้น ... ส่วนมากก็จะอุดตันค่อนข้างมาอยู่แล้ว ... แต่ว่า คุณใส่ Isopropyl Palmitate เข้าไปเนี่ย จะมาอ้างว่า ไม่อุดตัน มันจะดูขาดความรับผิดชอบไป

ใครคิดว่า ผิวแห้งๆ ใช้ตัวนี้แล้วจะรอด ... บอกตรงๆ ว่า ไม่ได้ช่วยเรื่องความชุ่มชื้นซักเท่าไหร่เลย ... เราทาโดยไม่ทา TBS aloe serum แล้วไม่ได้เลย ... ผิวตึงแห้งมากๆ

ด่ามาซะมาก บางคนคงคิด ของมันแพงแบบนี้ มันมีอะไรดีบ้างมั๊ย ... นั่งคิด นอนคิด มา 1 อาทิตย์กว่าๆ ระหว่างที่ใช้ ... ขนาด placebo ยังไม่ค่อยจะเป็นใจเลย ... ข้อดีคงเป็นที่ว่า ... ไม่ทำให้หน้ามันเลย ... ทาแล้วหน้าจะดูเมทๆ ... เนียนๆ ลื่นๆ เหมือนเอาอะไรไปฉาบผิวไว้ ทำให้ดูผิวเนียนดี ... แต่ซักพักมันก็ซึมนะ ... แต่เราก็กลัวเรื่องอุดตันทีเดียว ... ซักพักคงต้องหา AHA มาใช้อีก (เพราะเราพักไปได้ระยะนึงแล้ว เดี๋ยวคงถึงเวลาใช้อีก)

ราคาดูแพงอยู่ ... แต่หลอดนึงมันเบ้งนะ 2.8 oz. เลย (ปกติ ครีมมันจะขนาด 1.7 oz.) ... ก็ถือว่าไม่แพงมากเกินไป

ไว้ใช้หมดหลอดแล้วจะมาเล่าให้ฟังละกันว่า อาการสิวอุดตันถามหามั๊ย ทาแล้วผิวเป็นไงบ้างนะคะ ... แต่อาทิตย์เดียวบอกอะไรไม่ได้ไปมากกว่าแค่ cosmetic results นะคะ

อ้อ eye cream ก็เหมือนกับ cream ทุกประการ ... ไม่ได้รู้สึกว่ามันแตกต่างกันแต่อย่างใดค่ะ



Kinerase Intensive Eye Cream

Water, Glyceryl Stearate, Isopropyl Palmitate, Propylene Glycol, Stearic Acid, Cetyl Alcohol, Carthamus Tinctorius (Safflower) Seed Oil, Glycine Soja (Soybean) Sterols, Stearyl Alcohol, Laureth-23, Dimethicone, Citric Acid, Sodium Hydroxide, Soluble Collagen, Kinetin, Carbomer, Panthenol, Ascorbic Acid, Hydrolyzed Elastin, Aloe Barbadensis Leaf Juice, Imidazolidinyl Urea, Triethanolamine, Methylparaben, Propylparaben

Kinerase Cream

Water, Glyceryl Stearate, Isopropyl Palmitate, Propylene Glycol, Stearic Acid, Cetyl Alcohol, Carthamus Tinctorius (Safflower) Seed Oil, Glycine Soja (Soybean) Sterols, Stearyl Alcohol, Laureth-23, Dimethicone, Citric Acid, Sodium Hydroxide, Soluble Collagen, Kinetin, Carbomer, Panthenol, Ascorbic Acid, Hydrolyzed Elastin, Aloe Barbadensis Leaf Juice, Imidazolidinyl Urea, Triethanolamine, Methylparaben, Propylparaben

ต่อมาเป็น Vichy ที่ (อีกแล้ว) homestay mother ให้มา ... เค้าให้มาทั้งชุดเลย ... ชุดนี้เป็นชุดแนว sodium hyaluronate ให้ความชุ่มชื้น ... ส่วนผสมอื่นๆ ก็งั้นๆ แนว vichy คือ ไม่มีอะไรน่าสนใจเลย (ผะผ่า) ไม่รูัเมื่อไหร่จะปรับปรุงซักทีก็ไม่รู้

ตัว cleanser ... ลืมพิมพ์ส่วนผสมไว้ แล้วก็ยังไม่ได้เปิดใช้เลย ... ไม่มีความเห็น

eye cream ก็ดูเหมือนจะใช้ได้ ... แต่ส่วนผสมมันเยอะเหลือเกิน ไม่รู้ขนใส่อะไรไปกันนักกันหนา ไม่เห็นจะมีสาระเลย

ส่วนตัวครีมเนี่ย ... คือ น้ำ ไขมัน thickener sodium hyaluronate จบ ... เป็นอีกหนึ่งในครีมที่คิดว่าไม่น่าใชเลย ไม่รู้จะใช้ให้ได้อะไรขึ้นมา ... เราคงจะใช้ eye cream แต่ว่า ตัว facial cream คงจะเอาไปให้คนอื่นใช้ คงขอบายอ่ะ ครีมตัวนี้



Vichy Aqualia Thermal Eyes

Water, Dimethicone, Glycerin, Octocrylene, Butyrospermum Parkii Butter/Shea Butter, Butyl Methoxydibenzoylmethane, Drometrizole Trisiloxane, Hexyldecanol, Hexyldecyl Laurate, Terephthalylidene Dicamphor Sulfonic Acid, Sucrose Stearate, Silica, Poly C10-30 Alkyl Acrylate, Ci 77891/Titanium Dioxide, Stearic Acid, Mica, Triethanolamine, Dimethiconol, Methylparaben, Sodium Polyacrylate, Sodium Hydroxide, Sodium Chloride, Sodium Hyaluronate, Cellulose Acetate Butyrate, Aluminum Starch Octenylsuccinate, Phenoxyethanol, Tocopheryl Acetate, Disodium Edta, Ammonium Polyacryldimethyltauramide/Ammonium Polyacryloyldimethyl Taurate, Propylparaben, Caprylyl Glycol, Xanthan Gum, Acrylates/C10-30 Alkyl Acrylate Crosspolymer, Butylparaben, Polyphosphorylcholine Glycol Acrylate, Polyvinyl Alcohol, Butylene Glycol, Fragrance

Vichy Aqualia Thermal Light Fortifying & Soothing 24 Hr Hydrating Care

Water, Glycerin, Cyclohexasiloxane, Hydrogenated Polyisobutene, Alcohol Denat., Pentaerythrityl Tetraisostearate, Stearyl Isostearate, Sodium Chloride, Sodium Hyaluronate, Cellulose Acetate Butyrate, Ammonium Polyacryloyldimetehyltaurate/Steareth-8 Methacrylate Copolymer, Disodium Edta, Acrylates Copolymer, Polyphosphorylcholine Glycol Acrylate, Polyvinyl Alcohol, Butylene Glycol, Methylparaben, Capryl Glycol, Phenoxyethanol, Fragrance

อันนี้เป็นพวกน้ำหอม ของแถม ที่เค้าแจกมา

อีกรูป ก็เป็นรวมมิตร ของที่เพิ่งได้มาไม่นาน

พูดถึงหมวดความงามไปแล้ว ... ก็มาพูดถึงหมวดมึนเมากันบ้างดีกั่ว

ชุดแรก ของมึนเมาแรงๆ 40% เอามาลองชิม อันไหนอร่อยมั่ง ... ก็เป็น rum กับ whisky ... bacardi gold rum ก็อร่อยดีนะ เผ็ดร้อน แต่ไม่มาก ... ส่วนไอ้ wiser's whisky โคตรรรรรรร เผ็ดเลย ทั้งเผ็ดทั้งร้อน ไม่รู้มันใส่พริกขี้หนูไปรึไง แต่ก็รสชาติดีหล่ะ ... ส่วน captain morgan dark rum ยังไม่ได้ชิมเลย

อีกอันเป็น scotch whisky ... ซื้อมาลอง ยังไม่ได้เปิดเลย

อีกอันเป็นไวน์ ... ขวดบนเป็น cheap italian wine ที่เราชอบมาก ... ขวดนี้ 2L ราคา 17CAD ... อร่อยมาก เปรี้ยวนำ ไม่หวาน ไม่ฝาด ... นั่งดื่มได้ทั้งวัน

ส่วนอีกขวด ได้มาเป็นของขวัญ ... รสชาติอย่างกับน้ำล้างตรีน (ดีนะ คนให้เค้าอ่านภาษาไทยไม่ได้) ... คือ รสชาติมันเหมือนน้ำล้างแก้วไวน์ อันนั้นทนได้ ... แต่ว่ามันมีกลิ่นประหลาดๆ ... กลิ่น oak มั๊ง ... แต่มันเหมือน artificial ไงบอกไม่ได้ถูก ... เฝื่อนๆ ประหลาดๆ ... ไม่รู้คนดื่มกันได้ไง ... เราไม่แตะเลย ... ขอผ่าน



ช่วงนี้ up blog จัง ... ไม่ได้ไปไหน ก็งี้แหล่ะ ... แถม boxing week มันช่างไม่ได้มีอะไรน่าสนใจเลย ... ข่าวมันก็บอกปาวๆ เศรษฐกิจตกเหว ฮาร์เปอร์ตกนรก (สาธุ) ของจะลดแหลกลาน (ไม่เห็นมันจะลดเลย ... ปีที่ผ่านๆ มายังลดมากกว่านี้อีก)

เมื่อไหร่หางจะโผล่ก็ไม่รู้